ย้อนกลับไปวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา จำได้ว่าเราตกใจเมื่อได้เห็น Bangkok Screening Room (BKKSR) ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า สถานที่แห่งนี้จะปิดตัวลงในวันที่ 31 มีนาคม 2021
BKKSR คือโรงหนังทางเลือกที่เรารัก ในโมงยามที่สถานการณ์ยังเป็นปกติ เรามักไปฝังตัวดูหนังที่นี่อยู่บ่อยๆ แน่นอนว่าข่าวคราวการปิดตัวทำให้เราเราอดรู้สึกเสียดายโรงภาพยนตร์แห่งนี้ไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจอย่างที่สุดต่อการตัดสินใจเช่นนี้ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจของประเทศและสถานการณ์โรคระบาดยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ด้วยแล้ว การตัดสินใจจะยุติกิจการดูจะเป็นคำตอบที่ปลอดภัยที่สุด
กระทั่งหนึ่งเดือนให้หลัง ในวันที่ 4 มีนาคม 2021 เพจเฟซบุ๊กของ BKKSR ก็ได้โพสต์ข่าวสำคัญ แต่ครั้งนี้เป็นข่าวดีที่เราเองก็ไม่นึกฝัน นั่นเพราะ Documentary Club หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า Doc Club ได้กระโดดเข้ามารับไม้ต่อจาก BKKSR คืนชีวิตให้กับโรงหนังทางเลือกแห่งนี้อีกครั้ง พร้อมทั้งมอบชื่อใหม่ให้มันว่า Doc Club & Pub.
แม้ว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด – 19 นับหมื่นๆ จะส่งผลให้สถานที่ต่างๆ รวมถึง Doc Club & Pub. เองซึ่งตั้งใจจะเปิดตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายนจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการเปิดออกไป กระทั่งเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อรัฐประกาศคลายการล็อกดาวน์ Doc Club & Pub. ก็ได้ฤกษ์ประกาศ soft opening ไปเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา
แน่นอนว่า ส่วนที่เป็นโรงภาพยนตร์ยังคงให้บริการไม่ได้ แต่หากใครที่อยากจะมาแฮงก์เอาต์เล่นๆ พลางสั่งขนม จิบกาแฟ ไปพร้อมๆ กับการชมภาพยนตร์และสารคดีเรื่องต่างๆ อย่าง Ai Weiwei Yours Truly, Collective และ The Kingmaker บนจอทีวีขนาดใหญ่ในโซนคาเฟ่ก็ทำได้ไม่มีปัญหา
ในวันที่ Doc Club & Pub. กำลังรอคอยวันเวลาที่จะได้เปิดตัวโรงภาพยนตร์แห่งนี้อีกครั้ง เราถือโอกาสนัดคุยกับ ‘สุภาพ หริมเทพาธิป’ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Doc Club & Pub. แห่งนี้ เพื่อสนทนากันถึงเรื่องราวกว่าที่จะมาเป็นโรงภาพยนตร์แห่งนี้ ไปจนถึงตำแหน่งแห่งที่ของโรงหนังทางเลือกในสังคมไทย
บทเรียนจาก Doc Club Theater
Doc Club & Pub. ไม่ใช่โรงภาพยนตร์ทางเลือกแห่งแรกของ Doc Club เพราะก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยเปิดโรงหนังเล็กๆ ชื่อ Doc Club Theater ในโครงการ warehouse 30 ทว่าก็ได้ปิดตัวลงไปในช่วงปลายปี 2019
“สำหรับเรา Doc Club Theater เป็นเหมือนโครงการทดลองที่ค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ว่า อะไรคือสิ่งที่คนดูต้องการ และอะไรคือปัจจัยในการตัดสินใจของคนดูที่จะมาดูหนังในพื้นที่ของเรา ถ้าเราจะทำพื้นที่ฉายหนังทางเลือกให้คนดูมันควรจะมีองค์ประกอบอะไรบ้าง”
ในมุมมองของสุภาพ แม้ว่า Doc Club Theater จะพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาสามารถสร้างชุมชนคนดูหนังเล็กๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งเห็นได้จากการที่มีผู้คนเดินทางมาดูหนังในโรงภาพยนตร์แห่งนี้อยู่เรื่อยๆ รวมถึงความกระตือรือร้นของผู้คนที่อยากจะมาเข้าร่วมงานเสวนาต่างๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ Doc Club จัดฉาย แต่ถึงอย่างนั้น การจะหล่อเลี้ยงโรงหนังแห่งหนึ่งด้วยรายได้จากตั๋วภาพยนตร์เพียงอย่างเดียวก็เป็นอะไรที่ยากอยู่ดี
“สิ่งที่เราพบคือ ชุมชนคนดูหนังที่เราสร้างขึ้นมานั้นไม่สามารถหล่อเลี้ยงให้ Doc Club Theater ขยายตัวขึ้นได้ เพราะรายได้จากการฉายหนังอย่างเดียวมันถือว่าน้อยมากนะสำหรับการจะดำเนินกิจการให้ราบรื่น
“จากจุดนั้นเราจึงพยายามมองว่า อะไรคือสิ่งที่ยังขาด ถ้ามองโรงภาพยนตร์กระแสหลักเราจะเห็นว่าเขายังมีรายได้จากทางอื่น เช่น ป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้มากกว่าตั๋วหนังด้วยซ้ำ เราจึงเริ่มประเมินจากจุดนี้ว่า ถ้า Doc Club Theater มีรายได้เพิ่มจากการอะไรต่างๆ เหล่านี้ก็คงจะดี เพียงแต่ด้วยข้อจำกัดทางพื้นที่ในตอนนั้น เราก็ยังไม่สามารถขายอาหารได้” สุภาพอธิบาย
อีกหนึ่งข้อจำกัดที่ส่งผลให้ Doc Club Theater ไม่อาจขยับขยายขนาดของผู้ชมให้มากไปกว่านี้คือการเดินทาง เพราะก็ต้องยอมรับว่า ในย่านเจริญกรุงที่โครงการ warehouse 30 ตั้งอยู่นั้นก็ใช่ว่าจะสัญจรไปง่ายสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้ เมื่อ Doc Club Theater ปิดตัวลงไป สุภาพจึงเริ่มมองหาสถานที่ใหม่ที่จะสานต่อแนวคิดของเขาได้ บวกกับโจทย์ที่ว่า สถานที่ตั้งของโรงหนังแห่งใหม่จะต้องเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
“เราไม่อยากได้ทำเลที่เข้าถึงยาก ซึ่งบังเอิญว่าตอนนั้นทาง BKKSR เขาติดต่อมาพอดีเพราะกำลังจะเลิกกิจการ ด้วยความที่พื้นที่แห่งนี้เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีกลุ่มคนดูอยู่แล้ว อยู่ในพื้นที่ที่เดินทางได้สะดวก แถมยังมีเครื่องไม้เครื่องมือบางส่วนที่สามารถใช้ต่อจากของเดิมได้ เราเลยมองว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีเพราะเราไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์ เราก็เลยเลือกที่นี่”
โรงหนังที่เป็นดั่งพื้นที่สาธารณะ
สาเหตุที่โรงหนังแห่งนี้ชื่อ Doc Club & Pub. ไม่ได้ซับซ้อน สุภาพเพียงอยากให้ชื่อของสถานที่ดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย
“เราสังเกตว่าเวลาที่เราใช้ศัพท์ทางภาพยนตร์มาเป็นการตั้งชื่อ มันจะกันคนทั่วไปออกในทันที เราเลยอยากได้ชื่อที่ฟังแล้วดูต้อนรับผู้คนหน่อย บังเอิญว่าดีไซเนอร์ที่มาออกแบบพื้นที่เขาเสนอขึ้นมาว่า ‘ก็ใช้ Doc Club & Pub. สิ’ เราก็ เฮ้ย! ฟังดูดี มันช่วยให้สถานที่รู้สึกเป็นกันเองขึ้นมาทันทีเลย” สุภาพเล่า
ด้วยความที่เป็นโรงภาพยนตร์อยู่ก่อน ในส่วนโครงสร้างของโรงภาพยนตร์จึงไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไรมากนัก ยกเว้นการอัพเกรดเครื่องฉายใหม่ให้มีคุณภาพขึ้น และการเปลี่ยนโปรเจกเตอร์ในห้องฉายภาพยนตร์ให้เป็น 4K
ทว่าส่วนที่มีการยกระดับพื้นที่ใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์กับแนวคิดของสุภาพมากขึ้นคือโซนคาเฟ่ เพราะนอกจากจะมีขนม กาแฟ และคราฟต์เบียร์พร้อมบริการแล้ว เขายังได้ขยับขยายพื้นที่ส่วนนี้ให้สามารถรองรับผู้คนได้มากขึ้น
“เราอยากให้ที่นี่ไม่ใช่โรงภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นพื้นที่กิจกรรมด้วย ในโซนคาเฟ่ของเราก็เลยจะมีจอ LED ขนาดใหญ่ไว้ฉายหนังเหมือนกัน เพราะบางครั้งมันก็มีหนังที่คุณอาจเคยดูไปแล้ว แต่ยังชอบอยู่และอยากไปดูในบรรยากาศที่สามารถเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นๆ ไปพร้อมกันได้ด้วย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ก็จะสร้างประสบการณ์ดูหนังที่ต่างออกไปจากการไปนั่งดูเงียบๆ ในโรงภาพยนตร์”
ขณะเดียวกัน สุภาพก็มองว่า พื้นที่กิจกรรมตรงนี้ก็ไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดอยู่แค่กิจกรรมที่สัมพันธ์กับภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว แต่พร้อมจะต้อนรับกิจกรรมรูปแบบอื่นๆ อย่างเต็มที่อีกด้วย
“เราอยากให้พื้นที่แห่งนี้มีหลายๆ คนมาร่วมงานด้วยนะ อย่างสำนักพิมพ์เล็กๆ ที่อยากเปิดตัวหนังสือ ก็ไม่จำเป็นต้องรอว่าเมื่อไหร่จะถึงงานสัปดาห์หนังสือ เขาอาจมาใช้พื้นที่ตรงนี้ของเราได้ ยิ่งถ้าเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับหนังเราก็อาจช่วยหาหนังที่เกี่ยวข้องมาฉายควบคู่กันไป และสำหรับใครไม่อยากมาดูหนัง แต่อยากมานั่งอ่านหนังสือเฉยๆ เราก็มีชั้นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ให้สามารถหยิบอ่าน เพราะเราไม่ได้อยากจะจำกัดนิยามของ Doc Club & Pub. ว่า คุณต้องมาที่นี่เพื่อดูหนังเท่านั้น
“ถ้าสังเกตดูที่ชื่อของ Doc Club & Pub. จะเห็น full stop ที่คำว่า Pub ซึ่งจริงๆ แล้วนัยยะของมันก็คือ Public Space หรือพื้นที่สาธารณะนั่นแหละ” สุภาพเล่าพร้อมร้อยยิ้ม
ภาพยนตร์ในฐานะประตูบานหนึ่ง
นับตั้งแต่ช่วงปี 40 เป็นต้นมา โรงหนังแบบมัลติเพล็กซ์ได้เข้ามาครอบงำวิธีการดูหนังให้เหลือเพียงรูปแบบเดียว นั่นคือการดูหนังเพื่อความบันเทิง
“การดูหนังในปัจจุบันคือพอดูเสร็จ คุณก็จะถูกเร่งให้ออกไปจากโรง เพียงเพื่อจะไปปะทะกับพื้นที่ของห้างสรรพสินค้า ซึ่งอะไรเหล่านั้นก็จะดึงดูดคุณออกไปจากหนังที่เพิ่งดูมา แต่กับหนังบางเรื่องน่ะมันประทับใจเรา ทำให้เราอยากคุยต่อ เราเลยอยากจะให้มีพื้นที่ที่พอดูหนังจบมันยังมีพื้นที่ให้นั่งคุยกันต่อได้หลังจากที่หนังจบ”
สำหรับสุภาพ ภาพยนตร์เป็นเสมือนประตูที่พร้อมจะเปิดให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่รู้จบ
“เราก็หวังว่า Doc Club & Pub. จะช่วยให้คนที่มาดูหนังรู้สึกเหมือนกันเรา ว่าภาพยนตร์เป็นเหมือนประตูที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ไปพบเจอผู้คนใหม่ๆ ที่จะได้ถกเถียงและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ให้ภาพยนตร์เป็นมากกว่าความบันเทิงสองชั่วโมงที่พอดูจบแล้วก็ลืมมันไป”
สุภาพยังยืนยันว่า สัดส่วนของผู้คนในปัจจุบันที่โหยหาหนังดูยากและหนังสารคดีนั้นเพิ่มขึ้นจากหลายปีก่อนอย่างเห็นชัด
“โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ House Samyan ที่แสดงให้เห็นว่า ถ้าปัจจัยของโรงหนังทางเลือกเอื้อต่อคนดูกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นโลเคชั่นของโรงหนัง ราคาที่เป็นมิตร หรือภาพยนตร์ที่พิเศษไปจากโรงหนังอื่นๆ เขาก็พร้อมจะมาดู โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ดูจะโหยหาพื้นที่ลักษณะนี้เป็นพิเศษ เผลอๆ จะชื่นชอบโรงหนังทางเลือกมากกว่าโรงหนังกระแสหลักด้วยซ้ำ
“การมีโรงหนังทางเลือกเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องดีนะ เพราะนอกจากคอมมิวนิตี้การดูหนังจะหลากหลายขึ้นแล้ว มันยังช่วยให้คนดูมีตัวเลือกมากขึ้นด้วย ถามว่า เรามองว่าโรงหนังทางเลือกเหล่านี้เป็นคู่แข่งมั้ย ด้วยจำนวนโรงหนังทางเลือกที่ยังมีอยู่น้อยมากๆ ในตอนนี้ เราไม่สามารถมองว่าเป็นคู่แข่งได้หรอก ต้องเป็นพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือกันมากกว่า”
แม้ว่าในตอนนี้เราจะยังไม่รู้ว่า รัฐบาลจะปลดล็อคโรงหนังเมื่อไหร่ แต่เราก็เชื่อว่าถ้าวันนั้นมาถึง โรงหนังแห่งนี้จะต้องเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่บรรดาคอหนังจะตบเท้าพากันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาเหล่านั้นกำลังมองหาพื้นที่ในการสร้างบทสนทนาดีๆ หลังจากที่ดูหนังจบด้วยแล้ว
“นอกจาก Doc Club & Pub. จะเป็นโรงหนังทางเลือกให้กับคนดูแล้ว เป้าหมายของเราคือการพยายามจะแสดงให้เห็นว่า มันยังมีวิธีการดูหนังแบบอื่นอยู่อีกนะ ปลายทางของการดูภาพยนตร์ไม่จำเป็นต้องสิ้นสุดแค่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียว”
Doc Club & Pub.
address : ชั้น 2 อาคาร Woof Pack ซอยศาลาแดง 1 ใกล้ BTS ศาลาแดง และ MRT สีลม
hours : กำลังอยู่ในช่วง soft opening ระหว่าง 5-14 กันยายน โดยเปิดให้บริการวันละ 3 รอบ ได้แก่ 12:00 น. / 14:30 น. / 17:30 น. จำกัดรอบละ 12 ท่าน โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ทางเพจเฟซบุ๊ค Doc Club & Pub.