ปัจจุบันโลกออนไลน์ได้กลายเป็นสังคมใหญ่ที่ประกอบไปด้วยผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม และต่างอายุ โดยมีผู้ใช้ตั้งแต่เด็กเล็กๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่และคนชรา ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรืออินเทอร์เน็ต ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ใครๆ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นครีเอเตอร์ได้อย่างง่ายดาย ผ่านรูปแบบการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลายจนเกิดเป็นกระแสความนิยมในคนรุ่นใหม่
เมื่อประกอบกับความกระหายในยอดไลก์ ยอดแชร์ ที่สังคมออนไลน์หล่อหลอมมา ยิ่งคอนเทนต์ที่ทำถูกแชร์มากเท่าไหร่ คนคนนั้นก็ยิ่งรู้สึกเป็นส่วนสำคัญของสังคมมากเท่านั้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันเล็กๆ ในหมู่ครีเอเตอร์จนเกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เพื่อเรียกความนิยม ยอดไลก์ และยอดแชร์ เช่น การถ่ายวิดีโอระหว่างขับรถ การแอบถ่ายผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีความล่อแหลมทั้งคำพูดและการกระทำ
ในประเด็นนี้ คุณณัฐวดี ณ มโนรม นักสังคมสงเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเด็กๆ ที่เข้ามาปรึกษานักสังคมสงเคราะห์ พบปัญหาความรุนแรงผ่านการใช้งานแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ โดยมีทั้งถูกกลั่นแกล้ง ถูกล่อลวง และถูกชักจูงไปหาพฤติกรรมที่ไม่ดี
TikTok สนุกได้ ปลอดภัยด้วย ถ้า ‘คิดก่อนถ่าย’
หากพูดถึงแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงนี้ TikTok ถือว่าติดอันดับต้นที่ทุกคนนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะด้วยคอนเทนต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ บิวตี้ Vlog การแสดงความสามารถ เอนเตอร์เทนเมนต์ อาหาร และการท่องเที่ยว รวมถึงเครื่องมือการใช้ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกคนได้เป็นครีเอเตอร์พร้อมสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วยตัวเอง
แม้ว่าจะมีผู้ใช้มากมายที่มุ่งสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อความสนุกสนาน แต่ก็ยังมีผู้ใช้บางรายที่โพสต์คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาส่งเสริมการใช้พฤติกรรมความรุนแรงที่เป็นอันตราย TikTok จึงรณรงค์ให้ผู้ใช้ได้หยุดคิดและทบทวนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการโพสต์คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม
เกิดเป็นแคมเปญ #thinkb4youdo (คิดก่อนถ่าย) ซึ่งเป็นดั่งสื่อกลางในการแบ่งปันมุมมอง ‘คิดก่อนถ่าย’ ของทุกคน เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นก่อนลงมือสร้างสรรค์คอนเทนต์ทุกครั้ง พร้อมสนับสนุนให้เกิดการส่งต่อความรู้และมุมมองดีๆ เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างปลอดภัย
โดยที่ผ่านมามีครีเอเตอร์คนดังมากมายเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ อาทิ
นักพากย์ตั่วเฮีย (TikTok ID: @firstvoice) ผู้นำเสนอคลิปวิดีโอที่เล่าเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรกระทำ เช่น ถ่ายคลิปบริเวณถนนหรือไลฟ์ขณะขับรถ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือพฤติกรรมลอกเลียนแบบได้
เภสัชฟลุคกี้ (TikTok ID: @flukiie) ผู้สร้างสรรค์คลิปวิดีโอ อยากชวนให้ทุกคนคิดก่อนถ่าย…อย่าเป็นแบบน้องเหมียวเหมียวนะ นำเสนอเรื่องราวการไลฟ์ขายหรือรีวิวสินค้าที่มีโฆษณาเกินจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนอาจเป็นอันตรายต่อผู้เสพคอนเทนต์ได้
นอกจากนี้ยังมี ครูพี่แอน (TikTok ID: @KruPAnn) ผู้สร้างสรรค์คลิปสอนภาษาอังกฤษพร้อมสอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับการแอบถ่ายผู้อื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม เป็นต้น
นอกจากนี้ TikTok ยังมีนโยบายและเครื่องมือที่ช่วยปกป้องรวมถึงดูแลผู้ใช้ พร้อมพัฒนาฟังก์ชั่นเพื่อความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดอายุของผู้ใช้งานที่ต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป (Age gate) พร้อมนำเสนอฟังก์ชั่นช่วยคัดกรองเนื้อหา (Restricted Mode) เพื่อจำกัดเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสม และล่าสุดกับตัวช่วยคุณพ่อคุณแม่อย่าง Family Pairing ฟังก์ชั่นที่ช่วยเชื่อมต่อบัญชีของผู้ปกครองและเด็กเข้าด้วยกัน เพื่อควบคุมระยะเวลาในการใช้แพลตฟอร์มรวมถึงขอบเขตการรับชมคอนเทนต์ของเด็กๆ ให้เยาวชนสามารถสนุกกับ TikTok ได้อย่างปลอดภัย
TikTok สนับสนุนการสร้างสังคมออนไลน์ที่ดีด้วยความร่วมมือของทุกคน
นับว่าเป็นเรื่องดีและน่าชื่นชมที่เหล่าครีเอเตอร์ชื่อดังออกมารณรงค์เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อโลกเสมือนจริงขนาดใหญ่นี้ด้วยตัวเอง แต่สังคมออนไลน์ที่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเราทุกคนไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการ ‘คิดก่อนถ่าย’ และปล่อยให้ยอดไลก์ ยอดแชร์ อยู่เหนือความรับผิดชอบ เพราะนั่นทำให้เราทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหัวใจสำคัญที่ครีเอเตอร์และคนเล่นโซเชียลฯ ทุกคนควรมีคือการแสดงความรับผิดชอบ และความมุ่งมั่นในการสร้างความสุข ความสนุกสนาน รวมทั้งแบ่งปันประโยชน์ดีๆ ให้กับผู้ใช้คนอื่นๆ
ร่วมแชร์ไอเดียในการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างปลอดภัย เพียงถ่ายวิดีโอและใช้สติกเกอร์ #thinkb4youdo และโพสต์วิดีโอลงใน TikTok พร้อมติดแฮชแท็ก #thinkb4youdo และตั้งค่าเป็นสาธารณะ
แล้วมาสร้างโลกโซเชียลฯ ที่สนุกสนานและปลอดภัยด้วยกันนะ 🙂
