ชิลล์ไปในวันหยุดกับ 5 สถานที่ดีต่อใจรอบซอยท่าเตียน

ถ้าพูดถึงย่านแฮงก์เอาต์ติดท็อปวิวดีงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
หนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นย่านท่าเตียน ที่นอกจากจะได้เดินเก็บบรรยากาศชิลล์ๆ
รับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพลินตาไปกับสีสันของอาคารบ้านเรือนสุดคลาสสิกแล้ว ผู้คนทั้งชาวบ้านที่อยู่มานานหรือหนุ่มสาวที่จับจองพื้นที่เปิดร้านรวงใหม่ๆ
ยังใจดี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินเข้ามาอย่างเต็มที่อีกด้วย

เป็นเรื่องจริงที่ว่าท่าเตียนในวันนี้ก็มีหลายอย่างไม่เหมือนอดีต
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เหลือเรื่องราวเก่าก่อนให้ได้ซึมซับกันหรอกนะ วันนี้เราเลยอยากชวนออกมาขี่มอเตอร์ไซค์สำรวจท่าเตียนด้วยสายตาใหม่กันหน่อย
แล้วจะรู้ว่าเสน่ห์ของท่าเตียนไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

01

เข้าใจที่มาที่ไปของคนไทยและเพื่อนบ้านอาเซียนกันที่มิวเซียมสยาม

มาเที่ยวย่านเมืองเก่า แต่ถ้าไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสยามเลยก็อาจจะไม่อิน
เลยอยากแนะนำให้เลี้ยวเข้าไปเดินชมนิทรรศการเก็บความรู้กันเพลินๆ ที่มิวเซียมสยาม แลนด์มาร์กของท่าเตียนที่ไม่ว่าเด็ก
วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ก็ชอบใจกันก่อน ช่วงนี้เขามีนิทรรศการ ‘พม่าระยะประชิด’ ชวนปรับทัศนคติสุดมโนที่เคยมีต่อูชาวพม่าให้ดูกันฟรีๆ
ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม แวะไปชมระหว่างรอนิทรรศการถาวรชุดใหม่ที่กำลังปรับปรุงอยู่กันได้
อ้อ! แล้วช่วงหนาวๆ ตอนปลายปีจะมีตลาดนัดสุดฮิป Noise
Market ให้เดินเลือกซื้องานศิลปะแฮนด์เมดท่ามกลางดนตรีชิลล์ๆ
อีกด้วยนะ

Museum Siam เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์
(ปิดวันจันทร์) 10.00 – 18.00 น. / โทร. 02-255-2777 /
www.museumsiam.org/


02

ลิ้มรสอาหารไทยพื้นบ้านแต่คุณภาพเกินมาตรฐานตามสไตล์
ERR Urban Rustic Thai

ร้านอาหารไทยย่านนี้มีเกินสิบ
แต่ที่ชวนเลื่อนประตูไม้เดินเข้าร้านชื่อสนุกว่า Err (เออ) แห่งนี้ไม่ใช่แค่เราโดนสไตล์การตกแต่งแบบร้านขายของเล่นสมัยก่อน
แผ่นป้ายโฆษณาเก่าๆ และภาพกราฟฟิตี้คุณป้าแม่ครัวบนผนังปูนโชว์อิฐบล็อกดึงดูดเท่านั้น
แต่ยังการันตีความอร่อยด้วยชื่อเจ้าของอย่าง โบ-ดวงพร ทรงวิศวะ และ Dylan
Jones ที่คัดสรรเมนูอาหารไทยจากทุกภูมิภาคมาเสิร์ฟให้กินในบรรยากาศเป็นกันเอง
แถมวัตถุดิบที่นี่ทั้งเนื้อสัตว์และผักยังเป็นออร์แกนิก 100% ด้วย ถ้าเป็นมื้อเบาๆ ขอให้ลองจิ้นหมูส้มเมืองรสชาติจัดจ้านลำขนาด สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มซ่าๆ
อย่างน้ำตะไคร้โซดารับรองสดชื่น แต่ถ้าอยากจัดหนักเขาก็มีต้มขมิ้นไก่ป่า
แกงหมูฮ้องแบบปักษ์ใต้ให้กินกันหรอยแรง!

ERR Urban Rustic Thai เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 11.00 – 15.00 น. และ 18.00 – 22.00 น. / โทร.
02-622-2291-2 / facebook.com
|
ERR Urban Rustic Thai


03

สวมรองเท้าผ้าใบที่ใส่วัฒนธรรมในลวดลายสุดเก๋ของแบรนด์
Horselegmarking

เดินไปตามกลุ่มอาคารยาวสีส้มสดที่เพิ่งปรับปรุงเสร็จหมาดๆ
จะต้องสะดุดตากับคูหาสไตล์ดิบๆ ที่จัดดิสเพลย์โชว์รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อลวดลายและสีสันจัดจ้านร้านนี้แน่
พอได้พูดคุยกับฝ้าย-ชาลิสา พรมุตตาวรงค์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ก็ยิ่งใจเต้น
เพราะนอกจากเอกลักษณ์ของรองเท้าทุกคู่ที่ข้างหนึ่งเป็นแถบหนังกลับแล้ว ลวดลายบนรองเท้าผ้าฝ้าย
100% นิ่มๆ ทุกคู่ยังบรรจุเรื่องราววัฒนธรรมและภูมิปัญญาของกลุ่มคนหรือชนเผ่าต่างๆ
ทั่วโลกไว้เต็มๆ อย่างคอลเลกชันแรกก็หยิบเอารถอีแต๋น ยานพาหนะสีเจ็บของคนอีสานบ้านเรามาตีความ
ออกมาเป็นรองเท้าผ้าใบทำมือสุดยูนีคใส่สบายที่รับรองว่าเดินไปไหน ใครๆ ก็ต้องมอง ตามความตั้งใจที่ฝ้ายอยากให้
Horselegmarking ไม่ใช่แค่รองเท้าผ้าใบ แต่เป็นเครื่องแต่งกายที่สื่อสารกับทุกคนว่าเราลองเปิดใจเรียนรู้วัฒนธรรมที่ต่างกันของแต่ละชนชาติกันดีไหม
ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่โอ้อวดเกินกว่าจะเอาใจช่วยใช่ไหมล่ะ

Horselegmarking The Impressum Shop
เปิดทุกวัน 09.30 – 19.00 น. / โทร. 081-470-9895
/ facebook.com |
HORSELEGMARKING


04

ท่าเตียนแกลเลอรี่
พื้นที่โชว์งานไทยๆ ของศิลปินหน้าใหม่

เดินต่อไปไม่เกินสิบก้าว เราจะเจอร้านขายผลิตภัณฑ์สุขภาพแพทย์กิจประสงค์
อนุญาตให้เลือกซื้อของฝากญาติผู้ใหญ่ได้สักพักแล้วขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะเป็นที่ตั้งของท่าเตียนแกลเลอรี่
พื้นที่แสดงงานจิตรกรรมสไตล์ไทยๆ ของบริษัท Art8tra ที่จะสับเปลี่ยนหัวข้อไปทุกเดือน
อย่างเดือนเมษายนนี้เป็นนิทรรศการผลงานศิลปะของนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่างที่ได้แรงบันดาลใจจากการไปเยือนถิ่นศิลปกรรมโบราณ
ก็น่าดีใจที่ศิลปินไทยรุ่นใหม่จะได้มีโอกาสโชว์ผลงานและแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องศิลปะเพิ่มขึ้นอีกที่ในย่านนี้
เข้าชมได้ฟรีแถมถ้าถูกใจชิ้นไหนก็ติดต่อซื้อผลงานได้เลย

ท่าเตียนแกลเลอรี่ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 10.00
น. – 17.30 น. / โทร. 085-564-4196 /
www.art8tra.com


05

ปิดท้ายวันด้วยดินเนอร์ชมวิววัดอรุณฯ
ที่
sala rattanakosin

มาเที่ยวย่านท่าเตียนริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วจะกลับไปกินข้าวเย็นเหงาๆ
ที่บ้านก็ยังไงอยู่ เหตุผลที่ควรค่าแก่การดินเนอร์ที่ sala rattanakosin ไม่เพียงเพราะที่นี่ได้อภิสิทธิ์ระดับแพลตินัม
มองเห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามตรงหน้าแบบไม่มีอะไรมาบดบังเท่านั้น
แต่เรื่องอาหารเขาก็พิถีพิถันตั้งใจไม่แพ้กันด้วยเมนูง่ายๆ แต่ปรับให้โมเดิร์นกินได้ไม่เบื่อ
อย่างมัสมั่นขาแกะที่ชิมครั้งแรกอาจแปลกลิ้น แต่มือก็เผลอตัดชิ้นเนื้อเข้าปากได้ไม่หยุด
กับทูน่าทาทาร์ที่เคี้ยวสนุกกลมกล่อมด้วยรสสมุนไพร
อิ่มแล้วห้ามพลาดขึ้นไปจิบเครื่องดื่มบนรูฟท็อปบาร์ชั้น 5 ที่ฟากติดแม่น้ำจะมองเห็นเกาะรัตนโกสินทร์เต็มๆ
ตา ส่วนอีกฝั่งก็มียอดโบสถ์วัดโพธิ์เป็นฉากหลัง
วิวพิเศษแบบนี้หาที่อื่นไม่ได้หรอกนะ

sala rattanakosin เปิดทุกวัน
07.00 – 10.30 น. (Breakfast), 11.00 – 16.30
น. (Lunch), 17.30 – 22.00 น. (Dinner) / โทร. 02-622-1388 /
facebook.com |
sala rattanakosin Bangkok


ภาพ มณีนุช บุญเรือง และ กานต์ ตันติวิทยาพิทักษ์

AUTHOR