5 คาเฟ่ใจกลางไทเปที่เสิร์ฟกาแฟทุกแก้วด้วยความพิถีพิถัน

พอพูดถึงไต้หวัน คงพอนึกออกว่าเครื่องดื่มหลักของคนที่นี่จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากชา (และชานมไข่มุก) กาแฟอาจไม่ใช่เครื่องดื่มที่ป๊อปสักเท่าไหร่ในเมืองที่คนนิยมดื่มชา แต่ทริปไต้หวันของเรากลับบอกเราว่า ไทเปเป็นสวรรค์ขนาดย่อมของคนชอบดื่มกาแฟ

สีสันในวงการกาแฟของไต้หวันนับว่าไม่ธรรมดาเลย ที่นี่มีบาริสต้าแชมป์โลกอยู่หลายคน ด้วยเหตุผลนี้เราสามารถหาร้านกาแฟ specialty ในเมืองหลวงของไต้หวันอย่างกรุงไทเปได้ไม่ยาก แต่ขอเตือนไว้เล็กน้อยว่าเวลาเปิด-ปิดของร้านกาแฟที่นี่อาจแปลกหน่อย บางร้านเปิด 11 โมง บางร้านก็เปิดเอาตอนบ่าย 2 ไม่มีเวลาตายตัวเหมือนคาเฟ่ในบ้านเราเท่าไหร่ ใครที่สนใจไปฮอปปิ้งที่ไทเปอาจจะต้องแพลนเวลากันดีๆ


01 Peloso Coffee Roasters

เราเจอร้านนี้หลังจากที่ทอดน่องเดินเล่นบนถนน Nanhai และ Heping เสน่ห์ของถนนเส้นนี้คือมีต้นยูคาลิปตัสเรียงรายทั้งสองข้างทาง เมื่อเดินไปจนสุดทางเราจะเจอกับ Taipei Botanical Garden พอเดินทะลุไปอีกด้านหนึ่งของสวนก็จะเจอกับคาเฟ่ Peloso Coffee Roasters

เปิดประตูเข้าไปเราจะเจอกับบาร์สีเข้มที่ทอดตัวยาว ตัดกับผนังสีเขียวเวอริเดียน นอกจากบาริสต้าที่นี่จะอัธยาศัยดีมากๆ แล้ว พวกเขาค่อนข้างใส่ใจกับการเสิร์ฟเอสเพรสโซช็อตมาก พวกเขาจะทำช็อตกาแฟเพื่อชิมเองก่อนเสิร์ฟแทบทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าช็อตกาแฟรสกลมกล่อมและหวานตบท้ายของที่ร้านจะเป็นกาแฟที่อร่อยสำหรับลูกค้าทุกคน

หลังจากลิ้มรสกาแฟช็อตแรก เราสั่งกาแฟดริปที่ใช้เมล็ด Honduras สายพันธุ์ IH90 แปรรูปแบบตากแห้ง (natural process) ชิมเป็นแก้วที่สอง รสชาติกาแฟดริปแก้วนี้ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนผลไม้เมืองร้อนอย่างมะม่วงสุกหรือเสาวรส ยิ่งทานคู่กับชีสเค้กโฮมเมดที่ขายในร้านก็ยิ่งเข้ากัน

Peloso Coffee Roasters มีอีกสาขาหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Peloso 2 / what the shot ตั้งอยู่ที่ถนน Fujin แหล่งฮิปสเตอร์คล้ายย่านทองหล่อในบ้านเรา ตัวร้านทั้งสองสาขาจะตกแต่งคนละสไตล์ ให้บรรยากาศที่ต่างกัน สาขาที่สองจะเน้นไม้ ให้ความรู้สึกมินิมอลโทนอบอุ่นมากกว่า แต่มั่นใจได้เลยว่าทั้งคู่ใช้กาแฟมาตรฐานเดียวกัน

Peloso Coffee Roasters
hours: จันทร์-อาทิตย์, 13:00-21:00 น.
what the shot
hours: จันทร์-อาทิตย์, 9:00-19:00 น.
instagram: @pelosocoffee


02 Jack & Nana COFFEE STORE

เราใช้เวลาเดินจากย่าน Dongmen ย่านชิคอีกย่านหนึ่งของไทเปประมาณ 10 นาที ที่นี่เป็นคาเฟ่กึ่ง coffee stand เล็กๆ ที่ Jack และ Nana สองเจ้าของร้านสุดเนี้ยบดูแลร่วมกัน ลูกค้าสามารถเลือกนั่งได้ทั้งโซนด้านในและโซนด้านนอกที่มีเพียง 4 ที่นั่ง เราเลือกนั่งด้านในร้านเพราะอยากเห็นการทำงานของบาริสต้า บาร์กาแฟที่นี่ค่อนข้างเป็นระเบียบ ดูจากเครื่องบดราคาแพงที่ร้านใช้แล้วเดาได้เลยว่าพวกเราต้องซีเรียสกับการบดกาแฟเอามากๆ

สำหรับเมนูกาแฟดริปที่นี่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายมากๆ ตั้งแต่เมล็ดที่เจ้าของร้านคัดมาคั่วเองไปจนถึงเมล็ดกาแฟประมูลอย่าง Esmeralda, Gesha Village วันนี้เราสั่งกาแฟดริปที่ใช้เมล็ดจากเอธิโอเปียมาทานคู่กับ Oolong Cheesecake โฮมเมด และปิดท้ายด้วยเอสเพรสโซช็อตรสขม

Jack & Nana COFFEE STORE
hours: จันทร์-ศุกร์, 11:oo-20:oo น. / เสาร์-อาทิตย์, 13:00-20:00 น.
instagram: @jacknanacoffees


03 The Lobby of Simple Kaffa

ร้านชื่อดังแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้โรงแรม Hotel V เจ้าของร้านก็คือคุณ Berg Wu มีดีกรีเป็นบาริสต้าแชมป์โลกเวที World Barista Champion ปี 2016 เมนูกาแฟของที่ร้านจึงเต็มไปด้วยกาแฟระดับเทพมากมาย ชนิดที่ว่าเลือกแทบไม่ถูกเลยทีเดียว

บาริสต้าที่ร้านแนะนำให้เราลองกาแฟเอสเพรสโซ Colombia La Esperanza Hanami Geisha ที่น่าสนใจคือที่ร้านมีการเสิร์ฟกาแฟแบบ 1+1 (one plus one) คือเสิร์ฟเอสเพรสโซช็อตคู่กับกาแฟนมเพื่อโชว์ว่าเมล็ดกาแฟที่ร้านใช้สามารถดื่มอร่อยได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟนมนั่นเอง ซึ่งกาแฟช็อตที่เราได้ลองนี้ รสชาติออกหวาน ให้กลิ่นเหมือนลูกพีชสด และกาแฟนมก็อร่อยกลมกล่อมชวนนึกถึงลูกอมพีช

มาบ้านของบาริสต้าแชมป์โลกทั้งทีจะให้ลองเมนูเดียวก็ดูธรรมดาไปหน่อย เราลองชิมกาแฟดริปที่ใช้เมล็ดจาก Panama 90+ Geisha Estate Founder’s Selection ที่เป็นลอตพิเศษของบริษัทผู้ผลิตกาแฟเบอร์ต้นๆ ของโลกอย่าง Ninety Plus ขอแอบกระซิบว่าราคาโหดมาก (ราวๆ หนึ่งพันบาท) แต่รสชาติฉ่ำๆ ออกสตรอว์เบอร์รีและลูกพีช ทิ้งท้ายด้วยความหวานจากกาแฟแก้วนี้จัดเป็นประสบการณ์หายากที่คุมค่ากับราคาที่จ่ายไปจริงๆ

ที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้เมนูกาแฟก็คือขนม เราชิม Matcha Roll เนื้อนุ่มและหวานกำลังดี และ Parmigiano Cheese Pie ปกติแล้วเราแทบไม่ค่อยเห็นคนนำชีสชนิดนี้มาทำเป็นขนม แต่ชีสพายชิ้นที่อยู่ตรงหน้าเรานี้รสชาติอร่อยเข้มข้นเอาเรื่องมากทีเดียว

The Lobby of Simple Kaffa
hours: จันทร์-พฤหัสบดีและอาทิตย์, 12:30-21:30 น. / ศุกร์-เสาร์, 12:30-22:00 น.
facebook: thelobbyofsimplekaffa


04 VWI by CHADWANG

Chad Wang ชายเจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้คือบาริสต้าแชมป์โลกจากรายการ World Brewers Cup 2017 เราโชคดีมากที่ได้รับคำเชิญให้ไปเยือนร้าน VWI ในวันแรกที่เขาเปิดร้าน ส่วนชื่อร้าน VWI ได้ไอเดียมาจากอักษรนำของรูปแบบหลักๆ ของน้ำซึ่งได้แก่ Vapor (ไอน้ำ), Water (น้ำ) และ Ice (น้ำแข็ง) พื้นที่ในร้านจะแบ่งเป็นสองโซนหลัก ชั้นแรกเป็นบาร์ปูนเปลือยสำหรับรับออร์เดอร์ ส่วนชั้นสองเป็นชั้นสำหรับการนั่งจิบกาแฟแบบสงบๆ

เมนูกาแฟที่นี่ก็แปลกไม่เหมือนใคร ทางร้านจะให้ลูกค้าเลือกสองแบบคือ daily กับ limited (ความหมายคือบาริสต้าระดับ senior เป็นคนชง) เราสั่ง Panama Volcan Gesha Natural จาก Ninety Plus โดยที่ Chad Wang ให้เกียรติลงมือชงให้เราเองเลย คำแนะนำจากเราคือ ถ้าไปถึงที่ก็ต้องลองชิมฝีมือดริปที่ไม่ธรรมดาของเจ้าของร้านคนนี้สักครั้งแล้วล่ะ

VWI by CHADWANG
hours: จันทร์-อาทิตย์, 8:00-19:00 น. (หยุดวันอังคาร)
instagram: @vwibychadwang


05 Rufous Coffee

ร้านตั้งอยู่ในละแวก Da’an ดูจากหน้าร้านเราจะรู้สึกทันทีเลยว่า Rufous Coffee เป็นคาเฟ่ที่ค่อนข้างเก่าและเก๋าประสบการณ์มาก เพราะที่นี่มีลูกค้าขาประจำและขาจรเยอะมาก เราชอบร้านนี้ตรงที่ด้านในร้านมีขนาดกว้างแบบพอดีๆ ตกแต่งคล้ายๆ กับร้านกาแฟเก่าที่ญี่ปุ่น และมีที่นั่งรอบบาร์กาแฟให้ลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์กับบาริสต้าด้วย

ตอนแรกเราตั้งใจไปดื่มกาแฟดริปที่นี่เพราะเสียงเชียร์จากเพื่อนชาวไต้หวัน แต่โชคร้ายที่เมล็ดกาแฟตัวนั้นหมดพอดี เราเลยปลอบใจตัวเองด้วยการสั่งเอสเพรซโซช็อตแทน เมนูเอสเพรสโซที่นี่บอกเลยว่ารสชาติสมดุลและหวานสุดๆ ที่น่าสนใจคือที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับวิธีการเสิร์ฟกาแฟ สังเกตได้จากเมนูเอสเพรสโซที่พวกเขาตั้งใจเสิร์ฟในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน กาแฟที่ชวนให้เราอยากจิบแบบละเมียดและบรรยากาศที่แสนเงียบสงบของร้านเหมาะเหม็งกับการนั่งชิลล์ในวันอากาศดีจริงๆ

Rufous Coffee
hours: จันทร์-อาทิตย์, 13:00-21:30 น. (หยุดวันพฤหัสบดี)
instagram: @rufous_coffee

AUTHOR