ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะกรี๊ดให้ความน่ารักของเทพเจ้า
สารพัดภาพวาดสีสันสดใสของทวยเทพ ปีศาจ และตำนานปรัมปราไต้หวันที่เรียงรายตรงหน้าเราตอนนี้ คือผลงานของ Tseng Chiaos กราฟิกดีไซเนอร์และนักวาดภาพประกอบวัย 42 ปี ผู้หลงรักตำนานเก่าแก่และเรื่องราวแฟนตาซีเป็นชีวิตจิตใจ ขนาดที่เปลี่ยนเรื่องราวขรึมขลังให้เป็นภาพที่น่าอ่านมากขึ้น
ไม่ทันรู้ตัว เราก็มานั่งคุยกับเขาเรื่องทวยเทพ เรื่องเล่า และเป้าหมายในฐานะศิลปินของเขาเสียแล้ว
คุณได้ไอเดียการวาดสัตว์ประหลาด เทพเจ้า และตำนานของไต้หวันจากอะไร
ตอนแรกผมอยากจะพัฒนาเทคนิคการเล่าเรื่องของตัวเองให้แข็งแรงขึ้น ผมเลยคิดว่าถ้าผมวาดเรื่องราวที่มีอยู่แล้วก็น่าจะดี เช่น เรื่องเล่าเกี่ยวกับเทพเจ้าและปีศาจของไต้หวัน
ในช่วง 400 ปีที่ผ่านมา เรามีเรื่องราวการตกเป็นอาณานิคมของประเทศอื่น มีผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยอยู่กับคนพื้นเมือง มีความขัดแย้งและการต่อสู้ ทำให้เรากลายเป็นไต้หวันอย่างทุกวันนี้ เรื่องเล่าพื้นเมืองมากมายสัมพันธ์กับเรื่องราวทางสังคมและวัฒนธรรมเหล่านี้ ดังนั้นการวาดน่าจะทำให้คนไต้หวันมีความเข้าใจวัฒนธรรมของเรามากขึ้น
ในฐานะคนไต้หวัน คุณยังต้องค้นคว้าเยอะไหมกว่าจะวาดออกมา
ก่อนวาดเทพเจ้าแต่ละองค์ผมต้องรวบรวมข้อมูลเยอะมาก เพราะเทพเจ้าแต่ละองค์ก็มีเรื่องเล่าของตัวเอง ความเชื่อเรื่องเทพเจ้าแต่ละยุคก็ต่างกัน และหน้าตาก็ไม่เหมือนกันด้วย อย่างเจ้าแม่ทับทิมหรือเจ้าแม่แห่งท้องทะเลในยุคแรกมีหน้าตาเหมือนโพไซดอน ทำหน้าที่คอยปกปักรักษาผู้ที่อพยพจากจีนมายังไต้หวันผ่านบริเวณช่องแคบไต้หวัน แต่หลังจากผู้อพยพเริ่มตั้งถิ่นฐานก็เกิดความเชื่อใหม่ๆ ของเจ้าแม่ทับทิม เช่น พลังในการต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย เยียวยาโรคภัยไข้เจ็บ หรือปัดเป่าภัยพิบัติ ภาพลักษณ์ของเจ้าแม่ทับทิมจึงค่อยๆ พัฒนามาสู่ภาพของแม่ในที่สุด
ภาพวาดของคุณเหมือนภาพวาดตำนานไต้หวันที่เราเห็นในวัดไหม
ระหว่างหาข้อมูล ผมได้อ่านหนังสือ Old Customs, Practices and Beliefs of Taiwan โดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น Suzuki Seiichirou ซึ่งบันทึกประเพณีไต้หวัน และเรื่องราวของวัด ศาลเจ้า และเทพเจ้าเอาไว้ มันทำให้ผมได้มองไต้หวันจากมุมมองของคนญี่ปุ่น ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจที่ได้มองจากมุมมองแบบนี้โดยไม่ได้โฟกัสเรื่องการสั่งสอนหรือคำสอนทางศาสนา ผมจึงไม่ได้วาดภาพเทพเจ้าตามภาพวาดในวัดเสียทีเดียว สัตว์ประหลาดของผมไม่ได้ดูน่าเกลียดน่ากลัวเพราะผมอยากเหลือที่ว่างให้คนได้จินตนาการต่อด้วย
จากที่วาดมาทั้งหมด คุณชอบเรื่องอะไรเป็นพิเศษ
ผมชอบตำนานของชนเผ่า Tsou ของไต้หวันเรื่องการกำเนิดมนุษย์ ตำนานเล่าว่าเมื่อเทพเจ้า Amo หว่านเมล็ดพืชลงในดิน และผู้คนก็เกิดขึ้นมาจากดิน เมื่อเทพเจ้าเขย่าต้นเมเปิล ใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาก็กลายเป็นคน ผมคิดว่ามันเต็มไปด้วยจินตนาการ เป็นภาพที่สวยงามมาก ผมเลยวาดมันไว้ในหนังสือเล่ม The Mythology of Birth in Taiwan
ในหลายที่ทั่วโลก คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยสนใจตำนานพื้นบ้านกันแล้ว ในไต้หวันเป็นเหมือนกันหรือเปล่า
คนไต้หวันชอบวัฒนธรรมต่างประเทศ อย่างตอนเด็กๆ ผมชอบอะนิเมะญี่ปุ่นมาก ส่วนยุคนี้ เด็กรุ่นใหม่ก็ฮิตดูซีรีส์เกาหลีและแอนิเมชั่นจากฮอลลีวูด ผมไม่คิดว่าประเทศไหนจะต้านทานวัฒนธรรมที่แข็งแรงมากๆ พวกนี้ได้หรอก
เพราะอย่างนี้ เด็กรุ่นใหม่เลยรู้จักตำนานไต้หวันน้อยมากๆ ยกเว้นเรื่องที่คลาสสิกจริงๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเอาเรื่องราวเหล่านี้มาดัดแปลง มันเลยเริ่มกลายเป็นแค่เรื่องราวปรัมปรา ผมว่ามันน่าเศร้าเหมือนกัน หัวใจของงานผมจึงเป็นการวาดเรื่องราวแห่งจินตนาการที่คนหลงลืม
ความพยายามของคุณประสบความสำเร็จหรือยัง
ครั้งหนึ่งมีเด็ก 7 ขวบซื้อหนังสือ Stories of Deities From Taiwan ของผมไป แม่ของเขามาเล่าให้ฟังทีหลังว่า วันหนึ่ง เด็กคนนั้นก็บอกแม่ว่าเขาไม่อยากได้ของขวัญวันเกิดเป็นของเล่นแล้ว แต่เขาอยากได้พู่กันและอยากหัดเขียนตัวอักษรด้วยหมึก ผมช็อกมากเพราะผมไม่เคยคิดว่าชื่อของเทพเจ้าที่ผมเขียนด้วยพู่กันจะกระทบใจเด็กๆ ได้ มันทำให้ผมรู้สึกซึ้งใจมาก
Tseng Chiaos เขียนหนังสือเกี่ยวกับตำนานไต้หวันหลายเล่ม เช่น Taiwan Monsters, Taiwan Monsters-Tales of the Giants, Stories of Deities From Taiwan และ The Mythology of Birth in Taiwan และบอร์ดเกม Taiwan Monsters Brawl
อ่านเรื่องราวของ Tseng Chiaos และศิลปินไต้หวันคนอื่นๆ ได้ใน a day 227 ฉบับไทเป หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศหรือสั่งซื้อออนไลน์ที่นี่