2 ห้องสมุด 4 ร้านหนังสือ สำหรับนักอ่านสายเที่ยว

อยู่กับโควิด-19 มาปีกว่า นักอ่านหลายคนอาจแก้ความจำเจด้วยการหันไปพรีออร์เดอร์หนังสือจากต่างประเทศ แต่ก็คงไม่สามารถทดแทนความสนุกและตื่นเต้นเวลาได้ไปเยี่ยมร้านหนังสือหรือห้องสมุดโลคอลในประเทศนั้นๆ ได้อยู่ดี ร้านหนังสือ

การได้ค้นหา zine สนุกๆ จากร้านหนังสือภาพสุดฮิปของญี่ปุ่น ดื่มด่ำบรรยากาศในห้องสมุดใหญ่ใจกลางห้างเกาหลี หรือการได้เดินสำรวจร้านหนังสือขนาดยักษ์ในปากีสถาน เหล่านี้คือโมเมนต์ที่ชาว a team คิดถึง และเชื่อว่านักอ่านสายเที่ยวอีกหลายคนก็คงไม่ต่างกัน

พักกองดองไว้สักครู่ แล้วมาปักหมุดจุดหมายปลายทางเหล่านี้กันก่อน เปิดประเทศเมื่อไหร่จะได้ไปตามรอยพร้อมกับช้อปหนังสือเพิ่มกันให้หายคิดถึง

Pon Ding

Taipei, Taiwan

น้ำปาย ไชยฤทธิ์
ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร

เรารู้จักร้าน Pon Ding (เจ้าของร้านเฉลยว่าอ่านว่าผองติง) จากการรีเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตไม่กี่วันก่อนจะไปไต้หวันเพื่อทำ a day ฉบับไทเป ตอนแรกก็สนใจในแง่ร้านหนังสือที่เน้นขายแมกกาซีนอินดี้จากทั่วโลก บวกกับหนังสือ self-published และของทำมือของศิลปินไต้หวัน แต่ยิ่งพอไปถึงไทเปและได้ไปสัมภาษณ์ร้านหนังสืออื่นๆ ทุกคนก็แนะนำให้ไปผองติง (ซึ่งจริงๆ ก็นัดไปแล้ว 55) ด้วยเหตุผลว่าที่นี่คือร้านหนังสือ multi-functional space ที่แรกของไทเปยังไงล่ะ!

ถึงจะบอกว่าเป็นร้านแรก แต่ในปี 2019 ผองติงเพิ่งมีอายุครบ 3 ปีเอง ร้านเลยดีไซน์ดี เฟรนด์ลี่กับคนรุ่นใหม่มากๆ ที่ประทับใจคือถึงจะทำหลายอย่างไปหมดแต่ทุกอย่างก็ทำอย่างตั้งใจสุดๆ โซนหลักอย่างโซนแมกกาซีนและหนังสือก็มาจากหลายประเทศ อัดแน่นเต็มชั้น 1 มีทั้งหัวที่ดังมากๆ แบบ Magazine B ของเกาหลีและ Apartamento ของสเปน niche ขึ้นอีกนิดก็มีแมกกาซีน Journal du Thé ของสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเขียนเรื่องชา ส่วนที่ niche สุดๆ คือ zine ของศิลปินชาวไต้หวันที่น่ารักจนเลือกไม่ถูก ร้านหนังสือ

ถัดเข้าไปจากโซนแมกกาซีนเป็นโซนคาเฟ่ที่มีเมนูอร่อยเหลือเชื่อ (มีวันหนึ่งเราย้อนกลับไปผองติงแค่เพื่อกินชาเขียวมะนาวอย่างเดียว) ส่วนชั้น 2 และ 3 เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ ทอล์ก และกิจกรรมต่างๆ ที่บ้าพลัง ชวนทั้งศิลปินไต้หวันและศิลปินต่างชาติมาแสดง อย่างตอนที่เราไปเขากำลังแสดงงานของศิลปินอังกฤษ David Shrigley แถมเรายังบังเอิญเจอเต้ ภาวิต ศิลปินคนไทยที่นั่น ซึ่งต่อมาเต้ก็ไปแสดงงานที่ผองติงด้วย

Recommend : มาถึงผองติงทั้งทีก็ต้องได้แมกกาซีนอินดี้กลับบ้าน หรือจะซื้อหนังสือ self-published ของคนไต้หวันก็ดีนะเพราะหาไม่ได้ที่อื่นแน่ๆ เราเองซื้อหนังสือภาพของศิลปินไต้หวันกลับมาหนึ่งเล่ม ซึ่งนอกจากชื่อเรื่องที่เป็นภาษาอังกฤษที่เหลือก็อ่านไม่ออกอีกเลย แต่ถือว่าคุ้มแหละเพราะภาพวาดมันน่ารักจริงๆ นี่นา

How to get there : MRT สถานี Zhongshan แล้วเดินต่อประมาณ 500 เมตร (6 นาที)

goo.gl/maps/NMEHncJv3dUzFacx8 

Starfield Library

Seoul, South Korea

สาริศา เลิศวัฒนากิจกุล
ผู้ช่วยบรรณาธิการดิจิทัลคอนเทนต์

เราเคยเห็นภาพชั้นหนังสือสูง 13 เมตรของที่นี่บ่อยๆ ผ่านอินสตาแกรมของเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวเกาหลี ทีแรกเข้าใจว่าเป็นร้านหนังสือขนาดยักษ์ จนช่วงที่เริ่มศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีเองถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันคือห้องสมุดต่างหาก

Starfield Library แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางห้าง COEX ในย่านหรูอย่างคังนัมซึ่งใจป้ำมากพอที่จะยกพื้นที่ทำเลทองมากกว่า 2,800 ตารางเมตรมาทำเป็นห้องสมุดที่เปิดให้คนเข้าใช้แบบฟรีๆ ที่นี่เลยกลายเป็นห้องสมุดที่มีคนพลุกพล่านที่สุดที่เราเคยไป เพราะนอกจากคนเกาหลีหลากหลายช่วงวัยที่มานั่งฟังเสวนา อ่านหนังสือ หรือยกแลปท็อปมานั่งทำงานแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ที่แวะเวียนไปเช็กอินกันตลอดทั้งวัน

ถึงกว่าค่อนของหนังสือในห้องสมุดแห่งนี้จะเป็นภาษาเกาหลีที่เราอ่านไม่ออก แต่สิ่งที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษคือบรรดาแมกกาซีนต่างประเทศจำนวนมาก (หลังจากอ่านข้อมูลในเว็บไซต์พบว่าที่นี่มีแมกกาซีนจากทั้งในเกาหลีและต่างประเทศรวมกันกว่า 400 หัว!) นอกจากนี้ยังมีไอแพดติดตั้งไว้รอบห้องสมุดสำหรับใครที่อยากอ่าน e-book อีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นห้องสมุดทุนหนาโดยแท้จริง

Recommend : นอกจากเรื่องหนังสือแล้ว งานออกแบบของห้องสมุดแห่งนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราเพลิดเพลิน ทั้งประติมากรรมตรงโถงกลางที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ และการใช้แสงจากธรรมชาติที่ช่วยทำให้บรรยากาศเหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือสุดๆ ส่วนใครที่มาช่วงหลังจากพระอาทิตย์ตกก็จะได้เห็นชั้นหนังสือเวอร์ชั่นเปิดไฟ เหมือนกับที่เห็นเป็นฉากหลังของโบกอมจากในซีรีส์เรื่อง Record of Youth อีกด้วย

How to get there : ขึ้นซับเวย์สาย 9 มาลงที่สถานี Bongeunsa ทางออก 7

goo.gl/maps/fQtYH6QXN47D57QcA

เครดิตภาพจาก Saeed Book Bank

Saeed Book Bank

Islamabad, Pakistan

คาลิล พิศสุวรรณ
บรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม

เราไม่ได้รู้จักร้านหนังสือแห่งนี้มาก่อน แต่เพื่อนชาวปากีสถานแนะนำว่า Saeed Book Bank เป็นร้านหนังสือที่เขาไปบ่อยๆ สมัยยังเด็ก วันสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยเราเลยขอให้เพื่อนพาไปที่ร้านหนังสือแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขานัก ร้านหนังสือ

พอจะรู้มาบ้างว่าวัฒนธรรมการอ่านหนังสือของชาวปากีสถานค่อนข้างแข็งแรง ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจอกับร้านหนังสือ stand-alone สูง 3 ชั้นที่ในทุกๆ ชั้นบรรจุหนังสือไว้อย่างแน่นขนัดจนเรานึกเสียดายในทันทีที่มาถึงร้าน เพราะถ้าไม่ต้องรีบเดินทางกลับไทยคืนนั้น เราคงใช้เวลาตลอดทั้งวันในร้านหนังสือแห่งนี้ได้สบายๆ 

ความน่าสนใจของร้านหนังสือแห่งนี้คือหนังสือแทบจะทุกเล่มในร้านเป็นภาษาอังกฤษ โดยที่ประเภทของหนังสือก็แตกต่างหลากหลาย มีตั้งแต่วรรณกรรม บทกวี หนังสือสำหรับเด็ก ไปจนถึงหนังสือวิชาการ

โดยส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างจะตื่นเต้นกับหมวดวิชาการของร้านนี้เป็นพิเศษ เพราะเขารวมหนังสือที่พูดถึงหัวข้อ Pakistan Studies และ Islamic Studies ไว้หลากหลายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น Urban Planning in Pakistan, Islam and Fashion ไปจนถึง Queer Studies ซึ่งสำหรับเรา การที่ร้านหนังสือในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศนับถือศาสนาอิสลามวางจำหน่ายหนังสือเกี่ยวกับประเด็นความลื่นไหลทางเพศซึ่งขัดแย้งกับหลักคำสอนของอิสลามนับว่าเป็นความกล้าหาญที่น่าชื่นชม

อีกจุดหนึ่งที่เราตื่นเต้นสุดๆ คือ Saeed Book Bank เป็นร้านที่รวบรวมหนังสือของ Noam Chomsky นักภาษาศาสตร์และนักปรัชญาชาวอเมริกันไว้เยอะมากๆ ถึงขนาดว่ามีชั้นหนังสือของชอมสกีโดยเฉพาะ เราไม่รู้ว่าหนังสือของชอมสกีขายดีแค่ไหน แต่การได้เห็นว่าร้านมอบพื้นที่ของชั้นหนังสือหนึ่งชั้นให้กับงานเขียนของนักวิชาการฝ่ายซ้ายอย่างชอมสกีก็เป็นอะไรที่น่าตื่นตาและไม่คิดว่าจะได้เห็นจริงๆ 

ส่วนหนังสือที่เราได้ติดมือกลับมาจากที่นี่คือประวัติศาสตร์ของเมือง Lahore และหนังสือเกี่ยวกับการวางผังเมืองในปากีสถาน (ซึ่งแน่นอนว่าทุกวันนี้ยังอ่านไม่จบ)

Recommend : เพราะต้องรีบเดินทางไปสนามบิน เราเลยไม่มีโอกาสเดินดูหนังสือทั้ง 3 ชั้นของ Saeed Book Bank เข้าใจว่าชั้นแรกจะเป็นวรรณกรรมและหนังสือวิชาการเป็นส่วนใหญ่ ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นหนังสือเรียน รวมถึงหนังสือวิชาชีพต่างๆ ส่วนชั้นที่ 3 เป็นหนังสือเด็ก แนะนำว่าถ้าใครมีโอกาสไปร้านหนังสือแห่งนี้ควรจะเผื่อเวลาไว้อย่างน้อยๆ สักครึ่งวัน จะได้เดินดูหนังสือนับหมื่นแสนเล่มได้อย่างสบายใจ

How to get there : Saeed Book Bank อยู่ในบริเวณ F-7 Jinnah super market มีรถบัสสาธารณะขับผ่านบริเวณนี้ แต่เราคิดว่าหากไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ การนั่งแท็กซี่มาน่าจะง่ายที่สุด

https://g.page/SaeedBookBank?share

library@orchard

Orchard, Singapore

เดือนเพ็ญ จุ้ยประชา
กองบรรณาธิการ

เรารู้จักที่นี่เพราะเสิร์ชหาสถานที่จำพวกร้านหนังสือกับห้องสมุดก่อนจะเดินทางไป ด้วยความที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือกับใช้บริการห้องสมุดค่อนข้างบ่อย บวกกับได้ยินกิตติศัพท์การส่งเสริมการอ่านของสิงคโปร์มาบ้าง เลยคิดว่าห้องสมุดของเขาต้องดีแน่ๆ จริงๆ เราไปห้องสมุดของที่นั่นมาหลายแห่ง แต่ถ้าเลือกที่ชอบที่สุดคือ library@orchard เป็นห้องสมุดในห้างสรรพสินค้าคล้ายๆ กับ TKpark บ้านเราแต่ดีไซน์สวยฮิปแบบ TCDC ตกแต่งภายในด้วยการนำแมกกาซีนประเภทต่างๆ มาจัดเรียงเป็นผนัง ทำให้รู้สึกถึงความร่วมสมัยและส่งเสริมไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ตอนเข้าไปคือว้าวมากๆ

ห้องสมุดแห่งนี้มี 2 ชั้น มีหนังสือหลากหลายประเภท เรายังไปวนๆ อยู่แถวโซนแมกกาซีนออกใหม่ด้านหน้ากับชั้นวรรณกรรมอยู่นานสองนาน แถมยังมีมุมสิ่งพิมพ์อื่นๆ พวกมัลติมีเดียอย่างภาพยนตร์และแอนิเมชั่น มีพื้นที่ให้อ่านหนังสือและทำงานทำการบ้านด้วย ขนาดมืดแล้ววัยรุ่นยังอยู่ใช้บริการเยอะอยู่เลย

เราประทับใจที่ที่นี่มีโซนซ่อมหนังสือให้ศึกษาด้วย เพราะปกติในไทยงานซ่อมหนังสือคืองานหลังบ้านที่คนไม่ค่อยรู้ แต่ที่นี่กลับทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของห้องสมุด เสียดายที่เราไม่ค่อยมีเวลาสำรวจมาก เพราะไปตอนห้องสมุดจะปิดแล้ว แต่คราวหน้าถ้าได้ไปอีก รับรองว่าจะฝังตัวอยู่ที่นี่ทั้งวันแน่นอน

Recommend : นอกจากทำเลจะตั้งอยู่บนย่านที่ได้รับความนิยมคล้ายๆ สยามแล้ว library@orchard ยังเป็นแหล่งรวมหนังสือด้านศิลปะ การออกแบบ และไลฟ์สไตล์กว่าแสนเล่ม แถมไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ฟรี อีกทั้งตระกูล library@ ยังกระจายอยู่ทั่วเกาะสิงคโปร์ เรียกว่าไปย่านไหนก็มีห้องสมุดดีๆ ให้ใช้ แถมสมาชิกห้องสมุดยังสามารถยืม-คืนหนังสือได้ทุกแห่ง สะดวกมาก

How to get there : ขึ้น MRT ไปลงที่สถานี Somerset แล้วเดินผ่านทางเชื่อมเข้าห้างสรรพสินค้าได้เลย https://goo.gl/maps/rBLhMMvTzWG51jei9

เครดิตภาพจาก dessinweb.jp

DESSIN

Tokyo, Japan

ทอรุ้ง จันทกนก
ครีเอทีฟคอนเทนต์ครีเอเตอร์

เรารู้จักร้านนี้จากการเสิร์ชหาร้านที่ไม่ควรพลาดในย่านนากะเมกุโระซึ่งเป็นย่านพักใจชั้นดีของเยาวรุ่นโตเกียว นอกจากชีสเค้ก กาแฟ และเสื้อผ้า ที่นี่ยังมีร้านหนังสืออิสระอย่าง ‘Dessin’ ตั้งอยู่

Dessin เป็นร้านหนังสือขนาดกำลังดี มีบรรยากาศอุ่นๆ ที่ชวนให้เราอยู่ครั้งละนานๆ หลังจากการแวะเวียนมาครั้งที่สองเราก็ได้รู้รายละเอียดน่ารักๆ ว่าชื่อร้าน Dessin นั้นแปลว่า ‘ภาพวาด’ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับประสบการณ์วัยเด็กของเจ้าของร้าน และยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการคัดเลือกหนังสือที่ตั้งใจจะมอบแรงบันดาลใจให้คนซื้อได้วาด ได้ถ่าย ได้เริ่มต้นทำสิ่งที่ตัวเองชอบ

เกือบฝั่งหนึ่งของร้านอัดแน่นไปด้วยหนังสือภาพสำหรับเด็กที่แน่นอนว่าผู้ใหญ่อย่างเราก็เอนจอย ส่วนอีกฝั่งจะเป็นโซนหนังสือภาพ อาร์ตบุ๊ก และโฟโต้บุ๊กทั้งมือหนึ่งและมือสอง รวบรวมไว้หมดตั้งแต่สำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ที่เรารู้จักกันดีอย่าง Taschen และ Phaidon ไปจนถึงหนังสือหน้าตาชวนค้นหาของสำพิมพ์เล็กๆ หรือ personal books ที่จัดพิมพ์เพียงไม่กี่เล่มของใครบางคนที่เราไม่เคยรู้จัก นอกจากนี้ยังมี zine น่ารักๆ วางแทรกอยู่ตามชั้นต่างๆ ทำให้เราสนุกกับการสวมบทนักสำรวจ ค้นหาหนังสือประหลาดๆ และในร้านยังมีของจิปาถะน่ารักๆ อย่างโปสเตอร์ แก้ว และกระเป๋าวางขายด้วย

และถ้าพอมีเวลาอย่าลืมแวะไปเยี่ยมชั้น 2 ของร้าน บันไดขนาดพอดีตัวคือทางเชื่อมไปสู่แกลเลอรีขนาดกะทัดรัดที่ซ่อนตัวอยู่ด้านบนที่มีไว้เพื่อจัดแสดงผลงานของศิลปินต่างๆ ด้วย

เครดิตภาพจาก dessinweb.jp

Recommend : แนะนำว่าควรมีเวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมงในการฝังตัวและสำรวจหนังสือภายในร้าน แล้วจะพบกับหนังสือสนุกๆ มากมาย อย่างเราเองก็ได้ซีนสำหรับอ่านตอนแช่ออนเซ็นมา ถึงแม้ว่าจะเป็นซีนภาษาญี่ปุ่นล้วนที่อ่านไม่เข้าใจสักตัว แต่กิมมิกการทำหน้าปกด้วยผ้าขนหนูให้เหมาะกับการแช่ออนเซ็นมันน่ารักจนอดใจซื้อไม่ไหว

How to get there : นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya มาลงสถานี Nakameguro แล้วเดินต่อจากสถานีอีกประมาณ 5 นาที 

https://goo.gl/maps/wYU3BcM2L5WvJdr58

moom bookshop

Taipei, Taiwan

ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์
ช่างภาพ

ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินคนพูดถึงร้านโฟโต้บุ๊กชื่อดังอย่าง moom bookshop ที่ไทเปอยู่บ้าง คิดว่าน่าจะเป็นร้านที่เหมาะกับตัวเองเพราะเราชอบดูหนังสือภาพหรือหนังสือที่มีภาพประกอบมากกว่าจะอ่านหนังสือที่มีตัวอักษรเต็มหน้ากระดาษ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เคยได้ไปสักที พอมีโอกาสได้ไปทำงานที่ไทเปก็เลยได้แวะไป

ร้าน moom bookshop อยู่ที่ชั้น 1 ของตึกอพาร์ตเมนต์เก่า ถึงจะตกแต่งแบบเรียบๆ แต่ก็ดูโดดเด่น (คือหาร้านเจอแน่นอน) ยิ่งตอนหัวค่ำที่ร้านหนังสือเปิดไฟ ทำให้ข้างนอกร้านยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก เมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้าน ด้านหนึ่งของร้านอัดแน่นไปด้วยโฟโต้บุ๊กของช่างภาพหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน ตะวันตก แถมยังมีให้เลือกหลากหลายแนวทั้งภาพถ่ายสตรีท คอนเซปต์ชวล หรืออาร์ตบุ๊ก ชนิดที่ยืนดูทั้งวันก็ยังดูไม่หมด 

ส่วนด้านในสุดของร้านจัดเป็นนิทรรศการหนังสือขนาดย่อมที่น่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ช่วงที่เราไปเป็นงาน Pioneers of Color Photography ที่จัดแสดงหนังสือรวมงานช่างภาพแนวสตรีทรุ่นเก๋าๆ ที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ยุค 70-80s นอกจากนี้ตรงด้านหน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ยังมีโซน zine หรือหนังสือทำมือให้เลือกหยิบดูได้ด้วย 

Recommend : ถึงมีเวลาอยู่ที่ร้านไม่นาน แต่เราก็ได้หนังสือภาพถ่ายของช่างภาพชาวญี่ปุ่นอย่าง Hideaki Hamada ที่เราชอบกลับบ้านในราคาไม่ต่างจากจากซื้อที่ญี่ปุ่นมากนัก

How to get there : MRT สถานี Zhongxiao Fuxing ทางออก 1 เดินต่อประมาณ 300 เมตร

https://goo.gl/maps/1sQG2afr9nMa8qXr9

AUTHOR