สนธิสัญญา Spider-Man : ดีลมหัศจรรย์ของ Sony ที่ชักใยชีวิตตัวละครสุดที่รักของ Marvel

Highlights

  • สไปเดอร์แมนใน Spider-Man: Into the Spider-Verse คือเด็กชายผิวสี เป็นสไปเดอร์แมนคนใหม่ผู้มาแทนปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ที่ตายไป แถมในเรื่องได้เจอเพื่อนสไปเดอร์แมนมากมายที่เดินทางมาจากมิติคู่ขนานอื่นๆ
  • คำถามคือ ทำไมจักรวาลสไปเดอร์ถึงได้รีบูตบ่อยและยุ่งเหยิงพัวพันกันไปมา สนธิสัญญาลิขสิทธิ์การสร้างหนังเรื่อง Spider-Man ระหว่าง Sony กับ Marvel มีคำตอบ

หลังจากไปดูหนังแอนิเมชั่น Spider-Man: Into the Spider-Verse ที่กำลังเข้าโรงในเวลานี้ ผมพบว่าตัวหนังมีนัยสำคัญที่น่าสนใจอย่างหนึ่งจนเกินกว่าที่หนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้จะเป็นเพียงแค่หนึ่งการแตกหน่อของแฟรนไชส์ Spider-Man ของค่าย Sony (ไม่ใช่ Marvel)

หนังพาเราไปเจอกับเด็กชายผิวสีสไปเดอร์แมนคนใหม่ผู้มาแทนปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ที่ตายไป พร้อมกับได้เจอเพื่อนสไปเดอร์แมนคนอื่นๆ ที่เดินทางมาจากมิติคู่ขนานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสไปเดอร์แมนขาว-ดำ สไปเดอร์แมนแอนิเมะ สไปเดอร์แมนลูนี่ตูนส์ หรือสไปเดอร์แมนปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ในฉบับที่ไม่ได้เรื่อง โดยใช้คอนเซปต์หนังที่ว่าเราอาจจะมีตัวเราในอีกมิติที่กำลังดำเนินชีวิตไปพร้อมๆ กับเราก็ได้, ว่าง่ายๆ คือ เราอาจจะมีเราในเวอร์ชั่นอื่นๆ อีกมากมาย แต่ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหน หนังก็บอกกับเราว่า คุณจงเป็นเวอร์ชั่นนั้นให้ดีที่สุดในแบบของตัวเอง

majorcineplex.com

เมสเสจนี้เหมือนจะเป็นเมสเสจของ Sony ที่กำลังบอกกับคนดูและอาจจะกำลังบอกกับตัวเองเช่นกัน ที่ผ่านมาในรอบ 20 ปี เราได้พบกับสไปเดอร์แมน 2-3 เวอร์ชั่นติดๆ กัน เริ่มจากยุคโทบี้ แม็กไกวร์ (โดย Sony) ที่จุดระเบิด superhero era ตามมาด้วยฉบับแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (โดย Sony อีกครั้ง) ที่เรียกได้ว่ารีบรีบูตจนหนังแป้ก ไอ้ที่ว่าจะสร้าง 3 ภาคติดๆ ก็ดันจบค้างไว้ที่ภาค 2 และไม่มีการสร้างต่อ และมาขอใหม่อีกครั้งกับเวอร์ชั่นล่าสุดโดยน้องทอม ฮอลแลนด์ ที่ Sony ต้องเรียก Marvel มาช่วยแต่งตัวและจัดการด้านครีเอทีฟจนกลับมาประสบความสำเร็จอีกรอบ

reddit.com

pride.com

ความตลกคือในช่วงชีวิตผม (วัยรุ่นยุค 2000) ผมได้เห็นสไปเดอร์แมนไปแล้วประมาณ 6 รอบ ด้วยนักแสดง 3 คน คือพวกพี่เขารีบปั๊มสไปเดอร์แมนกันออกมาจริงๆ และทุกครั้งที่รีบูต ตัวหนังก็เหมือนจะต้องกลับไปเริ่มใหม่ทุกครั้ง และคนดูก็จะต้องมาติดตามเส้นทางชีวิตของสไปเดอร์แมนคนใหม่ที่เหมือนอยู่ในมิติคู่ขนานกับเวอร์ชั่นก่อนหน้า จนบางครั้งก็มีอาการมึนแมงมุมเหมือนกัน แบบว่า เดี๋ยวนะ ภาคนี้ใครแสดง เนื้อเรื่องมันยังไง และสรุปรอบนี้ใครเป็นเจ้าภาพในการสร้าง นี่มันฉบับ Sony หรือฉบับ Marvel

usatoday.com

นั่นเป็นที่มาของการที่ผมลองกลับไปขุดสนธิสัญญาลิขสิทธิ์การสร้างหนังเรื่อง Spider-Man ดูเพื่อขอทำความเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดขึ้นของมิติคู่ขนานของนายแมงมุมว่าทำไมมันพัวพันยุ่งเหยิงขนาดนี้ โดยขอเล่าแบบง่ายๆ คือ

  • สมัยก่อน Marvel มีปัญหาเศรษฐกิจ บริษัทใกล้ล้มละลาย จนต้องไปหาคนซื้อลิขสิทธิ์ตัวละครไปทำหนัง ก็เสนอไปหลายเจ้า เช่น X-Men ก็ได้ไปอยู่กับ Fox ส่วนนายสไปเดอร์แมนก็ไปขาย Sony โดยที่ตัวสัญญานั้นเป็นสัญญาที่ Marvel คงมองไม่เห็นว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง ก็ขายๆ ไปก่อน เอาเงิน, เอาเป็นว่าสัญญาในการสร้างหนังก็ตกเป็นของ Sony จนกว่า Sony จะไม่อยากสร้างแล้วหรือไม่ได้สร้างนานเกินกว่าที่กำหนด (5 ปี) ก็ต้องส่งคืน Marvel เช่นกัน โดยระหว่างนี้สิ่งที่ Marvel จะได้เป็นส่วนแบ่งก็คือค่าลิขสิทธิ์รายปีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรายได้ใน Box Office (ว่าง่ายๆ คือ เหมือน Sony จ่ายค่าเช่ารายปีให้เฉยๆ)
  • Sony เอาไปสร้างเป็น Spider-Man ฉบับโทบี้ แม็กไกวร์, ดังสุดขีด ได้เงินทะลุฟ้า สร้างไปเลย 3 ภาค ตั้งแต่ช่วงปี 2002-2007
  • พอเข้าปี 2008 ทางฝั่ง Marvel เริ่มตั้งรกรากทำหนังเองบ้าง พวกเขาตัดสินใจทำ Iron Man และตรงนั้นเองที่ทำให้จักรวาล Marvel เริ่มต้นขึ้น… แต่
  • ในจักรวาลของ Marvel นี้ไม่สามารถมี Spider-Man มาอยู่ในหนังฝั่งตัวเองได้ เพราะลิขสิทธิ์การสร้างหนังยังอยู่กับ Sony เหมือนเดิม
  • ตามสัญญาถ้า Sony ไม่ทำหนังอะไรเกี่ยวกับสไปเดอร์แมน 5 ปี พวกเขาก็จะหมดสิทธิ์ในการถือครองสิทธิ์ แกก็เลยต้องไปผลิตออกมาอีก โอเค รีบูต Spider-Man อีกรอบ รอบนี้เอาแอนดรูว์ การ์ฟิลด์มา และทำให้มันดาร์กๆ เหมือน The Dark Knight กันดีกว่า ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือแย่ยิ่งกว่าแย่
  • ระหว่างที่นั่งเศร้า ทางฝั่ง Marvel ก็ดังทะลุฟ้ากันไปเรื่อยๆ จาก Captain America , Thor , The Avengers อย่างที่เห็นกันช่วง 10 ปีที่ผ่านมา, คุณๆ ก็เห็นว่าจักรวาล Marvel มันยึดโลกแค่ไหน แต่ยังไงสุดท้ายก็ไม่มีสไปเดอร์แมนอยู่ดี สไปเดอร์แมนเหมือนลูกรักที่คุณพ่อได้ไปฝากคุณย่าเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็กๆ และคุณย่าไม่ยอมส่งตัวคืน ก็ได้แต่ยืนอาวรณ์อยู่หน้าบ้าน จะไปรับออกมาก็ทำไม่ได้ เศร้าจัง
  • สุดท้ายอาม่าก็มาขอคืนดี, หลังจากแป้กไปหนักๆ Sony เดินกลับมาขอความร่วมมือกับ Marvel ในการปลุกชีพ Spider-Man กลับมาอีกครั้ง วิธีก็คือ Sony ให้ Marvel เข้ามาดูแลการรีบูต (อีกรอบ) ของหนังเรื่องนี้แบบเต็มๆ จนเราได้เวอร์ชั่นทอม ฮอลแลนด์ ออกมา แต่ว่าในเคสนี้ Marvel จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายได้ใดๆ จากหนังเรื่อง Spider-Man: Homecoming ทั้งสิ้น
  • แล้วถามว่า Marvel จะมาช่วยทำไมถ้าไม่ได้ตังค์, สิ่งที่ Marvel จะได้จากการมาช่วย Sony ครั้งนี้คือ พวกเขาได้รับอนุญาตให้สามารถพาตัวสไปเดอร์แมนกลับไปโลก Marvel cinematic universe ของพวกเขาได้สักทีโดยไม่เสียเงิน ดังนั้นเราจึงได้เห็นสไปเดอร์แมนโดยนายทอม ฮอลแลนด์ ไปโผล่ใน Captain America: Civil War, The Avengers: Infinity War และ Endgame ได้แล้ว โอ้โห ฝันที่เป็นจริง เหมือนได้ลูกกลับมาในอ้อมกอด ถึงจะแค่ชั่วคราวก็ยังดี
  • แต่เรื่องทางใจนั้นก็เรื่องหนึ่ง กลับมาที่เรื่องทางการเงินอีกรอบ ถามว่า Marvel จะไม่ได้ตังค์เลยจริงๆ ใช่มั้ย คำตอบคือไม่ใช่ เพราะแม้สิทธิ์การสร้างหนังจะเป็นของ Sony แต่สิทธิ์ของเล่น เกม หรือสินค้าต่างๆ ยังคงเป็นของ Marvel เช่นเคย ดังนั้นถ้า Marvel ยอมเข้าไปช่วย และทำให้ Spider-Man กลับมาดังหรือกลับมาเท่ได้อีกครั้ง สิ่งที่จะตามมาก็คือความร่ำรวยที่เกิดขึ้นจากการขายของเล่นหรือสินค้าอื่นได้อย่างมหาศาล ยังไม่นับพวกสวนสนุกอีกมากมาย, และยิ่งหนังเท่เท่าไหร่ ยิ่งดังขึ้นเท่าไหร่ คนก็จะอยากซื้อของเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
  • (ประเด็นคือ การขายไอ้ของเล่นพวกนี้เนี่ยกำไรมหาศาลเลยล่ะ อาจจะเยอะกว่ารายได้จากการฉายหนังด้วยซ้ำไป ของเล่นพวกนี้มันกำไรกว่าแถมลุ้นน้อยกว่าด้วย คล้ายๆ โรงภาพยนตร์มีรายได้หลักจากน้ำและป๊อปคอร์นมากกว่าค่าตั๋ว)
  • Spider-Man: Homecoming ที่ทั้ง Sony และ Marvel มาช่วยกันทำนั้นทำให้แฟรนไชส์ Spider-Man กลับมาซัคเซสได้อีกครั้ง
  • แม้จะดูวิน-วินกันทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่ว่าสนธิสัญญาทอม ฮอลแลนด์ ระหว่าง Sony และ Marvel จะสิ้นสุดที่ Spider-Man: Far From Home ซึ่งเป็นภาคต่อของ Spider-Man: Homecoming ดังนั้นปี 2019 นี้จะเป็นปีสุดท้ายของสัญญานี้แล้ว และหลังจากนั้นจะต่อสัญญากันหรือไม่ก็ต้องว่ากันอีกที

empireonline.com

กลับมาที่ปัจจุบันอีกครั้ง คราวนี้ก็อยู่ที่ Sony ว่าหลังจากนี้จะกลับไปเป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิม สร้างจักรวาล Spider-Man ต่อไปโดยไม่ต้องพึ่งพา Marvel หรือไม่ เมื่อเราลองดูจากผลงานที่ผ่านมาในช่วงปีสองนี้ก็ประกอบไปด้วยงานที่ทำให้คนหวาดระแวงอย่าง Venom และหนังที่ออกมาดีจนได้รางวัลลูกโลกทองคำอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse เลยทำให้เราก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการยึดจักรวาล Spider-Man เอาไว้ของ Sony จะเป็นอย่างไรต่อไป

เราบอกไม่ได้ว่า Spider-Man ในมิติคู่ขนานนี้จะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็ยังเป็น Spider-Man ในแบบ Sony ที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะทำได้

heroichollywood.com

AUTHOR