สัมผัสรสชาติชีวิตติดแม่ปิง ณ ‘Raya Heritage’ ที่พักที่อยากดูแลแขกไปพร้อมกับช่างฝีมือในชุมชน

ฤดูหนาวปีนี้เป็นปีแรกที่ฉันไม่ได้อยู่เชียงใหม่ เมื่อได้สัมผัสความเย็นในเมืองกรุงก็พานทำให้คิดถึงบ้านเกิดตัวเองขึ้นมา จินตนาการภาพในหัวว่าถ้าได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ตะลุยลมหนาวบนถนนเลียบแม่น้ำปิงคงสนุกแน่ๆ Raya Heritage

เหมือนโชคเข้าข้าง ฉันถูกส่งมาทำงานที่เชียงใหม่ ด้วยเพราะการงานฉันจึงไม่อาจควบมอเตอร์ไซค์ขี่ตะลอนอย่างใจหวัง แต่นี่ก็ถือเป็นโชคดีมากๆ อยู่ดีที่ได้มาสัมผัสลมหนาวของบ้านเกิดอีกครั้ง แม้อากาศตอนไปถึงจะไม่ได้หนาวจนตัวสั่น แต่ก็เย็นกว่ากรุงเทพฯ หลายขุม เป็นความหนาวที่ทำให้ฉันรู้สึกอุ่นในหลายมิติ

ความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งที่ฉันค้นพบระหว่างการทำงานครั้งนี้คือ ความประหลาดใจจากการเป็นแขกของบ้านตัวเอง

ฉันไม่เคยนอนโรงแรมที่เชียงใหม่ แต่จากประสบการณ์การไปพักผ่อนในหลายๆ ที่ Raya Heritage ถือว่าเกินความคาดหวังของฉันไปมากโข ว่ากันตามตรง ในเชียงใหม่มีโรงแรมที่ใช้คอนเซปต์ชูความเป็นล้านนาอยู่เต็มไปหมด รายาก็เช่นกัน ถึงกระนั้นที่นี่ก็มีบางสิ่งที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากที่อื่นอยู่ดี

เป็นบางสิ่งที่ทำให้ฉันคิดว่าการเป็นแขกในบ้านตัวเองมันดีจัง

มรดกทางวัฒนธรรมของคนริมน้ำ Raya Heritage

ฉันมาถึงที่ Raya Heritage ในวันที่แดดอุ่นกำลังดี

สิ่งแรกที่สะดุดตาคือหลังคากระเบื้องดินเผา เป็นหลังคาที่ทำให้นึกถึงหลังคาวัดสไตล์ล้านนาที่ฉันเคยเห็นแต่เด็ก เอียงและเตี้ยกว่าหลังคาทั่วไปเพื่อป้องกันลมหนาว เมื่อเดินเข้ามาด้านใน ฉันเจอกับพนักงานในชุดสีครีมที่ยกน้ำรากบัวควันฉุยกับผ้าอุ่นมาเสิร์ฟ

เซตเวลคัมดริงก์ที่แปรผันไปตามฤดูกาล คือความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ประการแรกที่ฉันสังเกตเห็น

ฉันจิบน้ำรากบัวอุ่นที่เข้ากันดีกับอากาศเย็นและเสียงพิณเปี๊ยะบรรเลงรื่นหู ความผ่อนคลายค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย “รากบัวไม่มีรส แต่ดีต่อสุขภาพ คนจีนจึงชอบใส่รากบัวในเครื่องดื่มหรืออาหาร” พี่พนักงานผู้หญิงอธิบายประกอบ 

Raya Heritage

หลังจากจัดการธุระที่รีเซปชั่น (ที่นี่เรียกว่า ‘ต้นห้อง’) เสร็จสรรพ คนของโรงแรมก็พาฉันเดินผ่านโถงกลาง มันคือพื้นที่โล่งกว้างสีเขียวที่ขนาบข้างกับสถาปัตยกรรมสีขาวสะอาดตา ขณะกำลังก้าวขา พี่พนักงานชี้ให้ดูต้นไม้สองต้นที่ตั้งอยู่ตรงกลาง “นั่นคือพ่ออุ๊ยและแม่อุ๊ย (คุณปู่และคุณย่า) ของโรงแรมนะ เพราะทั้งสองต้นน่ะตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ก่อนที่รายาเฮอริเทจจะเริ่มสร้างเสียอีก” 

เธอเล่าให้ฉันฟังเพิ่มว่า ความจริงแล้วรายา เฮอริเทจ เชียงใหม่ เป็นโรงแรมในเครือเดียวกันกับโรงแรมรายาวดี จังหวัดกระบี่ คำว่า ‘รายา’ แปลว่าหญิงสาว ส่วน Heritage ที่แปลตรงตัวว่ามรดกนั้น สื่อไปถึงคอนเซปต์เริ่มแรกของที่นี่ที่มีการหยิบมรดกทางวัฒนธรรมของคนเชียงใหม่ผู้ใช้ชีวิตริมน้ำมาสอดแทรกในทุกองค์ประกอบ

Raya Heritage

ทุกอย่างของที่นี่สะท้อนวิถีชีวิตของคนบ้านท่า (มีบ้านติดกับน้ำ) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดเริ่มตั้งแต่ทำเลติดแม่น้ำปิงที่กำลังไหลเอื่อยอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้

Raya Heritage Chiangmai

ข้าวของจากภูมิปัญญาคนท้องถิ่น Raya Heritage

อีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดไม่แพ้กัน คือรายาเลือกหยิบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาประดับตกแต่งสถานที่ บ้างแค่ตกแต่ง บ้างก็เป็นของที่ผู้เข้าพักสามารถใช้ได้จริง

Raya Heritage

ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 38 ห้อง แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ไล่ตั้งแต่ชั้น 3 ชั้นบนสุดคือ ‘เฮือนบน’ (แปลว่า บ้านชั้นบน) ห้องใต้หลังคาโทนสีขาวครีม ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง มีระเบียงที่มองเห็นแม่น้ำปิงในมุมสูง ถัดลงมาอีกชั้นคือ ‘รินเทอร์เรซ’ ห้องโทนสีดำซึ่งมีระเบียงมองน้ำแบบเดียวกัน และสุดท้ายคือ ‘ครามพูล’ ห้องชั้นล่างสุดฉันจะได้พักในคืนนี้

Raya Heritage
Raya Heritage

ความสนุกระหว่างทางเดินไปห้องพักของฉันคือการเห็นข้าวของจากภูมิปัญญาถูกนำมาตกแต่งในหลืบมุมต่างๆ และสนุกขึ้นไปอีกขั้นเมื่อเจอมันในห้องพัก เริ่มตั้งแต่ประตูเข้าห้องที่ทำจากไม้ไผ่ โอ่งใบใหญ่ข้างสระว่ายน้ำส่วนตัว รองเท้าสลิปเปอร์จากงานสาน ปลอกหมอนผ้าทอมือย้อมสีคราม อุปกรณ์หาปลาตาข่ายที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นโคมไฟในห้องน้ำ ไปจนถึงการนำ ‘ต๋าแหลว’ เครื่องรางไล่ภูตผีปีศาจของคนเหนือมาทำป้าย Do Not Disturb 

Raya Heritage
Raya Heritage

ที่เจ๋งคือข้าวของสุดโลคอลเหล่านี้สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์กับดีไซน์ห้องโมเดิร์นได้อย่างลงตัว และมันไม่ได้เป็นแค่ของตกแต่งขำๆ ที่ฉาบฉวยเท่านั้น ทุกชิ้นคืองานฝีมือ ทำขึ้นจากวัตถุดิบในท้องถิ่น แม้แต่ส่วนที่เล็กที่สุดอย่างโลชั่นหรือแชมพูในห้องน้ำ รายาก็เน้นวัตถุดิบออร์แกนิกของคนเหนือ (แอบกระซิบบอกว่าฉันรักแชมพูกลิ่นดอกตาเหินเป็นที่สุด)

ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้ฉันคิดว่าสิ่งที่รายาอยากมอบให้แขกมันเลยคำว่าการพักผ่อนไปไกล

ข้าวของพวกนี้มาจากไหน นั่นคือสิ่งที่ฉันสงสัยก่อนจะหลับผล็อยในคืนนั้น

สำรวจความหลากหลายของคำว่าล้านนาผ่านมื้ออาหาร Raya Heritage

รุ่งเช้าหลังจากได้พักผ่อนจนเต็มอิ่ม ฉันและช่างภาพออกจากห้องมาสูดอากาศแสนสดชื่นริมน้ำปิงเข้าเต็มปอด แล้วตรงดิ่งไปที่ ‘คุข้าว’ 1 ใน 3 ห้องอาหารของรายาเพื่อทานข้าวเช้า ถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่ารายาแตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ ที่ชูคอนเซปต์ความเป็นล้านนายังไง อาหารคือหนึ่งในคำตอบ

เวลาคิดถึงล้านนา ฉันก็มักจะตีความไปเองว่าล้านนาคือเชียงใหม่ แต่คำว่าล้านนาของรายานั้นหมายความรวมไปถึงพม่า เชียงตุง เชียงรุ้ง เชียงคำ จีนยูนนาน และลาว เรียกว่าเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมก็ว่าได้ 

นิยามนี้ส่งผลถึงอาหารที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมอันหลากหลาย ที่นี่จึงมีเมนูอย่าง ข่างปองไทใหญ่, น้ำพริกเขมร, น้ำพริกมะกรูด, สเต๊กเนื้อโพนยางคำ หรือถ้าคุณไม่ได้มีฟีลอยากกินอาหารท้องถิ่นขนาดนั้นก็มีอาหารไทยง่ายๆ อย่างผัดไท และเมนูเวสเทิร์นรองรับลูกค้าต่างชาติอย่างสลัดหรือ poached egg ให้เลือก

อ้อ แล้วนอกจากเมนูอาหาร all day dining ที่สั่งได้ทั้งวัน ที่นี่ยังมีเซต afternoon tea คอยเสิร์ฟอยู่ที่ ‘ลานชา tea room’ ห้องอาหารบนชั้นสองตั้งแต่เวลา 11 โมงเป็นต้นไป ขอเตือนก่อนว่าเซต afternoon tea ของที่นี่อาจไม่เหมือนที่ไหน เพราะเสิร์ฟมาในปริมาณที่สามารถทานแทนข้าวเที่ยงได้เลย 

วันที่ฉันไปมีทั้งของคาวและของหวานอย่าง สตรอว์เบอร์รีทาร์ต, อโวคาโด้เบคอน, สโคนที่ทานคู่กับแยมมัลเบอร์รี, คริปปี้แครปเค้ก, และไก่เสฉวน ทานคู่กับชาพะยอมอุ่นๆ ท่ามกลางลมหนาวดีนักแล

Raya Heritage Chiangmai

นอกจากนี้ หากคุณนึกกิจกรรมที่อยากทำระหว่างวันไม่ออก ที่นี่ก็มีกิจกรรมให้คุณได้เข้าร่วมแก้เบื่อด้วยเหมือนกัน ความพิเศษคือเป็นกิจกรรมที่แตกต่างกันทุกวัน ใช้เวลาสั้นๆ แค่ 1 ชั่วโมง และเป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับภูมิปัญญาของคนท้องถิ่น เช่น การพับดอกใบเตย การสอนทำต๋าแหลว การสอนสานไม้ไผ่ การสอนทำการ์ดจากดอกไม้และต้นไม้ และสุดท้ายคือกิจกรรม garden walk เดินทัวร์สวนผักออร์แกนิกที่นำมาใช้ทำอาหารให้ทานจริงๆ

ช็อปคัดสรรที่ซัพพอร์ตชุมชนอย่างยั่งยืน

รายา เฮอริเทจ เชียงใหม่ เปิดมาได้เกือบสองปี แต่เพิ่งมีส่วนไฮไลต์ที่สร้างขึ้นมาได้ไม่ถึงเดือน และฉันรู้สึกโชคดีเหลือเกินเพราะมาได้ถูกจังหวะพอดี

ไฮไลต์ที่ว่านั้นคือ ‘ฮิมกอง’

ฮิม แปลว่า ริม กอง แปลว่า ตรอกซอกซอยเล็กๆ ฮิมกอง จึงหมายถึง ร้านที่อยู่ในซอยเล็กๆ

ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ช็อปแห่งนี้คือที่ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้เกือบทุกอย่างที่เราได้เห็นในรายา ตั้งแต่ของในห้องไปจนถึงเซตของตกแต่งตรงทางเดิน พูดได้ว่าถ้าถูกใจชิ้นไหน เราสามารถถ่ายรูปมาให้พนักงานเช็กสต็อกแล้วหิ้วกลับบ้านได้เลย

Raya Heritage Chiangmai

นอกจากของประเภทที่เราเคยเห็นผ่านตา ที่นี่ยังมีสินค้าแฮนด์เมดจากศิลปินเชียงใหม่รุ่นใหม่หลายคน แบ่งประเภทหลักๆ เป็นสิ่งทอย้อมคราม, งานจักรสาน, เครื่องปั้นดินเผา, งานไม้ และงานเซรามิก

จากการสนทนากับพี่พนักงานใจดีที่ฮิมกองนั้นเอง ฉันจึงรู้ว่าข้าวของทุกชิ้นที่เราเห็นในรายานั้นคืองานแฮนด์เมดของช่างฝีมือท้องถิ่น อันที่จริง การสนับสนุนงานฝีมือของคนในชุมชนคือสิ่งที่รายาให้ความสำคัญไม่แพ้การออกแบบประสบการณ์การใช้ชีวิตริมน้ำให้แขกเลย

Raya Heritage Chiangmai

ที่นี่มีการวางแผนจะทำงานกับคนในชุมชนตั้งแต่ต้น โดยเลือกชุมชนตามความถนัดในการทำงานคราฟต์ที่ต่างกัน อย่างอำเภอแม่แจ่ม เชียงใหม่ ที่ถนัดเรื่องการทำหมอน, อำเภอเสริมงาน ลำปางที่ถนัดเรื่องผ้าทอมือ, กลุ่มบ้านป่าบง อำเภอสารภี เชียงใหม่ที่ถนัดเรื่องงานสาน และชุมชนตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่ถนัดเรื่องการสานไม้แหย่ง

Raya Heritage Chiangmai

ความน่ารักคือ ตอนที่ลงพื้นที่ไปติดต่อ ทีมดีไซเนอร์ของรายาไม่มีการบังคับให้ ‘พ่อตู้แม่ตู้’ (หมายถึง ศิลปินที่ทำงานแฮนด์เมดเก่งชั้นครู) ทำสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด สมมติว่าอยากได้หมอนหนึ่งชิ้น ชุมชนไหนถนัดเย็บหมอนก็ทำหมอน แต่ถ้าไม่ถนัดทำปลอกหมอนก็ส่งต่อให้อีกชุมชนที่ถนัดเรื่องผ้าทอมือทำขึ้นมา 

ที่สำคัญคือเรื่องไทม์ไลน์ในการทำงานนั้นสามารถประนีประนอมได้ ถ้าวันไหนคนในชุมชนต้องไปทำภารกิจอื่น หรือมีงานบุญต้องเข้าร่วมจนไม่มีเวลาทำ ไทม์ไลน์ก็พร้อมจะขยับด้วยจุดประสงค์เพื่อให้วิถีชีวิตของพวกเขาสามารถดำเนินไปเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรายาจะได้ชิ้นงานที่คนในชุมชนภูมิใจที่สุดมาด้วย

Raya Heritage Chiangmai

คนของฮิมกองยังเล่าให้ฟังอีกว่า เมื่อปีที่แล้ว รายาเพิ่งจัดนิทรรศการ ‘เลือนจางไม่ลางหาย’ แสดงงานคราฟต์จากภูมิปัญญาของคนในชุมชน แล้วเชิญชาวบ้านที่เคยร่วมงานด้วยมาชม สิ่งที่เกิดขึ้นคือความประหลาดใจและดีใจที่ได้เห็นงานของตัวเองได้รวมร่างกับงานของชุมชนอื่นๆ จนเกิดเป็นชิ้นงานที่สวยงาม

Raya Heritage Chiangmai

“เราทำสิ่งนี้เพราะให้พวกเขาเห็นว่างานของพวกเขามีคุณค่า ให้พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำงานต่อ เราเชื่อมั่นในตัวพวกเขามานานแล้ว และอยากให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเอง” คนของฮิมกองอธิบายด้วยรอยยิ้ม 

“อีกหนึ่งจุดประสงค์คือเราอยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นว่าภูมิปัญญาของพ่อตู้แม่ตู้รุ่นก่อนหน้าของเขาก็สามารถทำสิ่งที่ยั่งยืนได้ เราอยากให้การส่งทอดสิ่งที่ค่อยๆ หายไปให้ลูกหลานกลับมาเห็นค่าของมัน และสืบต่อ ให้เขาเห็นว่าเรามีสเปซตรงนี้ให้เจ็นฯ ใหม่”

แน่นอนว่าฮิมกองสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนจุดประสงค์นั้น และในอนาคต ช็อปเล็กๆ แห่งนี้อาจมีการขยับขยายไปสู่พื้นที่ออนไลน์เพื่อส่งต่อชิ้นงานเหล่านี้ให้คนหมู่มากได้เห็นมากขึ้น นี่แหละสิ่งที่รายาเรียกว่าการสนับสนุนอย่างยั่งยืน

Raya Heritage Chiangmai

ท่ามกลางอากาศหนาวของวันเช็กเอาต์ ฉันออกจากรายาด้วยความรู้สึกอุ่นๆ ในใจ ถ้ารายาแปลว่าหญิงสาว เธอน่าจะเป็นหญิงสาวชาวเหนือแสนใจดี รักวัฒนธรรมของตัวเอง และมีความสุขกับการใช้ชีวิตเพื่อสืบสานวัฒนธรรมนั้นในทุกวัน


โรงแรม Raya Heritage และร้านฮิมกอง

address: ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ใกล้กับศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ จากคูเมืองใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

ช่างภาพนิตยสาร a day ผู้ชอบกินอาหารที่ถ่าย