สำรวจซีนสนุกของโลก Natural Wine ที่ Unscene Wine Bar

วงการอาหารและเครื่องดื่มบ้านเรายังคงเติบโตและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในหมวดที่น่าสนใจคือไวน์ประเภทที่เรียกว่า natural wine

พฤติกรรมการดื่มไวน์ของคนไทยเริ่มน่าจับตาในช่วงโควิด มีคนสั่งไปดื่มที่บ้านมากขึ้น เราเริ่มเห็นร้านไวน์ขนาดเล็กผุดขึ้นในบางย่าน เช่น ย่านเจริญกรุง ก่อนหน้านี้ก็อาจจะมีร้านของฝรั่งบ้างแต่คนไทยยังเข้าไม่ถึงนัก และเริ่มเห็นเทรนด์ที่คาเฟ่หลายแห่งพอตกกลางคืนก็เสิร์ฟ natural wine ด้วย ซึ่งเป็นเทรนด์ที่คาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่น

ล่าสุดเราไปเจอไวน์บาร์แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อ 1 กันยายน 2022 นี้เอง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะฮิตติดลมบนไปแล้วเพราะคนเต็มตลอด นั่นคือร้านที่มีชื่อว่า Unscene wine bar

ร้านตั้งอยู่บนชั้น 2 ของตึกแถวที่อยู่ตรงปากซอยสุขุมวิท 49 กึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อและพร้อมพงษ์ มีที่จอดรถใกล้ๆ ในราคา 3 ชั่วโมง 50 บาท แต่พื้นที่ค่อนข้างจำกัด 

เดิมทีที่นี่เป็นร้านอาหารจีนแบบมีอิซากายะ แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก เหล่าพาร์ตเนอร์จึงให้ความสนใจกับซีนของ natural wine ที่เกิดขึ้นในเกาหลีและญี่ปุ่นซึ่งจริงๆ นิยมกันมานานแล้ว ขณะที่บ้านเราก็กำลังเติบโตดี คนเริ่มรู้จัก จึงคิดว่าน่าจะดีถ้ามีไวน์บาร์แบบนี้ใจกลางสุขุมวิท เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่อาจไม่สะดวกไปแถวย่านอย่างเจริญกรุง

เมื่อเดินขึ้นมาบนชั้น 2 คุณจะพบกับบรรยากาศร้านที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่เกร็ง ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดี ด้วยโทนสีน้ำตาล-ขาว ได้ vibe แบบเกาหลี ญี่ปุ่น เมื่อได้ทราบว่าหนึ่งในหุ้นส่วนของทางร้านเป็นเจ้าของบริษัทตกแต่งภายในแล้ว เราก็ไม่แปลกใจเลย เพราะมู้ดแอนด์โทนเหมือนผ่านการคิดมาอย่างดีแล้ว 

องค์ประกอบที่ทำให้บรรยากาศในร้านดูสนุกและมีสีสันขึ้นมาก็คือ อาร์ตเวิร์กและกราฟิกต่างๆ ไม่ว่าจากฉลากขวดไวน์ และกราฟิกดีไซน์ของทางร้านเอง ซึ่งถ้าใครได้เข้าไปดูในโซเชียลมีเดียของทางร้าน ก็จะเห็นว่าเป็นจุดเด่นที่สร้างเอนเกจกับกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี โดยเฉพาะเจ้า mud man ตัวคาแรกเตอร์ที่เป็นมาสคอตของร้าน (ใครอยากรู้ว่าชื่อเล่นอีกชื่อของเจ้าตัวนี้ ที่คนในร้านเรียกกันคืออะไร ให้ลองไปถามดู) ซึ่งพอได้รู้ว่าหุ้นส่วนอีกคนเป็นเจ้าของกราฟิกเฮาส์แล้ว เราก็ไม่แปลกใจในความมีสไตล์นี้อีกเช่นกัน

สนุก เข้าถึงง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตอง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ คือคอนเซปต์ที่ Unscene wine bar อยากนำเสนอ และสิ่งนี้ก็คือคอนเซปต์ของ natural wine ด้วยเช่นกัน 

ถึงตรงนี้คงต้องอธิบายพอสังเขปว่า natural wine คืออะไร เอาแบบเข้าใจง่ายๆ หลักการของ natural wine คือ ‘ไม่ใส่อะไรเข้าไป และไม่ดึงอะไรออกมา’ แต่ให้ไวน์ที่ได้เป็นไปตามความจริงขององุ่น ของดินฟ้าอากาศในปีนั้น โดยควบคุมเรื่องความปลอดสารเคมีตั้งแต่ในไร่องุ่น ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตที่จะไม่มีการปรุงแต่งอะไรเข้าไปเหมือนไวน์อุตสาหกรรมทั่วไปเลย ขนาดของการผลิตก็จะเป็นสเกลที่เล็กกว่า 

ดังนั้น ความสนุกคือ รสชาติไวน์ตัวเดียวกันที่ได้ในแต่ละวินเทจหรือปีที่ผลิต ก็จะไม่เหมือนกัน และอาจจะต้องลุ้นว่าเมื่อเปิดขวดมาแล้วรสชาติจะเป็นยังไง เป็นความสนุกที่ได้ลุ้นได้ลองไปเรื่อยๆ ราคาก็เข้าถึงง่ายกว่า ไม่ต้องเก็บไว้นานๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองในการดื่มเหมือนสาย traditional

คาแรกเตอร์ที่แหกขนบตามใจผู้ผลิตต่างๆ เหล่านี้ ยังสะท้อนออกมาผ่านตัวฉลากไวน์ ที่แต่ละแบรนด์ครีเอตอาร์ตเวิร์กกันออกมาได้อย่างสุดมันและเตะตามากๆ

จุดเด่นของ Unscene wine bar คือไวน์ลิสต์ที่ทางร้านจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกๆ 2 สัปดาห์ มีไวน์ทุกแบบให้เลือกประมาณ 50 ตัว ทางร้านมีพาร์ตเนอร์ที่ชอบดื่มไวน์อยู่แล้ว จึงเลือกไวน์จากสิ่งที่ชอบ แต่จะใส่ใจในการเลือกไวน์ที่กินง่าย เพื่อให้เป็นประตูบานแรกสำหรับลูกค้าในการเข้าถึงไวน์ลักษณะนี้ 

พูดเรื่องไวน์มาขนาดนี้ และแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นไวน์บาร์ แต่จุดเด่นอีกอย่างของร้านนี้ก็คืออาหาร Unscene wine bar จะมีความเป็น casual dining เสิร์ฟอาหารคอมฟอร์ตฟู้ดประมาณ 30 เมนู ที่ได้เชฟชาวฟิลิปปินส์มาเป็นคนดูแล ซึ่งร้าน natural wine ส่วนมากจะไม่ได้มีอาหารจริงจัง แต่ที่นี่จะเป็นอาหารจริงจังที่ลูกค้าสามารถมาฝากท้องได้เลย เรียกว่ากินข้าว นั่งฟังเพลง ดื่มไวน์ แฮงเอาต์กับเพื่อน ครบจบในที่เดียว

DIY Guacamole: A classic guacamole recipe, crispy tortilla chips
Truffle Bacon Pasta: Smoked bacon, cream, truffle pasta, parmesan cheese, parsley

และขอบอกเลยว่าอาหารที่นี่อร่อยมากๆ โดยเฉพาะ recommended เมนู อย่าง DIY Guacamole, Chipironess, Pan Con Pescado, Smoked Corn Salad, Truffle Bacon Pasta, Harissa Spring Chicken, Burrata, Hanger Steak   

Pan Con Pescado: Grilled black cod fillet, grilled sourdough bread, roasted local tomato, buffalo mozzarella, Mediterranean pesto, lemon
Chipirones: Classic fried baby octopus, squid ink aioli, quail egg, lemon, togarashi

นอกจากนี้ กิมมิกที่ลูกค้าให้ความสนใจอย่างมากของทางร้านก็คือ การวาดแก้ว โดยแต่ละโต๊ะจะมีปากกาที่ใช้สำหรับเขียนหรือวาดรูปบนแก้วไวน์ของตัวเองได้ ลูกค้าสามารถวาดได้ตามใจ เป็นกิจกรรมทำสนุกๆ ระหว่างนั่งสังสรรค์กับเพื่อน แล้วถ่ายรูปไปโพสต์ลงโซเชียล หรือบางครั้งทางร้านก็เอาไปรีโพสต์ แต่ห้ามเอาแก้วกลับบ้าน ที่มาของกิมมิกนี้ก็มาจากการดื่มไวน์นั้น ไม่เหมือนร้านเที่ยวที่คนไปนั่งดื่มเหล้าดื่มเบียร์ซึ่งมีมูฟเมนต์ตลอดเวลา ขณะที่การดื่มไวน์จะมีความค่อยเป็นค่อยไป จึงอยากหาอะไรสนุกๆ ให้ลูกค้าได้ทำระหว่างนั่งดื่มนั่นเอง

และนี่ก็คือ Unscene wine bar อีกหนึ่ง ‘ที่ชอบ’ ของเรา ที่ดื่มไวน์สนุก อาหารอร่อย ซึ่งเราอยากแนะนำให้คุณชวนเพื่อนๆ ไปแฮงเอาต์และมีซีนดีๆ ด้วยกัน

AUTHOR