SORAYAMA Space Park by AMKK ผลงานเหนือจินตนาการของเจ้าพ่อศิลปะล้ำอนาคตกับนักจัดดอกไม้ระดับโลก

Highlights

  • SORAYAMA Space Park by AMKK คือนิทรรศการโดยสองศิลปินญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้แก่ Hajime Sorayama นักวาดเจ้าของผลงานหุ่นยนต์สาวเซ็กซี่ และ Azuma Makoto หรือ AMKK ศิลปินนักจัดดอกไม้ที่เคยส่งกระเช้าพืชพรรณไปอวกาศมาแล้ว
  • ในนิทรรศการครั้งนี้ โซรายามะลงมือออกแบบหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ขนาดยักษ์หนึ่งตัว และหุ่นยนต์ไดโนเสาร์แวววาวขนาดเล็กอีก 5 ตัว โดยจัดแสดงภูมิทัศน์ 5 แบบที่ออกแบบโดย AMKK
  • ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ร่วมงานกัน โดยโซรายามะได้แรงบันดาลใจจากไดโนเสาร์ที่เขาชื่นชอบ ส่วน AMKK เน้นออกแบบสเปซให้ส่งเสริมตัวไดโนเสาร์มากที่สุด
  • ตามไปดูนิทรรศการกันได้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม - 17 พฤศจิกายน เวลา 10:00-22:00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

ถ้าใครเป็นแฟนโปสเตอร์อาร์ตวินเทจสไตล์อีโรติกไซไฟอาจจะเคยคุ้นตากับภาพวาดเหมือนจริงสุดขั้วของหุ่นยนต์สาวเซ็กซี่ที่โพสท่าเย้ายวนรัญจวนใจไม่แพ้ผู้หญิงจริงๆ หุ่นยนต์สาวนี้มีชื่อว่า ‘Sexy Robot’ ผลงานของ Hajime Sorayama ศิลปินระดับปรมาจารย์ชาวญี่ปุ่น เจ้าพ่อศิลปะแนวไซเบอร์พังก์ผู้สร้างสรรค์ภาพอนาคตสุดล้ำ

สไตล์การทำงานอันประณีตเฉียบคมของโซรายามะมีชื่อเรียกขานว่า ‘superrealism’ โดยงานเด่นๆ ของเขาคือภาพวาดชีวจักรกลล้ำจินตนาการที่หลอมรวมความลุ่มหลงในเรือนร่างอันวาบหวามยั่วยวนของสตรีเพศเข้ากับร่างจักรกลโลหะอันเย็นเยียบมันวาว กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่าง Sexy Robot และภาพวาดไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ที่มีร่างกายเป็นโลหะจักรกลมันวาวอย่าง ‘Cyborg T-Rex’

ที่ผ่านมา เขาเคยจัดแสดงผลงานในนิทรรศการศิลปะชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก และเป็นผู้ดีไซน์ต้นแบบของ aibo หุ่นยนต์สุนัขสมองกลอันโด่งดังของ Sony (1999) ที่ถูกสะสมในคอลเลกชั่นถาวรของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) ในนิวยอร์ก เร็วๆ นี้เขายังได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกอย่าง Dior Men และยังเคยได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์ซูเปอร์สตาร์ Thierry Mugler อีกด้วย

และในครั้งนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้เปิดตัวโครงการศิลปะสุดล้ำของเขาเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในนิทรรศการที่มีชื่อว่า SORAYAMA Space Park by AMKK

โดยนิทรรศการครั้งนี้เป็นการร่วมงานของโซรายามะกับ Azuma Makoto หรือ AMKK ศิลปินนักจัดดอกไม้แนวคอนเซปชวลระดับโลกชาวญี่ปุ่น ผู้เป็นที่รู้จักจากการจัดดอกไม้พืชพรรณในแง่มุมแปลกใหม่ล้ำสมัย เช่น ผลงานสร้างชื่อ EXOBIOTANICA ที่เขาจัดดอกไม้และปล่อยออกไปสู่ห้วงอวกาศ

งานนี้ยังเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของประติมากรรมไดโนเสาร์อะลูมิเนียมขนาดมหึมา ยาว 11 เมตร สูง 3.74 เมตร ท่ามกลางบรรยากาศจำลองของพื้นผิวดวงจันทร์ รวมถึงผลงานประติมากรรมทีเรกซ์ขนาดย่อม 5 ตัว ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่แตกต่างกัน 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็นป่า ทะเลทราย ธารน้ำเข็ง ทุ่งหญ้ามอส และทะเลสาบ ผสมผสานกับพื้นผิวดวงจันทร์จำลองอันแปลกตาน่าพิศวงในคอนเซปต์ Space Park ซึ่งผสมผสานโลกอวกาศสุดแปลกตาเข้ากับโลกธรรมชาติ โดยงานศิลปะครั้งยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือของเซ็นทรัล เอ็มบาสซีกับแกลเลอรี Nanzuka และ EchoOne Nanzuka

โชคดีที่สองศิลปิน ฮาจิเมะ โซรายามะ และอาซูมะ มาโกโตะ เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวผลงานเมื่อเร็วๆ นี้ และเปิดโอกาสให้เราได้พูดคุยถึงนิทรรศการอย่างใกล้ชิดร่วมกับ บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตัวตั้งตัวตีผู้ริเริ่มจัดนิทรรศการครั้งนี้

หุ่นยนต์และดอกไม้เดินทางมาเจอกันได้ยังไง บทสนทนาต่อไปนี้มีคำตอบ

 

จุดเริ่มต้นของนิทรรศการ SORAYAMA Space Park by AMKK มีที่มายังไง

บรม : นิทรรศการนี้เริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราได้คุยกับทางแกลเลอรี Nanzuka ว่าอยากทำโครงการศิลปะร่วมกัน โดยทางเซ็นทรัล เอ็มบาสซีอยากนำผลงาน Cyborg T-Rex ของโซรายามะซังมาแสดงที่นี่ และคิดว่าผลงานชุดนี้น่าจะเข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะกับผลงานศิลปะการจัดดอกไม้ของ AMKK เราก็เลยชวนโซรายามะซังกับคุณอาซูมะ มาโกโตะ แห่ง AMKK มาร่วมทำโครงการที่มีคอนเซปต์เป็น Space Park ขนาดใหญ่ขึ้นมา

 

อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้โซรายามะซังสร้างผลงาน Cyborg T-Rex ขึ้นมา

โซรายามะ : ผมไม่ได้มีแรงบันดาลใจในการทำประติมากรรมไดโนเสาร์เป็นพิเศษ แค่ตอนเด็กๆ ผมชอบไดโนเสาร์มากๆ เลย โดยเฉพาะทีเรกซ์นี่เป็นซูเปอร์ฮีโร่สำหรับผมเลย และผมเองก็เชื่อว่าไดโนเสาร์ก็เป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเด็กๆ อีกหลายคนเช่นกัน ครั้งนี้พอได้มาทำผลงานไดโนเสาร์ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ก็เหมือนผมได้วาดฮีโร่ในวัยเด็กของผมอีกครั้ง

 

ทำไมไดโนเสาร์ถึงเป็นฮีโร่ของคุณล่ะ

โซรายามะ : มันเป็นความชอบน่ะ ยกตัวอย่างเช่นเวลาเด็กๆ อยากบินบนท้องฟ้า เขาก็จะสะสมเครื่องบินของเล่น หรือถ้าเขาชอบรถยนต์ ในอนาคตเขาก็อาจจะอยากเป็นนักขับรถ F1 ตอนเป็นเด็ก ผมได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ผมก็เลยชอบไดโนเสาร์มากๆ พอได้ดูหนังเรื่อง Jurassic Park ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าไดโนเสาร์เป็นซูเปอร์ฮีโร่สำหรับผม ดังนั้นเวลาผมทำงาน ผมมักจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ ผมเลยสามารถทำงานสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัด เอาจริงๆ ตอนทำงานสร้างสรรค์ บางครั้งก็มีความยากลำบากเหมือนกัน แต่ถ้าผมทำงานที่ยังไม่เคยมีมาก่อนได้สำเร็จ ผมก็จะรู้สึกภูมิใจมากๆ

 

จริงไหมที่ผลงาน Sexy Robot ของคุณได้แรงบันดาลใจมาจากหุ่นยนต์ C-3PO ในหนัง Star Wars

โซรายามะ : ตอนนั้นทางบริษัท Dentsu ที่ญี่ปุ่นติดต่อให้ผมออกแบบคาแร็กเตอร์หุ่นยนต์ขึ้นมาตัวหนึ่ง เนื่องจากช่วงนั้น Star Wars ค่อนข้างดังมากๆ ทางบริษัทเลยเอามาเป็น reference ถึงอย่างนั้นหุ่นยนต์ C-3PO เป็นหุ่นยนต์ผู้ชาย แต่ผมอยากทำอะไรที่แตกต่างก็เลยออกแบบหุ่นยนต์ผู้หญิงขึ้นมาแทน ซึ่งหุ่นยนต์ผู้หญิงนั้นทำยากกว่าหุ่นยนต์ผู้ชายมากๆ เพราะผมต้องสื่อให้เห็นถึงความเป็นผู้หญิงและความเซ็กซี่ออกมาให้ได้

โดยส่วนตัวผมชอบผู้หญิงเซ็กซี่มาตั้งนานแล้ว พอทาง Dentsu ให้โจทย์มา ผมต้องพยายามหาทางที่ทำให้หุ่นยนต์มีชีวิตชีวาขึ้นมา รวมถึงใส่ความอีโรติกเข้าไปด้วย ซึ่งผมก็ได้แรงบันดาลใจจากภาพ Pin-up Girl (โปสเตอร์สาวเซ็กซี่ที่หนุ่มๆ หรือทหารอเมริกันนิยมติดฝาผนังดูเพลินๆ ในยามไปรบในสงคราม) ซึ่งผมเอามาผสมกับความเป็นหุ่นยนต์กลายเป็น Sexy Robot นั่นแหละ

 

เวลาทำงานโซรายามะซังให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด

โซรายามะ : ผมให้ความสำคัญกับการทำให้คนเห็นงานแล้วรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ผมอยากทำงานศิลปะที่ทำให้คนเกิดแรงบันดาลใจและนำไปต่อยอดในการทำงานต่างๆ เช่น ถ้าเด็กๆ เห็นผลงานไดโนเสาร์ทีเรกซ์ของผมแล้วเกิดแรงบันดาลใจ โตขึ้นไปเขาอาจจะต่อยอดไปทำงานซีจี หรือสร้างงานศิลปะแบบอื่นก็ได้ หรือบางคนอาจได้แรงบันดาลใจในเชิงวิทยาศาสตร์นำไปต่อยอดจนได้รับรางวัลโนเบลในอนาคต ถ้าสามารถทำงานที่เป็นแรงบันดาลใจเช่นนี้ได้ ผมก็รู้สึกว่าผมตายได้อย่างสบายใจและภาคภูมิใจที่ได้ทิ้งดีเอ็นเอของผมให้คนรุ่นหลัง

นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ผมเองก็อยากทำให้ไดโนเสาร์กลายเป็นภาพจริงๆ ขึ้นมาเหมือนในหนังเรื่อง Jurassic Park ผมเคยได้รับเชิญให้ไปดูงานที่บริษัท Industrial Light & Magic ที่ทำซีจีให้หนังเรื่องนี้ด้วย หลังจากนั้น George Lucas ผู้กำกับ Star Wars ก็เชิญผมไปวาดภาพคอนเซปต์อาร์ตให้หนังเรื่องนี้ด้วย

ผมอยากฝากแง่คิดเอาไว้ว่า เมื่อคุณฝันถึงบางสิ่งบางอย่าง โลกของคุณจะหมุนไปตามความฝันนั้น ขอเพียงแค่คุณอย่าหยุดไล่ตามฝัน

 

รายละเอียดหุ่นยนต์ของโซรายามะซังดูสมจริงเหมือนมีชีวิตจริงๆ เลย เวลาวาดภาพคุณได้ reference มาจากไหนบ้างไหม

โซรายามะ : ปกติผมไม่ได้เอาอะไรเป็นแบบนะ ผมชอบวาดหรือทำอะไรให้ดูเซ็กซี่ มีชีวิตชีวาอยู่แล้ว ผมมักจะจินตนาการเอาเอง เวลาวาดรูปหุ่นยนต์ที่เป็นเหล็กแต่ต้องโชว์ความนุ่มนวลของผู้หญิง ผมก็ต้องพยายามวาดให้ดูเซ็กซี่ มีชีวิตชีวา เช่นเวลาวาดรูปรถ ถ้าไม่ทำให้ดูเซ็กซี่มันก็จะดูคล้ายๆ กับรถบูลโดเซอร์หรือรถสิบล้อ (หัวเราะ) ผมก็ต้องคิดว่าจะวาดยังไงให้มันดูเซ็กซี่เหมือนรถเฟอร์รารี

 

ภาพวาดของโซรายามะซังอย่าง Sexy Robot หรือ Cyborg T-Rex มีมิติและความสมจริงเหมือนมีชีวิต เวลาวาดคุณคิดว่ามันชีวิต เลือดเนื้อ หรือกลไก อยู่ข้างในด้วยไหม

โซรายามะ : ขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณของแต่ละคาแร็กเตอร์ สมมติผมวาดภาพผู้หญิงหรือหุ่นยนต์สาวที่ถูกข่มเหงรังแก ผมก็คิดว่าหุ่นยนต์สาวที่ถูกข่มเหงควรมีอากัปกิริยายังไง เคลื่อนไหวแบบไหน ข้างในของเธอควรจะรู้สึกยังไง หรืออย่างไดโนเสาร์ตัวนี้ (ชี้ไปที่ภาพวาดหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ในโปสเตอร์ของนิทรรศการ) บนตัวของมันจะมีภาษาละตินเขียนว่า ‘ฉันจะกัดแก!’ ท่าทางของมันก็ต้องสื่อว่ากำลังจะกัดอะไรบางอย่างอยู่

ในการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้น การสื่อสารกับคนดูหรือนักสะสมงานศิลปะเป็นเรื่องสำคัญมาก เราต้องสื่อให้คนเข้าใจภาพวาดนั้นให้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อจิตวิญญาณหรือฟังก์ชั่นของตัวละครในภาพวาด ถ้าวาดภาพแล้วไม่สามารถสื่อถึงจิตวิญญาณหรือฟังก์ชั่นของตัวละครให้คนดูเข้าใจได้ ผมคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องวาดภาพหรือสร้างสรรค์ผลงานออกมาเลยจะดีกว่า

 

เวลาคุณวาดภาพหรือออกแบบตัวละครแต่ละตัว คุณคิดไหมว่าตัวละครเหล่านี้จะเคลื่อนไหวหรือมีชีวิตแบบไหน

โซรายามะ : คิดนะ อย่างตอนผมออกแบบ Sexy Robot ผมก็คิดว่าจะทำยังไงให้หุ่นยนต์ตัวนี้ดูมีความเป็นผู้หญิงหรือดูเซ็กซี่มากที่สุด เมื่อผมวาดภาพหุ่นยนต์ ผมจะวาดให้คนดูรู้สึกว่าหุ่นยนต์ตัวนั้นมีชีวิตหรือเคลื่อนไหวได้จริงๆ แต่ในขั้นตอนหลังจากการวาดภาพ เช่นเวลาเราเอาไปทำเป็นประติมากรรมหรือภาพสามมิติ ท่าทางการขยับก็อาจจะเป็นอีกแบบหนึ่งก็ได้

ยกตัวอย่างหุ่นยนต์ทีเรกซ์หน้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เมื่อคุณเห็นมันจากที่ไกลๆ จะรู้สึกว่ามันกำลังวิ่งผ่านทะเลทราย ทะเลสาบ และสถานที่หลายแห่ง มาหยุดที่หน้าห้างฯ คุณจะรู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์ของมันกำลังเผาไหม้ร้อนระอุอยู่ เวลาเราสร้างอะไรที่เป็นแฟนตาซี เราต้องสร้างให้คนดูรู้สึกว่ามันกำลังมีชีวิตด้วย

 

ในอนาคตคุณคิดอยากทำให้มันขยับได้จริงๆ เช่น ทำเป็นหุ่นยนต์อัตโนมัติแบบนี้บ้างไหม

โซรายามะ : ในอนาคตผมอยากสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างจากที่เคยทำมา เนื่องจากเราต้องปรับตัวให้ทันโลกด้วย อย่างเมื่อก่อนเป็นยุคสื่อสิ่งพิมพ์สองมิติ เช่น นิตยสารหรือโปสเตอร์ ผลงานที่ทำออกมาก็มักจะเป็นแนวตั้ง เป็นภาพนิ่ง แต่ในสมัยนี้เขาฮิตภาพเคลื่อนไหว ผลงานที่ทำออกมาก็ต้องทำเป็นแนวนอนและมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น ในอนาคตบริษัทของผมก็จะต้องทำผลงานที่เคลื่อนไหวให้มากกว่านี้ด้วย

 

การทำภาพสองมิติให้กลายเป็นประติมากรรมหรือภาพสามมิติมีความท้าทายยังไงบ้าง

โซรายามะ : เวลาที่ผมวาดภาพ ส่วนใหญ่จะวาดเป็นภาพสองมิติ บางภาพก็จะวาดสำหรับเอาไปทำเป็นสามมิติ แต่จะเปลี่ยนภาพสองมิติให้เป็นสามมิติ ผมก็ต้องยืมมือของมืออาชีพจริงๆ มาทำให้

ผมโชคดีที่ได้รู้จักมืออาชีพในหลายๆ ด้าน ยกตัวอย่างเช่นหุ่นยนต์สุนัข aibo ที่ทุกคนก็น่าจะรู้จักกันดี หุ่นยนต์ตัวนี้มีอุปกรณ์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และแบตเตอรีอยู่ข้างใน ดีไซน์ที่ผมวาดตอนแรกอาจจะเป็นแบบหนึ่ง แต่ตอนที่ทำเป็นหุ่นยนต์ขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะเป็นอีกแบบเพราะมันมีกลไกการเคลื่อนไหวที่แตกต่างออกไป หรือประติมากรรมทีเรกซ์ที่หน้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซีที่ทำด้วยอะลูมิเนียม เวลาวาดแบบผมวาดแบบหนึ่ง แต่เวลาที่หล่อตัวไดโนเสาร์ขึ้นมาก็มีข้อจำกัดบางอย่างของอะลูมิเนียมว่าทำอะไรได้บ้างในการที่จะสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้นขึ้นมา โดยเฉพาะการทำภาพสองมิติให้กลายเป็นงานสามมิติอย่างประติมากรรม การสื่อสารกันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ

ลำพังตัวผมเองคนเดียวคงไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ขนาดนี้ เราต้องรู้ว่าใครมีพรสวรรค์และพาตัวเองไปทำงานกับเขา เหมือนเวลาเราวาดภาพก็ต้องเลือกสีที่เหมาะกับเรา หรือเวลาใช้ซอฟต์แวร์ก็ต้องหาว่าตัวไหนที่เหมาะกับเรามากๆ เป็นต้น

 

โซรายามะซังมีเวลาที่ตีบตัน คิดงานไม่ออก หรือไม่รู้ว่าจะวาดอะไรบ้างไหม ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้คุณมีวิธีแก้ไขยังไง

โซรายามะ : เรื่องคิดไม่ออกนี่ไม่มีเลยเพราะผมเป็นคนที่เสพติดการวาดรูปมากๆ จะมีก็แต่ภาพที่วาดไม่เสร็จสักที เพราะเวลาผมวาดรูปหนึ่ง ผมก็จะวาดๆๆ ไปจนกว่าจะพอใจ เสร็จแล้วถึงจะวาดรูปต่อไป เอาจริงๆ ก็ไม่มีเวลาที่คิดไม่ออกหรือไม่รู้จะวาดอะไรเลย เพราะผมชอบวาดภาพมากจริงๆ

 

คุณวาดภาพหุ่นยนต์มาหลายสิบปีแล้ว ยังมีความท้าทายอะไรหลงเหลืออยู่อีกไหม

โซรายามะ : ที่ผมวาดภาพหุ่นยนต์มาได้ 40 กว่าปีก็ไม่ได้มีแรงบันดาลใจอะไรเป็นพิเศษนะ ผมวาดของผมออกมาเองโดยอัตโนมัติ นอกจากน้ำแล้วเนี่ยผมสามารถวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้ออกมาเป็นหุ่นยนต์ได้หมดเลย แต่สิ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษในการวาดภาพมีอยู่ 3 อย่าง หนึ่งคือแสง สองคือแสงสะท้อน สามคือความโปร่งแสง สามสิ่งนี้เป็นแนวทางที่ผมถนัด

อย่างภาพนี้ (ชี้ไปที่โปสเตอร์ของนิทรรศการ) ถ้าสังเกตดูก็จะเห็นว่าทั้งดวงจันทร์ ร่างกาย และดวงตาของไดโนเสาร์ในภาพ จะสื่อให้เห็นถึงแสง แสงสะท้อน และความโปร่งแสง เวลาวาดเราก็จะดูว่าจุดไหนควรสะท้อนแสง หรือจุดไหนควรจะมีแสงสะท้อนมากหรือน้อย

 

ทราบมาว่านิทรรศการครั้งนี้เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างโซรายามะซังและอาซูมะซัง พวกคุณรู้สึกยังไงบ้างที่ได้ร่วมงานกัน

โซรายามะ : ผมเพิ่งได้พบกับอาซูมะซังครั้งแรกที่โตเกียว ตอนที่ได้ทำงานร่วมกันตอนแรกเราไม่ได้คุยกันเยอะเท่าไหร่ แต่พอเห็นงานที่เสร็จออกมาแล้วก็อยากจะชื่นชมทั้ง AMKK และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจมากๆ

อาซูมะ : ปีที่แล้วผมได้รับเชิญจากคุณบรมว่าอยากให้ผมมาแสดงผลงานร่วมกับโซรายามะซังในคอนเซปต์ Space Park เราปรึกษาหารือกับคุณบรมหลายครั้ง เพราะโดยปกติผลงานของ AMKK ส่วนใหญ่ที่แสดงที่อื่นจะเน้นไปที่ดอกไม้พืชพรรณต่างๆ เป็นจุดเด่น แต่ในครั้งนี้เราอยากให้ผลงานประติมากรรมของโซรายามะซังโดดเด่นขึ้นมา เราเลยออกแบบภูมิทัศน์ที่ดูมีความเรียบง่าย โดยมีทั้งส่วนของพื้นผิวดวงจันทร์และสวนดอกไม้ แต่เราอยากให้คนดูได้เห็นอะไรมากกว่านั้นก็เลยเพิ่มส่วนของพื้นที่ภูมิทัศน์ที่เป็นสวนน้ำและธารน้ำแข็งเข้าไปด้วย ทั้งหมดนี้ก็จะมีองค์ประกอบใหญ่ๆ ที่ห่อหุ้มพื้นที่ภูมิทัศน์ต่างๆ เอาไว้ทั้งหมด

 

คุณคิดว่าความแตกต่างในผลงานของพวกคุณระหว่างหุ่นยนต์กับดอกไม้พืชพรรณในนิทรรศการครั้งนี้สื่อถึงอะไร

โซรายามะ : ผลงานในนิทรรศการนี้เราต้องการแสดงถึงความรู้สึกมีชีวิตชีวาที่เรียกว่า ‘eros’ เป็นภาษากรีกแปลว่าความปรารถนา มันอาจจะดูแตกต่าง แต่จริงๆ แล้วไม่ ผมว่ามันเป็นการผสมผสานที่ดี เวลาเราทำงานศิลปะ นอกจากจะสร้างเรื่องราวเนื้อหาแล้วเราต้องสร้างแรงกระตุ้นในผลงานด้วย

อาซูมะ : เมื่อผมเห็นประติมากรรมไดโนเสาร์ตัวจริง ผมคิดว่ามันดูมีชีวิตชีวามากๆ ก็เลยต้องทำให้ผลงานภูมิทัศน์ของผมดูมีชีวิตชีวาเช่นเดียวกัน เมื่อพวกเราได้เห็นผลงานอยู่ด้วยกัน พวกเราก็รู้สึกว่ามันดูมีชีวิตชีวาและเข้ากันได้ดีมากๆ

 

สำหรับพวกคุณ การทำงานในโครงการนี้มีความท้าทายยังไงและแตกต่างจากโครงการที่ผ่านๆ มายังไงบ้าง

โซรายามะ: เริ่มตั้งแต่การออกแบบ ผลงานของผมที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นหุ่นยนต์ที่ดูเนี้ยบ สวย ผิวมันแวววาว แต่ผลงานครั้งนี้ผมเน้นเรื่องของการเคลื่อนไหวเป็นหลัก โดยผมออกแบบให้ไดโนเสาร์มีลักษณะของท่าทางการวิ่งอย่างรุนแรง เหมือนให้วิ่งผ่านทะเลสาบ ทะเลทราย ป่า มาหยุดที่หน้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ตอนที่หยุดก็ยังเหลือความร้อนคุกรุ่นในเครื่องยนต์อยู่ ถ้าสังเกตดูจะเห็นเหมือนมีรอยคราบเผาไหม้ของเครื่องยนต์อยู่บนตัวไดโนเสาร์

อาซูมะ : ผลงานครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากผลงานที่ผ่านมา เพราะผมต้องการออกแบบพื้นที่ภูมิทัศน์ที่ช่วยขับเน้นผลงานของโซรายามะซังให้ดูมีมิติและโดดเด่นออกมาก็เลยพยายามทำผลงานให้เรียบง่ายมากที่สุด แต่พอมาเห็นของจริงแล้วก็รู้สึกว่าเจ้าหุ่นทีเรกซ์นี่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตจริงๆ เลย ผมเลยรู้สึกเสียดายว่าถ้าผลงานจริงทำออกมาดูเหมือนมีชีวิตขนาดนี้ก็อยากจะใส่องค์ประกอบที่ดูมีชีวิตชีวาเพิ่มเข้าไปอีก

 

พวกคุณคิดว่าอะไรเป็นจุดเชื่อมระหว่างผู้ชมกับผลงานครั้งนี้

โซรายามะ : ผมคิดว่าสิ่งที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงก็คือขนาดใหญ่มหึมาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของมัน ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมทุกคนรู้สึกตื่นเต้นระทึกใจ

อาซูมะ : สำหรับผม อย่างแรกคือการสร้างสรรค์ผลงานที่เน้นให้ผลงานของโซรายามะซังโดดเด่น  อีกอย่างคือผมอยากให้ผู้ชมได้แรงบันดาลใจ โดยปกติทาง AMKK จะทำงานเกี่ยวกับการออกแบบดอกไม้พืชพรรณ ซึ่งตอนนี้เป็นเทรนด์เนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับขยะพลาสติกต่างๆ สำหรับผลงานครั้งนี้ผมคิดว่าคนดูจะรู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างพืชพรรณกับเครื่องจักรกลที่ผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี

 

มีประสบการณ์อะไรสนุกๆ เกี่ยวกับการทำงานนิทรรศการครั้งนี้บ้างไหม 

โซรายามะ : เวลาทำงานผมก็มีความสนุกสนานทุกชิ้นนะ ตรงที่จะสร้างสรรค์ผลงานยังไงให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน โดยที่มีเอกลักษณ์ สีสัน และจุดเด่นอยู่ในผลงาน ความสนุกอีกอย่างก็คือการได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานศิลปะนั่นแหละ (หัวเราะ) ปกติผมเองก็วาดรูปตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่งานครั้งนี้มีความท้าทายมากกว่าที่ผ่านๆ มาตรงขนาดของประติมากรรมไดโนเสาร์ทีเรกซ์ที่ยาวเกือบ 12 เมตร พอเห็นก็รู้สึกประทับใจและปลื้มใจมากๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยสร้างประติมากรรมไดโนเสาร์ทีเรกซ์ขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อน ผมขอบคุณเซ็นทรัล เอ็มบาสซีมากๆ ที่ให้โอกาสในครั้งนี้ ผมตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้อย่างมากและคิดว่าผลงานนี้น่าจะเป็นผลงานที่เป็นเอกลักษณ์อีกชิ้นของผม (ยิ้ม)

อาซูมะ : ตอนทำงานด้วยกัน ผมได้รับคอมเมนต์หลากหลายจากคุณบรมว่าทำยังไงที่จะแสดงให้ไดโนเสาร์ดูโดดเด่นมีชีวิตชีวาขึ้นมา ผมทดลองทำและปรับเปลี่ยนผลงานออกมาในรูปแบบต่างๆ หลายๆ รอบ แต่สุดท้ายพอผลงานเสร็จออกมาก็รู้สึกภูมิใจและแฮปปี้มากๆ

โซรายามะ : ผมอยากถามคุณบรมด้วยว่ารู้สึกยังไงบ้างกับผลงานนี้

บรม : ด้วยความที่เราทำโครงการนี้มาอย่างยาวนานมาก พอได้เห็นผลงานจริงก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ ด้วยความที่ประติมากรรมไดโนเสาร์มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก ในส่วนของภูมิทัศน์และดอกไม้พืชพรรณที่แวดล้อมไดโนเสาร์ก็สวยงาม พอเอาผลงานทุกอย่างมาจัดรวมกันก็รู้สึกว่าเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบมากๆ ผมรู้สึกว่าตัดสินใจถูกมากๆ ที่เชิญให้ศิลปินระดับโลกทั้งสองท่านนี้มาทำงานร่วมกันที่นี่

 

โซรายามะซังกับอาซูมะซังรู้สึกยังไงที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการฉลองครบรอบ 5 ปี เซ็นทรัล เอ็มบาสซีครั้งนี้

โซรายามะ : ทางผมก็พยายามเต็มที่ในการสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ขึ้นมา ก็ขอแสดงความยินดีกับทางเซ็นทรัล เอ็มบาสซีด้วย

อาซูมะ : อย่างแรกก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทางเซ็นทรัล เอ็มบาสซีในวาระครบรอบ 5 ปี ครั้งแรกที่มาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ผมรู้สึกประทับใจมากๆ กับสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ของห้างฯ รู้สึกทึ่งมากๆ ที่ตอนเดินข้างนอกจะรู้สึกถึงความวุ่นวายและรถราที่แน่นขนัด แต่พอเข้ามาในห้างจะรู้สึกถึงความหรูหราและไฮคลาส ทำให้รู้สึกว่าสามารถช้อปปิ้งได้อย่างสบายและดื่มด่ำกับบรรยากาศข้างในได้อย่างเต็มอิ่ม รู้สึกว่าเป็นที่ที่ดีมากๆ คิดว่าถ้าหากในอนาคตได้มีโอกาสร่วมงานกันหรือต่อยอดผลงานในนิทรรศการนี้ออกไปอีกก็จะดีมากๆ

 

ท้ายที่สุดแล้ว อะไรบ้างคือไฮไลต์ที่ห้ามพลาดของนิทรรศการนี้

บรม : ถ้าใครได้ออกไปด้านนอกของเซ็นทรัล เอ็มบาสซีก็จะเห็นประติมากรรมไดโนเสาร์ทีเรกซ์อะลูมิเนียมขนาดมหึมาอยู่ข้างนอก โดยยืนอยู่บนพื้นที่จำลองจากพื้นผิวของดวงจันทร์ และถ้าเข้ามาข้างในเซ็นทรัล เอ็มบาสซีก็จะเห็นประติมากรรมไดโนเสาร์ทีเรกซ์ขนาดย่ออีก 5 ตัวจัดวางอยู่ในภูมิทัศน์ที่อาซูมะซังออกแบบมาให้มีลักษณะแตกต่างกันไป  5 แบบ

ถ้าใครชมนิทรรศการของเราแล้วรู้สึกชื่นชอบผลงานก็สามารถขึ้นไปเลือกชม เลือกซื้อ สินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นในร้าน SIWILAI บนชั้น 5 ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด หมวก ถุงผ้า ไปจนถึงซอฟต์ไวนิลรูปไดโนเสาร์ทีเรกซ์ ภาพวาด และภาพพิมพ์ ที่เป็นผลงานของศิลปินทั้งสองท่าน เรียกได้ว่าครบวงจรมากๆ นอกจากนี้เรายังมีร้านดอกไม้ที่มีผลงานของ AMKK วางขายอีกด้วย


บทสัมภาษณ์นี้เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์สื่อมวลชนกลุ่มในวันที่ 16 ตุลาคม 2019 และการจัดบรรยายพิเศษของฮาจิเมะ โซรายามะ ที่ Open House เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในวันที่ 17 ตุลาคม 2019

นิทรรศการ SORAYAMA Space Park by AMKK at Central Embassy จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม – 17 พฤศจิกายน เวลา 10:00-22:00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

นอกจากตัวนิทรรศการแล้ว ในงานยังมีสินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นฝีมือการออกแบบของโซรายามะและ AMKK ที่ทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพพิมพ์ ซอฟต์ไวนิล (sofubi) เสื้อยืด หมวก ถุงผ้า ฯลฯ รวมถึงยังมีร้านดอกไม้ป๊อปอัพโดย AMKK ให้เลือกชมและเลือกซื้อตลอดการจัดงาน ที่ร้าน SIWILAI ชั้น 5 เซ็นทรัล เอ็มบาสซีอีกด้วย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Sorayama Space Park by AMKK at Central Embassy

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ณัฐปคัลภ์ ทัศนวิริยกุล

นักเรียนฟิล์มที่มาฝึกงานช่างภาพ รักการถ่ายรูป ชอบกินของอร่อย และชอบใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนสนิท คนรัก