Arctribe แพลตฟอร์มวิชวลอาร์ตตาแตกแห่งภาคพื้นเอเชีย โดยคนทำงานวิชวลเพื่อคนชอบงานวิชวล

Highlights

  • Arctribe คือเว็บไซต์และอินสตาแกรมที่ตั้งใจเป็นแหล่งรวบรวมงานวิชวลที่น่าสนใจจากฝั่งเอเชีย เนื้อหามีทั้งงานของศิลปินสุดเจ๋ง โคตรแรร์ ที่หาเจอจากอินสตาแกรม โปรเจกต์ชักชวนศิลปินที่รู้จักให้มาฟีเจอร์กัน และยังเปิดโอกาสให้ใครก็ตามส่งผลงานเข้ามาให้ทีมพิจารณา
  • งานใน Arctribe ไม่ใช่วิชวลที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลังจากทำมาสักพัก ทีมก็พบว่ามีคนกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ที่สนุกกับวิชวลหรือความเพี้ยนแบบนี้
  • Arctribe เชื่อในการคัดสรรของมนุษย์ที่มักเฟ้นหาพื้นที่ต่างๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบ รวมถึงการก้าวกระโดดของสไตล์และรูปแบบที่นำเสนอคละกันไป เราอาจพบความเป็นไปได้มากมายของงานวิชวลได้ที่นี่

ใครมันจะไปใช้เทปคาสเซตเป็นยานพาหนะ ใครมันจะถ่ายรูปดอกไม้เพื่อจะเอารูปนั้นไปฝังดิน แล้วก็ใครมันจะไปเอารูปปั้นมังกรตั้งไว้ตรงหว่างขาแล้วแหวกกางเกงในออกมาเห็นแนวขนรำไร

‘ใคร’ ที่ว่าล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินนักสร้างสรรค์งานวิชวลที่ชาว Arctribe ดูแล้วรู้สึก ‘ตาแตก’ จึงได้รวบรวมงานเหล่านี้และอีกมากมายเอาไว้ให้ผู้คนเข้าไปเสพ ซึ่งเราขอยืนยันว่าแค่บรรยายเป็นตัวอักษรมันไม่ได้อารมณ์ขนาดนั้น คุณอาจจะต้องไปลองเปิดดูผลงานของเหล่าศิลปินเหล่านี้ ว่าแล้วก็ขอผายมือไปยัง arctribemag.com และอินสตาแกรม arc.tribe ที่เหล่าทีมงานภูมิใจนำเสนอ

Photo Courtesy of Glamour Shots studio

Photo Courtesy of Lao Xie Xie

Arctribe เป็นการรวมตัวของศิลปิน-ช่างภาพฝีมือจัดจ้านอย่าง หมิง–กันต์ระพี โชคไพบูลย์ และ ปูนปั้น–กมลลักษณ์ สุขชัย ซึ่งต่างก็เสาะหาวิชวลที่ถูกใจเก็บไว้ดูกันอยู่แล้ว ก่อนทั้งคู่จะชวน รวงข้าว–ภรินทร์ลดา อาภาภิรม เข้ามาช่วยทำเนื้อหาประกอบงานแต่ละชิ้น และมี ผ้าป่าน–สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ มาเสริมทัพ วางกลยุทธ์และพาให้ Arctribe ดำเนินต่อไปอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น 

จากที่ตอนแรกหมิงและปูนปั้นโฟกัสไปที่การพางานภาพถ่ายไปอยู่บนสิ่งของอื่นๆ นอกแกลเลอรี เช่น สกรีนลงบนเสื้อยืด พิมพ์เป็น zine หรือแปลงเป็นสินค้าต่างๆ จนเมื่อโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างสะดุด พวกเขาจึงกลับมาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์และไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่คำว่า ‘ภาพถ่าย’ แต่จะมองไปยังงาน ‘ภาพ’ หรือวิชวลที่ใช้วิธีการหรือรูปแบบไหนๆ ก็ได้ทั้งนั้น

Arctribe

ณ ตอนนี้พวกเขาตั้งใจว่า Arctribe จะเป็นแหล่งรวบรวมงานวิชวลที่น่าสนใจจากฝั่งเอเชียพร้อมทั้งลิงก์ไปสู่แหล่งเผยแพร่งานของศิลปินคนนั้นๆ โดยตรง ซึ่งงานที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มของพวกเขามีทั้งงานที่ไปเสาะหาด้วยสกิลนักสืบจนเจองานสุดแรร์บนอินสตาแกรม หรือชักชวนศิลปินที่รู้จักให้มาแสดงงานบนแพลตฟอร์มนี้กัน ทั้งยังเปิดโอกาสให้ใครก็ตามส่งผลงานเข้ามาให้ทีมพิจารณา มากไปกว่านี้ในอนาคตพวกเขายังวางแผนจะขยายไปยังศิลปินฝั่งตะวันตกรวมถึงขยับไปสู่พื้นที่ออฟไลน์ด้วย

ท่ามกลางวัฒนธรรมทางสายตาที่เฟื่องฟูในโลกอินเทอร์เน็ต อัลกอรึทึมอาจเลือกสิ่งที่คิดว่าคุณสนใจมาให้ แต่ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มนี้ยังเชื่อในพลังการเลือกสรรของมนุษย์ที่มักเฟ้นหาพื้นที่ต่างๆ ที่อาจยังไม่ถูกค้นพบ ท่ามกลางการก้าวกระโดดของสไตล์และรูปแบบงานศิลปะ เราจึงอาจพบความเป็นไปได้มากมายของงานวิชวลได้ที่นี่

และต่อจากนี้คือความเป็นไปได้ในสายตาของชาว Arctribe ทั้งสี่

Arctribe

 

 

วิชวลแบบไหนที่ Arctribe จะเลือกมานำเสนอ

หมิง : หลากหลายมากนะ  เราไม่ได้เลือกมาแค่วิชวลจี๊ดตาแตกแต่ยังมีงานขาว-ดำ โทนพาสเทล ภาพพอร์เทรต และอื่นๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของคนในทีมด้วย อย่างผมชอบดูงานสี ก็เน้นสีเป็นหลักและความเวียร์ดของรูป 

ปูนปั้น : ส่วนสิ่งที่ปั้นเลือกส่วนใหญ่จะดูสิ่งที่ศิลปินทำว่าต่อยอดจากภาพของตัวเองจนเกิดเป็นสิ่งใหม่ยังไง เราอยากให้คนตื่นเต้นกับการมอง 

รวงข้าว : พอเราเจองานที่เราอยากพับลิชเราก็จะติดต่อเขาไปว่าเราสนใจรูปนี้นะแล้วส่งคำถามไปให้เขาตอบกลับมาเกี่ยวกับกระบวนการทำงานเพราะเราอยากให้คนได้ดูภาพแล้วก็ได้เข้าใจวิธีคิดของเขาด้วย ถึงอย่างนั้น เราก็พยายามเรียบเรียงให้สั้นกระชับและได้ใจความที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนการดูภาพของคน รวมถึงมีบทวิจารณ์สั้นๆ ของเราในฐานะคนที่ดูงานประกอบลงไป

Photo Courtesy of Adi Putra

ผ้าป่าน : เราสนใจวิชวลที่จะไม่ได้เห็นในชีวิตประจำวัน สนใจที่ได้เห็นว่าเจ้าของภาพตั้งคำถามกับอะไรยังไงบ้าง หรือสนใจสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าแกเห็นสิ่งนี้ได้ยังไงวะ แกเอาสิ่งนี้มาแปะกับของแบบนี้ได้ยังไงวะ หรือทำไมแกถึงมองโลกแบบนี้วะ 

เอาจริงๆ การเอาของที่ตรงข้ามกันมาอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่คอนเซปต์ที่ใหม่หรอก แต่การได้เห็นวิชวลแบบนี้ก็ยังทำให้เราตื่นเต้นกันอยู่และก็พบว่ามีคนกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ที่สนุกกับวิชวลแบบนี้ ความเพี้ยนแบบนี้ มันสนุกที่ได้เห็นว่าคนเรามีภาพอะไรในหัวกันบ้างนะ

เราเคยคุยกันว่าวงการถ่ายภาพก็เหมือนทุกวงการที่ถูกดิสรัปต์ด้วยเทคโนโลยี ตอนนี้ทุกคนมีกล้องอยู่ในโทรศัพท์มือถือ สามารถอัพโหลดภาพขึ้นไปโชว์ในโลกออนไลน์ได้ทุกวัน มีรูปเก็บอยู่บนคลาวด์อีกมากมายไม่รู้กี่แสนกี่ล้านรูป นอกจากนี้ ในยุคนี้ยังมีการดิสรัปต์ความคิด วิธีการทำงานวิชวล คือคุณไม่ต้องถ่ายรูปอย่างเดียวก็ได้ คุณอาจจะทำภาพสามมิติขึ้นมาใส่ในรูป ใช้เทคนิคคอลลาจ หรืออะไรก็ตาม ซึ่ง Arctribe ก็กำลังเฝ้ามองสิ่งนี้และพยายามเสนอรูปแบบงานที่ล่าสุดไปเรื่อยๆ

Photo Courtesy of Supakorn Tanongka

Photo Courtesy of Supakorn Tanongka

มีคำกล่าวที่ว่านี่คือยุคที่ไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว คำว่าใหม่ในรูปแบบของพวกคุณคืออะไร

รวงข้าว : ก็เป็นอย่างคำพูดที่ว่า nothing new under the sun ถ้าจะให้พูดจริงๆ มันไม่มีอะไรใหม่มานานแล้ว ดังนั้นเราย่อมเจองานที่ดูเหมือนๆ กันหรืองานที่มีเรฟเฟอเรนซ์ แต่เราเชื่อในการหยิบของเก่ามาสังเคราะห์ มาผสมผสานใหม่ 

ความใหม่มันอยู่ที่กระบวนการคิดมากกว่า อย่างเช่น เรานำเสนองานของคุณ Kurumi Ono ซึ่งเป็นช่างภาพที่ทำเรื่องเวลา คอนเซปต์เรื่องเวลาก็มีคนพูดมานานแล้วแต่เรายังไม่เคยเห็นวิธีการในแบบของเขามาก่อน ดังนั้นความใหม่มันคือการหาวิธีใหม่ๆ ในการเล่าเรื่องเดิมๆ

หมิง : แล้วมันจะเกิดเสียงของเราเอง 

ปูนปั้น : หรืออย่างงานของเรา จุดตั้งต้นก็มาจากเรื่องเล่าจักรๆ วงศ์ๆ ที่เป็นของเก่าแก่มาก แต่เราสนใจการนำมาผสมกับองค์ประกอบในยุคปัจจุบัน

Arctribe

Arctribe

ผ้าป่าน : เรารู้สึกว่างานบางชิ้นอาจมีแนวคิดเหมือนของที่มีอยู่ก่อนหน้า แต่การนำเสนอผ่านมุมมองของเราในบริบทของเรา มันน่าจะทำให้งานมีองค์ประกอบต่างจากคนอื่นแน่ๆ เป็นองค์ประกอบเฉพาะตัวที่เกิดจากคนที่โตมาแบบเรา มีพ่อแม่แบบเรา เจอสิ่งแวดล้อมแบบเรา เคยผ่านเรื่องแบบเราเท่านั้น

ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคาดหวังว่าจะเจองานที่ใหม่กว่าที่เคยเห็น เราตื่นเต้นกับการที่มนุษย์ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีศักยภาพได้ขนาดไหน อย่างเรื่องการทำงานวิชวล เรารู้สึกว่าถ้าเราทำงานโดยใช้ตรรกะมันมีโอกาสที่จะซ้ำกับของที่มีอยู่แล้วเพราะตรรกะมันเป็นสิ่งที่เราสั่งสมมาผ่านบรรทัดฐานของสังคม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนทำงานที่ไม่ต้องเมคเซนส์ก็ได้ งานนั้นอาจจะเกิดจากจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนยังไม่ได้ลงไปสำรวจจนเข้าใจได้ถ่องแท้ ดังนั้นในอนาคตเราอาจจะได้เจองานที่ประหลาดกว่านี้อีก

Arctribe

Arctribe

ทำไมถึงเลือกนำเสนองานจากศิลปินฝั่งเอเชียก่อน

ผ้าป่าน: เราคิดว่ายังมีงานจากฝั่งเอเชียที่ยังไม่ถูกค้นพบอีกมาก เราให้คนรู้สึกว่าถ้าอยากควานหาวิชวลที่น่าสนใจในเอเชียสามารถมาหาที่นี่ได้ แล้วเรานำเสนอในมุมมองของเอเชียด้วยกัน อย่างปูนปั้นอินกับงานคนไทยจริงๆ ความใฝ่ฝันคือการทำคอสตูมให้ช้างสามเศียร หรืออย่างหมิง ถึงจะกลับมาจากนิวยอร์กก็ทำงานถ่ายภาพในไทยด้วยสายตาคนไทย ไม่ใช่สายตาแบบคนเมืองนอกมามองงานคนตะวันออก

 

นอกจากงานที่คัดสรรมา สิ่งที่เตะตาเราคือเว็บไซต์ของพวกคุณก็ยังฉูดฉาดมาก 

ปูนปั้น: เรามีแนวคิดว่าถ้าอยากดูงานศิลปินที่เราคิวเรตเฉยๆ ก็ไปดูในอินสตาแกรม แต่ถ้าอยากดูงานออกแบบและอาร์ตไดเรกชั่นของพวกเราก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ได้ค่ะ ปั้นใส่อะไรลงไปเยอะมาก เป็นคนน้อยไม่เป็น ก็ได้พี่หมิงที่มาชวนลดทอนมันลง ดังนั้นงานออกแบบในเว็บไซต์มันเป็นงานออกแบบที่พวกเราทำร่วมกันเพื่อจะนำเสนอภาพต่างๆ ก็ลองไปบริหารสายตากันนิดหนึ่ง

Arctribe

มีงานที่ประทับใจเป็นพิเศษไหม

หมิง : พวกเราชอบทุกงานเลย ขอหยิบมาบางชิ้นแล้วกันนะ เช่นงานของ กาย ศุภกร น้องติดต่อเรามาเอง เราเห็นงานแล้วก็ชอบมาก มันให้ความรู้สึกว่ามีงานแบบนี้ด้วยเหรอในเมืองไทย หรือคุณ Jingran Zhang  ที่เราชอบงานเขามากๆ พอติดต่อให้เขามาลงงานด้วยกันก็เลยได้คุยกันจนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว

Photo Courtesy of Jingran Zhang

Photo Courtesy of Jingran Zhang

ปูนปั้น : อีกคนที่เราชอบคือคุณ Lao Xie Xie ที่ใช้ชื่องานว่า China555 ตัวเลข 555 ในภาษาไทยหมายถึงเสียงหัวเราะแต่ในภาษาจีนออกเสียงว่าหวู่หวู่หวู่ ซึ่งคือเสียงร้องไห้ เขาจะอยากถ่ายทอดเรื่องวัฒนธรรมผ่านงานเพราะตัวเขาไม่ได้ฟิตอินกับสังคมจีน

Photo Courtesy of Lao Xie Xie

Photo Courtesy of Lao Xie Xie

รวงข้าว : แล้วก็จะมีงานของคุรุมิ โอโนะ เขาถ่ายภาพดอกไม้แล้วก็เอาไปฝังดินให้ภาพนั้นย่อยสลายแล้วก็ถ่ายมันอีกที ซึ่งเรามองว่ามันเกิดจากการที่เขาตั้งคำถามที่มากกว่าชีวิต วิชวลของเขามันเลยมากไปกว่าชีวิต

Photo Courtesy of Kurumi Ono

Photo Courtesy of Kurumi Ono

คุณมีภาพไหมว่า Arctribe ในตอนที่เบ่งบานที่สุดจะเป็นยังไง

หมิง : เราอยากขยับขยายไปพับลิชงานของศิลปินฝั่งตะวันตกมากขึ้นเพราะตอนนี้มีฝรั่งที่เขาส่งงานเข้ามาให้เราพิจารณา ซึ่งมันน่าสนใจจริงๆ นอกเหนือจากนี้เราก็อยากทำอีเวนต์เป็นนิทรรศการกลุ่ม มีดนตรี มีดีเจ เราจะชอบซีนแบบอันเดอร์กราวนด์หน่อยๆ

เราพยายามชวนให้คนทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วมนะ เช่น เราจะมีแฮชแท็ก #Arctribesummer2020 ที่ให้คนมาแชร์ภาพฤดูร้อนของตัวเองเพราะฤดูร้อนปีนี้เป็นฤดูร้อนในแบบที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน จะเป็นภาพอะไรก็ได้ขอให้มีวิชวลที่น่าสนใจ ซึ่งถ้าอยากดูว่าฤดูร้อนของพวกเราเป็นยังไงก็ดูในวิดีโอที่พวกเราทำกันได้

ปูนปั้น : เราอยากต่อยอดแพลตฟอร์มออนไลน์ของเราเป็นแมกกาซีน เพราะจุดตั้งต้นที่ทำให้เรากับพี่หมิงเริ่มทำโปรเจกต์นี้คือเราอยากทำซีนในงานอาร์ตบุ๊กแฟร์ อยากให้มันออกมาเป็นเล่มจริงๆ 

ผ้าป่าน : ตอนนี้เราพยายามจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับงานประกวดในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มันทำให้เรารู้อินไซต์ว่าตอนนี้เขามีมูฟเมนต์อะไร เขาส่งงานแบบไหนเข้าประกวดกันแล้วนำมาเชื่อมโยงกับ Arctribe เช่น เราได้เข้าไปดูโปรแกรม ONAEBA ที่ญี่ปุ่นและได้เจองานของคุณแม่ญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ถ่ายรูปลูกมาอัดเป็นภาพขาว-ดำ เราก็ชวนเขามาพับลิชงานกับเรา หรือบางงานที่เรามีโอกาสได้ไปเป็นกรรมการเราก็จะชวนงานที่ชนะมาพับลิชกับเราด้วย 

รวงข้าว : เราอยากขยับขยายแพลตฟอร์มของเราสู่ภาพเคลื่อนไหวหรืองานโปรดักชั่นที่เน้นวิชวล มันอาจไม่ต้องเป็นเรื่องเล่าอีกต่อไป อาจจะเป็นแค่ภาพ แสง สี ตอนนี้เราดูวิดีโอแล้วเหมือนโดนเขาเขวี้ยงของใส่หน้าว่ามันเป็นแบบนี้ๆๆ นะ แต่เราอยากนำเสนองานที่คนดูสามารถมีส่วนร่วมได้ มาเจอกันครึ่งทาง เราบอกคุณแค่นี้นะแล้วอีกครึ่งหนึ่งคุณรู้สึกหรือคิดกับมันยังไงล่ะ

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์

ชีวิตต้องมีสีสัน