ศิลปะการมองหาประกายความสุขในชีวิตแบบชาวสแกนดิเนเวียน

ปี 2012 องค์การสหประชาชาติริเร่ิมประกาศดัชนีความสุข หรือลำดับประเทศที่คนในประเทศมีความสุขมากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุดโดยให้คะแนนผ่านการวิเคราะห์ปัจจัย 6 ด้านที่ครอบคลุมตั้งแต่ GDP, การสนับสนุนทางสังคม, อายุขัยเฉลี่ย, เสรีภาพในการใช้ชีวิต, ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และระดับการคอร์รัปชั่น 

จากปีนั้นเป็นต้นมา คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยว่าแต่ละปีนั้นประเทศที่เราอาศัยอยู่ หรือวาดฝันอยากไปอยู่นั้นมีค่าดัชนีความสุขเท่าไหร่ เผื่อว่าบ้านเมืองหรือตัวเราเองจะพอปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง แต่พอพลิกไปดูดัชนีหลายปีก่อน รายชื่อประเทศสิบอันดับแรกมักวนเวียนอยู่ไม่กี่ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศจากแถบสแกนดิเนเวียอย่างสวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และฟินแลนด์ ผู้เป็นเจ้าของโพเดียมอันดับหนึ่งของปีนี้ 

แล้วประเทศเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรฟู่ฟ่ามากเท่าประเทศชั้นนำของโลกกลุ่มนี้มีอะไรดีกันแน่

คำตอบคือ นอกจากการที่ชาวสแกนดิเนเวียนถูกแวดล้อมไปด้วยบ้านเมืองที่สงบ สะอาดและธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ หรือหน่วยงานส่วนกลางอย่างรัฐจะทำหน้าที่ดูแลประชาชนได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว อีกสิ่งที่ส่งผลต่อการอยู่ดีมีสุขในทุกๆ วันของพวกเขาก็คือทัศนคติในการใช้ชีวิต ความคิดความเชื่อที่เป็นเรื่อง ‘ภายใน’ ล้วนๆ 

อย่างที่นักคิดนักเขียนหลายต่อหลายคนให้เหตุผลของความสำเร็จในการมีชีวิตดีแบบชาวสแกนดิเนเวียนว่าเป็นเพราะพวกเขาใช้ชีวิตตัวเองตามปรัชญาฮุกกะ (Hygge) ที่แปลตรงตัวว่าความเรียบง่ายบ้าง ลากอม (Lagom) ที่หมายถึงความพอดีบ้าง หรือปรัชญาอย่างซิสุ (Sisu) ที่แปลว่าความมุ่งมั่นมานะที่แทรกซึมอยู่ในจิตวิญญาณชาวฟินน์ทุกคน  แม้ว่า 3 รูปแบบการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์เหล่านี้มีความหมายและแก่นแตกต่างกัน แต่ปลายทางของแนวคิดเหล่านี้แทบไม่ต่างกันเลย ซึ่งนั่นก็คือการสร้างชีวิตที่ดี มีความสุขหรือมีลุกกะ (Lykke) นั่นเอง

 และแม้ว่าเราจะเป็นคนในประเทศอันดับที่ 52 ในดัชนีความสุขปีนี้ ต้องบอกก่อนว่าอย่าเพิ่งน้อยใจไปเลย เพราะจริงๆ แล้วไลฟ์สไตล์จากสแกนดิเนเวียแทรกซึมและวนเวียนอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนทุกคน อาจเพียงเปลี่ยนรูปไปตามสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ และนิยามชื่อแตกต่างกันเพียงแค่นั้น

สำหรับคนที่มีเรื่องมากมายที่ต้องทำในแต่ละวัน การอ่านหนังสือเล่มหนาเพื่อทำความเข้าแต่ละปรัชญาทั้งสามนี้อาจใช้เวลามากพอสมควร เราเลยขอสรุปแนวคิดน่าสนใจที่น่าจะช่วยให้คุณพบความสุขในแบบชาวสแกนดิเนเวียนง่ายๆ เผื่อว่าใครชอบแนวทางไหน จะลองหยิบจับมาใช้กับตัวเอง แบ่งปันไปยังคนที่นั่งข้างๆ หรือศึกษาเพิ่มเติมจากนี้ได้ไม่ว่ากัน

มองเห็นความพิเศษในความธรรมดา

สิ่งนี้เราหยิบมาจาก ‘ฮุกกะ’ ศัพท์ภาษาเดนิชที่แปลว่า ‘ความสุขที่เรียบง่าย’ ชาวเดนิชรวมไปถึงชาวนอร์เวย์เชื่อในการมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว และทุกช่วงเวลามักมีเรื่องราวที่อ่อนโยนต่อใจซ่อนอยู่เสมอ โดยที่หัวใจของมันคือการใช้ชีวิตเรียบง่าย ใช้ชีวิตอย่างที่เราเป็นนั่นแหละ เพราะมนุษย์ย่อมมีความพอใจต่อความสุขและความทุกข์ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว 

พอเป็นแบบนี้พวกเขาจึงมักพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่สบายใจ หรือรายล้อมไปด้วยสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่นำความสุขมาให้ เช่น ออกแบบห้องของตัวเองให้น่าอยู่ จิบกาแฟในมุมโปรดของบ้านหรือร้านที่ชอบ จุดเทียนหรือหรี่แสงไฟในห้อง ทำอาหารกินเอง หรือแม้แต่การจ่ายตลาดกับคนรักก็ถือว่าเป็นฮุกกะอย่างหนึ่ง

อยู่กับความพอดี

สวีเดนมีสุภาษิตเก่าแก่อย่าง ‘Lagom är bäst’ ที่แปลว่า ‘ความพอดีนั้นดีที่สุด’ แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตของชาวสวีเดนจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาไปแล้ว แก่นสำคัญของ ‘ลากอม’ ก็คือการให้ความสำคัญกับการบาลานซ์ตัวเองในทุกๆ เรื่อง อย่างเวลากิน คนที่ใช้ชีวิตแบบลากอมจะกินอย่างพอประมาณและเน้นอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบง่ายๆ จากธรรมชาติ หรือนำของที่กินเหลือมาดัดแปลงเป็นอาหารจานใหม่ ไม่อยากกินทิ้งกินขว้าง เวลาทำงาน พวกเขามักจัดเวลาให้ตัวเองได้พักดื่มกาแฟ สร้างความผ่อนคลายระหว่างวัน

ลากอมยังส่งอิทธิพลไปถึงสไตล์ของงานออกแบบด้วย พวกเขานิยมสิ่งของที่เรียบง่ายแต่ดูดี เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก และจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้ามันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรักษาความสัมพันธ์แบบลากอมก็คือการพูดอย่างตรงไปตรงมา ไว้วางใจกันและกัน เรียกได้ว่าเป็นวิธีคิดที่ปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์ นอกจากนี้พวกเขายัง ‘ไม่ทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น’ อีกด้วย ชวนนึกถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ยังไงยังงั้น

 

กล้าหาญและมุ่งมั่น

นอกจากคนสแกนดิเนเวียนจะมีความสุขกับทุกสเตปของชีวิตแล้ว พวกเขายังมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างน่าชื่นชม เพราะจริงๆ แล้วปรัชญาที่คนฟินแลนด์ยึดมั่นอย่าง ‘ซิสุ’ ไม่ใช่เส้นทางแสวงหาความสุข แต่เป็นการยอมรับความทุกข์ที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญต่างหาก

เมื่อมุ่งมั่นทำอะไรแล้วพวกเขาแทบจะไม่รู้จักคำว่ายอมแพ้ ความมุ่งมั่นคือไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่งของชาวฟินน์ หัวใจสำคัญของซิสุคือการลงมือทำ พวกเขาเชื่อว่าสิ่งใดก็ตามที่เราทำมักให้อะไรกลับมาเสมอ เช่น การปั่นจักรยานไปไหนสักที่ก็นับว่าเป็นการออกกำลังอย่างไม่ตั้งใจ และเป้าหมายของซิสุคือการ ‘ฮึบ’ ทำในสิ่งที่ยาก กล้าลงมือทำสิ่งที่ไม่เคยทำเพื่อปลดล็อกตัวเอง หรือมองได้ว่าเป็นการสร้างความแข็งแรงให้ตัวเอง รอรับความท้าทายใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตในวันข้างหน้า

 

เข้าอกเข้าใจตัวเอง

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะเลือกแนวคิดไหนมาปรับใช้ เราอาจต้องรู้จักชีวิตและกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้ดีเสียก่อน เราที่เป็นคนไทยจะให้ปั่นจักรยานไปทำงานเพื่อให้ตัวเองได้ออกกำลังกายแบบชาวฟินน์ พอปรายตามองถนนหนทางและแดดเปรี้ยงก็ชวนเหนื่อยใจใช่เล่น หรือการปรุงอาหารทานเอง ชีวิตคนทำงานประจำปกติก็ต้องเร่งรีบอยู่แล้ว ลิสต์เหล่านี้เราอาจต้องขีดทิ้งไป 

วิธีการที่ดีที่สุดคือการค่อยๆ คิด ค่อยๆ เปลี่ยนจากเรื่องง่ายๆ และทำมันอย่างสม่ำเสมอให้ได้ก่อน เพราะถ้าเราทำสิ่งนั้นสำเร็จแล้วเราก็จะยิ่งมีแรงเสริมที่จะทำสิ่งอื่นๆ ตามไป เริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างการฉุดตัวเองจากเตียงมาเสพบรรยากาศยามเช้า เริ่มกิจวัตรประจำวันอันเรียบง่ายของตัวเองตั้งแต่การล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำเย็นเรียกพลังความสดชื่นก่อนออกไปทำงาน ยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งพบเห็นประกายความสุขที่รายล้อมตัวเราได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น 

 


แปรงสีฟันแบรนด์ Jordan เชื่อว่าการเริ่มต้นวันดีๆ สักวันหนึ่ง ความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ว่านั้นอาจเป็นการทำความสะอาดฟันด้วยแปรงสีฟันดีๆ สักด้าม 

ด้วยเหตุผลนี้ แปรงสีฟันทุกๆ รุ่น แบรนด์จึงเลือกให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Green Clean แปรงสีฟันดีไซน์สแกนดิเนเวียนที่นอกจากจะสวยแล้วยังผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รุ่น Clean Smile เหมาะกับคนที่ชอบแปรงสีฟันดีไซน์เรียบง่าย มาพร้อมกับด้ามแปรงสีสันหลากหลายให้คุณเลือกได้อย่างตรงใจ

แต่ถ้าใครชอบแปรงสีฟันดีไซน์ทันสมัยและสวยสะดุดตา แปรงสีฟัน Jordan รุ่น Individual นอกจากจะมาพร้อมกับด้ามจับหลากลวดลายเอาใจคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงแล้ว ขนแปรงรุ่นนี้มีขนาดเพียง 0.01 มิลลิเมตร ทำความสะอาดเข้าถึงทุกซอกฟัน และสุดท้าย แปรงสีฟันที่เข้าอกเข้าใจคนที่รักการแปรงฟันอย่างรุ่น Expert Deep Clean ที่แบรนด์ Jordan ตั้งใจออกแบบองศาของขนแปรงให้สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมขนแปรงยังนุ่มเป็นมิตรต่อเหงือกของเราอีกด้วย

ลองหาความสุขรอบตัวอย่างง่ายๆ ในทุกๆ วันกับแปรงสีฟันที่เหมาะกับเราสักด้าม ได้ที่ moong-shop.com/สินค้าตามแบรนด์/jordan.html

AUTHOR

ILLUSTRATOR

พนิดา มีเดช

กราฟิกดีไซเนอร์นิตยสาร a day ผู้มักตื่นสาย แต่หลงใหลแสงแดดยามเช้า และข้าวสวยร้อนๆ