Glazziq : สตาร์ทอัพแว่นตาเจ้าแรกของไทย

ร้านแว่นตาที่กล้าส่งแว่น 3 ชิ้นรวดให้ลูกค้าทั่วประเทศนำไปลองถึงบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ

ร้านแว่นตาที่คลิกเมาส์เพียงไม่กี่ครั้งก็ซื้อแว่นได้แบบเบ็ดเสร็จทันใจ

ร้านแว่นตาอยู่ในคาเฟ่ สั่งน้ำและขนมมานั่งแกล้มการลองแว่นสนุกๆ หลายสไตล์

ทั้งหมดเป็นไปได้เพราะ ตั้ม–พิริยะ ตันตราธิวุฒิ และ ดา–ปริณดา ประจักษ์ธรรม เชื่อมั่นแล้วลงมือทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทายและคำถามจากคนรอบข้าง จนกลายเป็นแบรนด์ Glazziq สตาร์ทอัพแว่นตาเจ้าแรกของไทย ด้วยแนวคิดคนรุ่นใหม่ที่ลุกขึ้นมาแก้ไขช่องโหว่การจำหน่ายแว่นตาแบบเดิมที่มีราคาสูงและขั้นตอนมากมาย โดยหันมามุ่งเน้นความสะดวก สบาย ทันสมัย และเป็นมิตรให้บริการลูกค้าอย่างจริงใจ

แบรนด์แว่นหน้าใหม่ แบรนด์นี้จับมือกับพาร์ตเนอร์ผู้แข็งแกร่ง 3 เจ้าอย่างหอแว่นที่มีสาขากว่าร้อยแห่ง โรงงานเลนส์เจ้าใหญ่ของโลก และเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีสาขาเกือบหมื่นแห่ง เพื่อเติมเต็มระบบการตัดเลนส์ประกอบแว่นการให้บริการลองแว่นที่บ้าน การขนส่งที่รวดเร็วและบริการหลังการขายที่ครบครัน

เอกลักษณ์แว่น Glazziq เป็นแบบไหน ทั้งตั้มและดาจะเล่าให้เราฟังผ่านเลนส์การทำธุรกิจที่ไอเดียสดใหม่และน่าสนใจจนต้องขยับแว่นตาเพ่งมองรายละเอียด

แว่นที่ทั้งเท่ เก๋ และใช้งานดี

ตั้ม: แว่นตาของเราต้องสวย ต้องออกแบบเอง เราผลิตตรงกับโรงงานในประเทศเกาหลีใต้ที่ผลิตให้แบรนด์ระดับโลก ซึ่งเราเป็นพาร์ตเนอร์กับเขาในระยะยาว โรงงานนี้มีความสามารถด้านการผลิตและการเก็บรายละเอียดที่ดี เชี่ยวชาญด้านการใช้วัสดุคุณภาพและกระบวนการผลิตแว่นตา ส่วนเราจะออกแบบสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค เพราะ Glazziq เป็น lifestyle brand ต้องเน้นว่าแว่นตัวนี้จะเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตคนได้ยังไง ใส่ไปดูคอนเสิร์ตก็ได้ หรือขับรถตอนกลางคืนก็ดี

แว่นที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ดา: แว่นตาของ Glazziq มีหลายรูปแบบ เรื่องคุณสมบัติต้องดี เบา สวมสบาย ใช้งานได้จริง แว่นยังต้องสวย มีลูกเล่น ซ่อนสี และมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยคิดถึงไลฟ์สไตล์ของคนใช้เป็นหลัก เพราะลูกค้าของเราคือกลุ่มหนุ่มสาวคนวัยทำงานและนักศึกษามหาวิทยาลัยด้วย

ตั้ม: ลูกค้าของเราเป็น smart buyer หรือกลุ่มคนฉลาดเลือก โดยมีการศึกษาข้อมูลต่างๆ ของสินค้าก่อนซื้อเพราะเขาอยากได้ของใช้ที่ดีและคุ้มค่ากับชีวิตประจำวัน
แว่นของเราผลิตตรงจากโรงงานโดยตัดระบบพ่อค้าคนกลางออก ราคาจะถูกลงและสมเหตุสมผลแน่นอน

ดา: ลูกค้าไม่ยึดติดกับแบรนด์เนมในตลาดทั่วไป และเป็นคนที่เข้าใจในโมเดลธุรกิจแบบใหม่ อยากเรียนรู้ ลองสิ่งใหม่ ที่สำคัญเขาต้องกล้าที่จะลองวิธีการซื้อแว่นแบบที่เขาอาจจะยังไม่คุ้นเคย เพราะถ้าได้ลองแล้วเรามั่นใจว่าเขาจะประทับใจแน่นอน ตอนแรกเราคิดว่าจะมีแค่วัยรุ่นมาซื้อ แต่ปรากฏว่าคนมีอายุก็เข้ามาเพราะเขายังไม่อยากแก่ไง (หัวเราะ)

ยกตัวอย่างเช่นแว่นตารุ่น MagClip ของเรา จุดเด่นคือคลิปออน เราใช้คลิปแม่เหล็กแรงสูง ถอดเข้า-ออกได้สะดวก และมีขาแว่นที่ยืดหยุ่น เพราะทำจากวัสดุผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินช่วยให้แว่นทนทาน พร้อมคลิปสองประเภททั้งกันแสงแดดและตัดแสงช่วยเวลาขับรถกลางคืนได้ดี ถ้าอันหนึ่งหายก็ยังมีอีกอันให้ใช้ ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคใหม่ที่ทำหลายอย่างพร้อมกันได้ครบที่สุด

อีกอย่างแว่นตาของเรามีความเป็น fashion item ไม่ได้ใส่เฉพาะคนสายตาเสีย เรานึกถึงคุณมอร์–วสุพล เกรียงประภากิจ (นักร้องนำวง Ten To Twelve) และ คุณมินท์–ภัทรศยา ยงรัตนมงคล (นักแสดงและนางแบบ) ซึ่งทั้งคู่เป็นคนรุ่นใหม่เท่ๆ ไม่ยึดติดแบรนด์ ไม่ยึดว่าต้องซื้อของแพง เป็นคนมีเอกลักษณ์ มีความสามารถรอบด้าน ใส่แว่นของเราตามแบบสไตล์การแต่งตัวของเขาแล้วดูดีมาก

ดา: เราต้องปรับตัวให้ธุรกิจการขายแว่นยุคใหม่อยู่ต่อไปได้ รู้สึกไหมเวลาไปร้านแว่น เลือกกันยากมาก ทำให้คนไม่ค่อยอยากไปที่ร้านเลย ถ้าไปก็ต้องรีบ เกร็งและไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ ฉะนั้นเราต้องการสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อแว่นที่ง่ายเหมือนซื้อเสื้อผ้า ซื้อผ่านเว็บไซต์ เว็บเรามีหน้าตาคล้าย magazine ค้นหาแคตตาล็อกดูได้เพลินๆ ทดลองเปลี่ยนสีเลนส์ได้ และเห็นภาพได้ชัดเจนบนเว็บไซต์ glazziq.com เรียบง่ายแต่สวย ทุกรุ่นจะมีภาพให้ดูหมด กดดูองศาได้ทุกมุม มีฟิลเตอร์เพื่อกรองหาแว่นที่เหมาะได้ง่าย และมีรายละเอียดของแว่นแต่ละรุ่นชัดเจน

ดา: เราต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ เราเองเคยมีประสบการณ์ซื้อแว่นมาก่อน เวลาเข้าไปในร้านส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าเลือกยาก เพราะมีแว่นจัดวางอยู่เต็มไปหมดจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน แถมยังรู้สึกกดดันเวลาลองแต่ละตัว ไม่กล้าใช้เวลามากเกินไปเพราะเกรงใจคนขาย เราจึงทำเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลที่จะช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพ สามารถเลือกดูได้อย่างเพลิดเพลิน สามารถสั่งแว่นตัวอย่างไปลองได้ที่บ้านให้เพื่อนหรือครอบครัวช่วยเลือกได้ และส่งคืนง่ายๆ ผ่านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาไหนก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แต่ถ้าสะดวกและอยากลองหลายๆ รุ่นพร้อมกันมาที่โชว์รูมได้เลย และส่งค่าสายตาให้เราหรือไปวัดสายตาได้ที่หอแว่นทุกสาขากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ พอเสร็จจะมีค่าสายตาบันทึกไว้ ข้อมูลครบและอัพเดตตลอด ถ้ามาครั้งถัดไปจะง่ายแค่คลิกเดียวจบ นอกจากนี้ข้อมูลยังเชื่อมกับโรงงานที่ผลิตโดยตรงซึ่งกระบวนการหลังบ้านเชื่อมต่อกันหมดทำให้ลูกค้าซื้อแว่นได้ง่าย

ตั้ม: การขายผ่านช่องทางออนไลน์ เราต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ บางทีคนสั่งซื้อออนไลน์มาแล้วสวยแต่รูปคุณภาพกลับไม่ดี บางคนมีปัญหาบริการหลังการขาย ติดต่อซ่อมไม่ได้ ส่งคืนก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องหาทางรับบริการที่ไหน ผมเป็นคนใส่แว่นอยู่แล้ว แต่ก่อนซื้อตัวละ 20,000-30,000 บาท มันแพงเกินไป ธุรกิจของเราจึงเน้นขายคุณภาพ ราคาไม่แพงเพราะการตัดพ่อค้าคนกลางและค่าใช้จ่ายหน้าร้านที่ไม่จำเป็นออกไป กรอบพร้อมเลนส์สายตาของเราเริ่มต้นที่ 1,990 บาท เรามั่นใจในคุณภาพของกรอบและเลนส์เพราะมีพาร์ตเนอร์เป็นถึงโรงงานระดับโลก เรื่องบริการหลังการขายเราซ่อมให้ได้ ช่วยได้หมด และมีทีมงานคอยดูแลลูกค้าตลอดเวลา

นอกจากนี้เรายังมีสินค้าให้เลือกหลากหลายและอัพเดตใหม่ตลอด และมีการปรับปรุงตามความต้องการของลูกค้า จะมีแต่รุ่นยอดนิยมบางรุ่นเท่านั้นที่เราจะผลิตซ้ำ

แว่นที่เป็นธุรกิจแบบสตาร์ทอัพเจ้าแรกของไทย

ตั้ม: เราเรียกตัวเองว่าสตาร์ทอัพเพราะระยะยาวเราต้องการขยายไปต่างประเทศ เราจึงใช้เว็บไซต์เป็นหลัก เราเชื่อว่าคนไทยเจ๋งพอที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองแล้วส่งออก เราทำเว็บไซต์และนำเสนอเนื้อหาเองได้ เพราะถ้าเราพึ่งพาหน้าร้านอย่างเดียว เราจะขยายสาขาได้ยาก การหาพนักงานมายืนหน้าร้านเป็นเรื่องที่มีขั้นตอนเยอะ แถมยังมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งอาจจะทำให้ราคาแว่นต้องสูงขึ้นโดยไม่จะเป็น

ดา: คนที่อยู่ในธุรกิจแว่นตาแบบเดิมๆ จริงๆ อาจจะไม่เชื่อว่าจะทำแบบนี้ได้ ขายออนไลน์ใครจะซื้อ แต่ถึงไม่มีหน้าร้านมากมาย ด้วยคุณภาพ การบริการ ราคาที่เหมาะสม และภาพลักษณ์ของแบรนด์เราเชื่อว่าต่อไปธุรกิจต้องโตขึ้นเรื่อยๆ จากที่เพิ่งเปิดมาได้ 1 ปี ฐานลูกค้าเราก็โตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการบอกต่อและการกลับมาซื้อของลูกค้าที่ประทับใจในประสบการณ์การซื้อกับเรา

แว่นที่วางขายในร้านกาแฟ และพร้อมเป็นพาร์ตเนอร์กับคาเฟ่เจ้าอื่นๆ

ตั้ม: เราจัดวางแว่นตัวอย่างให้เป็นเหมือนของตกแต่ง จะได้ดูกันไม่เบื่อ หยิบจับได้ตลอด จะหยิบไปเล่นที่โต๊ะก็ได้ กินกาแฟแล้วเซลฟี่ไปด้วยยังได้เลย สุดท้ายถ้าบางคนเลือกมาโชว์รูม นั่งเลือกเป็นชั่วโมงแต่ยังเลือกไม่ได้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากให้ใช้เวลาเลือกได้อย่างเต็มที่เลย

ดา: ถ้าร้านกาแฟร้านไหนสนใจติดต่อมาได้เลย เราจะไปดูว่าสถานที่โอเคไหม เพราะเราอาศัยแค่มุมเล็กๆ ของร้านเพื่อการนำเสนอ อย่าง Casa Lapin สาขาเอกมัย ที่เราเป็นพาร์ตเนอร์กัน เราไม่เปลี่ยนสภาพร้านเขาเลย แต่ต้องกลับมาคิดทำการบ้านอย่างหนักว่าทำยังไงจะวางให้เป็นธรรมชาติและเข้ากับบรรยากาศของร้านมากที่สุด ลูกค้าเขาแค่คลิกเข้าเว็บพาร์ตเนอร์ ไม่ต้องจัดการอะไรให้ยุ่งยาก

แว่นตาที่จะก้าวไปสู่ระดับโลก

ดา: เราอยากมีโชว์รูมในหัวเมืองต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยเน้นทำแว่นให้คนเอเชียใส่ เรากำลังมองประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียเพราะเรามีพาร์ตเนอร์ในการวัดสายตาอยู่ที่ 2 ประเทศนี้ และผู้บริโภคมีความคุ้นชินกับการซื้อออนไลน์ ส่วนในระยะยาวเราก็มองเรื่องการขยายไปสู่ตลาดโลกด้วยเช่นกัน

GLAZZIQ
ประเภทธุรกิจ: ธุรกิจ Startup ที่นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยให้การสั่งซื้อแว่นทางออนไลน์ไว้ใจได้ยิ่งขึ้น
คอนเซปต์: ซื้อแว่นทางออนไลน์ คุณภาพเท่าเดิม แต่ราคาถูกกว่า แถมดีไซน์ของกรอบแว่นยังดูน่ารักร่วมสมัยจนเห็นแล้วอยากได้ไปเสียหมด
เจ้าของ: ตั้ม–พิริยะ ตันตราธิวุฒิ, ดา–ปริณดา ประจักษ์ธรรม, แดน–แดน อิสระยั่งยิน และ กี–กีรติพงศ์ อุกะโชค
เว็บไซต์: glazziq.com
เฟซบุ๊ก: Glazziq

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

AUTHOR