การได้ coming of age ไปพร้อมหนัง coming of age เป็นเรื่องน่ายินดี

coming of age

coming of age
coming of age
The Princess Diaries (2001)
coming of age
Moxie (2021)
coming of age
Booksmart (2019)
coming of age
Lucy from Moxie
ช่วงนี้ต้องกักตัวอยู่บ้าน ฉันเลยมีโอกาสได้หยิบหนังเก่าๆ ที่รักกลับมาดูหลายเรื่อง ในชีวิตและการทำงานศิลปะ ภาพยนตร์เข้ามามีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจให้กับแทบทุกช่วงวัย การเปลี่ยนผ่าน การเติบโต ของจิตใจฉัน หลายๆ ครั้งที่ดูหนังเรื่องที่ชอบจบ ฉันมักจะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างที่ดลใจมาจากบางองค์ประกอบของหนังเสมอ ที่เค้าว่าหนังบางเรื่องเปลี่ยนชีวิตคนได้นั้นไม่ได้เกินจริงไปสำหรับตัวฉันเลย
ฉันเคยตั้งแต่ย้อมผมแดงตาม Ladybird ไปเดินตามรอยชีวิตประจำวันของ Amelie ใน Montmarte ที่ปารีส ชวนหนุ่มไปเดตที่ New York Bar แบบใน Lost in Translation หรือแม้แต่ชื่อที่หลายคนรู้จักฉันในนาม juli baker and summer นั้นก็ยังมาจากคาแร็กเตอร์ของหญิงสาว 2 คนในหนังที่ฉันชอบเลย
ถึงจะชอบดูหนังแต่ฉันก็เลือกดูอยู่ไม่กี่ประเภท หากไม่ใช่หนัง art direction สวยๆ ฉันก็จะชอบดูหนังที่มีคนคุยกันไปเรื่อยๆ หรือหนังที่มีฉากหลังเป็นประเทศสวยๆ หรือแปลกๆ ไปเลย แต่จะมีหนังอยู่ประเภทหนึ่งที่ฉันชอบดูตั้งแต่เด็กๆ จนถึงตอนนี้ ถ้ามีโอกาสก็ยังหาดูอยู่คือ genre ‘coming of age’ แบบหนังประเภทวัย high school ที่ถึงตอนนี้จะเลยวัยมานานแล้วแต่ก็ยังอินได้เสมอ อาจจะเพราะเป็นช่วงวัยที่เปราะบางทางอารมณ์ที่สุดด้วยมั้งเราเลยไม่เขินอายที่จะอ่อนไหวหรือรื่นรมย์ไปกับเรื่องราวเหล่านั้น
หนัง high school ในยุคที่ฉันเติบโตนั้นสนุก จะเรียกว่าคลิเช่หรือคลาสสิกดี ฉันก็ไม่รู้ แต่แม้เส้นเรื่องและตัวละครจะต่างกันออกไป หนังส่วนใหญ่ตอนนั้นก็สะท้อนวัฒนธรรม ค่านิยม และชุดความคิดออกมาคล้ายๆ กัน หนัง high school ยุคฉันมักมี target audience เป็นหญิงสาว ตัวละคนเอกก็มักจะเป็นผู้หญิง เธอมักจะโก๊ะๆ หน่อย ในตอนต้นเรื่องแต่จะถูกแปลงโฉมและสวยสะดุดตาที่สุดในงานพร็อมจนพระเอกตะลึง
ซีนก้าวเท้าลงบันไดหรือออกจากรถลิมูซีนและถ่ายช้อนจากเท้าผ่านลำตัวขึ้นมารับใบหน้านั้นยังเป็นช็อกบังคับ แทบทุกเรื่องในโรงเรียนจะต้องมีแก๊งตัวร้ายสวยๆ หุ่นดีแต่นิสัยไม่ดี และพวกเธอมักจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์เสมอ ไม่รู้ทำไม
ฉันคงไม่ต้องยกตัวอย่างว่าภาพยนตร์ในโซนนี้มีเรื่องอะไรบ้าง หากคุณเติบโตมาด้วยบริบทสังคมคล้ายๆ กันคงพอจะนึกชื่อหนังออกในใจได้อย่างน้อยสักเรื่อง สองเรื่อง เมื่อโตมา เราต่างรู้ดีว่าหนังเหล่านี้ได้ปลูกฝัง sterotype และค่านิยมความงามแบบมาตรฐาน รวมถึงสอดแทรกบทบาทหรือกรอบค่านิยมทางเพศมาให้หญิงสาวอย่างพวกเราโดยไม่รู้ตัว ถึงกระนั้น ภาพยนตร์เหล่านี้ก็แสนสนุก เสื้อผ้าน่ามอง จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น guilty pleasure ที่หยิบมาดูซ้ำๆ ก็ยังสนุกได้
แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้ หนัง genre highschool ก็ได้ถูกอัพเดตตามบริบทสังคมไปมาก น่าอิจฉาวัยรุ่นยุคนี้จริงๆ มีหลายเรื่องที่ฉันดูแล้วก็ประทับใจและนึกย้อนกลับไปเสมอว่าถ้าตัวเองตอนอายุ 14-15 ได้ดูหนังแบบนี้ ชีวิตเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ทั้ง Lady Bird, Moxie, Booksmart หรือซีรีส์อย่าง sex education
ฉันพอจะจินตนาการออกด้วยซ้ำว่าตัวเองในวัย 15 อาจจะลุกขึ้นมาวาดรูปดาวบนมือบ้างแบบ Moxie หรือการได้เห็นคาแร็กเตอร์ที่ทลาย stereotype เดิมๆ ในหนังไฮสกูลแบบ Booksmart , ความไม่ perfect ใน relationship หรือโมเมนต์โรแมนติกที่ awkward แบบในซีรีส์ และที่สำคัญ ฉันคงมองเห็นเส้นที่บิดเบี้ยวบนตราชั่งในหมวดเพศของสังคมชายเป็นใหญ่นี้
มีหลายๆ ซีนใน Moxie ที่หวนให้ฉันนึกถึงตัวเองในวัยเด็ก ตัวละคร Lucy นั้นเท่และน่าเอาเป็นแบบอย่างของความไม่สยบยอมต่อความรุนแรง ความอยุติธรรม ฉันในวัยเด็กคงอยากเป็นหญิงสาวที่มั่นใจและกล้าพูดในสิ่งที่คิดแบบนั้นบ้าง แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม ฉันไม่รู้ว่านักอ่านผู้ชายจะเคยมีประสบการณ์แบบนี้มั้ย แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าหญิงสาวที่ได้อ่านคงเคยประสบเหตุการณ์คล้ายๆ กันแบบนี้มาบ้าง ไม่งั้นคงไม่มีกระแส #metoo
ฉันในวัยเด็กเคยโดนลวนลามและคุกคามทางเพศมาอย่างน้อยก็ 3 ครั้ง เท่าที่จำได้ ครั้งแรกคือในห้องเรียนดนตรี ครูผู้ชายเอามือมาจับที่ขาอ่อนของฉัน ครั้งที่ 2 เพื่อนชายร่วมชั้นเรียนจับหน้าอกของฉัน และครั้งที่ 3 เป็นอย่างน้อย คือมีโรคจิตชายเดินมาเปิดอวัยวะเพศให้ฉันดูระหว่างที่ฉันกำลังไปโรงเรียน
ในช่วงวัยนั้น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือการคุกคามทางเพศ ฉันสยบยอมและไม่ได้ทำอะไร คุณอาจมองว่ามันเล็กน้อย แต่การกระทำเหล่านั้นทำให้ฉันและหญิงสาวอีกหลายคนต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังตัวมากขึ้นไปอีก จากเหตุการณ์โดนจับหน้าอกในชั้นเรียน ฉันไม่กล้าบอกใครเพราะไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ กลัวเพื่อนในชั้นจะรู้และเอามาล้อเลียน ลึกๆ ฉันอาจกลัวว่าคุณค่าของฉันจะถูกลดทอนลงด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นไม่จริงเลย น่าเสียดายและน่าโมโหที่ฉันในวันนั้นขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้
หากว่า Juli baker and summer ในวันนั้นได้รู้จัก Lucy เสียก่อนหลายๆ อย่างคนต่างออกไป ไม่แน่​ ฉันอาจจะทำ zine สักเล่มแบบในหนัง หรือพูดคุยรวมตัวกับเพื่อนสาวที่เคยประสบมาเหมือนกัน
จาก a cinderella story, The Princess Diaries มาสู่ Moxie, Booksmart ฉันเชื่อว่าหญิงสาวใน highschool คง relate กับตัวละครในหนังได้ง่ายขึ้น ฉันรัก Mia ใน The Princess Diaries ก่อนถูกแปลงโฉมเสมอ และรักความมั่นใจของเธอในตอนท้ายเรื่อง
ถ้า Lucy จาก Moxie เดินเข้าไปหา Mia ใน The Princess Diaries ได้ เธอคงมีความมั่นใจมากขึ้นในแบบที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครเลย
แม้จะย้อนเวลากลับไปไม่ได้ หรือเปลี่ยนแปลงหนังในยุคนั้นให้ใส่ใจประเด็นความเท่าเทียมเพศเพื่อให้ฉันกล้าลุกไปพูดในสิ่งที่กลัวไม่ได้ แต่การได้เติบโตผ่านหนัง coming of age ในยุคที่เปลี่ยนผ่านสู่ coming of age อีกยุคหนึ่งได้นั้นก็น่ายินดี ช้าหน่อย แต่ก็น่ายินดี (ป.ล. Moxie, Sex Education มีใน Netflix Booksmart ดูได้ใน HBO)

AUTHOR