รู้จัก MeetYourMonster เว็บไซต์ที่จะพาวัยเรียนไปสำรวจสภาวะจิตใจในช่วงเรียนออนไลน์

รู้จัก MeetYourMonster เว็บไซต์ที่จะพาวัยเรียนไปสำรวจสภาวะจิตใจในช่วงเรียนออนไลน์

MeetYourMonster

ถ้านับช่วงเวลาที่นักเรียนและนักศึกษาไทยต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่พวกเขายังไม่สามารถกลับไปเรียนที่สถานศึกษาได้ตามปกติ นอกจากความเครียดจากบทเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้การเรียนออนไลน์สร้างความลำบากให้เยาวชน

ด้วยเหตุนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ จึงร่วมมือกับ Glow Story และทีมนักจิตวิทยา MasterPeace สร้างสรรค์ MeetYourMonster เครื่องมือเช็กสุขภาพใจเบื้องต้นแบบเข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ พร้อมให้กำลังใจเด็กๆ ออกแบบโดยทีมนักจิตวิทยาที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น

MeetYourMonster

“เป้าหมายของเราคือการทำแบบสำรวจที่ได้สำรวจสภาวะการเรียนออนไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเรื่องอุปกรณ์หรือฐานะ และในขณะเดียวกันก็ต้องการเยียวยาสุขภาพเบื้องต้นของเด็กๆ ไปก่อน แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็อยากให้พวกเขารู้เท่าทันอารมณ์และสภาวะจิตใจของตัวเอง” ตัวแทนของ Glow Story เล่า

จุดเด่นของเว็บไซต์แบบสำรวจนี้คือการนำกิมมิกตัวการ์ตูนมาใช้ ให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่าย มีคำอธิบายสภาวะจิตใจ มีคำแนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น และบอกแหล่งช่วยเหลือที่พร้อมดูแลสุขภาพจิตนักเรียนฟรี ทั้งนี้ตัวแบบทดสอบเองก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะพัฒนามาจากความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น และจิตแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพจิตเด็ก

นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีการปกป้องข้อมูลของเด็กๆ นักเรียนที่ทำแบบทดสอบ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่าเป็นใครก็สามารถเช็กสุขภาพจิตของตัวเองได้ง่ายๆ และฟรี ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากเปิดให้ใช้เว็บไซต์ ตัวแทน Glow Story ก็เปิดเผยว่ามียอดผู้เข้าใช้งานถึง 90,000 คน

MeetYourMonster

“ส่วนข้อมูลที่ได้รับจากการรับฟังปัญหาเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์จากเด็กๆ โดยตรง ทาง กสศ.จะนำไปพิจารณาเพื่อนำเสนอกับหน่อยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พัฒนาต่อเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่เป็นรูปธรรม สนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น”

สำหรับนักเรียนและนักศึกษาคนไหนที่อยากลองประเมินสภาวะสุขภาพจิตของตัวเอง สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบนี้ได้ที่ meetyourmonster.paperform.co

เราเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ อย่าลืมดูแลรักษากายใจกันด้วยนะ!

MeetYourMonster
ถ้านับช่วงเวลาที่นักเรียนและนักศึกษาไทยต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่พวกเขายังไม่สามารถกลับไปเรียนที่สถานศึกษาได้ตามปกติ นอกจากความเครียดจากบทเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้การเรียนออนไลน์สร้างความลำบากให้เยาวชน

ด้วยเหตุนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ จึงร่วมมือกับ และทีมนักจิตวิทยา MasterPeace สร้างสรรค์ เครื่องมือเช็กสุขภาพใจเบื้องต้นแบบเข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ พร้อมให้กำลังใจเด็กๆ ออกแบบโดยทีมนักจิตวิทยาที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น

“เป้าหมายของเราคือการทำแบบสำรวจที่ได้สำรวจสภาวะการเรียนออนไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเรื่องอุปกรณ์หรือฐานะ และในขณะเดียวกันก็ต้องการเยียวยาสุขภาพเบื้องต้นของเด็กๆ ไปก่อน แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็อยากให้พวกเขารู้เท่าทันอารมณ์และสภาวะจิตใจของตัวเอง” ตัวแทนของ Glow Story เล่า

จุดเด่นของเว็บไซต์แบบสำรวจนี้คือการนำกิมมิกตัวการ์ตูนมาใช้ ให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่าย มีคำอธิบายสภาวะจิตใจ มีคำแนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น และบอกแหล่งช่วยเหลือที่พร้อมดูแลสุขภาพจิตนักเรียนฟรี ทั้งนี้ตัวแบบทดสอบเองก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะพัฒนามาจากความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น และจิตแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพจิตเด็ก

ถ้านับช่วงเวลาที่นักเรียนและนักศึกษาไทยต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่พวกเขายังไม่สามารถกลับไปเรียนที่สถานศึกษาได้ตามปกติ นอกจากความเครียดจากบทเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้การเรียนออนไลน์สร้างความลำบากให้เยาวชน
ด้วยเหตุนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ จึงร่วมมือกับ และทีมนักจิตวิทยา MasterPeace สร้างสรรค์ เครื่องมือเช็กสุขภาพใจเบื้องต้นแบบเข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ พร้อมให้กำลังใจเด็กๆ ออกแบบโดยทีมนักจิตวิทยาที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น
“เป้าหมายของเราคือการทำแบบสำรวจที่ได้สำรวจสภาวะการเรียนออนไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเรื่องอุปกรณ์หรือฐานะ และในขณะเดียวกันก็ต้องการเยียวยาสุขภาพเบื้องต้นของเด็กๆ ไปก่อน แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็อยากให้พวกเขารู้เท่าทันอารมณ์และสภาวะจิตใจของตัวเอง” ตัวแทนของ Glow Story เล่า
จุดเด่นของเว็บไซต์แบบสำรวจนี้คือการนำกิมมิกตัวการ์ตูนมาใช้ ให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่าย มีคำอธิบายสภาวะจิตใจ มีคำแนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น และบอกแหล่งช่วยเหลือที่พร้อมดูแลสุขภาพจิตนักเรียนฟรี ทั้งนี้ตัวแบบทดสอบเองก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะพัฒนามาจากความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น และจิตแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพจิตเด็ก

นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีการปกป้องข้อมูลของเด็กๆ นักเรียนที่ทำแบบทดสอบ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่าเป็นใครก็สามารถเช็กสุขภาพจิตของตัวเองได้ง่ายๆ และฟรี ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากเปิดให้ใช้เว็บไซต์ ตัวแทน Glow Story ก็เปิดเผยว่ามียอดผู้เข้าใช้งานถึง 30,000 คน
“ส่วนข้อมูลที่ได้รับ ทาง กสศ.จะนำไปพิจารณาเพื่อนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พัฒนาต่อเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่เป็นรูปธรรม สนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทีมงานก็มีการจัดกิจกรรมเปิดสเปซในทวิตเตอร์ร่วมกับกลุ่มนักเรียนเลว เพื่อรับฟังปัญหาจากเด็กๆ เกี่ยวกับการเรียนออนไลน์โดยตรงอีกด้วย”

ถ้านับช่วงเวลาที่นักเรียนและนักศึกษาไทยต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่พวกเขายังไม่สามารถกลับไปเรียนที่สถานศึกษาได้ตามปกติ นอกจากความเครียดจากบทเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้การเรียนออนไลน์สร้างความลำบากให้เยาวชน
ด้วยเหตุนี้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ จึงร่วมมือกับ และทีมนักจิตวิทยา MasterPeace สร้างสรรค์ เครื่องมือเช็กสุขภาพใจเบื้องต้นแบบเข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ พร้อมให้กำลังใจเด็กๆ ออกแบบโดยทีมนักจิตวิทยาที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น
“เป้าหมายของเราคือการทำแบบสำรวจที่ได้สำรวจสภาวะการเรียนออนไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเรื่องอุปกรณ์หรือฐานะ และในขณะเดียวกันก็ต้องการเยียวยาสุขภาพเบื้องต้นของเด็กๆ ไปก่อน แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็อยากให้พวกเขารู้เท่าทันอารมณ์และสภาวะจิตใจของตัวเอง” ตัวแทนของ Glow Story เล่า
จุดเด่นของเว็บไซต์แบบสำรวจนี้คือการนำกิมมิกตัวการ์ตูนมาใช้ ให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่าย มีคำอธิบายสภาวะจิตใจ มีคำแนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น และบอกแหล่งช่วยเหลือที่พร้อมดูแลสุขภาพจิตนักเรียนฟรี ทั้งนี้ตัวแบบทดสอบเองก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะพัฒนามาจากความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น และจิตแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพจิตเด็ก
นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีการปกป้องข้อมูลของเด็กๆ นักเรียนที่ทำแบบทดสอบ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่าเป็นใครก็สามารถเช็กสุขภาพจิตของตัวเองได้ง่ายๆ และฟรี ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากเปิดให้ใช้เว็บไซต์ ตัวแทน Glow Story ก็เปิดเผยว่ามียอดผู้เข้าใช้งานถึง 30,000 คน
“ส่วนข้อมูลที่ได้รับ ทาง กสศ.จะนำไปพิจารณาเพื่อนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พัฒนาต่อเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่เป็นรูปธรรม สนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทีมงานก็มีการจัดกิจกรรมเปิดสเปซในทวิตเตอร์ร่วมกับกลุ่มนักเรียนเลว เพื่อรับฟังปัญหาจากเด็กๆ เกี่ยวกับการเรียนออนไลน์โดยตรงอีกด้วย”

“เป้าหมายของเราคือการทำแบบสำรวจที่ได้สำรวจสภาวะการเรียนออนไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเรื่องอุปกรณ์หรือฐานะ และในขณะเดียวกันก็ต้องการเยียวยาสุขภาพเบื้องต้นของเด็กๆ ไปก่อน แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็อยากให้พวกเขารู้เท่าทันอารมณ์และสภาวะจิตใจของตัวเอง” ตัวแทนของ Glow Story เล่า
จุดเด่นของเว็บไซต์แบบสำรวจนี้คือการนำกิมมิกตัวการ์ตูนมาใช้ ให้เด็กๆ เข้าใจได้ง่าย มีคำอธิบายสภาวะจิตใจ มีคำแนะนำวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น และบอกแหล่งช่วยเหลือที่พร้อมดูแลสุขภาพจิตนักเรียนฟรี ทั้งนี้ตัวแบบทดสอบเองก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะพัฒนามาจากความเชี่ยวชาญของนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่น และจิตแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพจิตเด็ก

นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีการปกป้องข้อมูลของเด็กๆ นักเรียนที่ทำแบบทดสอบ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่าเป็นใครก็สามารถเช็กสุขภาพจิตของตัวเองได้ง่ายๆ และฟรี ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากเปิดให้ใช้เว็บไซต์ ตัวแทน Glow Story ก็เปิดเผยว่ามียอดผู้เข้าใช้งานถึง 30,000 คน
“ส่วนข้อมูลที่ได้รับ ทาง กสศ.จะนำไปพิจารณาเพื่อนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พัฒนาต่อเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่เป็นรูปธรรม สนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทีมงานก็มีการจัดกิจกรรมเปิดสเปซในทวิตเตอร์ร่วมกับกลุ่มนักเรียนเลว เพื่อรับฟังปัญหาจากเด็กๆ เกี่ยวกับการเรียนออนไลน์โดยตรงอีกด้วย”
“เป้าหมายของเราคือการทำแบบสำรวจที่ได้สำรวจสภาวะการเรียนออนไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเรื่องอุปกรณ์หรือฐานะ และในขณะเดียวกันก็ต้องการเยียวยาสุขภาพเบื้องต้นของเด็กๆ ไปก่อน แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็อยากให้พวกเขารู้เท่าทันอารมณ์และสภาวะจิตใจของตัวเอง” ตัวแทนของ Glow Story เล่า
นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีการปกป้องข้อมูลของเด็กๆ นักเรียนที่ทำแบบทดสอบ โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่าเป็นใครก็สามารถเช็กสุขภาพจิตของตัวเองได้ง่ายๆ และฟรี ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากเปิดให้ใช้เว็บไซต์ ตัวแทน Glow Story ก็เปิดเผยว่ามียอดผู้เข้าใช้งานถึง 30,000 คน

“ส่วนข้อมูลที่ได้รับ ทาง กสศ.จะนำไปพิจารณาเพื่อนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พัฒนาต่อเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่เป็นรูปธรรม สนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทีมงานก็มีการจัดกิจกรรมเปิดสเปซในทวิตเตอร์ร่วมกับกลุ่มนักเรียนเลว เพื่อรับฟังปัญหาจากเด็กๆ เกี่ยวกับการเรียนออนไลน์โดยตรงอีกด้วย”
ถ้านับช่วงเวลาที่นักเรียนและนักศึกษาไทยต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้านก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่พวกเขายังไม่สามารถกลับไปเรียนที่สถานศึกษาได้ตามปกติ นอกจากความเครียดจากบทเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่ทำให้การเรียนออนไลน์สร้างความลำบากให้เยาวชน
“ส่วนข้อมูลที่ได้รับ ทาง กสศ.จะนำไปพิจารณาเพื่อนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา พัฒนาต่อเป็นนโยบายด้านการศึกษาที่เป็นรูปธรรม สนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทีมงานก็มีการจัดกิจกรรมเปิดสเปซในทวิตเตอร์ร่วมกับกลุ่มนักเรียนเลว เพื่อรับฟังปัญหาจากเด็กๆ เกี่ยวกับการเรียนออนไลน์โดยตรงอีกด้วย”

AUTHOR