Takuya Kishimoto นักสร้างสรรค์ร้านขนมปังผู้สร้างความเด่นดังปังกรุบกว่า 350 แห่งทั่วประเทศ

“คนคิดนี่เก่งจัง”

เราไม่ได้พูดคนเดียวลอยๆ แต่นั่นคือชื่อร้านขนมปัง (kangaetahitosugoiwa) ที่กำลังดังในญี่ปุ่น ชื่อร้านชวนงงแบบที่ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าขายขนมปังแบบนี้ยังมีอีกหลายร้าน เช่น หรือว่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาว, ฉันไม่แบ่งให้ใครหรอก, อุบไว้เป็นความลับได้มั้ยคะ, หลังจากนี้จะไปทำอะไรเหรอ, คำสารภาพรักจากคุณแม่, ร้านขนมปังที่ไม่มีชื่อ, อ้าปากค้าง, เฮ้ย! นี่มันอะไรวะ!, ฉันจะแต่งงานแล้วค่ะ, มาจูบสัญญากันมั้ย ฯลฯ

คนคิดเก่งมั้ยล่ะ

ร้านชื่อเก๋เหล่านี้ล้วนเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ Takuya Kishimoto โปรดิวเซอร์ร้านขนมปังมือทองผู้ปลูกปั้นร้านขนมปังมากว่า 350 ร้านทั่วประเทศ ว่ากันว่าเขาผู้นี้แหละที่เป็นคนจุดกระแส shokupan ไฮโซในประเทศญี่ปุ่นที่กำลังลามมายังประเทศไทย
นอกจากชื่อร้านจะดึงดูดความสนใจ การตกแต่งภายในต่างๆ ก็แซ่บไม่แพ้กัน ลืมบรรยากาศร้านขนมปังอุ่นๆ ไม้ๆ ตะมุตะมิละมุนละม่อมไปได้เลย ทะคุยะฉีกทุกขนบ ใช้สีสันสดใส ลายการ์ตูนและดีไซน์แปลกตามาผสมผสานกันมากมายให้ตรงตามคอนเซปต์ของแต่ละร้าน

Japan Bakery

ที่สำคัญ ไม่ได้ทำมาแค่สวยๆ ให้เป็นกระแสคนแห่มาถ่ายรูปแล้วจบไป แต่ขนมปังอร่อยจริง บางร้านฮิตจนขายได้วันละ 20,000 ชิ้น ขยายสาขาไปหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ สมแล้วที่ทะคุยะใช้เวลาถึง 2 ปีเต็มในการพัฒนาสูตรขนมปังที่เหนียวนุ่มฟูชุบชูใจชาวยุ่นนี้

คนคิดนี่เก่งจริงๆ ด้วย

ปกติทะคุยะคิวแน่นมาก ออกสื่อเรื่อยๆ ทั้งออนไลน์ สิ่งพิมพ์ และโทรทัศน์ วันนี้เราแสนโชคดีได้คิวทองของเจ้าพ่อร้านขนมปังมาพูดคุยเกี่ยวกับความหลงใหลในขนมปังและเคล็ดลับการสร้างสรรค์ร้านให้ปังปั๊วะตามแบบฉบับของบริษัท Japan Bakery Marketing

เรามาถึงก่อนเวลานิดหน่อย ตอนที่เห็นทะคุยะเดินเข้ามาในชุดสีสันสดใส (ที่เขาแอบบอกว่าเสื้อของดีไซเนอร์ชาวไทยด้วย) พร็อพแน่นจัดเต็มและรองเท้าข้างละสีก็พอจะรู้แล้วว่าความสนุกของร้านขนมปังของเขามาจากไหน

Japan Bakery

การโปรดิวซ์ร้านขนมปังของ Japan Bakery Marketing คืออะไรยังไง

Japan Bakery Marketing ช่วยปั้นร้านขนมปังให้จากศูนย์ ลูกค้าไม่ต้องมีพื้นฐานอะไร แค่อยากเปิดร้านแต่ไม่รู้ต้องทำยังไงก็เข้ามาปรึกษาเราได้เลย ที่นี่เราซัพพอร์ตแบบครบวงจร คุยคอนเซปต์ คิดชื่อและการตกแต่งร้าน สอนทำขนมปัง คิดเมนู ดูแลหลังเปิดร้านด้วย เช่น พัฒนาเมนูใหม่ๆ และคอยเข้าไปเช็กคุณภาพขนมปัง เพราะขนมปังเป็นสิ่งมีชีวิต ในญี่ปุ่นมี 4 ฤดู การดูแลก็แตกต่างกัน
แต่ละร้านแยกขาดออกจากกันนะครับ ผมไม่ได้ขายแฟรนไชส์ ถ้าเห็นว่าชื่อเดียวกันนั้นมีหลายสาขา แปลว่าเจ้าของเขาขยายกิจการเอง

เคยได้ยินว่าคุณทำงานโรงแรมดังมาก่อน มาจบที่ร้านขนมปังได้ยังไง

อย่างที่บอกไปตอนแรก ผมชอบทำให้คนมีความสุข การทำงานโรงแรมคือให้แขกที่มาพักได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบาย ผมเป็นเหมือน actor ที่ทำให้คนมีความสุข มันสนุกดีนะครับ

ทีนี้ในโรงแรมก็มีร้านขนมปัง ผมได้รับมอบหมายให้ทำการตลาดร้านขนมปังในโรงแรม ตอนนั้นมีขนมปังที่ผมไม่รู้จักมากมาย เพราะเป็นโรงแรมเครือจากต่างประเทศ มีขนมปังจากอังกฤษ เยอรมนี หลายอย่าง มันทำให้คนยิ่งตื่นเต้น สนุก พูดตามตรง ตอนทำงานโรงแรมก็ต้องมีบิลด์ๆ บ้าง แต่ตอนนี้มาทำร้านของตัวเองแล้วก็สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

หลังออกจากงานมาเปิดร้านขนมปังของตัวเอง จนเริ่มมีชื่อเสียง มีคนติดต่อให้ไปเป็นที่ปรึกษาเรื่อยๆ จนในที่สุดผมเลยตั้งบริษัท Japan Bakery Marketing ช่วยคนเปิดร้านขนมปังจริงจังไปเลย

Japan Bakery

ความหลงใหลในขนมปังของคุณเริ่มต้นขึ้นตอนไหน

จริงๆ แล้วผมชอบร้านขนมปังมากกว่าขนมปังครับ (ยิ้ม) ชอบคิดขนมปังใหม่ๆ ว่าอยากให้มีขนมปังแบบไหน

เลยทำธุรกิจนี้เพราะอยากสนับสนุนให้คนเปิดร้านเพราะชอบร้านขนมปัง

ใช่ครับ เหมือนเราได้ทำร้านขนมปังร่วมกับคนที่มีความเชื่อแบบเดียวกัน เห็นคุณค่าในเรื่องเดียวกัน การที่ได้แชร์ความรู้สึกเหมือนกันนี้ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความดีใจ ผมเลยสอนวิธีทำขนมปังและการเปิดร้านขั้นพื้นฐานให้ ช่วยให้เขามีร้านขนมปังสนุกๆ ที่ทำให้ผู้คนที่ได้แวะไปดีใจ

ทำไมชอบร้านขนมปังขนาดนั้น

โดยพื้นฐานแล้วผมชอบผู้คน อยากทำให้คนสนุกและดีใจ ซึ่งขนมปังเป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัยกิน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงอายุ เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนดีใจได้ จริงๆ แล้วก็ชอบขนมปังนะครับ แต่ผมชอบร้านขนมปังมากกว่า เวลาได้ไปร้านขนมปังแล้วมันรู้สึกตื่นเต้น

Japan Bakery

ตื่นเต้นอะไรเหรอคะ

เพราะมันสนุกที่ได้เลือกของที่เราชอบ ในร้านมีขนมปังทั้งแบบคาวหวาน มีครัวซองต์ มีขนมปังไส้แกงเขียวหวาน มีอันปัง มีขนมปังหลายแบบที่ทำให้ตื่นเต้น มันทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นพระราชาเลย เลือกขนมปังได้ตามใจชอบ

ร้านขนมปังของคุณแตกต่างกันหมดเลย สิ่งสำคัญร่วมกันในการทำร้านขนมปังคืออะไร

ทุกคนต้องแฮปปี้ ทั้งคนทำร้าน ลูกค้า และพาร์ตเนอร์ที่เราซื้อวัตถุดิบ สำหรับผมลูกค้าที่เข้ามาขอให้โปรดิวซ์ร้านก็ต้องแฮปปี้ เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่ใช่แบบอยากได้กำไรเยอะแล้วขายแพง หรือลดคอสต์ด้วยการลดคุณภาพวัตถุดิบ

แอบเห็นคุณเขียนในเว็บไซต์ว่าอยากให้ร้านขนมปังสร้างความคึกคักให้กับเมือง โดยมีปัจจัยสำคัญคือ เสียงดนตรี เสื้อผ้า การท่องเที่ยว อาหาร ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย

ดนตรี-ผมชอบดนตรีมาก ชอบทั้งร้องและฟัง พอชอบมากก็มีความใส่ใจเรื่องเพลง เช่น ตอนนี้ได้ฟังเพลงนี้จะรู้สึกมีความสุข ถ้าไปทะเลอยากฟังเพลงนี้ ตอนบ่ายอยากฟังเพลงอีกแบบ

การท่องเที่ยว-ผมก็ชอบมากเช่นกัน เพราะเราได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่าง ได้รีเฟรชตัวเอง ได้สัมผัสสิ่งที่ไม่ได้เจอในชีวิตประจำวัน

แฟชั่น-ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนดีใจได้ เช่น วันนี้ผมจะได้เจอแจนซัง ผมเลยเลือกใส่เสื้อที่ซื้อจากประเทศไทย ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวไทย แหวนก็ซื้อจากไทย การเลือกแต่งตัวแบบนี้เผื่อจะทำให้แจนได้คิดถึงเมืองไทย และการที่เสื้อผ้าทำให้คนดีใจได้ ผมเลยเปลี่ยนชุดวันละ 3 ครั้งให้เหมาะกับคนที่จะเจอ

อาหาร-อันนี้สื่อถึงความเป็นคนตะกละของผม (หัวเราะ) ผมชอบกินมาก สนุกกับการกินเวลาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ คนทำอาหารเองก็ตั้งใจทำเพื่อให้ลูกค้าที่มากินมีความสุข

Japan Bakery

เลยเอาทุกอย่างมารวมกัน?

ผมอยากทำร้านที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ครบถ้วน ในฐานะโปรดิวเซอร์ผมอยากแชร์แนวคิดเรื่องพวกนี้ให้คนที่อยากเปิดร้านขนมปังฟังว่านี่คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ และถ้าเห็นตรงกันก็ลุยต่อ

ส่วนเรื่องการสร้างความสดใสให้เมืองคือ การทำร้านที่ไม่เหมือนคนอื่น แน่นอนว่าขนมปังก็ต้องอร่อยด้วย ทำให้ผู้คนยิ้มและกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง แต่ถ้าพูดถึงการฟื้นฟูเมืองแบบที่หลายจังหวัดกำลังทำกัน พวกเขาเน้นเรื่องทางเศรษฐกิจมากกว่า แต่ผมทำคนเดียว มีกำลังแค่ประมาณนี้ เมื่อลองคิดว่าทำอะไรได้บ้าง อาจจะไม่ถึงขั้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ร้านขนมปังที่ผมทำมีความแปลก เช่น ชื่อแปลกๆ เป็นร้านขนมปังสไตล์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน พอมันไปตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ไม่ได้คึกคักมากนัก มันก็จะกลายเป็นที่พูดถึง พอเป็นที่พูดถึงคนก็จะชวนกันไปที่ร้านละ เพราะปกติในท้องถิ่นก็จะมีแต่ร้านที่คล้ายๆ กัน หรือร้านที่เป็นแฟรนไชส์ การมีของที่มีเอกลักษณ์ไปตั้งมันน่าจะช่วยกระตุ้นให้คนเริ่มรู้สึกอยากทำอะไรบ้าง เช่น จังหวัดฟุกุชิมะ มีเมืองเล็กๆ ที่เก่งเรื่องทำโชจู (เหล้าญี่ปุ่นประเภทหนึ่ง) เขาติดต่อผมมาให้ช่วยโปรดิวซ์สินค้า ทำการตลาดชูของดีเมืองเราให้หน่อย มันเหมือนกับการทำอะไรให้เป็นรูปร่างขึ้นมาและค่อยๆ เผยแพร่ของดีในท้องถิ่น ถ้าเราเริ่มพีอาร์ตั้งแต่ตอนนี้ พอโควิดซาคนก็น่าจะอยากไปตามเมืองต่างๆ ไปใช้เงิน และตรงนั้นแหละที่จะช่วยกระตุ้นเมือง บทบาทของผมคงเป็นฟันเฟืองเล็กๆ แบบนี้มากกว่า ซึ่งก็อยากทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ นะครับ

นอกจากโชจู ทะคุยะกำลังทำหมอนข้างด้วย เป็นหมอนข้างที่เหมือนแป้งดิบขนมปังผูกกันเป็นเกลียวให้ปรับรูปทรงได้ตามใจชอบ มีความยืดหยุ่นแบบขนมปัง สอดแขนขาไปในเกลียวได้ตามใจ สมเป็นหมอนข้างที่คิดโดยนักทำร้านขนมปัง เขาเปิด crowdfunding โดยตั้งเป้าไว้ 300,000 เยน แต่ได้ไปถึง 7 ล้าน

Japan Bakery

ทั้งโชจู ทั้งหมอนข้าง หรือโปรดิวเซอร์มือทองกำลังจะมูฟออนจากขนมปังแล้ว

ผมเริ่มต้นจากขนมปังก็จริงครับ โดยก่อนหน้านี้จะเน้นเรื่องความสนุกเป็นหลัก แต่หลังจากนี้ อยากขยายไปเรื่องความสะดวกสบาย ความทรงจำ และเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญกับผู้คนด้วย

อย่างการดื่มโชจู แน่นอนว่าเรื่องความอร่อยก็สำคัญ แต่มันเป็นเครื่องดื่มที่ปกติกินกับเพื่อน มีความรื่นเริง ถ้าสินค้ามีเรื่องให้เล่าว่าสตอรี่ของโชจูเป็นยังไง ดีไซน์ฉลากมาจากไหนก็จะยิ่งสนุก ส่วนเรื่องการนอนก็สำคัญ คนญี่ปุ่นมีปัญหานอนไม่หลับกันเยอะ ผมเลยอยากลองทำหมอนที่ทำให้ทุกคนนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น แต่ขนมปังก็ไม่เลิกทำนะครับ เดี๋ยวจะไปเปิดที่ประเทศไทยด้วย (หัวเราะ)

ขนมปังของเขาเราได้ชิมแล้ว มั่นใจในรสชาติว่าอร่อยปังไม่พลิกโผ ลุ้นอย่างเดียวเลยว่าชื่อและดีไซน์ร้านขนมปังในไทยจะสนุกขนาดไหน หวังว่าจะได้อ้าปากค้างหรืออุทานว่า

เฮ้ย! นี่มันอะไรวะ!

AUTHOR