Baby, It’s Cold Outside
เป็นธรรมเนียมไปแล้วที่เข้าสู่ช่วงปลายปีเมื่อไหร่ เราจะวางแผนไปเที่ยวที่ที่อากาศหนาวๆ ให้ร่างกายได้สัมผัสไอเย็นที่หาไม่ได้ในเมืองไทยเสียบ้าง
ปีนี้เราเลือกไปไทเป ประเทศไต้หวัน จุดหมายปลายทางที่ฮิตไม่สร่างซามาตั้งแต่เปิดให้คนไทยฟรีวีซ่า 14 วัน วางแผนปุบปับก็ไปได้เลย หนีงานไปเที่ยวได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลอะไร
ช่วงที่เราไปอากาศกำลังดี เริ่มเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ยังไม่หนาวมาก แต่งตัวกำลังสนุก และโชคดีมากๆ ที่ไม่เจอพายุเลย
ที่จริงเราเคยไปไทเปมาแล้วแต่ก็ยังอยากไปซ้ำ ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้คนน่ารัก เดินเข้า-ออกร้านไหนก็สบายใจ และอีกส่วนเป็นเพราะหลงรักความน่ารักของเมืองหลวงแห่งนี้ ไทเปสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่แพ้ญี่ปุ่น ผังเมืองดีเยี่ยม ระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุมทั่วทั้งเมือง นักท่องเที่ยวอย่างเราแค่มี EasyCard ใบเดียวก็แตะขึ้น-ลงรถไฟฟ้า รถเมล์ หรือซื้อของตามร้านสะดวกซื้อได้ทั้งเมือง
พูดถึงผังเมือง เสน่ห์อย่างหนึ่งของไทเปก็มาจากผังเมืองนี่แหละ ที่นี่มีร้านเด็ดๆ ซ่อนตัวอยู่ตามซอกซอยเยอะแยะ ถ้าไม่เดินผ่านไปเห็นจริงๆ ก็ไม่มีทางรู้เลย อย่างที่บอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราไปไทเป คราวนี้เราเลยตั้งใจไปสำรวจร้านลับๆ ที่ซุกตัวอยู่ในซอยเหล่านั้นดู
It’s All about the Money Money Money
พอตั้งเป้าจะไปสำรวจร้านลับ เราก็รู้เลยว่าทริปนี้ช้อปปิ้งหนักและกินตัวแตกแน่ๆ ยิ่งไปไต้หวันที่ค่าเงินใกล้เคียงกับไทยมากๆ แบบไม่ต้องแปลงหน่วยในหัว จะใช้จ่ายทีไม่ต้องคิดเยอะ ก็เห็นอนาคตกระเป๋าเงินตัวเองมาแต่ไกล
ส่วนตัวเราไม่อยากพกเงินสดเป็นปึกๆ ก็เลยสมัครบัตรเดบิต JOURNEY กสิกรไทยที่เพิ่งออกใหม่เพื่อไปทริปนี้โดยเฉพาะ เพราะบัตรนี้รูดจ่ายเงินที่ต่างประเทศได้ทุกสกุลเงิน เรตดี ไม่ชาร์จเพิ่ม หรือถ้าต้องการแลกเงินสดไปด้วย แค่แสดงบัตรที่บูทแลกเงินหรือสาขาของ KBank ก็แลกได้เลย สะดวกและได้เรตดีเหมือนกัน
ที่พิเศษกว่านั้นคือพอสมัครบัตรนี้แล้วเราได้ประกันการเดินทางจาก Cigna สูงสุด 10 วันโดยอัตโนมัติ แค่ลงทะเบียนก่อนเดินทาง ไม่ต้องซื้อประกันการเดินทางแยกเอง ประหยัดเงินไปได้อีก (ไว้ไปช้อปปิ้งที่นู่นแทน ฮ่าๆๆ) และเพราะเราสมัครบัตรในปี 2562 ก็เลยได้ของแถมเพิ่มเป็น SIM GO INTER 6GB 10 วัน และสิทธิในการใช้บริการ Miracle Lounge ฟรี 3 ครั้งต่อปีอีกด้วย นี่ขนาดยังไม่ทันออกนอกประเทศก็รู้สึกแล้วว่าต้องมีอะไรดีๆ รออยู่!
Let’s Explore Taipei
พอถึงที่หมาย เราก็เริ่มไปฮอปปิ้งร้านลับที่จดโพยมาจากเพื่อนพ้องผู้เชี่ยวชาญไทเปทันที ใครอยากไปตามรอย เราแนบพิกัดไว้ให้แล้วด้วย
1. Pon Ding
ร้านแรกที่เรามาคือร้านหนังสืออิสระควบคาเฟ่และอีเวนต์สเปซ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานี Beimen เรียกได้ว่าพอนั่ง Airport Rail Link เข้ามาถึงในเมืองก็แวะมาได้เลย ที่นี่เขารวบรวมทั้งหนังสือและนิตยสารอินดี้จากทั่วโลกเอาไว้ และยังมีสินค้าจุกจิกจากศิลปินที่มาแสดงงานบนชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการของศิลปินหลากเชื้อชาติที่หมุนเวียนกันมาจัดแสดง คนรักหนังสือห้ามพลาดจริงๆ
พิกัด: No. 6, Lane 53, Section 1, Zhongshan North Road, Zhongshan District, Taipei City, 104
2. in Blooom
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากร้านแรก ในละแวกเดียวกันแต่เดินมาตรงย่าน Dadaocheng จะเจอร้าน in Blooom Together สตูดิโอล่าสุดของแบรนด์ in Blooom ใครแวะมาร้านนี้และไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือออกไปถือว่าจิตแข็งมากนะ เพราะสินค้าทุกชิ้นของเขาน่ารักมากๆ ร้านนี้เริ่มจากการขายผ้าพิมพ์ลายสไตล์ไต้หวัน ก่อนจะพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือที่เราชอบมากก็คือผ้ากันกระแทกกล้องกับปกผ้าห่อหนังสือ แถมเดี๋ยวนี้เขายังคอลแล็บกับแบรนด์อื่น เช่น Pentel ทำเครื่องเขียนลายน่ารักที่ขายเฉพาะในไต้หวันด้วย สาขานี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 3 สาขาที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ นอกจากจะมีโซนร้านค้าแล้วยังมีพื้นที่สำหรับ selected goods และพื้นที่ทำงานเวิร์กช็อปด้วย
พิกัด: No. 248, Section 1, Dihua St., Datong District, Taipei City, 103
3. Wu Pao Chun Bakery Taipei
มาถึงไทเปทั้งทีเราก็ไม่พลาดแวะมาเช็กอินที่ Taipei 101 ซึ่งใกล้ๆ กันนั้นมีร้านเบเกอรีที่พาขนมปังซิกเนเจอร์ของร้านไปคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง ถึงขนาดที่ทางร้านสามารถรวมขนมปังรางวัลมาจัดเป็น Champion Set ให้ได้ชิมกันครบทุกรส ซึ่งขนมปังในเซตนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ความพิเศษของมันคือใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากไต้หวันมาทำเป็นขนมปังรสต่างๆ ในร้านจะมีโซนคาเฟ่ที่เรานั่ง โซนเบเกอรีแบบซื้อกลับบ้าน และโซนครัวที่มีเชฟมาอบขนมปังให้เห็นกันสดๆ ทั้งวัน จริงๆ แค่กิน Champion Set ก็อิ่มมากแล้วนะ แต่เพราะขนมปังเขาพิเศษมากจริงๆ เลยต้องขอแวะซื้อกลับไปกินวันหลังด้วยอีกหน่อย ที่นี่จะมีขนมปัง 5 ชนิดที่มีขายเฉพาะในไทเปด้วย นอกจากนี้ยังมีสาขาอื่นอยู่ที่เมืองไถจงและเกาสงอีก ซึ่งแต่ละสาขาก็จะมีขนมปังพิเศษของตัวเอง บอกเลยว่าต้องมาลองเองจริงๆ
พิกัด: 1F, No. 124 & 126, Xinyi Road, Section 5, Xinyi District, Taipei City, 110
4. moom bookshop
สายโฟโต้บุ๊กต้องมาแวะร้านนี้ เพราะเขาเป็นร้านที่รวบรวมโฟโต้บุ๊กทั้งจากโซนอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และบางส่วนจากจีน ฮ่องกง และไต้หวัน การจัดวางด้านในก็ให้อารมณ์เหมือนเรากำลังเลือกอ่านหนังสือจากห้องสมุด แถมเขายังตั้งใจปล่อยพื้นที่ในร้านให้เราเดินเองได้ตามใจ หน้าร้านจะไม่มีพนักงานมารบกวนเลยยกเว้นเรากดกระดิ่งเรียกที่เคาน์เตอร์ นอกจากนี้บางครั้งก็ยังมีนิทรรศการจากศิลปินมาจัดแสดงอยู่เหมือนกัน
พิกัด: No. 16, Alley 8, Lane 251, Section 3, Zhongxiao East Road, Da’an District, Taipei City, 106
5. White Wabbit Records
ร้านถัดไปเป็นร้านขายซีดีและแผ่นเสียงอินดี้ทั้งสัญชาติไต้หวันและจากต่างประเทศ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Shida Night Market ที่เราชอบคือเขามีโซนเล็กๆ สำหรับทดลองฟังซีดีเหมือนสมัยก่อน และมีขายเทปคาสเซตต์ที่เดี๋ยวนี้เริ่มมีศิลปินไต้หวันกลับมาผลิตกันด้วย บางครั้งเจ้าของร้านยังเป็นตัวตั้งตัวตีจัด live concert ทำให้ในร้านมีของที่ระลึกจากเทศกาลดนตรีเจ๋งๆ ขายอีกด้วย เราแวะไปซื้อซีดีฝากเพื่อนที่เมืองไทย พนักงานเป็นกันเองและช่วยแนะนำได้ดีมากๆ คิดว่าถึงไม่ใช่สายดนตรีอินดี้ก็แวะมาร้านนี้ได้นะ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เจอวงโปรดวงใหม่ๆ จากร้านนี้ก็ได้
พิกัด: No. 1-1, Lane 21, Pucheng Street, Da’an District, Taipei City, 106
6. Flügel studio
จากร้าน White Wabbit Records เราเปิดฟังเพลย์ลิสต์ที่พนักงานแนะนำก่อนจะเดินข้ามถนนมายังอีกบล็อก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เดินเข้าซอยไปสักหน่อยจะเจอคาเฟ่สไตล์มินิมอลที่ขยันเสิร์ฟขนมจากวัตถุดิบสดใหม่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นเจ้าของร้านไปสะดุดตาอะไรจากการจ่ายตลาด ถ้าอยากรู้ว่าวันนี้เขาจะเสิร์ฟอะไร ก่อนไปต้องเช็กให้เรียบร้อยผ่านทางเพจก่อน วันที่เราไปเขาเสิร์ฟแต่ของน่ากินอย่างทาร์ตรัมองุ่นสด ทาร์ตเลมอน ทาร์ตช็อกโกแลตมัลเบอร์รี พายเชอร์รี ฯลฯ เลือกยากมากๆ สุดท้ายเลยจบลงที่การจิบชา Marco Polo จาก Mariage Frères และกินเค้ก 2 ชิ้นแทนข้าวมันซะเลย
พิกัด: 1F, No. 3, Xinhai Road, Section 1, Lane 34, Da’an District, Taipei City, 106
7. Qingtian Tea House
ร้านสุดท้ายเป็น tea house ที่แม้จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่กลับให้กลิ่นอายเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคโบราณของไต้หวัน จากซอยดัง Yongkang Street เดินเลยเข้ามาอีกสักพักใหญ่ๆ จะเจอบ้านสไตล์ญี่ปุ่นซ่อนตัวอยู่ในสวนร่มรื่น นั่นแหละ Qingtian Tea House แม้ตัวสถาปัตยกรรมจะสร้างตั้งแต่สมัยรัฐบาลญี่ปุ่นแต่ภายในเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์จีน แบ่งเป็นโซน tea house กับส่วนแกลเลอรีที่จัดแสดงผลงานสไตล์คลาสสิก พอเราสั่งชาแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยสอนวิธีการชงชาที่ถูกต้อง ให้เราลองดมและชิมชา ก่อนจะปล่อยให้เราชงเองตามใจ ส่วนขนมก็มีทั้งขนมพื้นบ้านของไต้หวันไปจนถึงขนมสไตล์ตะวันตกอย่างชีสเค้ก พายสับปะรดของเขาอร่อยมากๆ เพราะอุ่นมาเสิร์ฟร้อนๆ เนื้อพายไม่ร่วนแห้ง กรอบนอก ส่วนไส้ข้างในก็หวานกำลังดี เข้ากันได้ดีกับใบชาไต้หวัน
พิกัด: No. 12, Lane 8, Qingtian Street, Da’an District, Taipei City, 106
แม้จะอยู่ไทเปแค่ไม่กี่วันแต่เราก็รู้สึกคุ้มสุดๆ เพราะนอกจากจะได้สัมผัสอากาศเย็นๆ สมใจอยาก ยังได้ไปตะลุยร้านลับในซอกซอย ช้อปปิ้งจนกระเป๋าตังค์แทบร้องไห้ แถมได้กินขนมอร่อยๆ แบบจุกๆ ไปเลย
แต่สุดท้ายแล้ว 7 ร้านที่เราไปมาก็แค่ส่วนหนึ่งของไทเปเท่านั้นแหละ ถ้ามีโอกาสได้ไป นอกจากตามรอยเราแล้ว อย่าลืมลัดเลาะออกนอกเส้นทางเพื่อไปค้นพบร้านลับของตัวเองล่ะ 🙂
จะกิน ดื่ม ช้อปในต่างประเทศ แค่มีบัตรเดบิต JOURNEY กสิกรไทยใบเดียวก็จบครบทุกอย่างที่ต้องการ – รูดใช้จ่ายในต่างประเทศในเรตที่ถูกสุดๆ แค่รูดเป็นสกุลเงินท้องถิ่น ไม่มีการชาร์จ 2.5% ใช้ได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก – หรือจะรูดแลกเงินที่บูท KBank ที่สนามบินก็ได้เรตถูกสุดๆ เช่นกัน (เรตพิเศษ – 31 ธันวาคม 2562) ดูเรตรายวันได้ที่ kasikornbank.com/th/personal/Debit-Card/Pages/exchange-rate.aspx – สิทธิพิเศษใช้บริการ Miracle Lounge 3 สิทธิ์/ปีปฏิทิน ในปี 2562 และ 2563 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางออกต่างประเทศ ไม่จำกัดสายการบิน (สำหรับลูกค้าที่สมัครบัตรภายในปี 2562) – รับฟรี SIM GO INTER (Asia-Australia-USA) จำนวน 6GB นาน 10 วัน (สำหรับลูกค้าที่สมัครภายในปี 2562 สามารถกดรหัสรับสิทธิ์ได้อย่างน้อย 3 วันทำการหลังสมัครบัตร และรับ SIM ได้ที่ dtac hall ทุกสาขา ยกเว้นสาขาสนามบิน ถึง 31 มีนาคม 2562) – ส่วนลด 100 บาทเมื่อเรียก GrabCar Plus, GrabSUV, GrabCar Premium, GrabVan และ GrabCar Luxe ไป-กลับสนามบิน จำนวน 2 ครั้ง/ผู้ใช้ (สิทธิพิเศษ 31 ธันวาคม 2562) – ประกันการเดินทางจาก Cigna สูงสุด 10 วัน ความคุ้มครองสูงสุด 1.5 ล้านบาท สามารถใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้นได้ สิทธิพิเศษจากบัตร VISA Platinum สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ cigna.co.th/visa – สมัครบัตรเดบิต JOURNEY กสิกรไทยได้แล้ววันนี้ผ่าน K PLUS และที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา พิเศษสำหรับคนที่สมัครผ่าน K PLUS จะพิมพ์ชื่อบนบัตรให้ด้วย และเมื่อได้รับบัตรแล้ว อย่าลืม activate บัตรผ่าน K PLUS และเปลี่ยนรหัสผ่านที่เครื่อง ATM กสิกรไทย ถึงจะใช้งานได้ – ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/2m41Btv |