ต่อชีวิต : โฆษณาฝีมือต่อ–ธนญชัยที่ชวนเราต่อชีวิตผ่านการบริจาค

Highlights

  • สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นโรงพยาบาลรัฐ โรงเรียนแพทย์ และสถาบันวิจัยขนาดใหญ่ ทางสถาบันประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณ พวกเขาจึงทำโฆษณาเพื่อชวนคนไทยบริจาคสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์
  • โฆษณา ‘ต่อชีวิต’ เป็นฝีมือของ ‘ต่อ–ธนญชัย ศรศรีวิชัย’ ที่มาที่ไปของโฆษณานี้เกิดจากความคิดที่ว่าพวกเราทุกคนจะต้องป่วยและเข้าโรงพยาบาลในสักวัน ดังนั้นการบริจาคครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการดูแลกันและกันทางอ้อมทั้งคนป่วย ตัวเรา และเพื่อนมนุษย์ ที่จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

“เราต้องการเงิน เพื่อไปซื้อเครื่องมือแพทย์

ซื้อเตียง ซื้อวีลแชร์ ซื้อสายน้ำเกลือ เราอยากได้เงิน …”

ประโยคข้างต้นปรากฏขึ้นมาตั้งแต่ 30 วินาทีแรก ต่อชีวิต เป็นโฆษณาที่ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อเชิญชวนผู้ชมให้มาบริจาคสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เรื่องราวและความตั้งใจทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่าน ต่อ–ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับโฆษณาที่ผู้อ่าน a day คุ้นเคยกันดี 

ตลอดสองนาทีครึ่งของโฆษณานี้ชี้ให้เราเห็นความสำคัญของการบริจาคผ่านประเด็นที่เชื่อมโยงกับเราทุกคน ภาพผู้คนธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตปกติ คนที่เจ็บป่วยและคนที่อยู่ข้างๆ ทำให้เรารู้สึกกับโฆษณานี้ได้อย่างง่ายดาย จุดนี้เองเป็นจุดที่ทำให้เราสนใจและอยากขุดคุ้ยเบื้องหลังความคิดกว่าจะกลายมาเป็นโฆษณาชิ้นนี้

ไม่มีใครให้คำตอบสิ่งนี้ได้ดีเท่าต่อเอง และน่าสนใจตรงที่ในขั้นแรก ต่อบอกกับเราว่าเขาไม่อยากให้เราคิดเพียงแค่บริจาคเงินแล้วจบไป

แต่เขาอยากให้เรามาดูแลกันและกันมากกว่า

ความเจ็บป่วยไม่ใช่เรื่องไกลตัว

การทำโฆษณาเพื่อชวนคนมาบริจาคให้โรงพยาบาลไม่ใช่โจทย์ที่ใหม่ นี่คือความยากในการทำโฆษณาให้แตกต่างและดึงอารมณ์คนดู ดังนั้นหลังได้รับโจทย์ ต่อเลือกที่จะตกผลึกไอเดียโดยหันหน้าเข้าหาความจริงที่คนในสังคมเป็น

“หลายคนล้วนรู้สึกว่าความเจ็บป่วยและโรงพยาบาลเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่จริงแล้วโรงพยาบาลคือสถานที่รักษาพวกเราทุกคน ดังนั้นวิธีที่ผมใช้คือการดึงเรื่องนี้เข้ามาให้ใกล้ตัวเรามากขึ้น ด้วยการเล่าเรื่องผ่านคนไข้ สิ่งนี้สื่อได้ทั้งตัวคนไข้รวมถึงญาติมิตรและคนสนิทชิดเชื้อ ผมยังเลือกใช้คำว่า ‘พี่’ ลงไปในบทเพื่อความใกล้ชิดเพราะมันเป็นคำเรียกเฉพาะของคนไทย ทุกเรื่องราวจะย้อนกลับมาที่ตัวเราเองเพื่อสะท้อนว่าการป่วยไข้และโรงพยาบาลใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด วันข้างหน้าเราทุกคนต้องป่วยไข้ ร่างกายเสื่อมโทรม และต้องเข้ามารักษาในโรงพยาบาลในท้ายที่สุด”

ดูแลตัวเอง ดูแลคนอื่น ดูแลกันและกัน

ในเมื่อทุกคนมีสิทธิ์ป่วย คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือแล้วทุกคนหรือเปล่าที่จะมีคนดูแลใกล้ชิด ความจริงข้อหนึ่งก็คือถึงแม้จะไม่มีใครที่พร้อมดูแล แต่โรงพยาบาลเป็นสถานที่พร้อมดูแลผู้ป่วย ดังนั้นการให้การสนับสนุนแก่โรงพยาบาลจึงเป็นที่มาของคำว่า ‘ดูแลกันและกัน’ ที่ต่อเลือกจะสื่อในโฆษณาชิ้นนี้

“สิ่งที่โฆษณานี้ตั้งคำถามและพยายามบอกทุกคนนั่นคือสุดท้ายแล้วเราต้องดูแลกันเอง แต่อย่างที่รู้กันว่าการดูแลทุกวันนี้ยังไม่ทั่วถึงพอ นั่นเป็นเหตุผลที่ในโฆษณานี้เลือกจะพูดเสียตั้งแต่ตอนแรกว่า ‘เราอยากได้เครื่องมือแพทย์ นักเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลแห่งนี้’ เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อพี่ ป้า น้า อาจนถึงตัวเรานั่นแหละ เราอยากให้ทุกคนที่ดูรู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างๆ เรา ต่อให้ไม่รู้จักแต่เราก็ล้วนเป็นเพื่อนร่วมโลกที่พร้อมจะช่วยเหลือกันและกันเสมอ”

เหตุผลที่การบริจาคเท่ากับการดูแล

ในโฆษณามีภาพคนป่วยที่นอนรอหรืออยู่ในห้องฉุกเฉิน ทุกภาพดูจริงมากจนเราอดจินตนาการไม่ได้ว่าถ้าเป็นเราหรือคนที่เรารักจะรู้สึกยังไง นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่ต่อเลือกจะใส่ไว้เพื่อขมวดปมให้คนดูเห็นถึงความสำคัญของโรงพยาบาลที่เชื่อมโยงกับพวกเราทุกคน

“ถ้าการทำบุญเท่ากับการให้ ผมคิดว่าการให้ที่แท้จริงคือการช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่จะใช้รักษาพวกเรากันเอง ประโยชน์อีกอย่างของเงินบริจาคคือเปลี่ยนไปเป็นเครื่องมือเรียนรู้ของนักเรียนแพทย์ที่จะกลับมารักษาเราและคนไทยในอนาคต โฆษณาชิ้นนี้จึงอยากย้ำว่าในความเป็นจริงโรงพยาบาลสำคัญขนาดไหน ทุกนาทีมีค่าแค่ไหนและลมหายใจมนุษย์สำคัญมากเพียงใด ดังนั้นถ้ามีอะไรที่เราทำได้ เรามาลงมือกันเถอะ”

สำหรับใครที่สนใจ คุณสามารถต่อชีวิตของผู้ป่วยทุกคนได้ผ่านการบริจาคให้สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี วิธีการบริจาคทำได้ง่ายๆ เพียงกด *948*1111*100# แล้วกดโทรออกเพื่อบริจาค 100 บาทผ่านทุกเครือข่าย หรือบริจาคออนไลน์ผ่านทาง  www.ramafoundation.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2201-1111

AUTHOR