อย่าจอดรถขวางประตู กรุณาอ่านก่อนสั่ง เมื่อ ‘ดวงตาเห็นคำ’ มีอะไรในบรรดาป้ายริมทาง

อย่าจอดรถขวางประตู กรุณาอ่านก่อนสั่ง เมื่อ ‘ดวงตาเห็นคำ’ มีอะไรในบรรดาป้ายริมทาง

Highlights

  • หากลองสำรวจป้ายริมทางดูดีๆ คุณจะพบว่าแพตเทิร์นของคำในป้ายเหล่านี้มีความซ้ำกัน คำถามก็คือ นอกจากประโยคสั้นๆ ที่สั่นสะเทือนความรู้สึก ยังมีอะไรอีกไหมที่แฝงอยู่ระหว่างตัวอักษรเหล่านี้

ที่หมาฉี่
อย่าจอดรถขวางประตู มีรถเข้าออกตลอดวัน
ห้ามทิ้งขยะบริเวณนี้ (ภาษาไทย)

ถ้อยคำที่เรียงตัวกันเป็นประโยคเหล่านี้ เป็นคำคุ้นตาที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็พบเจอได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินเข้าไปในย่านชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่นก็จะยิ่งเห็นคำทำนองนี้แปะติดอยู่เต็มไปหมด ตอนแรกก็รู้สึกสนุกดี เหมือนได้เห็นการระเบิดอารมณ์ ที่เคยเก็บไว้อยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำก็กลั่นกรองออกมาเป็นประโยคสั้นๆ ที่สั่นสะเทือนความรู้สึกให้เกิดความเจ็บแสบหรือขำก๊ากจนต้องยกกล้องขึ้นมาบันทึกเก็บไว้ เวลาผ่านไป จำนวนภาพในกล้องก็มากขึ้นเรื่อยๆ

เราเริ่มมองหาป้ายเหล่านี้เพื่อสังเกตอย่างจริงจัง แล้วก็ได้พบว่าแพตเทิร์นของคำเหล่านี้ซ้ำกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรามองเห็นอะไรบางอย่างที่แฝงอยู่ระหว่างตัวอักษรเหล่านี้ จนอดรนทนไม่ไหวต้องมาชวนให้คุณมามีดวงตาเห็นคำเหล่านี้ไปด้วยกัน


หวงห้าม

ความเป็นเมืองใหญ่อันมีพื้นที่จำกัด ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัวไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะปัญหาการจอดรถริมถนนหน้าบ้านตึกแถว จนคนในบ้านเข้า-ออกไม่ได้ ทำให้แต่ละบ้านมีกลยุทธ์ในการแสดงความหวงแหนหวงห้ามกันแบบสุดเหวี่ยง ตั้งแต่ประนีประนอมยอมให้จอดได้แต่ถ้ารถของฉันมาเมื่อไหร่เธอต้องถอยให้ด้วยนะ ไล่ระดับความเดือดไปจนถึงขั้นใช้ศัพท์ที่อ่านแล้วก็รู้ว่าคนเขียนกำลังชี้หน้าด่ากราดอย่างโกรธเกรี้ยว หรือไม่ก็บอกอย่างตรงไปตรงมาไม่มีการอ้างกฎหมายห้ามจอดใดๆ แต่ที่ไม่ให้จอดตรงนี้ เพราะฉันจะจอดเองย่ะ!


ส่งเสริมการขาย

ร้านค้าริมทางเป็นอีกหนึ่งจุดที่เรามักจะได้พบเห็นป้ายชวนอมยิ้มจากพ่อค้าแม่ค้าอยู่เรื่อยๆ เพื่อการเคลื่อนที่ การจัดเก็บที่คล่องตัว ป้ายจึงต้องทำขึ้นอย่างง่ายๆ เขียนกันแบบฉับพลันเดี๋ยวนั้นเลย เพื่อบอกราคา บอกชนิดสินค้า ฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือสรรพคุณที่พลาดไม่ได้ วัสดุส่วนใหญ่มักเป็นของหาง่ายอย่างกระดาษลังเขียนด้วยปากกาเคมี ถ้าเป็นตลาดสดก็มักจะเปลี่ยนมาใช้ถาดโฟมแทน ความสนุกของป้ายแบบนี้คือการจัดการพื้นที่เล็กจิ๋วให้บรรจุข้อมูลลงไปได้ครบถ้วนแถมยังต้องช่วยส่งเสริมการขายได้ด้วยลีลาการใช้ถ้อยคำอันเป็นเลิศ ขอคารวะให้เป็นมาสเตอร์ออฟถ้อยคำอย่างแท้จริง


พบกันใหม่

“อีกครั้งแล้วสินะ ที่ฉันต้องโยกย้าย”

ร้านค้าในเมืองใหญ่มีความผันแปร ไม่แน่นอนสูงในเรื่องของกรรมสิทธิ์ที่ดิน เราจึงมักได้เห็นป้ายเจ้าเก่าบางลำภูแต่ร้านอยู่ปิ่นเกล้า หรือเจ้าเก่าคลองถมแต่ร้านอยู่คลองหก ป้ายแจ้งให้ลูกค้าได้รับรู้ว่าการโยกย้ายได้เวียนมาถึงแล้ว จึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนอันสำคัญมากที่จำเป็นต้องบอกลาที่อยู่เก่า ให้ข้อมูลที่อยู่ใหม่ให้ได้มากที่สุด ด้วยแผนที่ หรือพิกัดร้านใหม่อย่างง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความน่ารักคือบางร้านขยับไปอีกไม่กี่คูหาแต่ก็ต้องทำป้ายบอกด้วยเหมือนกันว่าเลยร้านโจ๊กไปหน่อยก็ถึงแล้ว รูปแบบภาษาที่ง่ายๆ สบายๆ ไม่เป็นทางการพวกนี้แหละที่เข้าใจได้ทันทีทำให้ลูกค้ากลับมาพบกันใหม่ได้อีกครั้ง


แช่งบ่นก่นด่า

เมื่อมีคนมากกว่า 1 คนขึ้นไปอยู่ด้วยกัน ก็ย่อมตามมาด้วยความขัดแย้งนานัปการ หลักฐานอันเด่นชัดก็คือ ข้อความประกาศกร้าวตัดญาติขาดมิตร สาปแช่งดุด่าแบบไม่ไว้หน้า อัญเชิญเทพยดาฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเข้าข้างอย่างเต็มที่ หรือไม่ก็จะประชดประชันแดกดันด้วยการตั้งคำถามลอยๆ เอียงคอทำมุม 45 องศาแล้วถามว่า “อ่านภาษาไทยออกไหม” “ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า” “เป็นหมาเหรอถึงมาฉี่ตรงนี้” ได้อินเนอร์แบบการต่อปากต่อคำในละครไทยเป็นอย่างยิ่ง


ตามหา

การใส่คุณสมบัติของบุคลากรที่ต้องการภายในป้ายเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในยุคที่ร้านค้าเล็กๆ ต่างบ่นกันเป็นแถวว่าลูกจ้างนั้นหายากเป็นที่สุด วิธีการบอกความต้องการให้ตรงจุดภายในพื้นที่อันจำกัดจึงเป็นความท้าทายระดับที่ก๊อบปี้ไรเตอร์ต้องกุมขมับ แต่ไม่ใช่ปัญหาของร้านค้าเหล่านี้แต่อย่างใด เพราะนอกจากจะบอกได้แล้วว่าอยากได้อะไรแล้วยังบอกได้อีกต่างหากว่าแบบไหนที่ไม่เอา ใช้คำกระชับ สั้น แต่เข้าใจทันที ปังในสามวิฯ สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดไม่เยิ่นเย้อ


สั่งอาหาร

ประเทศไทยล้มไปตรงไหนก็ไม่ถึงพื้น เพราะหน้าของเราจะคะมำไปเจอกับรถเข็นขายอาหารก่อนเสมอ แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่เราจะสามารถสั่งอาหารได้อย่างที่คุ้นเคย ด้วยความเป็นร้านชื่อดัง ร้านเก่าแก่ หรือเพียงแค่เป็นร้านที่คนขายขี้รำคาญ เราก็ต้องศึกษาทำความเข้าใจวิธีการสั่งเสียก่อนที่จะถูกดุ ต้องรู้ว่าเวลาสั่งอาหารใช้วิธีจดลงกระดาษเท่านั้น หรือพูดปากเปล่าก็ได้ บางร้านไม่กินอะไรต้องบอก บางร้านบอกแค่ที่จะกิน แถมยังต้องอ่านอย่างละเอียดว่าร้านนี้ไม่ถูกกับร้านข้างๆ ฝั่งไหนหรือเปล่า จะได้ไม่เผลอสั่งอาหารอีกร้านมากินให้ขุ่นเคืองใจ เป็นการจัดการระบบภายในร้านอาหารผ่านถ้อยคำอันเต็มไปด้วยอำนาจที่เราไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง เพราะปากท้องของเราตั้งใจมาฝากไว้ในมือของพวกเขาอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์

ในเมื่อคุณผู้อ่านได้เบิกเนตรกับบรรดาป้ายริมทางกันไปหลากหลายหมวดหมู่แล้ว ก็น่าจะมองเห็นความเชื่อมโยงของคำกับชีวิตประจำวันของเราได้อยู่หลายเรื่อง เมื่อมองลึกลงไปมากกว่าความตลกหรือความโกรธขึ้ง เราก็จะได้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่แฝงอยู่ในถ้อยคำเหล่านี้เต็มไปหมดไม่ต่างจากการได้อ่านนวนิยายสักเล่มที่ทำให้เราได้เห็นรัก โลภ โกรธ หลง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เราต้องอยู่กับมันไปอีกนานแสนนาน

AUTHOR