จักรวาลของสะสมของ อาร์ต อธิศ แฟน Star Wars ผู้เคยใส่ชุดสตอร์มทรูปเปอร์ไปกระทบไหล่ผู้สร้างถึงอเมริกา

Highlights

  • อาร์ต–อธิศ รุจิรวัฒน์ แฟนพันธุ์แท้ Star Wars ปี 2544 เริ่มสะสมสิ่งของเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส ตั้งแต่ตอนอายุ 8 ขวบ ไอเทมชิ้นแรกของเขาคือฟิกเกอร์ Snowtrooper ที่เข้าใจผิดว่าเป็น Stormtrooper เพราะเป็นทหารใส่ชุดสีขาวเหมือนกัน
  • อาร์ตหลงใหลใน สตาร์ วอร์ส เพราะชอบกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาด แต่เขาเคยหยุดสะสมไปพักใหญ่จนกลับมาเก็บอีกครั้งเพราะมีโอกาสแปลซับไตเติลภาพยนตร์ชุด Star Wars Special Edition ที่ทำขึ้นเพื่อต้อนรับไตรภาค 1-3
  • ด้วยเวลาเก็บกว่า 40 ปีกับของสะสม สตาร์ วอร์ส หลายพันชิ้น หลายคนจึงยกย่องให้เขาเป็นซูเปอร์คอลเลกเตอร์ของ สตาร์ วอร์ส แต่สิ่งที่อาร์ตมองว่าสำคัญหาใช่จำนวนไอเทม แต่คือความทรงจำที่ผูกติดกับพวกมันต่างหาก

a long time ago in a galaxy far,

far away…

 

STAR WARS
COLLECTOR

ความประทับใจของ อาร์ต–อธิศ รุจิรวัฒน์
ต่อ Star Wars หนังไซ-ไฟ
ว่าด้วยเรื่องราวการต่อสู้ในอวกาศ
ระหว่างฝ่ายกบฏและจักรวรรดิเอ็มไพร์
เกิดขึ้นในวัยเด็กของเขา

อาร์ตรู้จักมหากาพย์เรื่องนี้จากหนังสือการ์ตูน
ต่อยอดสู่การดูหนังและสะสมฟิกเกอร์
โดยไม่มีเป้าหมายใด
เพียงใช้ความชอบเป็นแรงผลักดัน

เกือบ 40 ปีผ่านไป
อาร์ตถูกขนานนามว่าเป็น super collector
ผู้สะสมสิ่งของเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส
ได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

และนี่คือเรื่องราวของชายผู้หลงใหล
ในมหากาพย์การต่อสู้ระหว่างดวงดาว
จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต…

 

 

Episode I

“Luke, I am your father.”

แม้ไม่เคยดู Star Wars: Episode V The Empire Strikes Back แต่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับประโยคนี้ ตอน Darth Vader พูดประโยคนี้กับ Luke Skywalker บนจอภาพยนตร์ใน พ.ศ. 2526 ใครจะคิดว่ามันจะกลายเป็นซีนไอคอนิกของโลกภาพยนตร์ และทำให้ สตาร์ วอร์ส กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ชุดระดับตำนานที่อยู่ในใจใครหลายคนจนถึงปัจจุบัน

อาร์ต–อธิศ รุจิรวัฒน์ รู้จัก สตาร์ วอร์ส ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ตอน Star Wars: Episode IV A New Hope ออกฉายและกวาดรายได้จากทั่วโลกกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอนนั้นเขาในวัย 8 ขวบได้ยินกิตติศัพท์ลือเลื่องของหนังอวกาศเรื่องนี้แต่ไม่เคยดูสักที 

ทว่าแทนที่จะเป็นแผ่นฟิล์ม อาร์ตกลับได้สัมผัสความสนุกของ สตาร์ วอร์ส เป็นครั้งแรกบนหน้ากระดาษ 

“ตอนเด็กๆ พ่อไปซื้อหนังสือวิชาการที่ร้าน DK แถวสยามทุกสัปดาห์ เราก็ชอบตามพ่อไปจนเจอหนังสือการ์ตูนคอมิกเล่มหนึ่งที่ก๊อปเนื้อเรื่องของ Star Wars: Episode IV A New Hope แต่เปลี่ยนไดอะล็อกให้เป็นภาษาไทย ราคาไม่ถึง 15 บาท” ไม่รอช้า เขาซื้อหนังสือเล่มนั้นกลับบ้าน และตามประสาเด็กที่ชอบหนังไซ-ไฟฮอลลีวูดเป็นทุนเดิม เขาตกบ่วงความสนุกของสงครามอวกาศเรื่องนี้ทันที

แล้วความชอบก็ต่อยอดมาสู่การสะสม อาร์ตซื้อฟิกเกอร์ สตาร์ วอร์ส ตัวแรกจากห้างในอเมริกาตอนที่เขาตามติดพ่อแม่ไปที่นั่น ช่วงนั้น A New Hope กำลังบูมถึงขีดสุด และบริษัท Kenner ผู้ถือลิขสิทธิ์ของเล่น สตาร์ วอร์ส ยุคนั้นกำลังขายของเล่นได้เป็นกอบเป็นกำแบบที่ไม่เคยมีหนังไซ-ไฟเรื่องไหนทำได้ 

“วันแรกพ่อพาไปเดินห้าง เราไปเจอแผงที่มีฟิกเกอร์ สตาร์ วอร์ส แขวนรวมกันเป็นร้อยๆ ตัว ช่วงนั้นยังไม่เคยดูหนัง อ่านแต่หนังสือการ์ตูน เลยยังไม่รู้จักคาแร็กเตอร์ดีพอ จำได้คร่าวๆ ว่ามีดาร์ธ เวเดอร์ และลุค สกายวอล์กเกอร์ เรามีเวลาแค่แป๊บเดียว เลือกไม่ถูกสักทีก็เลยหยิบตัวนี้เพราะชอบคาแร็กเตอร์ที่ไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดา นึกว่าเป็น Stormtrooper แต่มารู้ทีหลังว่าเป็น Snowtrooper” 

อาร์ตขยายความว่าสตอร์มทรูปเปอร์กับสโนว์ทรูปเปอร์เหมือนกันตรงที่พวกเขาต่างเป็นทหาร แต่ต่างกันที่ชุดเกราะที่แปรผันไปตามสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ถ้าสตอร์มทรูปเปอร์เป็นดั่งทหารราบ สโนว์ทรูปเปอร์ก็รบในดินแดนที่ปกคลุมด้วยหิมะนั่นเอง

ใครจะรู้ว่าจากฟิกเกอร์ที่ซื้อผิดในวันนั้น อาร์ตจะกลายเป็นเจ้าของคลังของสะสม สตาร์ วอร์ส จำนวนหลายพันชิ้นในวันนี้

Episode II

ก่อนพบกัน เราทึกทักไปเองว่าอาร์ตต้องพาเราเข้าบ้านเพื่อดูมุมของสะสม หรืออย่างมากก็เข้าห้องที่เก็บทุกอย่างเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส ไว้ในนั้น แต่เรากลับแปลกใจเมื่ออาร์ตพาเดินผ่านตัวบ้านไปยังห้องที่สร้างแยกออกมาในอาณาเขตเดียวกัน 

ใช่ เขาสร้างห้องแยกออกจากตัวบ้านเพื่อเก็บของสะสม สตาร์ วอร์ส โดยเฉพาะ

“ขอให้เป็น สตาร์ วอร์ส เราเก็บทุกอย่าง สไตล์การเก็บของเราจะเหมือน Steve Sansweet (นักสะสมเจ้าของสถิติใน Guinness Book ว่ามีของเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส เยอะที่สุดในโลก นั่นคือกว่า 300,000 ชิ้น) เก็บทุกอย่างตั้งแต่ของเล่น เครื่องใช้ในบ้าน ฟู้ดไทอิน แพ็กเกจจิ้ง โปสเตอร์ รูปปั้น” 

อาร์ตเล่าระหว่างพาเราเดินทัวร์ด้านในห้องที่มีไอเทมเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส ตั้งแต่ฟิกเกอร์ตัวเท่านิ้วโป้ง ไปจนถึงหุ่นสตรอมทรูปเปอร์ขนาดเท่าคน ของสะสมบางคอลเลกชั่นถูกจัดไว้ในตู้สวย ในขณะที่บางชิ้นตั้งกระจัดกระจายอยู่นอกตู้เพื่อรอจัดใหม่ แฟนพันธุ์แท้ สตาร์ วอร์ส แซวตัวเองให้เราฟังว่าตั้งแต่สร้างห้องนี้มาก็ไม่เคยจัดจนพอใจได้สักที 

“สิ่งที่ยากที่สุดคือการตั้งให้สวย” เขาโอด

เห็นว่าสะสมของเยอะแบบนี้ สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คืออาร์ตเคยหยุดสะสมของเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส อยู่พักใหญ่

หลังจาก George Lucas สร้าง Star Wars: Episode VI Return of the Jedi ปิดฉากไตรภาคอย่างสมบูรณ์ เขาเว้นช่วงไป 16 ปีก่อนจะกลับมาสร้าง Star Wars: Episode I The Phantom Menace เพราะเทคโนโลยี CGI สมัยใหม่สามารถรับใช้ภาพที่เขาจินตนาการได้

อาร์ตก็เช่นกัน เขาเลิกเก็บของเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส ไปพักใหญ่หลังจาก Return of the Jedi ฉายจบ เมื่อเติบโตขึ้น สายตาของวัยรุ่นก็มองว่าของสะสม สตาร์ วอร์ส เป็นของเล่นเด็ก อาร์ตที่กำลังอินกับดนตรีจึงหันไปสะสมเทปคาสเซต แล้วยกของสะสม สตาร์ วอร์ส ที่เก็บมานานให้เพื่อนคนหนึ่ง

เขากลับมาเก็บของสะสม สตาร์ วอร์ส อีกครั้งตอนอายุเกือบเข้าเลขสาม

โชคดีที่เพื่อนคนนั้นไม่เคยทิ้งของทุกชิ้นของเขา

“ช่วงนั้นเราทำงานเป็นคนจัดผังโปรแกรมให้บริษัทเคเบิลทีวีที่หนึ่งและรับงานแปลซับไตเติลหนังกับซีรีส์เพื่อหารายได้พิเศษ ตอน The Phantom Menace กำลังจะเข้าฉาย เรามีโอกาสได้แปลซับไตเติลให้ 20th Century Fox ในโปรเจกต์ Star Wars Special Edition ที่นำ สตาร์ วอร์ส ภาค 4-6 มารีมาสเตอร์ใหม่ เรารู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับงานนี้ เลยเป็นแรงจูงใจให้กลับมาสะสมอีกครั้ง” 

การสะสมครั้งใหม่เหมือนยานมิลเลเนียมฟัลคอนที่ถูกปัดฝุ่นอีกครั้ง เมื่อเชื้อเพลิงถูกจุดเพื่อออกเดินทางแล้ว มันก็ไม่เคยหยุดอีกเลย

 

Episode III

การกลับมาสะสมครั้งนี้ทำให้อาร์ตเห็นความแตกต่างของการเข้าถึงแรร์ไอเทม แต่ก่อนเวลาอยากได้ของสักชิ้นอาร์ตต้องซื้อนิตยสารต่างประเทศมาเปิดดูหน้าโฆษณา เมื่อสนใจของสะสม สตาร์ วอร์ส ชิ้นไหนเขาก็ต้องโทรทางไกลไปอเมริกาเพื่อสั่งซื้อ ยืมบัตรเครดิตคุณแม่มาจ่าย และรอเวลากว่าสองเดือนกว่าของชิ้นนั้นจะมาถึงมือ

ในขณะที่ยุคนี้มีอินเทอร์เน็ต อีเบย์ เฟซบุ๊ก การซื้อ-ขายของสะสมจึงสะดวกรวดเร็วแค่ปลายนิ้ว กระนั้นอาร์ตก็บอกเราว่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปไม่ได้ส่งผลต่อการเลือกซื้อของที่พิถีพิถันของเขาเท่าไหร่ 

“เมื่อก่อนเราชอบ สตาร์ วอร์ส เพราะชอบการทำการตลาดของเขา เนื่องจากเราทำงานเป็นนักการตลาดด้วย เราชอบเวลาเห็นสินค้าบางอันที่เจ๋งๆ เช่น การร่วมมือของ สตาร์ วอร์ส กับแบรนด์ต่างๆ อย่าง สตาร์ วอร์ส บนแพ็กเกจอาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีคอนเซปต์การทำ movie tie-in promotion แบบนี้เลยนะ เราชอบเลยซื้อให้หมดเลย แต่หลังๆ ยอมรับว่าเราขัดเกลาการเก็บมากขึ้นเพราะทางเลือกมันเยอะเกินไป เก็บไม่ไหว” 

อาร์ตบอกว่าเขาเข้าใจการกว้านซื้อของสะสมทีละเยอะๆ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะสำหรับเขาแล้ว การสะสมคือการให้ความสำคัญกับความทรงจำและเวลา

“เราแค่ชอบและเก็บไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องมีเยอะ ต้องมีทุกอย่าง” เขาบอกว่าสิ่งของที่โฟกัสเป็นพิเศษในวันนี้คือของสะสมที่ผลิตในช่วง ค.ศ. 1977-1985 รวมทั้งของที่ตัวเองเคยพลาดไปสมัยยังเด็ก 

“การสะสมของเราผลักดันด้วยความรักในการสะสมมากกว่า เรายังบอกเพื่อนๆ น้องๆ ที่สนิทกันว่า ไอ้ความสุขจริงๆ มันได้มาจากการตามหามากกว่าการซื้อทีเดียว เพราะการซื้อทีเดียวมันจะไม่มีความผูกพัน แต่ละชิ้นจะไม่มีเรื่องราวของมัน 

“อย่างของเรา เรารู้ว่าของชิ้นไหนได้มาเมื่อไหร่ ใครให้ กว่าจะได้มาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทุกชิ้นมีเรื่องราวเบื้องหลังซึ่งเรารู้สึกว่าคุณค่าของการสะสมมันอยู่ตรงนั้น กลับกัน บางคนเห็นแล้วซื้อเลย 20-30 อัน พอมันง่ายแบบนั้น มันก็จะไม่มีคุณค่า 

“ทุกอย่างในชีวิตนั่นแหละ ถ้าได้มาง่ายๆ ก็จะไม่มีคุณค่า นี่คือสิ่งที่เราเชื่อนะ” เขาย้ำ

Star Wars

Episode IV

เหมือนกับนักสะสมหลายคนที่การสะสมพัดพาให้พวกเขาไปพบคนประเภทเดียวกัน นอกจากจะได้เจอแฟนคลับชาวไทยที่บ้า สตาร์ วอร์ส ไม่แพ้กันในรายการแฟนพันธุ์แท้ปี 2544 (อาร์ตได้ตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้มาครองด้วย) เขายังได้รู้จักและเป็นเพื่อนทางจดหมายกับนักสะสมระดับโลกอย่างสตีฟ แซนสวีต มากกว่านั้นความคลั่งใคล้ยังพาอาร์ตไปสู่จุดที่เขานิยามว่าเป็น ‘จุดพีค’ ของสาวก สตาร์ วอร์ส อย่างเขา

หากใครเป็นแฟน สตาร์ วอร์ส ตัวจริง คงรู้จักกองร้อย 501 (อ่านว่า Five-O-First) เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก ขออธิบายว่า 501 คือกลุ่มแต่งตัว (costume group) ของแฟน สตาร์ วอร์ส ที่เริ่มก่อตั้งช่วงปี 90s โดยแฟน สตาร์ วอร์ส ม่กี่คนที่ไปซื้อชุดสตอร์มทรูปเปอร์แฟนเมดมาใส่ด้วยกัน ซึ่งชุดนั้นมีรายละเอียดถูกต้องตรงตามที่ปรากฏในหนังทุกอย่าง 

เมื่ออินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู กองร้อย 501 ก็เติบโตขึ้นด้วยจำนวนของสมาชิกกลุ่มที่พุ่งสูง จากการใส่เล่นๆ ของแฟนคลับขยับสู่การใส่เพื่อวัตถุประสงค์ที่ใหญ่กว่าคือการแต่งตัวเพื่อกิจกรรมการกุศล เช่น ไปเยี่ยมเด็กในโรงพยาบาลที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง จากนั้น 501 ก็แตกไลน์ย่อยในประเทศอื่นนอกจากอเมริกา กลายเป็นกองพันระดับโลก แต่ละประเทศจะมีสมาชิกที่แชร์พันธกิจเดียวกัน โดยคนที่จะมาเป็นสมาชิกได้นั้นต้องส่งชุดให้เจ้าหน้าที่ของกองร้อยตรวจสอบอย่างละเอียด

กองร้อย 501 ยังได้รับการรับรองจากจอร์จ ลูคัส ผู้ให้กำเนิดจักรวาล สตาร์ วอร์ส ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ สตาร์ วอร์ส โดยปรากฏในหนังภาค 3 เพราะจอร์จเชื่อว่าแฟนคลับคือส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ สตาร์ วอร์ส เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกแถมยังอยู่ในใจคนดูทุกยุคสมัย

ในปี 2550 จอร์จ ลูคัสได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Rose Parade (งานเดินขบวนเฉลิมฉลองการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัย Rose Bowl Game ที่จัดขึ้นทุกวันที่ 1 มกราคมของทุกปี) ที่เมืองแพซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขาจึงชวนตัวแทนกองร้อย 501 จาก 150 ประเทศ จำนวน 300 คนไปร่วมเดินขบวนในชุดสตอร์มทรูปเปอร์

อาร์ตคือตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย

Episode V

“จอร์จคิดว่าคงเจ๋งดีถ้าเอาสตอร์มทรูปเปอร์จากทั่วโลกมาเดินขบวน เขายังชวนวงโยธวาทิตระดับแชมป์ไฮสกูลปีนั้นมาแต่งตัวเป็นเจไดเดินนำหน้าเราด้วย

“จริงๆ เขาให้โควตาประเทศละ 2 คน ใครอยากไปก็ส่งวิดีโอไปออดิชั่น แต่พอไปถึงปรากฏว่าประเทศไทยมีเราไปคนเดียว ทุกคนอึ้งเลย ประเทศอื่นเขาแทบจะฆ่ากันไป” ตัวแทนจากประเทศไทยหัวเราะ 

“ไปถึงก็ซ้อม 3-4 วันก่อนเดินพาเหรดจริง เดินเสร็จแล้วจอร์จเรียกไปถ่ายรูปรวมด้วย จากนั้นเขาก็แยกกองเล็กถ่ายเฉพาะคนเอเชียอีกทีเพราะกลัวจะเห็นแต่ละคนไม่ชัด เขาน่ารักมากเลย”

หลังกลับมาจากงานพาเหรด อาร์ตยังได้รับเซอร์ไพรส์จากสตีฟ เพื่อนนักสะสมของเขาผู้ทำงานอยู่ฝ่ายแฟนสัมพันธ์ของ Lucas Film สตูดิโอผู้สร้าง สตาร์ วอร์ส ที่ส่งพัสดุลับจากอเมริกามาให้ เมื่อเปิดดูก็พบจดหมายขอบคุณจากลูคัสฟิล์มกับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นของจอร์จ ลูคัส

‘ขอบคุณที่สละเวลามาช่วยทำให้ฝันของแกเป็นจริง’ 

นั่นคือสิ่งที่ชายผู้ให้กำเนิด สตาร์ วอร์ส ฝากมาบอกเขา

Star Wars Lucasfilm

Star Wars

Episode VI

แม้จะผ่านจุดพีคอย่างเหตุการณ์ Rose Parade มาแล้ว และ สตาร์ วอร์ส จะฉายจบไปแล้ว 9 ภาคในวันนี้ แต่ความชอบของเขาที่มีต่อจักรวาลนี้ก็ไม่ได้ลดลง ไม่เพิ่มขึ้น มีแต่จะยืนระยะเป็นเส้นตรงเช่นเดิม

จากเด็ก 8 ขวบที่เคยอ่านการ์ตูนว่าด้วยการต่อสู้ระหว่างดวงดาว วันนี้อาร์ตคือผู้บริหารบริษัทบัตรเครดิตชื่อดังแห่งหนึ่ง และแม้งานของเขาจะดูไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจความบันเทิงหรือ สตาร์ วอร์ส แม้แต่น้อย แต่อาร์ตก็หาวิธีสนุกๆ ที่ทำให้ความชอบกับงานของเขามาบรรจบกันได้ อย่างเมื่อปีที่แล้วเขาทำโปรเจกต์กระเป๋าผ้าลดโลกร้อนลาย Star Wars Limited Edition แจกสมาชิกบัตรเครดิตไป

“ส่วนใหญ่คนในวงการเดียวกันเขาจะสะสมนาฬิกา สะสมพระเครื่อง ในมุมนี้เราเลยกลายเป็นของแปลกของวงการไป แต่เราก็ไม่ค่อยสนใจมุมมองคนอื่นนะ เราก็จะเป็นเราอย่างนี้แหละ คนในที่ทำงานจะรู้ว่าในออฟฟิศเรามีของเล่น สตาร์ วอร์ส เต็มเลย พอเขารู้ว่าเราชอบ เวลาไปเมืองนอกลูกน้องก็จะซื้อของเกี่ยวกับ สตาร์ วอร์ส มาให้” เขาเล่าแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“อย่างที่บอก เราให้คุณค่ากับเรื่องราว ให้คุณค่ากับระยะเวลาที่เก็บมากกว่าจำนวนของ ถ้าถามว่าการสะสมสำหรับเราคืออะไร เราว่ามันคือ lifetime work”

หากถามแฟน สตาร์ วอร์ส หลายคนว่าถ้านึกถึง สตาร์ วอร์ส พวกเขาจะนึกถึงอะไร คำตอบอาจจะเป็นยานมิลเลเนียมฟัลคอน, ไลต์เซเบอร์, หุ่น R2-D2, เจ้าหญิงเลอา, หรือฉาก “Luke, I am your father.” อันลือลั่น

แต่ถ้าถามอาร์ต นอกจากคำตอบเหล่านั้นเราว่าน่าจะได้ยินชื่อของจอร์จ ลูคัส, เหตุการณ์ Rose Parade ปี 2550, ฟิกเกอร์สโนว์ทรูปเปอร์, หนังสือคอมิก สตาร์ วอร์ส ที่เปลี่ยนไดอะล็อกเป็นภาษาไทย รวมทั้งเหล่าผู้คนที่เคยเดินเข้ามาในความทรงจำของเขาเพราะคำว่า สตาร์ วอร์ส

Star Wars

 


Art’s Favorite Star Wars Items

มาบุกยานของแฟนพันธุ์แท้ สตาร์ วอร์ส ทั้งที เราจึงขอให้เขาเลือกของสะสมชิ้นที่หายาก แรร์ และประทับใจที่สุดมาให้เราชื่นชม 6 ชิ้น แทน สตาร์ วอร์ส 6 ภาค (ก่อนเข้าดิสนีย์) ไปดูกันว่าเขาจะเลือกอะไรมาอวด

Star Wars Snowtrooper

ฟิกเกอร์สโนว์ทรูปเปอร์

“ชิ้นแรกที่เก็บสะสมตั้งแต่เด็กๆ ผลิตโดยบริษัท Kenner” 

Star Wars Boba Fett

หมวก Boba Fett

“ทำมาจากแม่พิมพ์เดียวกับพร็อพที่ใช้ในหนัง หายากมาก เพราะทำมาน้อยมาก”

ไอเทมพิเศษของนักแสดงและทีมงาน

“มันเป็นของขวัญที่แจกให้นักแสดงและทีมงาน ประกอบด้วยตลับไพ่จากภาค Han Solo รูปปั้นชิวแบคกาจาก Episode III กระป๋องสีจาก Rouge One

Star Wars Collector

ของที่ระลึกและรูปถ่ายจาก Rose Parade ปี 2550

“พวกนี้ได้เป็นของขวัญจากการไปร่วมงาน Rose Parade คน 300 คนที่ไปร่วมก็จะได้คนละชุด เป็นของที่ผลิตมาจำกัด ฟิกเกอร์ได้ตอนรายงานตัวกับเขา เป็นฟิกเกอร์พิเศษที่ต่างจากตัวปกติสองจุด คือด้านหลังจะเป็นโลโก้ Rose Parade และด้านหน้าเป็นการ์ดรูปจอร์จ ลูคัส”

รูปหมู่พร้อมลายเซ็นของจอร์จ ลูคัส

“หลังจากไปร่วม Rose Parade พอกลับมาเมืองไทยสักพักก็มีซองนี้ส่งมา แกะออกมาเป็นจดหมายจากฝ่ายแฟนสัมพันธ์ของ Lucas Film เขียนมาบอกว่าจอร์จ ลูคัส ฝากขอบคุณที่สละเวลามาช่วยทำให้ฝันของเขาเป็นจริง เขาเลยอยากเซ็นรูปให้ทุกคนที่ไปร่วมงาน”

Star Wars

รูปพร้อมลายเซ็นของนักพากย์เสียงดาร์ธ เวเดอร์ และนักแสดงคนอื่นๆ

“ดาร์ธ เวเดอร์ คือตัวละครที่เราชอบที่สุดใน สตาร์ วอร์ส เพราะน่าเกรงขามดี เราเลยรักรูปพร้อมลายเซ็นของ James Earl Jones คนพากย์เสียงดาร์ธ เวเดอร์ใบนี้มาก ได้มาจากการจ้างคนที่ไปเข้าร่วมงานแจกลายเซ็นนักแสดงที่อเมริกา ให้เขาระบุชื่อเราเลย”

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

ช่างภาพนิตยสาร a day ที่เพิ่งมีพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มใหม่ชื่อ view • finder ออกไปเจอบอลติก ซื้อสิ ไปซื้อ เฮ่!