วิ่งข้ามสะพานผ่านต้นไม้ที่สิงคโปร์

เส้นทาง: SOUTHERN RIDGES #Part 1
ประเทศ: สิงคโปร์
ระยะทาง: 9 กิโลเมตร

วิ่งคนเดียวเหรอวะ
น่าเบื่อจะตาย

นี่คือคำถามแรกที่เกิดขึ้นหลังจากอ่านคำโปรยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อนๆ นักวิ่งแชร์ที่หน้าเฟซบุ๊ก ตั้งแต่อยู่ที่สิงคโปร์มาหลายปีดีดัก ก็สังเกตได้ว่าคนที่นี่ชอบวิ่ง วิ่ง
วิ่ง กันมาก ทั้งเช้ามืด กลางวันแดดเปรี้ยง บ่าย 3 ซึ่งเคยทำมาแล้วและพบว่าไหม้มาก
เย็นก็วิ่ง ตี 1 ก็ยังเห็นวิ่งอยู่

แล้วทำไมถึงเริ่มวิ่ง

มันเริ่มต้นจากการที่พยายามหากิจกรรมทำหลังเลิกงานที่ไม่ต้องเสียเงินบนเกาะแห่งนี้
กิจกรรมที่ง่ายที่สุดและทำได้ถี่ที่สุด คือการเดินชมวิว

Henderson
Wave Bridge คือจุดแรกที่อยากไปมากที่สุด แต่มีทางเลือก 2 ทางคือ
เดินไปจากฝั่ง Harbourfront MRT (ใกล้ๆ Sentosa) หรือไปจากฝั่ง Telok Blangah Hill Park (ใกล้ๆ กับ Ikea Alexandra)
ซึ่งทั้งสองฝั่งต้องเดินจ้ำเข้าป่าไปทั้งนั้น

ได้
เดินก็เดิน
!

หลังจากที่ได้ฝึกซ้อมร่างกายจนมีความอึดระดับหนึ่งในการเดินทน
ก็ตัดสินใจออกเดินทางจากฝั่งสวน Telok Blangah Hill Park ซึ่งติดกับ Gillman
Barrack อันเป็นอีกจุดหนึ่งที่มักได้ยินในหนังสือท่องเที่ยวประเทศเกาะนี้ว่ามักมีการจัดแสดงนิทรรศการงานศิลปะอยู่บ่อยๆ

สิ่งแรกที่เจอตั้งแต่ทางเข้าคือสะพานซิกแซกแลดูลึกเข้าไปในป่า
หาทางออกไม่เจอ ฟ้าก็เริ่มเป็นสีแดงส้มเหมือนว่าพระอาทิตย์จะตกดินอยู่รำไร มองเห็นป้ายหน้าทางเข้าระบุว่าจะมีไฟเปิดตามทางเดินเหล็กยกสูงดังกล่าวตั้งแต่ทุ่มนึง
เลยบอกตัวเองว่าคงไม่เป็นไรมั้ง เดินไปเรื่อยๆ ก็หาทางออกเจอเอง หลังจากเดินมาสักพัก
ไฟก็เปิดขึ้นมาค่อยอุ่นใจหน่อย แต่ด้วยความที่บรรยากาศรอบตัวเป็นป่าทึบสนิท
มีเสียงจักจั่น เสียงนก และคนไม่พลุกพล่านมากนัก ทำให้แอบสยองเล็กๆ
ว่าจะปลอดภัยไหม เมื่อความกลัวเกิดขึ้น เลยตัดสินใจเร่งฝีเท้า จากเดิน
เป็นเดินเร็ว Uphill
ขึ้นไปเรื่อย แล้วก็เริ่มวิ่งเหยาะๆ ผ่านอากาศที่ค่อยๆ เย็นขึ้น

อากาศดีจัง
ในใจคิดเบาๆ แล้วก็ถอดหูฟังออกทั้งสองข้าง
เพื่อเพิ่มความระวังตัวให้มากขึ้นอีกระดับ แล้วก็พบว่าจริงๆ ระยะทางเพียงแค่ 1.68
กิโลเมตรจากทางเข้าที่ Alexandra Arch ถึงสุดทางของสะพานเหล็กยกระดับในช่วง
Forest Walk นี้ มันสงบมาก เสียงลมที่พัด เสียงต้นไผ่ เสียงนก
เสียงจักจั่น เสียงฝีเท้าคนที่วิ่งสวนทางมา แล้วก็เสียงฝีเท้าตัวเอง
มันจรรโลงใจและเพิ่มบรรยากาศในการวิ่งมากกว่าเสียงเพลงอีกนะเนี่ย

เกือบถึงทางออกไปจุดเชื่อม Henderson Wave Bridge แล้ว มีทางแยกให้เลือกว่าจะตัดผ่านทางลัดด้วยการเดินบันไดขึ้นไปเลย หรือจะตั้งหน้าตั้งหน้าวิ่งต่อไป หรือจะเดินผ่าน Earth Trail ซึ่งแลดูสมบุกสมบันดั่งใจสาย Trail
แน่ๆก็ได้เช่นกัน แน่นอนที่เราเลือกจ้ำเท้าวิ่งมุ่งหน้าต่อไปยังสะพานเหล็กดังกล่าว
แล้วก็แวะดูป้ายที่แนะนำว่าตรงไปทางออก Forest Walk และก้าวต่อไปอีก
0.47 กิโลเมตร ก็จะถึงสะพานอันเลื่องชื่อแล้ว
ช่วงนี้จะเริ่มเห็นคนมาวิ่งมากขึ้น

หลังจากวิ่งมาเรื่อยๆ
ผ่านช่วงที่มีลานกิจกรรม จุดน้ำดื่มสาธารณะ ที่จอดรถ
และร้านอาหารอยู่ 1 ร้าน ก็เจอป้ายที่แสดงว่าอีกนิดเดียวก็ถึงสะพานแล้ว
ช่วงนี้ไม่มีทางหลงแน่นอนเพราะเราเห็นคนมากมายสาวเท้าก้าวขึ้นทางชันด้านหน้าแบบหอบกันจนปอดแทบจะหลุดออกมา
ณ จุดนี้เราไม่สู้แล้ว ขอก้าวเท้ายาวๆ หายใจยาวๆ ขึ้นไปให้ถึงก็พอ เพราะเข่ากำลังส่งเสียงร้อง

หลังจากเดินไปประมาณไม่กี่นาที
ก็พบกับพระอาทิตย์ช่วงกำลังตกดินพอดี ผู้คนมากมายมาอยู่ที่นี่กันหมดนั่นเอง
ทั้งนักวิ่ง นักท่องเที่ยว คู่รัก ครอบครัวมานั่งปิกนิกถ่ายเซลฟี่กันอย่างหรรษา
และคนที่พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นยามเย็นกันมากมาย เรียกได้เลยว่า
หายเหนื่อยกับการวิ่งมา ถึงแม้จะเป็นทางสั้นๆ ก็ตาม

Southern Ridges สวนแห่งนี้ยังทอดยาวไปถึง Month Faber Park หรือจุดที่เชื่อมกับสถานีปลายทาง Cable car อีกด้วยและได้ข่าวว่าวิวข้างบนอรรถรสไม่แพ้
Henderson Wave Bridge เลยทีเดียว

รอบหน้าละกันนะ.. วันนี้เหนื่อยแล้ว
ขอแวะยืดเส้นดูวิวพระอาทิตย์ตกละกันค่ะ <3

map

gallery

ใครอยากเล่าเรื่องเส้นทางน่าวิ่งบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR