บ้านนี้โทนี่ สตาร์กเคยพัก : เมื่ออสังหาริมทรัพย์อัพราคาตามความพีคของหนัง 

Highlights

  • หลังจากที่หนังเรื่อง Avengers: Endgame จบไปอย่างยิ่งใหญ่ในฉากกระท่อมปลายนาของโทนี่ สตาร์ก สิ่งที่ยิ่งใหญ่ตามหลังหนังเรื่องนั้นไปคือชีวิตเจ้าของบ้านกระท่อมปลายนานั้น
  • กระท่อมนี้อยู่ที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา จากที่เคยเปิดเป็น Airbnb ให้คนมาเช่าพักในราคา 300 ดอลลาร์ต่อคืน กลายเป็นตอนนี้อัพราคาขึ้นเป็น 800 ดอลลาร์ต่อคืน นักการตลาดหลายคนมักบอกว่า สตอรีหรือเรื่องราวสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้ ตัวอย่างนี้ก็เหมือนจะยืนยันทฤษฎีนั้นอยู่ไม่น้อย

การขออนุญาตเจ้าของบ้านเพื่อเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในที่พักอาศัยของพวกเขานั้นจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำได้โดยง่าย หลายคนอาจจะคิดว่าโอ้โห ไม่ดีเหรอ มีกองถ่ายเข้ามาถ่ายที่บ้าน จะได้เจอดาราด้วย แถมบางครั้งพวกเขาอาจอาศัยอยู่กันเป็นเดือนเพื่อถ่ายทำให้เสร็จเรียบร้อย เป็นความใกล้ชิดแบบเอกซ์คลูซีฟ เตียงนอนของเราอาจมีนักแสดงชื่อดังมานอนเล่น หรือถ้าคิดให้ดูเป็นเชิงภาพยนตร์กว่านี้คือ บ้านของเราจะกลายเป็นบ้านของตัวละครที่อาจจะเป็นตัวละครคลาสสิกในโลกภาพยนตร์ในเวลาถัดมาก็เป็นไปได้

ในโลกความเป็นจริงแล้ว เจ้าของสถานที่มักไม่ค่อยคิดเรื่องที่โรแมนติกขนาดนั้น พวกเขาถามอยู่ไม่กี่เรื่องคือ จะใช้ตอนไหน เวลาไหน ถ่ายกี่โมงถึงกี่โมง ยาวนานเท่าไหร่ ใช้ส่วนใดของบ้านบ้าง และมีเงินให้กี่บาท เพราะที่อยู่อาศัยก็คือที่อยู่อาศัย บ้านก็คือบ้าน มันคือสถานที่ส่วนตัวและถิ่นฐานหลักของชีวิต หลายๆ ครั้งการมาถึงของกองถ่ายอาจทำความเสียหายให้กับบ้านหลังนั้น เพราะอุปกรณ์สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์นั้นไม่เคยมีขนาดเล็ก ทีมงานแห่กันมาเป็นจำนวนมาก ไหนจะต้องขอให้ทุกคนในบริเวณนั้นเงียบเสียงตลอดเวลา หรือหลายๆ ครั้งอาจทำให้เจ้าของบ้านไม่สะดวกในการอยู่อาศัย ถึงขั้นเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ ดังนั้นเจ้าของบ้านมักจะคำนวณให้ดีก่อนอนุญาต หลายครั้งก็ปฎิเสธไปง่ายๆ เลย เพราะหวงบ้านมากกว่า หรือไม่คุ้มกับเงินที่ได้ (น้อยครั้งมากที่พอบอกว่านักแสดงในหนังคือใครแล้วเจ้าของเปลี่ยนใจให้ถ่ายเพราะเป็นแฟนคลับนักแสดงคนนั้น)

แต่ในอีกหลายๆ ครั้งที่เจ้าของอนุญาตยินยอมให้ถ่าย แล้วปรากฏว่าหลังจากหนังเรื่องนั้นออกฉาย และหลังจากมันกลายเป็นหนังสุดฮิต สิ่งที่ตามมาคือมูลค่าของสถานที่ของพวกเขาก็พุ่งขึ้นเป็นกอบเป็นกำโดยอัตโนมัติ

หลังจากที่หนังเรื่อง Avengers: Endgame จบไปอย่างยิ่งใหญ่ในฉากกระท่อมปลายนาของโทนี่ สตาร์ก สิ่งที่ยิ่งใหญ่ตามหลังหนังเรื่องนั้นไปคือชีวิตเจ้าของบ้านกระท่อมปลายนานั้น

กระท่อมนี้อยู่ที่รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา จากที่เคยเปิดเป็น Airbnb ให้คนมาเช่าพักในราคา 300 ดอลลาร์ต่อคืน กลายเป็นตอนนี้อัพราคาขึ้นเป็น 800 ดอลลาร์ต่อคืน โดยสิ่งที่ผู้มาพักจะได้นั้นคือ ที่พัก 3 ห้องนอน 1 ห้องครัว มีเตาผิงไฟพร้อมด้วย Wi-Fi (แต่ภายในบ้านอาจจะไม่เหมือนในหนัง เพราะฉากในบ้านที่ปรากฏในหนังอาจถ่ายในโรงถ่าย ไม่ใช่บ้านจริง) รอบๆ บ้านมีที่จอดรถ และคุณสามารถเดินเล่นในป่ารอบๆ บ้านได้ด้วยเช่นกัน (เสียดายไม่มีม้านั่งที่กัปตันอเมริการ่างคุณลุงนั่งเล่นในตอนจบ) นี่คือทั้งหมดที่ Airbnb แห่ง Avengers นี้มอบให้แฟนคลับได้ในราคา 25,000 บาทต่อคืน ถ้ามากันหลายคน ช่วยๆ กันหาร ก็อาจพอไหวอยู่นะ เพื่อแลกกับความฟินนี้

อะไรแบบนี้ก็ไม่ต่างกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ด้วยการสนับสนุนให้กองถ่ายต่างประเทศเข้ามาถ่ายหนังในประเทศของตนเอง การที่ตัวละครในโลกของภาพยนตร์มาเที่ยวเล่นในประเทศไทยก็อาจทำให้คนดูหนังเรื่องนั้นอยากไปเดินเล่นประเทศไทยด้วยเช่นกันเมื่อดูจบ คล้ายๆ เราอยากไปเกาหลีเพราะเราชอบซีรีส์เกาหลี ร้านค้าบางร้านก็อาจจะขายดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ร้านคาเฟ่ในหนังเรื่อง Amélie หรือร้านแผ่นเสียงในหนังเรื่อง Before Sunrise หรือกระทั่งบ้านบางแห่งอาจมีจุดเด่นในการขายทอดตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าหากสถานที่ในหนังเรื่องนั้นๆ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากๆ กับตัวเรื่องจนกลายเป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่งของหนัง

บ้านใน Call Me by Your Name หนังอินดี้สุดดังเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ประกาศขายแล้วเช่นกันในราคา 2 ล้านดอลลาร์ ตัวหนังวนเวียนอยู่กับบ้านนี้ทั้งเรื่องจริงๆ และฉากสำคัญในหนังเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ทั้งหมด จนคนดูทุกคนสามารถจดจำบ้านหลังนี้ได้อย่างแม่นยำ (และเชื่อว่าหลายคนก็พยายามจะไปตามรอยโลเคชั่นแห่งนี้ด้วยเช่นกัน) ซึ่งในราคาขายหลังละ 70 ล้านบาทนี้ คนซื้อจะได้บ้านขนาด 17 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ ตัวบ้านตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรไม่เกิน 1,000 คน เมื่อลองกดดูรูปภาพแล้ว ต่อให้ไม่มีหนังเรื่องนี้มาถ่าย ตัวบ้านและสภาพแวดล้อมมันก็สวยในตัวเองอยู่แล้ว แต่พอมีเรื่องราวของหนังมาผสมด้วยก็ทำให้บ้านนี้มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว และถ้าถามว่าราคานี้แพงไหม ก็อาจไม่แพงถ้าเทียบกับโครงการบ้านเดี่ยวบางแห่งแถวเลียบด่วนรามอินทราซึ่งเริ่มต้นที่ 90 ล้านบาท (รอบๆ ที่พักมีเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ให้ท่านได้ไปเดินเล่นพักผ่อน) อันนี้ก็ต้องแล้วแต่บุคคลพิจารณา

(แอบแถมให้อีกนิดหน่อยคือ ตัวอย่างไทยๆ ก็เช่น บ้านของซันนี่และญาญ่าในหนังเรื่อง น้อง.พี่.ที่รัก ปกติเหมือนเป็นบ้านที่ไม่ได้มีใครอยู่เป็นพิเศษ แต่พอบ้านนี้ถูกใช้ในหนังเต็มๆ คนดูแทบจะได้เห็นทุกซอกทุกมุมของบ้าน ตอนนี้บ้านนี้ก็ถูกขายต่อไปเรียบร้อยด้วยราคาที่น่าจะสูงขึ้นกว่าปกติ)

นักการตลาดหลายคนมักบอกว่า สตอรี่หรือเรื่องราวสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ได้ ตัวอย่างเหล่านี้ก็เหมือนจะยืนยันทฤษฎีนั้นอยู่ไม่น้อย คราวนี้ก็เป็นเรื่องของตัวเจ้าของสถานที่ที่ต้องตัดสินใจเช่นกันว่า จะให้กองถ่ายหนังเรื่องไหนเข้ามาใช้สถานที่ของเรา คุณอาจจะต้องขออ่านบทก่อนว่าบ้านของคุณมีคาแร็กเตอร์โดดเด่นหรือไม่ ไม่ใช่แค่บ้านของเพื่อนพระเอกที่ออกมา 2 ซีน อาจจะต้องดูอีกว่าจุดไคลแมกซ์ของเรื่องเกิดที่บ้านของคุณหรือเปล่า เพราะก็ไม่แน่ว่าถ้าคุณอนุญาตให้หนังที่ดีมากๆ เข้ามาถ่าย ชีวิตของบ้านคุณก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คล้ายนักแสดงแจ้งเกิดในวงการอสังหาริมทรัพย์

แต่ถึงสุดท้ายหนังไม่ดัง ก็เอาเป็นว่าอย่างน้อยก็มีสตอรี่เล่าให้ลูกหลานฟังเล่นๆ ก็แล้วกันนะว่า ‘หนังเรื่องนั้นเคยเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้’

AUTHOR

ILLUSTRATOR

22mm.t

Illustrator with fun and colorful style.