ไม่ต้องสาธยายให้มาก คนกรุงเทพฯ ก็คงรู้ดีถึงกิตติศัพท์การจราจรแน่นขนัดของสี่แยกอโศกใจกลางเมืองที่ไม่ว่าจะผ่านไปช่วงไหนของวัน เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ รถก็ยังติดแหง็กอยู่กับที่ไม่ไหวติง นี่เลยเป็นเหตุผลที่เราชวนทุกคนมาแวะนั่งพักในสถานที่ดีต่อใจรอบย่านอโศกมากมาย เพราะรู้ดีว่าอารมณ์หงุดหงิดน่าจะหายได้ไม่ยากถ้าได้ชิมอาหารอร่อยๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และเสพศิลป์ท่ามกลางสี่แยกจราจรที่วุ่นวายแบบนี้
รออะไรกันอยู่! ถ้าอยากหนีจากรถติดก็คว้ามอเตอร์ไซค์คู่ใจไปซอกแซกรอบย่านอโศกพร้อมกันกับเราเลย
01
ลิ้มรสมืออาม่าสุดเก๋าของร้านอาหารห้องแถว ย่งหลี ที่อยู่คู่อโศกมานานกว่า 30 ปี
ชาวอโศกคงรู้จักและเคยฝากท้องไว้กับร้านอาหารห้องแถวเล็กๆ ปากซอยสุขุมวิท 15 นี้กันบ้าง ย่งหลีคือร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง หลากหลายเมนู เพียงเข้าไปในร้านเราก็ได้บรรยากาศห้องแถวของชาวจีนเก่าๆ ที่ตกแต่งด้วยรูปภาพเต็มฝาผนังแบบที่หาได้ยากแล้วในกรุงเทพฯ กลางใจเมือง เมนูเด็ดที่ใครไปก็ต้องสั่งเป็นมื้อกลางวันในวันที่ต้องการพลังงานคือข้าวเฉโป (ข้าวหมูกรอบ-หมูแดง) จานบิ๊กเบิ้ม สตูว์หมูรสเข้มข้นจากมะเขือเทศ และปลาราดพริกที่เนื้อปลาขาวเนียนเคี้ยวนุ่มแทบละลายเมื่อเข้าปาก ยังมีเมนูเด็ดอีกหลายจานจนต้องบอกเพื่อนร่วมโต๊ะตัดใจให้ลง ราคาอาหารสูงนิดหน่อย แต่เขาการันตีความอร่อยด้วยรางวัลจาก TripAdviser เมื่อปี 2012 เลยนะ
อ้อ! ถ้าไม่อยากหงุดหงิดเพิ่มจากการจราจรติดขัด เราแนะนำว่าให้มาก่อนเที่ยงสักหน่อยจะได้ไม่ต้องรออาหารนาน เพราะร้านนี้เป็นร้านประจำของพนักงานออฟฟิศแถวนี้เลยล่ะ
ย่งหลี เปิดทุกวัน 11:30 – 15:30 น., 17:00 – 20:30 น. / โทร. 02-251-5262
02
เรียนรู้ภูมิปัญญาชาวล้านนาที่พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง เรือนเครื่องสับทรงไทยสวยงามในนิยามแบบชาวเหนือ
รู้หรือเปล่าว่าย่านธุรกิจอย่างอโศกจะมีเรือนเครื่องสับหรือที่ชาวล้านนาเรียกกันว่า ‘เรือนกาแล’ เก่าแก่ตั้งแต่ พ.ศ. 2391 ซ่อนตัวอยู่ในร่มไม้เขียวครึ้ม ปัจจุบันเรือนคำเที่ยงอยู่ในการดูแลของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ที่ตระกูลนิมมานเหมินทร์มอบให้เมื่อ
พ.ศ. 2506 เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา พื้นที่ของเรือนคำเที่ยงแบ่งออกเป็น 5 ส่วน คือชานบ้าน เติ๋น (ห้องโถงเปิดโล่งยกระดับจากชานบ้าน) ห้องนอน ห้องครัว และยุ้งข้าว ตามแบบดั้งเดิมที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่แสดงถึงภูมิปัญญา
ความเชื่อ พิธีกรรมของชาวล้านนาให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้เดินเข้ามาศึกษากันแบบเต็มอิ่ม ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ที่ดีทั้งต่อสมองและหัวใจในย่านแสนวุ่นวายนี้จริงๆ
พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง เปิดวันอังคาร – เสาร์ 09:00 -17:00 น. (ปิดวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) / โทร. 02-661-6470-7 / ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 100 บาท / www.siam-society.org
03
แวะหม่ำเบอร์เกอร์โฮมเมดชิ้นโตดีต่อสุขภาพให้จุใจที่ Chunky
ลืมภาพเบอร์เกอร์ขนมปังแบนๆ ผักเฉาๆ ที่ทำให้ถูกตราหน้าว่าเป็นอาหารทำลายสุขภาพไปได้เลย! เพราะที่ Chunky ร้านอาหารบรันช์กึ่งคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นในซอยสุขุมวิท 23 เขาเสิร์ฟเมนูเบอร์เกอร์โฮมเมดที่รับประกันว่าทำเองทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะขนมปังสูตรเฉพาะนุ่มพอดีๆ ที่นวดและอบสดใหม่ทุกวัน ผักสดกรอบกร๊วบ เนื้อที่หมักจนชุ่มฉ่ำ หรือแม้แต่ซอสและน้ำสลัดที่ปรุงขึ้นจากเชฟฝีมือดี ความตั้งใจของที่นี่คืออยากให้ลูกค้าได้กินอาหารดีๆ เหมือนที่พ่อแม่ทำให้แบบไม่หวงเครื่องและอิ่มกลับไปจุใจ เลยเป็นที่มาว่าทุกเมนูของร้านจะเสิร์ฟมาแบบไซส์บิ๊ก!
เมนูที่เราลองชิมคือ Holy Cheese Burger ที่ปรับสูตรมาจาก Croque Madame Sandwich แซนด์วิชแฮมชีสไข่ดาวของฝรั่งเศสที่มีจุดเด่นอยู่ตรงชีสเยิ้มๆ เต็มถาด Chunky Beef Burger เบอร์เกอร์เนื้อวัวชุ่มฉ่ำที่เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์ชิ้นใหญ่
และที่เด็ดมากสำหรับเราคือ Hot Chocolate Truffle เครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อนที่มีกิมมิกเก๋ๆ อยู่ตรงที่ให้เราเทนมราดลงบนก้อนช็อกโกแลตชิ้นโตปล่อยให้ละลาย จิบแล้วได้รสชาติช็อกโกแลตเต็มๆ แบบไม่มีโกโก้ผสมเลยล่ะ อ้อ! ที่นี่ไม่ได้มีแต่เบอร์เกอร์ แต่ยังมีอีกหลายเมนูตอบโจทย์ลูกค้าทุกรูปแบบ จะพาสต้า สลัดผักสดๆ หรือเมนูเจสำหรับคนทานมังสวิรัติก็มี
Chunky S23 เปิด 11:00 – 22:00 น. (ปิดวันจันทร์) / โทร. 091-742-4094 / Facebook | Chunky
04
เสพงานศิลป์ร่วมสมัยของศิลปินทั้งไทยและเทศที่หอศิลป์ g23
ใครว่าอยู่ย่านธุรกิจอย่างอโศกแล้วจะไม่มีงานศิลปะดีๆ ให้เราชม บนชั้น 2 ของอาคารนวัตกรรม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) คือที่ตั้งของ g23 พิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีที่มีงานจิตรกรรมร่วมสมัยของศิลปินทั้งระดับชาติและนานาชาติเวียนมาจัดแสดงตลอด อย่างนิทรรศการล่าสุดที่เพิ่งจบไปก็คือ Manga Hokusai Manga นิทรรศการรวมงานลายเส้นมังงะของศิลปินแดนปลาดิบเขาล่ะ ถ้าวันไหนเจอรถติดหนักๆ แวะเข้ามาพักผ่อนเสพงานศิลป์กันที่นี่ก่อนก็ได้นะ
g23 เปิดวันจันทร์ – เสาร์ 11.00 – 18.00 น. (ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) / โทร. 02-2612096 / g23.swu.ac.th
05
สนทนาอย่างออกรสในยามสนธยากับอาหารฟิวชั่นเกาหลี-เม็กซิกันที่ Changwon Express
เย็นย่ำหลังเลิกงานถ้าใครยังไม่อยากกลับบ้านเจอรถติด เราแนะนำให้ผลักประตูเข้าไปนั่งชิลล์กันก่อนที่ร้านอาหารเกาหลี-เม็กซิกันสีเหลืองสดใสของหนุ่มเกาหลีใต้อารมณ์ดี Ted Ahn ที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ได้ 4 ปีแล้ว เท็ดหยิบจับความเปรี้ยวหวานของกิมจิสไตล์เกาหลีมาจับคู่กับรสชาติจัดจ้านของทาโก้แบบฉบับเม็กซิกันได้อย่างลงตัว ออกมาเป็นเมนูฟิวชั่นที่เราชื่นชมในรสชาติ ทั้ง Kimcheese Nacho กับแกล้มกินเล่นที่ได้รสชาติกิมจิเปรี้ยวๆ ในทุกเคี้ยวกรอบของนาโช่, Kimchi Taco แป้งทาโก้บางที่ทานกับเนื้อย่างเคี้ยวเพลิน ที่ Changwon Express สาขานี้คือที่เดียวที่คุณจะได้ลิ้มลองอาหารสไตล์นี้นะ อ้อ! วันไหนโชคดีเจอเท็ดอยู่ที่ร้าน รับรองว่าคืนนั้นคุณจะได้บทสนทนาดีๆ กลับมาแน่นอน
ข่าวดีก็คือ Changwon Express เพิ่งเปิด Soft Opening สาขาสองที่ Flow House สุขุมวิท 26 ด้วย ถึงจะไม่ได้เสิร์ฟอาหารสไตล์เกาหลี-เม็กซิกันเหมือนสาขานี้ แต่ก็มีทีเด็ดอยู่ที่บรรยากาศชุ่มฉ่ำของสายน้ำและเครื่องดื่มที่พิเศษสุดๆ นะ
Changwon Express เปิดทุกวัน 17:00 – 24:00 น. / โทร. 092-251-8661 / Facebook | Changwon Express
