Prison Playbook (2017) คือผลงานซีรีส์ลำดับที่ 4 ของ ชินวอนโฮ ผู้กำกับที่มีลายเซ็นชัดเจนในการเล่าเรื่องแนว Nostalgia อันแสนอบอุ่น สร้างความหวังและกำลังใจซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะสร้างสังคมที่ดีอย่างที่เขาอยากเห็นในชีวิตจริง โดยงานก่อนหน้านี้ของเขาคือเซ็ตซีรีส์เกาหลีในตำนานอย่าง Reply 1997, Reply 1994 และ Reply 1988
Prison Playbook ดาร์กคอเมดี้ที่เล่าถึงชีวิตของเหล่านักโทษในเรือนจำออกมาในโทนสว่าง เพราะนอกจากเรื่องของความเจ็บปวดและโดดเดี่ยวที่พวกเขาต้องเผชิญจากสิ่งที่เคยทำผิดพลาดแล้ว เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ยังมุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตร่วมกันของคนที่มีพื้นเพหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ฐานะ และอาชีพ นั่นทำให้บางครั้งกิจวัตรประจำวันธรรมดาๆ อย่างการกินข้าว ทำงานในสวน ออกกำลังกาย หรือแม้แต่อยู่ร่วมกันในห้องขัง กลายเป็นความสนุกที่ทำให้ผู้ชมยิ้มได้ และเผลอหลงรักคนคุกเหล่านี้ไปโดยไม่รู้ตัว
คิมเจฮยอก (รับบทโดย พัคแฮซู) นักเบสบอลระดับซูเปอร์สตาร์ของประเทศที่เตรียมจะเข้าร่วมทีมเมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา ไม่นานนักก่อนที่ชีวิตของเขากำลังจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด คิมเจฮยอกเห็นเหตุการณ์ที่น้องสาวสุดที่รักกำลังถูกคุกคามทางเพศ ด้วยความโกรธแค้นและคุมสติไม่อยู่ทำให้เขาตอบโต้จนกระทั่งคนร้ายเสียชีวิต นั่นทำให้ชะตาชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน แทนที่จะได้บินไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ แต่คิมเจฮยอกต้องมาอาศัยอยู่ในเรือนจำที่รายล้อมไปด้วยฆาตกร อาชญากร และพ่อค้ายาเสพติดแทน
แต่โชคชะตายังพอเข้าข้างอยู่บ้าง เพราะที่เรือนจำแห่งนี้ คิมเจฮยอกได้เจอกับเพื่อนรักที่ขาดการติดต่อไปนานอย่าง อีจุนโฮ (รับบทโดย จองคยองโฮ) ที่ทำหน้าที่ผู้คุมในเรือนจำ และคอยดูแลและให้กำลังใจเขาอย่างดีประหนึ่งแฟนคลับ รวมไปถึงมิตรภาพดีๆ ในห้องขัง ที่ทำให้คนแปลกหน้าเหล่านั้นเปลี่ยนชีวิตและมุมมองความคิดของเขาไปหลายๆ อย่าง แบบที่โลกภายนอกกรงขังให้ไม่ได้
สะท้อนปัญหาสังคม และปลอบโยนคนที่เคยทำผิดพลาด
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Prison Playbook โดดเด่นและแตกต่างท่ามกลางซีรีส์คนคุกเรื่องอื่นๆ คือการตั้งต้นสื่อสารกับผู้ชมว่า ‘คุก’ ไม่ใช่ที่คุมขัง แต่เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาอาศัยอยู่ด้วยกัน เช่นเดียวกับโลกภายนอกที่มีทั้งคนดีและคนชั่วอาศัยอยู่ร่วมกัน คนที่เข้ามาอยู่ในคุกด้วยคดีเล็กๆ น้อยๆ อาจจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยม ส่วนคนที่เคยก่ออาชญากรรมเลวร้าย ลึกๆ แล้วจิตใจของเขาอาจจะเคยเจอเรื่องบอบช้ำในชีวิตมามากมายก็ได้
และในเมื่อคุกคือที่คุมขังผู้กระทำผิด Prison Playbook จึงไม่ได้เล่าเรื่องแบบโลกสวยไปทั้งหมด เพราะมีการแตะหลายๆ ประเด็นที่ละเอียดอ่อน เช่น การลักลอบเสพยาเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศในหมู่นักโทษ ระบบยุติธรรมที่ไม่ซื่อตรง การปฏิบัติกับนักโทษที่ไม่เท่าเทียมของเหล่าผู้คุม ฯลฯ และในบางฉากก็ยังมีการกล่าวถึงคู่มือการใช้ชีวิตในเรือนจำ ซึ่งจะเป็นการบอกถึงสิทธิและหน้าที่ต่างๆ ที่นักโทษต้องปฏิบัติและรับทราบ โดยคู่มือดังกล่าวมีอยู่จริง สถานการณ์หลายๆ อย่างในซีรีส์จึงเป็นเหมือนการให้ความรู้ใหม่ๆ ที่ผู้ชมหลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน
Prison Playbook เป็นการเล่าเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครที่อยากเกิดมาเป็นคนเลว แต่เมื่อจิตใจมนุษย์เต็มไปด้วยความซับซ้อน มันอาจมีสถานการณ์แวดล้อมมากมายบีบบังคับให้คนเราทำในสิ่งที่ตัวเองคาดไม่ถึง แต่เมื่อพลั้งมือทำไปแล้วก็ต้องยอมรับผลของการกระทำนั้น ซึ่งเรื่องราวต่างๆ จะเป็นเหมือนการสะท้อนปัญหาสังคมต่างๆ เช่น ระบบกดขี่ อำนาจนิยม ความเหลื่อมล้ำ ที่ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่จริง แต่กลับไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังสักที
ทีมนักแสดงสมทบสุดแกร่ง ชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้ซีรีส์สมบูรณ์แบบ
ความเหนือชั้นอย่างหนึ่งของ Prison Playbook คือการที่หน้าหนังไม่ได้มีนักแสดงระดับท็อปสตาร์ของวงการโทรทัศน์มาเป็นตัวชูโรงเพื่อดึงดูดผู้ชม แม้จะมีไอดอลชื่อดังอย่าง คริสตัล จอง และ คังซึงยุน มาร่วมแสดง แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เป็นตัวละครหลัก ส่วนทางฝั่งนักแสดงนำก็ได้ พัคแฮซู ที่โด่งดังอยู่แล้วในสายของละครเวที ก็ได้มาชิมลางงานซีรีส์ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก รวมไปถึง จองคยองโฮ นักแสดงฝีมือดีที่มีผลงานผ่านตาผู้ชมมาแล้วมากมาย
ยิ่งเมื่อซีรีส์ไม่ได้เน้นเรื่องราวความรักเป็นหลัก แต่เป็นเพียงการเล่าชีวิตประจำวันในเรือนจำที่มีแต่นักโทษชายล้วนๆ Prison Playbook จึงเป็นเหมือนการรวมเอานักแสดงสมทบยอดฝีมือหลายๆ คนมารวมไว้ในที่เดียวกัน แล้วประกอบร่างออกมาเป็นภาพรวมที่น่าประทับใจ และสร้างตำนานมิตรภาพที่จริงใจระหว่างคนแปลกหน้าออกมาได้อย่างน่าชื่นชม
ในส่วนนี้คงต้องยกความดีความชอบให้นักเขียนบท จองโบฮุน และผู้กำกับ ชินวอนโฮ ที่สามารถออกแบบตัวละครสมทบจำนวนมากมาย เช่น เจ้าเอ๋อฮันยาง ร้อยเอกยู จางบัลจัง ลุงชเวมูซอง ลุงไคสท์ และด็อกเตอร์โก ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ แต่ทุกคนล้วนมีเรื่องราวในอดีต บทเรียนจากความผิดพลาด และการแบ่งปันสุขทุกข์ในจิตใจระหว่างกัน ซึ่งทำให้ผู้ชมยังคงคิดถึงและจดจำได้ แม้เส้นทางชีวิตในซีรีส์ของพวกเขาจะจบลงแบบสวยงามหรือไม่ก็ตาม
ชีวิตจริงในห้องขังของเรือนจำเกาหลี อยู่สบายเหมือนในซีรีส์จริงไหม?
จากการรับรู้เรื่องเกี่ยวกับสภาพภายในเรือนจำของประเทศไทยผ่านสื่อต่างๆ เมื่อได้มาดูซีรีส์ Prison Playbook ก็อาจทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยถึงชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษในเกาหลี (ที่ดูดีกว่าเรือนจำในไทย) ว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการเติมแต่งสถานที่เพื่อสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้ผู้ชมกันแน่
สำหรับห้องขังรวมอย่างที่เราได้เห็นกันในซีรีส์จะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณเกือบ 9 ตารางเมตร โดย 1 ห้องจะมีนักโทษอาศัยอยู่ร่วมกัน 4-6 คน ทำให้เมื่อเฉลี่ยพื้นที่รายคนแล้วเรียกว่าค่อนข้างแออัด เมื่อเทียบกับระเบียบของกระทรวงยุติธรรมเกาหลีที่ระบุไว้ว่าควรจะมีพื้นที่ต่อคนอยู่ที่ 2.58 ตารางเมตรขึ้นไป แต่ด้วยจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับปัญหางบประมาณจากส่วนกลาง ทำให้เป็นเรื่องยากในการจัดสรรพื้นที่ให้เพียงพอกับเหล่านักโทษ
นอกเหนือจากเรื่องพื้นที่ อีกสิ่งหนึ่งที่สะดุดตาผู้ชมคือของใช้ต่างๆ ที่มีอยู่ในห้องขัง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ โต๊ะกินข้าว อาหารแห้ง ช่องเก็บของส่วนตัว หรือแม้กระทั่งซิงก์ล้างจาน ซึ่งจากข้อมูลพบว่าสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้มีอยู่จริงๆ ภายในห้องขัง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับชั้นของนักโทษด้วย และเรือนจำแต่ละแห่งในประเทศก็อาจมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน
ห้องน้ำนักโทษ จะเป็นชักโครกที่ทำจากสเตนเลสเหมือนที่เราเห็นบนเครื่องบิน เพื่อป้องกันการทุบทำลายและนำมาเป็นอาวุธในการทำร้ายตัวเอง ส่วนประตูและผนังห้องน้ำเกือบทั้งหมดจะเป็นวัสดุใสที่ไม่ใช่กระจก โดยมีการปิดทึบแค่ช่วงล่างเพื่อกันอุจาดตาเท่านั้น และภายในจะมีอ่างล้างหน้าขนาดเล็กที่ใช้ทำทุกอย่างเกี่ยวกับน้ำ ทั้งล้างหน้า แปรงฟัน ล้างจาน ซักผ้า และอื่นๆ
โทรทัศน์ภายในห้องขัง มีให้เลือกดูแค่ 3 ช่องเท่านั้น และมีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน โดยโปรแกรมที่นักโทษจะได้ดูก็มีทั้งรายการสารคดี การศึกษา รายการบันเทิง ภาพยนตร์ หรืออาจได้ดูแมตช์กีฬาสำคัญในบางโอกาส เช่น ฟุตบอลโลกนัดที่เกาหลีใต้ร่วมแข่งขัน เป็นต้น ทั้งนี้ข้อกำหนดจะเป็นไปตามนโยบายของแต่ละเรือนจำ
อาหารแห้ง เช่น รามยอน ขนมปัง เครื่องดื่ม หรือซอสปรุงรส นักโทษได้รับการอนุญาตให้ใช้เงินส่วนตัวมาซื้อได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งจะมีการกำหนดวันที่สามารถซื้อได้อย่างชัดเจน โดยเงินที่ได้จะมาจากค่าจ้างทำงานภายในเรือนจำ
Prison Playbook ไม่ใช่เพียงซีรีส์ดาร์กคอเมดี้ทั่วๆ ไป แต่ยังสอดแทรกกำลังใจและความหวังให้กับผู้คนว่า แม้ความผิดพลาดของคุณจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน แม้ว่าจะมีความโชคร้ายถาโถมเข้ามาในชีวิตไม่หยุดหย่อน แต่เมื่อมองไปรอบๆ ตัวให้ดี บางทีอาจมีประตูแห่งโอกาสที่เปิดรอรับเราอยู่
เหมือนอย่างเช่นตัวละครหลักของเรื่องอย่าง คิมเจฮยอก ที่แม้ชีวิตจะล้มเหลวในชั่วข้ามคืน แต่ก็ยังตื่นเช้ามาฝึกขว้างลูกทุกวันทั้งๆ ที่อยู่ในเรือนจำ และตัวละครนี้คือข้อพิสูจน์ว่าการทำงานหนักไม่เคยหักหลังใคร แม้จะมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นในชีวิต แต่หากมีความพยายามมากพอ วันหนึ่งสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาคุณในไม่ช้า
To Know:
- ตัวอย่างซีรีส์ https://www.youtube.com/watch?v=cxRhBctpD3E
- Prison Playbook ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ ซีรีส์ความยาว 16 ตอน รับชมพร้อมซับไทยได้ผ่าน Netflix, Viu และ IQiYi
- ติดตามชมรายการ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ซีซัน 2 ตอน Prison Playbook บันทึกชีวิตและมิตรภาพที่สวยงามของคนคุก ได้ที่ https://youtu.be/C4XP2r-iZqg