TWOPEE SOUTHSIDE โต้ง–พิทวัส พฤกษกิจ แรปเปอร์ผู้ยืนหยัดและปรับตัวเพื่อฮิปฮอปที่เขารัก

“จริงๆ แล้ว ผมเพิ่งมาจูนติดกับการทำเพลงในวงการไม่นานมานี้เองครับ

“ตอนที่ยังอยู่ภูเก็ตเมื่อ 10 ปีที่แล้วผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันเพียว มันสนุก เป็นความรู้สึกที่ไม่มีเรื่องงาน เรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเพลง ต่อยกับเพื่อนกูมั้ย เราทำแบบไม่ได้คิดอะไรเลย ตลกโปกฮา แต่ว่าดังโดยไม่คาดคิด อาจเพราะมันเป็นสิ่งที่แสดงออกความเป็นตัวเราแบบเพียวๆ เลย เป็นไรม์ดุๆ แบบ SOUTHSIDE สมัยก่อน ไม่ต้องคิดเยอะ ซัดแม่งเลย

“พอขึ้นมาทำงานร่วมกับไทยเทเนี่ยม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มันเปิดโลกใหม่ให้ผม เลยได้ขึ้นมาอยู่ในสเตจที่ใหญ่ขึ้น จากงานอดิเรกก็กลายมาเป็นงานจริงจัง ตอนนั้นเองที่เริ่มรู้สึกว่าการทำเพลงเป็นเรื่องยากมาก ผมคิดเยอะมาก ใช้เวลานานมากในการทำแต่ละเพลง เพราะทุกเพลงมีรายละเอียดของมันที่ต้องใส่ใจ และทุกเพลงต้องทำขายทั่วประเทศ

“ช่วงที่กระแสฮิปฮอปเริ่มซาลง พี่ขันเพิ่งกลับมาจากนิวยอร์ก เขามองว่ากระแส EDM กำลังมา เราเลยน่าจะมีสักเพลงที่เป็นซาวนด์แบบนี้ เขาก็แนะนำว่าควรปรับยังไง จนได้เป็นเพลง ไหวอะเปล่า เบเบ้

“ครั้งนั้นมันทำให้ผมรู้ว่าทำเพลงสไตล์นี้แล้วดัง แต่ผมก็ไม่ได้อยากทำเพลงแบบนี้ตลอดไป

“พอดีผมเป็นสายวาไรตี้ เป็นนักฟังที่หลากหลายอยู่แล้ว ฟังดนตรีทุกแนว แล้วผมคิดว่าการปรับมันคือการท้าทายตัวเองอย่างหนึ่ง ซึ่งมันสนุก ไม่ได้ฝืนเลย มันคือการเอาตัวเองไปผสมกับรูปแบบอื่น แต่การเล่าเรื่องก็ยังเป็นสไตล์เราอยู่ และเนื้อหาก็ยังเป็นทัศนคติหรือความคิดที่จริงใจจากเราอยู่

“เวลาทำเพลงผมถือว่าผมกำลังทำงานศิลปะ คนที่เป็นศิลปินส่วนใหญ่เขาจะมีแนวทางที่ชัดเจน คนดูก็รู้ว่านี่คือผลงานของเขา ไม่มีใครที่จะทำงานทุกแนว อย่างงานเขียนมูราคามิ ดูก็รู้ว่าเป็นมูราคามิ แต่ปัญหาใหญ่ของผมตั้งแต่อัลบั้มแรกคือคนจำไม่ได้ว่าจริงๆ แล้วผมเป็นสไตล์ไหน บางทีคนชอบ Aow La Woii แต่พอออกเพลงใหม่เป็นอีกสไตล์หนึ่ง เราก็จะเสียฐานแฟนเพลงตรงนี้ มีศิลปินน้อยคนมากที่จะทำแบบวาไรตี้ให้คนเชื่อและยังติดตามต่อได้

“แต่ผมคิดว่าแนวดนตรีมันเป็นธีมให้ผมเขียนมากกว่า และถ้าคนฟังได้ฟังเนื้อหา ฟังความคิด ผมว่าผมอยู่ได้กับทุกดนตรี และเขาก็จะได้รู้จักผมในฐานะแรปเปอร์มากกว่าเป็นคนร้องเพลงสไตล์อะไร

“อัลบั้มที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็มีความเป็นวาไรตี้มากๆ ผมชวนศิลปินหลากหลายแนวมาทำด้วย อย่างคาราบาวผมก็เอาเพลงที่คลาสสิกที่สุดมาทำเป็นเพลงใหม่เวอร์ชั่นฮิปฮอป อันนี้พี่กอล์ฟ (ฟักกลิ้ง ฮีโร่) เป็นคนเลือกเพลงให้ น้าแอ๊ด (ยืนยง โอภากุล) อนุญาตด้วยนะ ผมตื่นเต้นมาก

“แล้วไม่นานมานี้ผมเพิ่งจับทางตัวเองได้ว่า ผมเป็นสายฟรีสไตล์มากกว่า อย่างเพลง ภูเขาบังเส้นผม ผมไม่ได้จดเนื้อไว้ก่อน แต่ผมคิดไว้ในหัวอยู่แล้ว พี่แสตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) เขาโทรมาขอเนื้อเพลงผม ผมก็ต้องมานั่งเขียน พยายามแกะมันออกมาเองจากในหัวผม คือเวลาที่เราไปทำเพลงกับคนอื่น เขาจะมีเมสเสจมาให้เราอยู่แล้ว เราแค่ทำความเข้าใจว่าเขาอยากเล่าอะไรแล้วก็ไปฟรีสไตล์ให้ ผมชอบมากนะ มันเป็นธรรมชาติ เป็นตัวผมดี

“ตลอดชีวิตผมพยายาม represent วัฒนธรรมฮิปฮอปในแบบของผม ผมเป็นแรปเปอร์และคนทำเพลง เราก็นำเสนอผ่านเพลง ผ่านการแรป ส่วนเพื่อนๆ ใน SOUTHSIDE PHUKET เขาก็ represent องค์ประกอบอื่นๆ อย่างกราฟฟิตี้ พวกผมก็ทำมันมาตลอด

“ผมดีใจกับกระแสเพลงแรปไทยที่กำลังกลับมา วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เพลง Save His Life ครบรอบ 1 ปี ผมเพิ่งลงคลิปเอ็มวีเพลงนี้ในอินสตาแกรม ผมชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้ม เพราะเป็นเพลงที่บอกว่าฮิปฮอปมันไม่ได้ตาย ผมลงแคปชั่นว่า ‘we really fuckin saved his life’ เพราะรู้สึกเหมือนผมได้ทำตามสัญญาและสิ่งที่หวังไว้”