Fire-King เป็นแบรนด์ภาชนะในครัวเรือนจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในอเมริกาและญี่ปุ่น มีจุดเด่นที่แตกต่างจากภาชนะแบรนด์อื่นคือเนื้อ milk glass ของภาชนะซึ่งมีสีขุ่น ลักษณะคล้ายนม โชคทิพย์ เตชะจุฑาศรี ผู้สะสมผลิตภัณฑ์ Fire-King จึงเรียกติดปากว่า ‘แก้วเนื้อนม’
เดิมทีโชคทิพย์มีพื้นที่ในการเก็บสะสมของเพียงเล็กน้อยเนื่องจากอาศัยอยู่ในทาวน์เฮาส์ที่เป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ เท่านั้น กระทั่งเมื่อมีบ้านเป็นของตัวเอง เขาจึงได้โอกาสสะสมสิ่งของมากขึ้น โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือเพื่อนำมาตกแต่งพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งแน่นอนว่าแก้ว Fire-King คือหนึ่งในสิ่งของเหล่านั้น
“เราเป็นคนชอบแต่งห้องมานานแล้ว พอมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นก็เริ่มหาของมาตกแต่ง ทั้งสัตว์สตัฟ เฟอร์นิเจอร์ แล้วเราก็มาเจอกับ Fire-King เพราะรุ่นพี่คนหนึ่งที่อยู่อเมริกาแนะนำให้รู้จัก เขาบอกว่าที่เมืองนอกนิยมเล่นกันในราคาสูงมาก แต่บ้านเรายังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เขาบอกว่าถ้าเราไปเจอที่ไทยถูกๆ ก็ซื้อเก็บไว้ให้เขาบ้าง เราศึกษาไปๆ มาๆ ก็ชอบเองเลยได้เก็บสะสมและเอามาตกแต่งบ้านบ้าง” โชคทิพย์เล่ากลั้วเสียงหัวเราะ
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เขาเก็บสะสมภาชนะ Fire-King ไว้กว่าพันชิ้นตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี โดยมีภาชนะหลายอย่างทั้งถ้วย จาน ชาม หรือเครื่องครัวต่างๆ
“จำได้ว่าชิ้นแรกที่เราเจอคือจาน ได้มาจากร้านขายของเก่าข้างวัดสวนแก้ว จานใบนี้สะดุดตาเราเพราะสี เราได้มาในราคาที่ถูกมาก แค่ใบละร้อยเอง ไม่แพงอย่างที่รุ่นพี่บอกเลย
“ข้อดีของ Fire-King คือนอกจากจะสวยและใช้เป็นของตกแต่งได้แล้ว ยังเก็บความร้อนได้ดีเพราะเนื้อหนา เข้าไมโครเวฟ เข้าเตาอบได้ เราชอบทำอาหาร แล้วบางทีเราทำอาหารด้วยเตาอบหรือเตาแก๊สก็สามารถใช้ภาชนะ Fire-King ได้เลย”
นักสะสมส่วนใหญ่เน้นเก็บแก้วเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่ญี่ปุ่นซื้อ Fire-King ไปผลิตต่อ ทำให้แก้วที่ประทับตรา Made in USA ซึ่งเลิกผลิตไปแล้วมีราคาสูงกว่า Made in Japan
ความสนุกอย่างหนึ่งคือ Fire-King มักร่วมงานกับแบรนด์อื่นๆ เช่น BURGER KING, Starbucks, KFC หรือกระทั่งตัวการ์ตูนต่างๆ เพื่อผลิตคอลเลกชั่นพิเศษออกมา โดยคอลเลกชั่นที่เขาชอบที่สุดคือคอลเลกชั่นที่ร่วมมือกับตัวการ์ตูนโปรดของเขาอย่าง สนูปปี้
“เราชอบเนื้อแก้วที่สวย รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้พอมีแล้วก็อยากจะมีเพิ่มอีก และจะชอบเป็นพิเศษถ้ามีลายการ์ตูนอยู่บนแก้ว เพราะเราชอบการ์ตูน”
แม้ภาชนะแบรนด์ Fire-King จะมีองค์ประกอบพิเศษที่ทำให้โชคทิพย์ชอบ ทว่าสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดในการสะสมคือวิธีการได้มาในราคาที่ถูกกว่าราคากลางที่ซื้อ-ขายกันใน eBay
“เราเป็นคนที่ไม่ค่อยซื้อของแพง เราถือคติว่าการได้ของแพงมาในราคาถูกเหมือนเราเป็นผู้ชนะ” โชคทิพย์มักใช้วิธีการเดินหาตามร้านขายของมือสองญี่ปุ่นบ้าง หรือตามตลาดขายของเก่า ถ้าเจอที่ซ้ำเขาก็จะซื้อเก็บไว้แลกกับนักสะสมคนอื่นๆ กระนั้นบางทีถ้าเจอลายที่ชอบในราคาถูก ต่อให้มีแล้วและไม่ได้คิดจะเก็บไว้แลกกับใคร เขาก็ยังซื้อเก็บไว้อยู่ดี
“เวลาเจอแก้ว Fire-King ทีไร เราอยากซื้อตลอด ซ้ำก็ยังซื้อ คงเลิกเล่นไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ในอนาคตเราอาจจะไม่ได้สะสมอย่างเดียว แต่จะนำไปใช้ทำอย่างอื่นด้วย สักวันเราจะเปิดคาเฟ่ โดยจะเสิร์ฟน้ำและอาหารด้วยภาชนะ Fire-King ซึ่งมีประโยชน์กว่าวางโชว์ไว้เฉยๆ เวลาเรากินในจานชามหรือดื่มจากแก้วที่เป็น Fire-King มันฟินดี นอกจากได้กินแล้วก็ถ่ายรูปโชว์ได้ด้วย”
สำหรับคนทั่วไป มองเผินๆ สิ่งของเหล่านี้อาจจะเป็นแค่ภาชนะธรรมดา แต่อย่างน้อยการที่สะสมมาจนถึงจุดนี้ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในแวดวงนักสะสมมากขึ้น และเป็นคุณค่าทางใจที่ยังคงมีบทบาทในชีวิตประจำวันของโชคทิพย์อยู่เสมอ
“เวลามองคอลเลกชั่นของตัวเอง เราภูมิใจว่ากว่าจะได้มามันมีเรื่องราวในชิ้นนั้นๆ แถมเก็บติดบ้านไว้แล้วมีความสุข”
โชคทิพย์พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าความสุขนั้นแสนเรียบง่าย เพราะเกิดขึ้นได้จากการมอง การดื่มด่ำ การใช้งาน และการสะสม Fire-King ในบ้านของตัวเอง
Five Kings of Fire-King
ท่ามกลางภาชนะจาก Fire-King นับพันใบ เราแอบสงสัยว่าที่สุดของ ‘ราชาไฟ’ สำหรับโชคทิพย์นั้นจะเป็นใบไหนบ้าง และนี่คือภาชนะสุดโปรดทั้ง 5 ใบที่โชคทิพย์ยกให้เป็นภาชนะชั้นแนวหน้าจากทั้งหมด เชิญพบกับราชาทั้ง 5 บัดเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ
1. แก้วสนูปปี้
“เราชอบแก้วใบนี้ที่สุดเพราะมีตัวการ์ตูนที่เรารักอยู่ จริงๆ ถ้าลองมองดูตามมุมบ้านจะเห็นว่ามีสนูปปี้อยู่ทุกที่”
2. แก้วเหนียว Rubber
“แก้วใบนี้แปลกกว่าใบอื่นตรงที่รอบๆ แก้วจะมียางเหนียวๆ อยู่ เขาผลิตมาให้เด็กจับแล้วมันจะไม่หลุดมือ เราเคยเอาไปล้างก็ไม่หายเหนียว แปลกดี”
3. ชุดจานชามภาชนะเนื้อหยก เซต Jane Ray, Shell และ Restaurant Ware
“เราชอบสีเขียวเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นภาชนะสีเขียวที่มาอยู่รวมกันยิ่งสวย สีเขียวของเซตที่เรามีเป็นเนื้อหยก ทั้งหยกขาวและหยกเขียว เวลาถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ใครเห็นแล้วรู้เลยว่าเป็น Fire-King เพราะสีเขียวหยกแบบนี้ไม่มีใครเหมือน”
4. Mickey Mouse Stacking Mug
“ใบนี้จัดทำขึ้นตอนงานเปิด Tokyo Disneyland ราคาปัจจุบันอยู่ที่หมื่นกว่าบาท ที่พิเศษคือเป็นใบที่ Made in USA เลยทำให้ตอนนี้ยิ่งแพงขึ้นไปอีก แต่ผมไปเจอในร้านขายของญี่ปุ่นมือสองราคา 60 บาท”
5. ที่เขี่ยบุหรี่เนื้อหยก Fire-King Jadeite Ashtray
“ได้มายากที่สุด ใบอื่นมีเงินก็ซื้อได้แต่ใบนี้ต้องหาของไปแลกกับเขา เจ้าของเดิมบอกว่าอยากได้แก้วกาแฟ Fire-King ที่เนื้อหยกแบบเดียวกัน โชคดีที่เรามีแก้วใบนั้น สุดท้ายก็ได้มา เราดีใจมาก เพราะที่เขี่ยบุหรี่ในไทยมันหายาก เรามีอันนี้แค่อันเดียวเอง”
อ่านเรื่องราวของโชคทิพย์และนักสะสมคนอื่นๆ เพิ่มได้ใน a day 229 ฉบับ The Collectors สั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ godaypoets.com/product/a-day-229-the-collectors