เราใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอัลกอริทึม คัดเลือกสิ่งที่เราสนใจส่งให้ถึงหน้าจอมือถือ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า หนังสือ หรือแม้กระทั่งดนตรี โลกวันนี้สะดวกสบายขึ้น แต่ก็ทำให้เราพบสิ่งนอกเหนือไปจากสิ่งที่เราคุ้นเคยน้อยลง
เพื่อหลีกหนีจาก AI เราอยากแนะนำที่ชอบแห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 36 เป็นบาร์เล็กๆ ในคอนเทนเนอร์สีขาวแปลกตาไปจากบ้านไม้เงียบสงบรอบๆ สมชื่อร้าน ‘Freaking Out the Neighborhood’ บาร์นี้ตั้งใจให้เป็น Alternative Listening Bar และร้านขายแผ่นเสียงที่ชวนทุกคนเข้ามาดื่มด่ำไปกับเพลงนอกกระแสหลากหลายแนว ด้วยความตั้งใจเป็นแหล่งพบปะของคนชอบเพลงทางเลือก ความพิเศษคือทุกเพลงเปิดจากแผ่นเสียงโดยไม่ข้ามแทร็กผ่านเครื่องเสียงที่ได้คุณภาพ
ร้านนี้ก่อตั้งโดย กิ-กิรตรา พรหมสาขา ณ สกลนคร หลายคนรู้จักเธอในฐานะนักร้องดูโอวง Niece ค่ายโดโจซิตี้ ในเครือเบเกอรี่ มิวสิค กิทำงานเบื้องหลังในฐานะ Concert Promoter ชื่อ HAVE YOU HEARD? และ Maho Rasop Festival โดยคัดเลือกศิลปินในวงการเพลงนอกกระแสมาจัดแสดงทั้งจากไทยและต่างประเทศ ล่าสุดก็ได้กลับมาจัดการแสดงอีกครั้งหลังจากหายไป 2 ปี ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดกิทำ Freaking Out The Neighborhood เพื่อทำให้ชุมชนคนรักเพลงแนวนี้มีสถานที่ดีๆ ไว้ฟังเพลง พูดคุย หยั่งรากลึกในบ้านเรามากขึ้น
เมื่อการฟังออนไลน์ไม่สามารถแทนคอนเสิร์ตได้
จุดเริ่มต้นของร้านเกิดจากช่วงโควิด-19 ทำให้คอนเสิร์ต HAVE YOU HEARD? จากเดิมที่เคยจัดทุกเดือนต้องหยุดไป community ของคนชอบฟังเพลงก็หายไปด้วย แม้หลายวงการจะปรับรูปแบบไปสู่ออนไลน์มากขึ้น แต่สำหรับวงการคอนเสิร์ตแล้ว กิเชื่อว่าการแสดงดนตรีออนไลน์ยังไม่สามารถทดแทนการแสดงสดได้จริงๆ จึงเป็นเหตุผลให้เธอเลือกเปิดบาร์บนพื้นที่ทางกายภาพมากกว่าปรับพื้นที่ของการชอบฟังเพลงไปสู่ออนไลน์
“สำหรับ HAVE YOU HEARD? คงไม่ได้จัดเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์เต็มที่ จนกว่าจะมีเทคโนโลยีที่ทำให้การดูออนไลน์ทดแทนการดูคอนเสิร์ตได้มากกว่านี้ ตอนนี้จึงเป็นรูปแบบที่ศิลปินทำ production พิเศษ แล้วบันทึกภาพการไลฟ์จากที่เมืองนอก ส่วนเราจะช่วย broadcast หรือทำ PR ให้ศิลปินมากกว่า รวมถึงการเปิดร้านแผ่นเสียงยังช่วยให้ศิลปินมีรายได้ด้วย”
เมื่อถามถึงเสน่ห์ของการดูดนตรีสด กิบอกว่า “การแสดงดนตรีสดจะมี energy ระหว่างคนดูและศิลปินที่แตกต่างกันออกไปในการแสดงแต่ละครั้ง รวมถึงการที่แฟนเพลงได้เจอศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ นอกจากนี้องค์ประกอบอื่นๆ เช่น สถานที่ เครื่องเสียงแบบจัดเต็ม หรือไฟที่มาเสริมในการดูคอนเสิร์ตครั้งนั้นพิเศษขึ้น ถ้าดูออนไลน์เสียงจะไม่ดีมาก และการนั่งดูคนเดียวมันไม่ได้ vibe ของการดูกับเพื่อน หรืออินไปกับโมเมนต์นั้นพร้อมๆ กัน”
ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของการชมดนตรีสดและอยากเปิดพื้นที่ให้คนที่ชอบฟังเพลงคล้ายกันมาพบปะพูดคุยอีกครั้ง บวกกับแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่นที่มี listening bar ซึ่งเป็นบาร์ที่คนตั้งใจไปฟังเพลงมากกว่าไปเฮฮา เลยเป็นจุดเริ่มต้นของ Freaking Out The Neighborhood ซึ่งเปิดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
บรรยากาศร้านนั่งชิลล์ที่บ้านเพื่อน
ร้านนี้ตั้งขึ้นมาโดยมีหุ้นส่วนคือน้องชาย จิตติ พรหมสาขา ณ สกลนคร ปัจจุบันเป็น designer และ เจมส์ กิลบอดี้ DJ ผู้ก่อตั้ง Phatfunk Drum & Bass และ Creative Director ที่ Invisible Ink Creative Agency ซึ่งมีส่วนร่วมคิดคอนเซปต์และออกแบบร้านนี้ด้วย
กิเล่าถึงที่มาของชื่อร้านว่า “เป็นชื่อเพลงของ Mac Demarco ตอนที่เรานึกชื่อเราอยากได้ชื่อที่ติดหู และด้วยคอนเซปต์ของร้านก็ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น รวมถึงสถานที่โดยรอบของร้านส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้เก่าๆ เงียบสงบ Freaking Out The Neighborhood จึงตรงกับชื่อร้าน ที่อยู่ดีๆ ก็มีร้านตู้คอนเทนเนอร์สีขาวโผล่ขึ้นมา”
กิสร้างบรรยากาศของบาร์เป็นแบบที่เธอชอบมากที่สุด จึงออกมาเป็นร้านขนาดเล็ก เคล้าเสียงดนตรีและเสียงพูดคุยเหมือนอยู่ในบ้านเพื่อน
“ตัวเราเองไม่ชอบไปร้านใหญ่ๆ หรือนั่งในบาร์ที่คนเยอะหรือเสียงดัง บางทีเบื่อที่จะอยู่บ้าน ก็อยากออกไปข้างนอกที่ไม่วุ่นวายมาก เพลงไม่ดังและคนไม่เยอะเกินไป ถ้าถามว่าเราอยากจะขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นไหม ก็อาจจะไม่
เรารู้สึกดีนะที่ตัดสินใจเปิดร้าน Freaking Out The Neighborhood ขึ้นมา รู้สึกว่าเป็นร้านที่ผู้หญิงมานั่งฟังเพลงคนเดียวก็ปลอดภัย หรือผู้ชายมานั่งคนเดียวนานๆ ก็ไม่รู้สึกแปลก และเป็นความตั้งใจด้วยที่อยากให้เป็นบาร์เหมือนมาบ้านเพื่อน ไม่ต้องตั้งใจแต่งตัวก็มาได้ แวะมานั่งฟังเพลงคลายเครียดหลังเลิกงานก่อนกลับบ้านก็ได้” กิอธิบาย
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้อยากเปิดบาร์แบบนี้เพราะคนฟังเพลงในปัจจุบันมักฟังเพลงแบบเพลย์ลิสต์บน streaming แม้จะทำให้เข้าถึงเพลงมากขึ้น แต่บางครั้งก็อาจไม่รู้ว่าเพลงนี้เป็นของใครหรือพลาดสารบางอย่างจากศิลปินที่เรียบเรียงเพลงขึ้นมาในอัลบั้มนั้น
“พฤติกรรมคนฟังเปลี่ยนไป ปกติเราฟังแบบ streaming ที่อัลกอริทึมแนะนำมา ถ้าชอบก็จะกดเซฟไว้ แต่ไม่ได้ลงลึกว่าเพลงนี้ใครเป็นศิลปิน ระบบนี้จะแนะนำเพลงที่ใกล้เคียงจนเหมือนเราฟังวนอยู่แค่ไม่กี่แนว เลยเป็นอีกคอนเซปต์ของร้านที่อยากให้ลองฟังแต่ละอัลบั้มตั้งแต่ต้นจนจบ ลองฟังเพลงที่ปกติเราอาจจะไม่ได้ฟัง ลองมาทำความรู้จักอัลบั้มที่ไม่ได้อยู่ในอัลกอริทึม อีกมุมของร้านที่เป็น HAVE YOU HEARD? Records เราก็พยายามเลือกแผ่นเสียงที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก อยากให้ทุกคนได้มาเลือกดูเองกับมือ บางทีเราอาจจะเจอเพลงที่ชอบแค่เพราะปกสวยก็ได้ หรืออาจจะได้แผ่นแปลกๆ กลับไปฟัง” กิเล่า
เลือกเพลงตาม vibe ของแต่ละคืน
บาร์จะเลือกเปิดเพลง alternative หลากหลายแนว โดยเปิดยาวๆ ทั้งอัลบั้มตั้งแต่ต้นจนจบแบบที่ศิลปินตั้งใจเรียบเรียงไว้ หมุนเวียนรูปแบบแนวเพลงย่อยไปแต่ละคืน ไม่ว่าจะเป็น punk, psychedelic และจะเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้บางคืนยังสามารถนำแผ่นเสียงของตัวเองมาเปิดที่ร้านได้ด้วย มีพร้อมทั้ง sound system ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นเพลงหรือลำโพงที่ได้คุณภาพ
เครื่องดื่มในร้านส่วนใหญ่เป็น classic cocktail ดื่มง่าย ราคาไม่สูง สมกับคอนเซปต์ร้านนั่งชิลล์บ้านเพื่อน ถัดไปอีกมุมนึงของร้านเป็นพื้นที่ขายแผ่นเสียงของ HAVE YOU HEARD? Records สำหรับใครที่อยากแวะมาช็อปซื้อแผ่นเสียงกลับบ้าน และมี Freaking Out Music Merch Store ซึ่งมีสินค้าจากศิลปิน ค่ายเพลง และร้านแผ่นเสียงทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อยืด ซีดี และเทป
ไม่เพียงแต่เจ้าของร้านเท่านั้นที่คลุกคลีอยู่ในวงการเพลง บาร์เทนเดอร์ในร้านก็เป็นนักดนตรีด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกใจถ้าอยู่ๆ บาร์เทนเดอร์จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนเพลงหรือแนะนำเพลงที่น่าสนใจให้กับลูกค้าได้
กิเล่าว่า “เราเคยไปบาร์นึงที่นิวยอร์ก ที่นั่นค่อนข้างเป็น community ของคนที่ชอบดนตรีชัดเจน โดยนักดนตรีก็จะรับงานพาร์ตไทม์มาเป็นบาร์เทนเดอร์ด้วย เราเห็นว่าคนที่สนใจเรื่องเดียวกันทำให้บทสนทนาน่าสนใจดี ทุกคนแชร์เรื่องเพลงหรือความชอบ เราเลยอยากให้บาร์มีบรรยากาศแบบนั้นด้วย น้องบาร์เทนเดอร์เราเลยรู้จักเพลงในร้าน รู้ vibe ว่าควรเปิดแผ่นไหนต่อดี ทำให้มีความแตกต่างจากบาร์อื่น ในคืนที่เราไม่ได้กำหนดแนวเพลง คนในร้านก็บอกได้ว่าอยากฟังแผ่นไหน”
บาร์ที่ยังคงเสน่ห์แบบงานแสดงดนตรี
ปัจจุบันร้านมีอีเวนต์ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนเพื่อให้ลูกค้าได้ฟังเพลงหลากหลายแนวมากขึ้น และเพื่อตอบโจทย์ community สำหรับคนรักเพลงนอกกระแส จึงเปิดพื้นที่เป็น listening party หรืองานเปิดตัวอัลบั้มเล็กๆ ให้กับศิลปินด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีเวนต์สนุกๆ เช่น งาน Record Store Day วันแผ่นเสียง ชวนร้านแผ่นเสียงมาออกบูท 4-5 ร้าน และจะมีกิจกรรมเล็กๆ อื่นอีกในอนาคต แต่ด้วยสถานที่เสียงดังมากไม่ได้ การแสดงสดจึงต้องเป็นวงชุดเล็กแบบ acoustic เป็นหลัก
ร้านนี้เปิดเพื่อเป็น community สำหรับคนรักเสียงดนตรี จึงไม่จำกัดอายุ เปิดวันพุธ-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. นอกจากมานั่งดื่มชิลล์ๆ ในช่วงกลางคืนแล้ว กิยังบอกกับเราว่าหากใครอยากแวะมาดูแผ่นช่วงกลางวัน สามารถทัก inbox ที่เพจก่อน walk in เข้ามาที่ร้านได้เลย
หากใครอยากหลีกหนีเพลงเดิมจากอัลกอริทึมหรืออยากนั่งพูดคุยกันสบายๆ ร้าน Freaking Out The Neighborhood จึงเป็นอีกร้านที่เราไม่อยากให้พลาด ไม่แน่ว่าคุณอาจจะพบเพลงโปรดใหม่ๆ ที่แนะนำโดยคนแปลกหน้าก็ได้
Freaking Out The Neighborhood
website: https://bit.ly/39VP6ZD
Facebook: https://bit.ly/38QXSbl
Instagram: https://bit.ly/38JYKi5
Location: 49 ซอยนภาศัพท์ แยก 1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร https://goo.gl/maps/mHqW9GDHVzfj4K9r8
ภาพ > กุลชนาฎ เสือม่วง
