จำได้ไม่ชัดว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เพลย์ลิสต์ในยูทูปของเรา (สมัยที่การฟังเพลงสตรีมมิงยังไม่เกิด) เต็มไปด้วยเพลงของวงอินดี้สัญชาติเกาหลีที่ชื่อว่า Standing EGG แทบจะครบทุกเพลง รู้ตัวอีกที เราก็กด subscribe ทั้งในหน้าจอและหัวใจให้วงดนตรีนี้ที่เราไม่รู้จักแม้กระทั่งหน้าตาของสมาชิกไปแล้ว
Standing EGG คือวงดนตรีอะคูสติกป๊อปที่เดบิวต์เมื่อปี 2010 ตอนนี้พวกเขาอยู่ภายใต้สังกัด Born สาเหตุที่เราหลงรักบทเพลงของพวกเขาคือความรู้สึกสบายใจเมื่อได้ฟัง ไม่ว่าจะเพลงจังหวะช้า เร็ว บัลลาด หรือป๊อปใสๆ ทำนองดนตรี และเนื้อร้องที่เราไม่รู้ความหมายกลับทำปฏิกิริยากับเราได้เสมอมา สำหรับเราและแฟนๆ ที่ติดตามวงการเพลงอินดี้เกาหลี Standing EGG คือวงดนตรีวงหนึ่งที่มีแฟนคลับต่างประเทศ รวมถึงในไทยไม่น้อย
สมาชิกในวงที่อยู่เบื้องหลังการแต่งเนื้อร้องและทำนองมี 3 คน ใช้ชื่อว่า Egg 1, Egg 2 และ Egg 3 พวกเขาไม่เปิดเผยหน้าตา ไม่โปรโมตสื่อที่ไหน ส่วนเวลาที่ต้องโชว์ร้องเพลงหรือขึ้นคอนเสิร์ต พวกเขาจะมี Live performance team แยกออกมาต่างหาก โดยในช่วงแรกมี โคลเวอร์ (클로버 – ร้องนำ, กีตาร์) ซอง ฮา-นา (송하나 – กลอง) และ ลี ฮัน-กยอล (이한결 – ดับเบิลเบส) เป็นสมาชิกที่คอยออกไปแสดงตามที่ต่างๆ จนมีแฟนๆ เข้าใจผิดว่าพวกเขาคือคุณไข่หมายเลข 1 – 3 แต่ปัจจุบัน โคลเวอร์แยกตัวออกไปเป็นศิลปินและติดสัญญาทำให้ไม่สามารถมาร้องเพลงกับ Standing EGG ได้อีก ทำให้คุณไข่หมายเลข 2 ที่เป็นเจ้าของเสียงร้องทุกเพลงจริงๆ ในอัลบั้มต้องออกมาโชว์ตัว และมีสมาชิกใหม่มาช่วยเสริมให้การแสดงสดมีคุณภาพมากขึ้นอีก
Standing EGG มีอัลบั้มเต็มออกมาแล้ว 5 อัลบั้ม 7 อีพี และอีกหลายซิงเกิลที่พวกเขาดึงศิลปินดังๆ มาร่วมงาน (ปาร์ก ชิน-เฮ นักแสดงสาวชื่อดังก็เคยร่วมฟีเจอริงในเพลง 넌 이별 난 아직 มาแล้ว) รวมถึงช่วงหลังๆ คุณไข่ยังทำเพลงประกอบซีรีส์เกาหลีมากมายที่แฟนๆ ซีรีส์ต้องเคยฟังผลงานพวกเขากันมาบ้าง ทั้งหมดนี้ทำให้ Standing EGG ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักทั้งในเกาหลีเองและในต่างประเทศ คว้ารางวัล Best Indie Musician จากเวที Golden Ticket Awards มาได้ในปี 2016
ในวาระที่ Standing EGG กำลังจะมาเล่นคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทย ‘Standing EGG Dramatic Tour 2018’ วันที่ 9 มิถุนายน 2018 เราเลยส่งอีเมลไปพูดคุยกับคุณไข่ทั้ง 3 คน (ตามคอนเซปต์การไม่ขอออกสื่อของพวกเขา) มาให้แฟนๆ ได้อ่านเบื้องหลัง ความตั้งใจ และสิ่งที่คุณไข่อยากบอกกับแฟนๆ ชาวไทยกัน
ไอเดียเรื่องการตั้งวงดนตรีที่ไม่เปิดเผยตัวของพวกคุณเริ่มต้นมาได้ยังไง
ตั้งแต่เริ่ม พวกเราคิดกันว่าไม่อยากเป็นนักดนตรีที่เปิดเผยหน้าตาหรือนิสัยส่วนตัวของสมาชิกในวง ไม่รู้ว่าจะฟังดูเหมือนฝันหรือเปล่า แต่พวกเราอยากเป็นนักดนตรีที่มีความหมายผ่านดนตรีเท่านั้น แล้วก็อยากได้รับความรักจากผู้คนผ่านดนตรีเท่านั้นครับ ประกอบกับสมาชิกของเราก็ขี้อายด้วย มันคงดีกว่ามากเลยครับที่ผู้คนไม่รู้จักเรา เพราะทำให้เรามีอิสระมากขึ้นและมุ่งมั่นทำดนตรีอย่างเดียวได้
ย้อนกลับไปช่วงที่เริ่มก่อตั้งวง สถานการณ์วงการเพลงอินดี้ของเกาหลีใต้เป็นยังไง ยากไหมที่วงดนตรีอินดี้วงหนึ่งจะโดดเด่นขึ้นมาได้
ตอนที่เราเริ่มตั้งวงขึ้นมา การที่เพลงอะคูสติกของนักดนตรีอินดี้ที่ไม่มีสังกัดจะได้มีชื่ออยู่บนชาร์ตเพลงเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ถึงเลย ตอนที่เราบอกว่าจะทำเพลงอะคูสติก คนรอบข้างก็พร้อมใจกันหยุดพวกเราไว้ พวกเขาถามว่า “จะกินอะไร” “จะอยู่ยังไง” อะไรแบบนั้นน่ะครับ
ตอนนั้นพวกเรานึกถึงเรื่องไข่ของโคลัมบัส (Egg of Columbus) เราก็คิดว่าต่อให้เราจะล้มเหลว เราก็ต้องลองทำดู ก็เลยตั้งชื่อวงว่า ‘Standing EGG’ ที่มีความหมายว่า ‘ตั้งไข่’ ถ้าลองมองดูจะเห็นว่ามีคนที่ไม่เคยลองทำ แต่อยู่ดีๆ ก็มาบอกคนอื่นว่า “ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก” อยู่เยอะเลยล่ะครับ ทุกคนครับ อย่าไปฟังที่คนอื่นพูดนะ ต่อให้ล้มเหลว คุณก็ควรเป็นคนตัดสินใจเองและทำตามที่ตัดสินใจไว้เถอะครับ ถ้าทำได้แบบนี้ ก็จะไม่เสียดายทีหลังครับ
กระบวนการทำเพลงแต่ละเพลงของพวกคุณเป็นยังไง
สมาชิกแต่ละคนจะร่างภาพคร่าวๆ ไว้ในหัวตัวเอง ไปหาแรงบันดาลใจแล้วก็เอามาประชุมร่วมกัน Egg 3 รับผิดชอบในส่วนเนื้อเพลง ส่วน Egg 1 กับ Egg 2 จะเขียนทำนองเพลง ถ้ามีปัญหาว่าทำนองเพลงแบบนี้ควรจะมีเนื้อเพลงแบบไหนดีนะ เราก็จะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันครับ
พอทำเพลงเสร็จแล้ว เราจะไปคุยกับซาวนด์เอนจิเนียร์ นักร้อง และนักดนตรี ว่าเสียงร้องแบบไหนถึงจะเข้ากับเพลง ท่อนนั้นๆ ควรจะร้องยังไงดี แต่ละเพลงเลยเป็นผลงานที่สำเร็จได้ด้วยการร่วมงานของคนหลายสิบคน เราคิดว่าการที่คนหลายคนมารวมกันและสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เป็นเรื่องที่เท่มากๆ ครับ
มีวิธีเลือกศิลปินหรือนักดนตรีมาร่วมทำงานอย่างไร คุณได้เรียนรู้หรือพัฒนาการทำงานยังไงบ้าง
ถ้าเป็นศิลปินที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของ Standing EGG ออกมาได้ดี เราก็ยินดีต้อนรับเสมอครับ เวลาทำงานกับศิลปินคนอื่นๆ ไม่มีจุดไหนที่ยากเลย เพราะว่าผลงานที่ทำร่วมกับศิลปินที่เราชอบยังไงก็สนุกอยู่แล้วเลยรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก ตอนอัดเสียงเราได้เรียนรู้วิธีและไอเดียใหม่ๆ เยอะมากจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่ผลลัพธ์มันออกมาดีกว่าที่คิดไว้ เราจะรู้สึกตื่นเต้นมากเลย
ตอนนี้มีศิลปินคนไหนที่อยากร่วมงานไหม
ตอนนี้ที่นึกออกในหัวคือคุณแทยอน วง Girls’ Generation ครับ เราใช้ห้องอัดเสียงห้องเดียวกัน เวลารออยู่ในห้องเลยมีโอกาสได้ยินเธออัดเสียง เธอร้องเพลงเก่งมากจนจำได้เลยว่าเราโยนงานของเราทิ้งไว้ข้างหลังแล้วเพลิดเพลินไปกับเสียงของเธอไปพักหนึ่งเลย แค่จินตนาการว่าจะได้ร่วมงานกับคุณแทยอนก็มีความสุขแล้วครับ
เนื้อหาโดยรวมในเพลงของพวกคุณพูดถึงเรื่องอะไร มีเปลี่ยนแปลงไปไหมในแต่ละอัลบั้มที่ผ่านมา
ถ้าพูดถึง Standing EGG หลายคนจะนึกถึงนักดนตรีที่ทำเพลงสบายๆ ผ่อนคลายๆ เราเลยอยากลองทำเพลงที่เร้าอารมณ์และดึงอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิมอีกนิดครับ อย่างในอัลบั้มที่ 5 Dramatic พวกเราก็ใช้สัดส่วนของวงออร์เคสตราเยอะขึ้นมากเลยครับ มันเป็นทั้งเพลงที่กระตุ้นอารมณ์และเพลงที่คล้ายกับภาพยนตร์ เราคิดว่าไม่ใช่จะมีแค่เพลงสบายๆ เท่านั้นที่เยียวยาจิตใจผู้ฟังได้ แต่ความประทับใจที่ให้ความรู้สึกเร้าอารมณ์ก็เป็นอีกอย่างที่ช่วยเยียวยาได้เหมือนกันครับ
จนถึงตอนนี้ แนวเพลงของ Standing EGG จะยังเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ และลองทำเพลงหลากหลายแนว แต่จุดที่เราคิดว่าจะทำเพลงสบายๆ ไม่กวนใจและหูนั้นยังคงไม่เปลี่ยนไป ยิ่งช่วงนี้มีเนื้อเพลงที่เนื้อหาหนักๆ เยอะมากเป็นพิเศษ ยิ่งมีเพลงแบบนั้นมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งคิดว่าเราต้องทำเพลงที่สร้างรอยยิ้ม ความสุข หรือความคิดถึงเล็กๆ ออกมาบ่อยๆ ครับ
เรารู้มาว่าพวกคุณทำเพลงโดยไม่มีงบโปรโมตใดๆ เลย ทำยังไงให้เพลงของพวกคุณส่งไปถึงผู้ฟังและโด่งดังได้ขนาดนี้
เราไม่มีเงินทุนและไม่มีใครเข้ามาช่วยเรื่องการตลาดหรือการจัดการใดๆ เราแค่ทำทุกอย่างที่เราทำได้และคิดได้ ถึงแม้ว่าการทำเพลงจะสำคัญ แต่เราก็ต้องตั้งใจทำให้ผู้คนมากมายได้ยินเพลงของเรามากเท่ากับที่เราตั้งใจทำเพลง
พอผ่านมาแล้วลองคิดกลับไป นอกจากตั้งใจทำทุกอย่างแล้วก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรพิเศษนะครับ เราโชคดีด้วยแหละ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวเพลงเองที่สามารถทำให้ผู้คนมากมาย ‘เข้าถึง’ ได้ ถ้าคุณสู้และทำบ่อยๆ ต่อให้อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่สุดท้ายแล้วผู้คนมากมายก็จะรับฟังเพลงของคุณเองครับ
Standing EGG โด่งดังมากในเกาหลีใต้ไม่เฉพาะแค่ในแวดวงอินดี้เท่านั้น พวกคุณรู้สึกยังไงบ้าง
เวลาดูชาร์ตเพลง พวกเราแต่ละคนรู้สึกตื่นเต้นและตกใจครับ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเราต่างไปจากแต่ก่อนมาก เรายังคงทำเพลงแบบที่ทำมาตลอด เรายังทำแค่เพลงที่เราอยากทำ ทำแค่เพลงที่เราทำได้ดี เพลงอะคูสติกอาจจะเป็นเพลงที่ไม่ได้กระตุ้นอารมณ์ ฟังครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าน่าเบื่อ แต่ยิ่งฟังไปนานๆ จะพบข้อดีว่ามันฟังสบายครับ พอเราได้ทำเพลงอะคูสติกออกมาเรื่อยๆ แล้ว เราก็รู้สึกนะว่าตอนนี้ผู้ฟังเริ่มสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของเพลงอะคูสติกมากขึ้นทีละนิดแล้ว
ตอนทำเพลง เราไม่เคยมีเป้าหมายว่าต้องได้ที่หนึ่งบนชาร์ตเพลงหรือจะโด่งดังเลยครับ คำว่า ‘ตั้งไข่’ ที่เราคิดคือง่ายๆ แค่ว่า ‘มาทำเพลงดีๆ ให้คนฟังกันเถอะ’ หรือไม่ก็ ‘ทำเพลงและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกันเถอะ’
พวกเราได้ตั้งไข่ใบเล็กๆ แล้วหนึ่งฟองโดยไม่รู้ตัวเลย แต่ตอนนี้พอมองไฟในการทำเพลงที่ยังมีอยู่ในตัวพวกเราแล้ว ดูเหมือนว่าจะเหลือไข่ให้ตั้งอีกหลายใบเลยนะครับ
มีอะไรจะบอกกับแฟนคลับชาวไทยก่อนที่จะมาเจอกันเดือนมิถุนายนนี้ไหม
ตั้งแต่ตอนที่เราเดบิวต์ แฟนๆ ชาวไทยก็ให้กำลังใจเราผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วก็ส่งของขวัญมาให้เราที่สตูดิโอทุกปีเลย เราขอบคุณทุกคนจากใจจริงจริงๆ ครับที่รักเพลงของ Standing EGG เสมอมา เวลาที่พวกเรารู้สึกได้ว่าเพลงที่เราทำกลายเป็นส่วนเล็กๆ ในชีวิตของใครคนหนึ่ง กลายเป็นสิ่งที่มี ‘ความหมาย’ สำหรับใครคนหนึ่ง เราก็คิดว่า ‘เอาล่ะ จะตั้งใจทำมากขึ้น จะตั้งใจทำมากขึ้น’
ถ้าเพลงของ Standing EGG ทำให้ชีวิตประจำวันของทุกคนมีชีวิตชีวาและสดใสได้ แค่นั้นพวกเราก็มีความสุขแล้วครับ โดยเฉพาะแม้พวกคุณจะมีอุปสรรคด้านภาษาที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังให้ความสนใจและรับฟังดนตรีของ Standing EGG พวกเรารู้สึกขอบคุณมากจริงๆ ครับ
5 เพลงของวงตั้งไข่ Standing EGG ที่อยากให้ตั้งใจฟัง
ยากมากที่เราจะคัด 5 เพลงที่อยากให้ทุกคนได้ลองฟังกัน นี่คือส่วนหนึ่งของเพลงจาก Standing EGG ที่เราชอบ แต่แนะนำว่าไม่ควรหยุดฟังแค่ 5 เพลงนี้นะ
01
Little Star (อัลบั้ม Lucky, 2011)
หนึ่งในเพลงโปรดที่พอไม่รู้จะฟังเพลงอะไรก็จะพิมพ์ชื่อเพลงนี้ไปทันที เป็นเพลงที่อยู่ในมู้ดช้าๆ ซึ้งๆ เนื้อเพลงพูดถึงการจับมือกันมองดูดาวในค่ำคืนนี้ที่ฟังดูโรแมนติก แต่สำหรับเราแล้ว ด้วยเสียงร้อง จังหวะ และเนื้อร้องที่มาประกอบกันทำให้บางครั้งฟังเพลงนี้ก็แอบน้ำตาซึมได้เหมือนกัน นี่อาจเป็นสิ่งพิเศษในเพลงของ Standing EGG ที่ทำให้เราจมกับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งได้
02
사랑한대 (อัลบั้ม Ballad with Windy, 2012)
เพลงจังหวะสนุกที่ฟังแล้วสดใสเหมือนเดินอยู่ใจกลางกรุงโซล เพลงนี้ Standing EGG ฟีเจอริงกับ Windy สมาชิกในทีม Live Performance ของวง เราตกหลุมรักในเสียงร้องใสๆ และเนื้อเพลงที่ร้องตามได้ไม่ยาก (สารภาพว่าจริงๆ เราก็ร้องตามทุกเพลง) เนื้อหาพูดถึงการตกหลุมรัก ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ฟังแล้วยิ้มออกมาแน่นอน
03
Nobody Knows (อัลบั้ม Inner, 2015)
สารภาพว่าเราตกหลุมรักเพลงนี้เพราะปก cover ของซิงเกิลที่ให้อารมณ์แสนเหงาชะมัด ซึ่งพอฟังเพลงแล้วก็ดิ่งลงไปเลย เนื้อหาพูดถึงการพยายามลบหรือลืมความทรงจำระหว่างคนรักกัน มิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ยังใช้ซีนของภาพยนตร์เรื่อง Every Thing Will Be Fine (Wim Wenders, 2015) มาตัดต่อ ให้อารมณ์ที่แปลกไปเหมือนกันที่เราได้เห็น เจมส์ ฟรังโก กับ ราเชล แม็กอดัมส์ ในบทเพลงภาษาเกาหลีอย่างนี้
04
You’ve Come to Think of It (อัลบั้ม Dramatic, 2017)
เพลงจากอัลบั้มล่าสุดที่เราคิดว่าพวกเขาน่าจะเตรียมมาร้องให้แฟนๆ ชาวไทยฟังกันแน่ๆ เพลงจังหวะกลางๆ แต่เข้ากันดีกับเนื้อร้อง ทำนองชวนให้เราฟังได้เพลินไปทั้งวัน เนื้อหาพูดถึงความเหงาและอารมณ์คิดถึงคนรักที่จากกันไกล ถ้าฟังดีๆ เพลงนี้ยังใส่จังหวะที่โตขึ้นอย่างที่พวกเขาว่าไว้จริงๆ
05
S.C.H (Small but Certain Happiness) (2018)
ซิงเกิลล่าสุดของพวกเขาที่เพิ่งปล่อยมิวสิกวิดีโอมาให้เราดูกันซึ่งไม่ทำให้ผิดหวัง ชื่อเพลงน่ารักนี้ยังบอกถึงเนื้อหาในเพลงที่พูดถึงความสุขเล็กๆ ของการได้แอบมองคนที่เราชอบ แถมมิวสิกวิดีโอยังทำออกมาได้เนี้ยบไม่ต่างจากซีรีส์เกาหลี ความตั้งใจเฉพาะตัวของ Standing EGG นี่แหละคือสิ่งที่เราตกหลุมรักหมดใจ
รู้จักพวกเขากันแล้วใช่ไหม? ไปเจอคุณไข่และสมาชิกในทีมกันได้ที่คอนเสิร์ต ‘Standing EGG Dramatic Tour 2018’ วันที่ 9 มิถุนายนนี้ ที่ Voice Space จองบัตรได้แล้วที่
https://www.ticketmelon.com/sss/standingeggbkk2018
Facebook | 스탠딩에그 Standing EGG
Twitter | https://twitter.com/standingegg
Instagram | https://www.instagram.com/standingegg
YouTube | https://www.youtube.com/user/standingEGG
แปลจากบทสัมภาษณ์ภาษาเกาหลีโดย พุธิตา ผึ้งฉ่ำ
