Start-Up (2020) ซีรีส์เกาหลีที่อยู่ในดวงใจใครหลายคน กับการเป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นทำตามความฝัน หรือลองดูสักครั้งกับการแล่นเรือโดยไร้แผนที่
การทำงานในธุรกิจสตาร์ทอัพ เป็นวงการที่หนุ่มสาวยุคนี้ใฝ่ฝัน ซีรีส์ Start-Up เลือกเส้นเรื่องนี้มาเล่าเคียงข้างไปกับเส้นทางชีวิตของเหล่าตัวละครที่ต้องล้มลุกคลุกคลานเพื่อเติบโต เช่นเดียวกับการประกอบร่างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งทั้งสองอย่างต่างต้องผ่านพ้นเพื่อค้นพบไม่ต่างกัน
“ดัลมี แกคือดอกคอสมอส ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลินะ ถ้ารอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะเบ่งบานอย่างงดงามในฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นอย่ารีบร้อนไปเลย” – คุณย่าชเววอนด็อก
เพราะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ เราจึงอาจลืมไปว่าเคยฝันถึงชีวิตตัวเองไว้แบบไหน และความฝันที่เคยมี ใช่สิ่งที่เป็นอยู่หรือเปล่า
และแม้จะต้องเจอความผิดหวัง ล้มเหลว ผิดพลาดในระหว่างทาง แต่เชื่อเถอะว่าปลายทางจะมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมรออยู่
ซอดัลมี (รับบทโดย แบซูจี) ลาออกจากงานพาร์ตไทม์และมีความฝันที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น และในงาน Party Networking เธอได้พบกับ นัมโดซาน ผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนทางจดหมายและรักครั้งแรกในวัยเด็ก และนั่นทำให้เธอเชื่อว่าพรหมลิขิตได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว
นัมโดซาน (รับบทโดย นัมจูฮยอก) อดีตอัจฉริยะคณิตศาสตร์ที่เป็นความหวังของประเทศ เขาเปิดบริษัทซัมซานเทคร่วมกับเพื่อนอีกสองคนหลังจบมหาวิทยาลัย แต่แทนที่จะก้าวหน้าสุดๆ บริษัทกลับประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก และโอกาสจะประสบความสำเร็จในสายเทคโนโลยีก็ดูจะริบหรี่เต็มที
ฮันจีพยอง (รับบทโดย คิมซอนโฮ) หัวหน้าทีมเวนเจอร์แคปิตอล เด็กกำพร้าที่เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว และมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคือ ซอดัลมี เพื่อนทางจดหมายที่คุณย่าขอให้เขาช่วยส่งกำลังใจให้หลานสาว ทั้งสองได้มาพบกันครั้งแรกในอีก 15 ปีต่อมา และเรื่องของไทม์มิ่งคือสิ่งที่อาจทำให้เขาก้าวพลาด
ซอดัลมีรวมทีมกับแก๊งซัมซานเทค เข้าแข่งขันเป็นหนึ่งในทีมสตาร์ทอัพหน้าใหม่ประจำปีของ Sandbox และเมื่อพวกเขาพิสูจน์ได้ว่ามีไอเดียและฝีมือไม่ธรรมดา ซัมซานเทคที่มี CEO เป็นซอดัลมีก็เริ่มต้นสานฝันธุรกิจนับจากนั้น
ผลงานที่แสดงลายเซ็นอันโดดเด่นของ โอชุงฮวาน และ พัคฮเยรอน
ซีรีส์ Start-Up เป็นงานกำกับของ โอชุงฮวาน เจ้าของผลงานอย่าง My Love From the Star, While You Were Sleeping และ Hotel Del Luna ส่วนบทซีรีส์เป็นฝีมือของ พัคฮเยรยอน นักเขียนที่เคยร่วมงานกันมาแล้วในซีรีส์ While You Were Sleeping และเธอยังมีงานเขียนบทซีรีส์ที่ได้รับความนิยม เช่น Dream High, I Can Hear Your Voice และ Pinocchio
สำหรับซีรีส์ Start-Up พัคฮเยรยอนใช้เวลาถึง 2 ปีในการทำรีเสิร์ชวงการสตาร์ทอัพเพื่อเขียนบทให้ออกมาสมจริงมากที่สุด พร้อมๆ กับรอคอยการตอบรับร่วมงานของนักแสดงนำหญิง แบซูจี ที่ขณะนั้นกำลังติดถ่ายทำซีรีส์เรื่องอื่น และเมื่อตกลงกันเรียบร้อย Start-Up จึงกลายเป็นซีรีส์เรื่องที่ 3 ที่นักเขียนและนักแสดงคู่นี้ได้ร่วมงานกัน โดย 2 เรื่องก่อนหน้านี้คือ Dream High และ While You Were Sleeping ซึ่งเรื่องหลังก็กำกับโดยโอชุงฮวานเช่นเดียวกัน
สำหรับแฟนซีรีส์เกาหลีที่เคยติดตามผลงานของนักเขียนพัคฮเยรยอนมาหลายๆ เรื่อง ก็เชื่อว่าน่าจะพอจับทางลายเซ็นที่ชัดเจนบางอย่างได้ นั่นคือตัวละครที่เธอสร้างขึ้นมักจะเป็นคนที่มีแพสชันแรงกล้าในอาชีพและความฝันของตัวเองเสมอ เช่น อาชีพนักข่าวในซีรีส์ Pinocchio หรือนักเรียน ม.ปลาย ที่ทุ่มเทเพื่อความฝันจะเป็นซูเปอร์สตาร์ในซีรีส์ Dream High
อีกหนึ่งสิ่งที่นักเขียนพัคฮเยรยอนทำได้ดีมากๆ เสมอมา คือการที่เธอมักจะเขียนบทโดยสร้างสถานการณ์ให้ผู้ชมต้องเอาใจช่วยพระรองอย่างสุดตัว จนเรียกได้ว่ามีนักแสดงหลายคนที่แจ้งเกิดจากบทบาทในซีรีส์ของเธอมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็น แทคยอน พระรองในนาทีสุดท้ายจาก Dream High, จองแฮอิน คุณตำรวจที่ทำได้แค่แอบเซลฟีกับเงาในซีรีส์ While You Were Sleeping และล่าสุดกับ คิมซอนโฮ ในซีรีส์ Start-Up ที่ก่อให้เกิดกระแส #ทีมพระรอง อย่างหนาแน่นจนกลายเป็นวาระแห่งชาติในช่วงที่ซีรีส์ออกอากาศ
การเติบโตของตัวละครที่เรียนรู้ชีวิตผ่านอุปสรรคที่ก้าวผ่าน
อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า Start-Up เป็นซีรีส์ให้กำลังใจคนหนุ่มสาว และแสดงให้คนดูเห็นว่า แม้ว่าต้นทุนชีวิตของแต่ละคนจะมีไม่เท่ากัน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ตัวตัดสินอนาคตว่าเราจะประสบความสำเร็จไม่ได้ และต่อให้เก่งกาจไอคิวสูงแค่ไหน แต่เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเก่งไปทุกเรื่อง การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองขาด และเลือกทำงานเป็นทีมกับคนที่ถูกต้องต่างหากที่จะทำให้ผ่านพ้นปัญหาตรงหน้าไปได้
ตัวละครหลักในซีรีส์ต่างมีส่วนที่เว้าแหว่ง ผิดพลาด และเจ็บปวดแตกต่างกันไปตามภูมิหลังชีวิตของแต่ละคน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทุกคนใช้ประโยชน์จากความเป็นหนุ่มสาวของตัวเอง ในวัยที่ยังกระตือรือร้น แม้จะล้มหรือทำพลาดก็ยังมีแรงลุกขึ้นใหม่โดยไม่ยอมแพ้ ซึ่งความยากลำบากเหล่านี้ได้กลายเป็นภูมิต้านทานที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการแก้ปัญหา และทำให้ภาพความฝันของพวกเขาค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในวงการสตาร์ทอัพ ที่แม้ภาพภายนอกจะดูสวยหรู แต่ไม่มีใครรู้ว่ากว่าพวกเขาจะมาอยู่ในจุดที่ผู้คนมองเห็นนั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งในบางช่วงบางตอนของซีรีส์ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากที่สตาร์ทอัพต้องพบเจอแทรกเอาไว้ในหลายๆ ฉากด้วยเช่นกัน
“การเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพก็เหมือนลอยอยู่กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ มีอยู่สองทาง ไม่กระหายน้ำตาย ก็รอดตาย แม้กระหายน้ำแค่ไหนก็กินน้ำทะเลไม่ได้ ต้องอดทนรอจนกว่าฝนตกถึงจะรอดตาย การรีบหากำไรตั้งแต่ช่วงเริ่มก่อตั้งธุรกิจ ก็เปรียบเสมือนการดื่มน้ำทะเล”
แม้ Start-Up จะเป็นซีรีส์ที่ถูกฉาบหน้าด้วยเรื่องราวในวงการธุรกิจที่ดุเดือด เคียงคู่ไปกับเรื่องรักสามเส้าที่มีให้เห็นกันจนชินตา แต่แท้จริงแล้วมันสอดแทรกไว้ด้วยความอบอุ่นหัวใจที่สื่อสารผ่านบทสนทนาในแต่ละฉาก ทั้งยังย้ำเตือนเรื่องความสำคัญของคนในครอบครัวที่บ่อยครั้งมักถูกมองข้าม ด้วยเหตุผลเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างไปตามยุคสมัย
ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ว่ามา Start-Up จึงเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่เราแนะนำ ถ้าหากต้องการแรงผลักดันหรือแรงกระเพื่อมบางอย่างในใจ
หรือสำหรับบางคน Start-Up อาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในชีวิตก็เป็นไปได้
Start-Up เล่าเรื่องราวของกลุ่มหนุ่มสาวที่กำลังทำฝันให้กลายเป็นจริง พวกเขาเข้าร่วมการแข่งขัน แฮกกาทอน ของ Sandbox เพื่อช่วงชิงเงินทุนในการก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยี ด้วยความหวังที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้โลกใบนี้งดงามขึ้นกว่าที่เคย
To Know:
- ถ้าชอบซีรีส์แนวให้พลังใจวัยหนุ่มสาว ขอแนะนำ Fight for My Way, Record of Youth, My Liberation Notes
- ตัวอย่างซีรีส์ Start-Up https://www.youtube.com/watch?v=WQ9qv0MNP8A สามารถรับชมได้ผ่าน Netflix
ติดตามชมรายการ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ซีซั่น 2 ตอน Start-Up ซีรีส์จุดไฟฝัน รันวงการธุรกิจ เติมพลังใจเพื่อวัยหนุ่มสาว ได้ที่ https://youtu.be/a_ZA2Q1oxRk
