เราขอยอมรับแต่โดยดีว่าสมัครเป็นแฟนคลับสติกเกอร์ ‘Piske & Usagi’ คู่หูต่างสปีชีส์มานานแล้ว
สารภาพมาซะดีๆ ว่าในโทรศัพท์มือถือของคุณก็มีเหมือนกัน
หลายคนหลงรักความขำและความกวนของคาแร็กเตอร์กระต่ายชมพูและเจ้านกจิ๋วที่ตามเกาะแข้งเกาะขา (ที่หลายคนชอบสับสนว่าเป็นลูกเจี๊ยบ!) จนทำให้ ‘Piske & Usagi’ เป็นหนึ่งในสติกเกอร์ยอดนิยมแบบดาวค้างฟ้า ติดท็อปดาวน์โหลดทั้งใน LINE และ Messenger ด้วยแอ็กชั่นน่ารักๆ และสถานการณ์กวนๆ ที่ใช้สื่อแทนคำพูดได้หลายแบบ จนเราไม่แปลกใจเลยที่ ‘Piske & Usagi’ จะเป็นที่รักของคนทั่วโลก
จากสติกเกอร์ในระบบดิจิทัล คาแร็กเตอร์คู่หูจอมกวนยังงอกไปเป็นอีกหลายผลิตภัณฑ์ ทั้งเครื่องเขียน ตุ๊กตา ของที่ระลึก แถมยังมีคาเฟ่เป็นของตัวเองเรียบร้อย เรียกได้ว่าความน่ารักมุ้งมิ้งทั้งหมดทั้งมวลได้ควบรวมมาอยู่ในคาแร็กเตอร์ ‘Piske & Usagi’ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์แล้ว
Kanahei หรือคานาเฮย์ คือผู้ถักทอลายเส้นคู่หูจอมกวนขึ้นจากปลายปากกาของเธอ เราจึงอยากพาคุณไปทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นอีกนิด เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาพบปะแฟนคลับชาวไทยในกิจกรรม ‘Meet & Greet : Kanahei Autograph Signing Event by Sweet Summer’ หญิงสาวภายใต้หน้ากากยีราฟนี่แหละ ที่เป็นเจ้าของลายเส้นตัวการ์ตูนแสนน่ารักขวัญใจคนทั่วโลก
อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของการออกแบบคาแร็กเตอร์ ‘Piske & Usagi’ เธอพร้อมมาเฉลยให้เราฟังถึงเบื้องหลังความน่ารักแสนกวนของคาแร็กเตอร์นี้ และในฐานะนักวาดภาพประกอบ มาลองดูว่าเธอมีวิธีการคิดและวิธีการทำงานแบบไหนกันนะ
คุณรู้ตัวตอนไหนว่าอยากทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบ แล้วมีการพัฒนาแนวทางการวาดรูปของตัวเองยังไง
ตั้งแต่จำความได้ก็วาดรูปแล้ว จำได้ว่าตอน 5 ขวบ เจ็บใจมากที่เห็นเพื่อนวาดรูปเก่ง ก็แสดงว่าเริ่มจริงจังกับการวาดรูปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ พอขึ้นชั้นประถม ได้เห็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นจากเกมที่ชอบเลยรู้สึกว่าอยากวาดเองบ้าง ตั้งแต่ตอนนั้นก็เริ่มคิดแล้วว่าถ้าหาเงินจากภาพที่ตัวเองวาดได้คงดีไม่น้อย
จากนั้นก็เริ่มวาดการ์ตูนแนวโชโจ เป็นแนวโรแมนติก มีดราม่าคอมเมดี้แทรกพอประปราย เรียกได้ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่อยากถ่ายทอดความขบขันลงไปในภาพของตัวเองด้วยค่ะ ตอนมัธยมปลายก็วาดการ์ตูนไว้ใช้ส่งแมสเสจกับเพื่อนๆ พอโพสต์ลงบล็อกคนก็เริ่มสนใจ ตอนนั้นดีใจมาก แล้วก็รู้สึกระตือรือร้นตอนที่มีคนชอบตัวการ์ตูนที่อัพทางเว็บไซต์ ความรู้สึกที่อยากจะส่งความสุขให้คนอื่นก็ทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม เลยวาดภาพประกอบมาเรื่อยๆ พอรู้ตัวอีกทีก็ได้มาวาดสติกเกอร์ไลน์แล้วค่ะ
ช่วยเล่าเรื่องราวเบื้องหลังคาแร็กเตอร์ที่ดังเป็นพลุแตกอย่าง ‘อุซางิและพีสึเกะ’ ให้ฟังหน่อยว่ามีที่มาที่ไปเป็นยังไง ทำไมถึงเลือกที่จะวาดสัตว์สองตัวนี้เป็นคู่หูกัน
ตั้งแต่เด็ก ชอบวาดให้สิ่งมีชีวิตสองสปีชีส์ที่ดูไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ไว้ด้วยกัน เพราะตอนนั้นชอบดูหนังสือนิทาน เช่น เรื่อง หนูน้อยหมวกแดง ที่จับเด็กผู้หญิงกับหมาป่ามาอยู่ด้วยกัน เลยเป็นคนชอบคิดอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าสิ่งมีชีวิตสองประเภทมาอยู่ด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้น การจับเอาคาแร็กเตอร์สัตว์ต่างสปีชีส์มาอยู่ด้วยกันเลยเกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งอุซางิและพีสึเกะก็เหมือนกัน ก็เลยคิดเหตุการณ์ต่างๆ ว่าถ้าเจ้าสองตัวนี้มาอยู่ด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ขอกระซิบว่าจริงๆ แล้วพีสึเกะไม่ได้เป็นไก่หรือลูกเจี๊ยบนะคะ แต่พีสึเกะคือนกค่ะ (หัวเราะ)
อะไรที่ทำให้มองเห็นโอกาสในการทำสติกเกอร์ ‘อุซางิและพีสึเกะ’ ใน LINE Creators Market ตามมาอีกหลายชุด
ทำเพราะชอบและมีคนรอใช้สติกเกอร์อยู่ค่ะ และสไตล์การทำงานแบบนี้เหมาะกับตัวเองมาก เพราะเวลายืดหยุ่น และเปลี่ยนสถานที่ทำงานได้ตามความเหมาะสม รู้สึกว่าเป็นงานที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ เพราะไม่เคยรู้สึกเครียดเลย
ในร้านค้าสติกเกอร์ของ LINE มีสติกเกอร์ให้เลือกมากมายหลายแบบ คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้สติกเกอร์ ‘อุซางิและพีสึเกะ’ โดดเด่นขึ้นมาและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
คิดว่าคงเป็นเพราะเราใส่ใจออกแบบสติกเกอร์ให้ง่ายต่อการนำไปใช้งานมั้งคะ และผู้ใช้สามารถนำ 40 ภาพในแพ็กเกจไปใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ เราจะกำหนดวัตถุประสงค์การใช้งานคร่าวๆ ว่า ‘สนุก’ เยอะๆ ‘เศร้า’ น้อยๆ แล้วค่อยวาดภาพที่เข้ากับอารมณ์นั้นค่ะ
ผู้ใช้แอพพลิเคชั่น LINE และ Messenger ของเฟซบุ๊ก คงจะได้เห็น ‘อุซางิและพีสึเกะ’ ผ่านตามาบ้าง ในมุมมองของคนสร้างคาแร็กเตอร์นี้ขึ้นมา รู้สึกยังไงที่ในโทรศัพท์ของคนทั่วโลกมีคาแร็กเตอร์ของคุณ
ที่ผ่านมามีคนบอกตลอดว่าใช้สติกเกอร์ไลน์ของเรา ใช้ธีมไลน์ที่วาด ที่ผ่านมาไม่เคยเชื่อเลย จนกระทั่งที่มาอีเวนต์แจกลายเซ็นที่กรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกว่ามีคนใช้สติกเกอร์ของเรา น้องๆ ที่มางานโชว์ให้ดูว่าในมือถือของพวกเขามีสติกเกอร์ของเราอยู่ ดีใจมาก เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ฝันไป (หัวเราะ) เพิ่งจะรู้ว่าคนใช้สติกเกอร์ของเราจริงๆ ก็วันนี้นี่แหละค่ะ
พอคาแร็กเตอร์ของเราเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คุณมีวิธีประนีประนอมจุดยืนของตัวเองกับความคาดหวังของแฟนๆ ที่รอชมสติกเกอร์ยังไง
ที่จริงก็อยากรองรับความต้องการที่หลากหลาย แต่ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำเท่านั้น เพราะความตั้งใจของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานค่ะ
การวาดสติกเกอร์ ‘One Piece Kanahei Style’ ที่สร้างมาจากการ์ตูนเรื่องยาวอันเป็นตำนานอย่าง ONE PIECE คุณคัดเลือกฉากในเรื่องยังไง และมีการทำงานต่างกับการวาดสติกเกอร์อื่นๆ ไหม
เราชอบอ่านการ์ตูน ONE PIECE มาตั้งแต่ชั้นประถมเลย และยังอ่านมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะได้มาทำงานวาดสติกเกอร์นี้ ทราบมาว่าอาจารย์ผู้เขียน ONE PIECE ก็ใช้สติกเกอร์ของเรา เลยคิดว่าอาจารย์น่าจะชอบอะไรที่ขำๆ เนื่องจากการ์ตูน ONE PIECE มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก การออกแบบสติกเกอร์ชุดนี้จึงต้องทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกอยากใช้ขึ้นมาทันที และคำนึงถึงความสะดวกในการนำมาใช้งานเป็นหลัก
เลยเริ่มทำสติกเกอร์ชุดนี้โดยเอา ONE PIECE ทุกตอนมาอ่านใหม่อีกครั้ง เพื่อสัมผัสถึงฉากและเสน่ห์ของตัวละครอีกที แล้วหาสถานการณ์หรือบทพูดที่ขำๆ ในเรื่อง จริงๆ การเลือกฉากที่จะนำมาวาดไม่ได้ยากอะไรเลย เพราะเลือกฉากที่ชอบและตัวละครในดวงใจ แน่นอนว่าใส่ฉากที่ตัวเองชอบมากลงไปด้วยค่ะ!
นอกจากงานวาดสติกเกอร์ คุณรับงานวาดภาพประกอบเรื่องยาวและวาดมังงะด้วย มีวิธีคิดและวิธีการทำงานต่างจากการวาดสติกเกอร์ยังไง
การ์ตูนเรื่องยาวต่างจากสติกเกอร์ตรงที่จำเป็นต้องมีเรื่องราว แต่เรื่องราวก็เป็นสิ่งช่วยผลักดันให้คาแร็กเตอร์มีเสน่ห์มากกว่าเดิม ดังนั้นคงต้องยอมรับว่าทั้งการ์ตูนและสติกเกอร์มีความคล้ายคลึงกันตรงที่ต้อง ‘สร้างคาแร็กเตอร์’ เพื่อให้มีเรื่องราว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์ ภาพวาด หรือการ์ตูน การสร้างคาแร็กเตอร์ที่มีเสน่ห์ถือเป็นเรื่องดีค่ะ
สำหรับเรา วิธีการวาดสติกเกอร์และวาดภาพประกอบเรื่องไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น แต่สิ่งที่ต้องคิดตลอดคือ สติกเกอร์เมื่อวาดออกมาจะต้องมีคนใช้ จึงต้องใช้งานได้ง่ายเป็นหลัก แต่ในมุมกลับกัน การวาดภาพประกอบเรื่องยาว เรื่องนั้นก็จะต้องมีคนอ่านอยู่ดี ก็เลยคิดว่างานทั้งสองแบบนี้ เราจะวาดภาพสื่อสารยังไงให้คนอ่านเข้าใจง่าย
คุณคิดยังไงกับวัฒนธรรม ‘Fan Support’ ที่ได้เห็นแฟนคลับมาให้กำลังใจขณะวาดคาแร็กเตอร์แบบสดๆ
แน่นอนว่าดีใจมากค่ะเวลาเห็นแฟนคลับมาให้กำลังใจ นี่เป็นการวาดไลฟ์โชว์ครั้งแรกที่เมืองไทยด้วย ตอนแรกตื่นเต้นมาก มือสั่น ตอนวาดในไอแพดกดผิดเยอะมาก แต่อยู่ดีๆ ตอนที่มองไปแล้วเห็นทุกคนตั้งใจดูที่จอมากๆ เลยเลิกตื่นเต้น อยากตั้งใจวาดภาพให้คนดูเยอะๆ แทน เพราะอยากแสดงความรู้สึกขอบคุณทุกคนผ่านคาแร็กเตอร์ค่ะ การได้เห็นรีแอ็กชั่นของแฟนคลับที่ชื่นชอบภาพของเรา และตอนที่ได้รับข้อความให้กำลังใจต่างๆ มันทำให้รู้ว่าเราวาดรูปไปเพื่ออะไรค่ะ
บล็อกมีส่วนช่วยค้นหาแนวทางการวาดของเรายังไง เพราะที่ผ่านมาคุณทดลองวาดงานใหม่ๆ และลงให้คนทั่วไปชมทางเว็บบล็อกอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่นักวาดภาพประกอบคนอื่นๆ อาจไม่ได้สื่อสารกับแฟนคลับด้วยวิธีนี้
นิสัยเราตั้งแต่สมัยก่อนคือ วาดภาพแล้วอยากได้รีแอ็กชั่นจากคนดูว่ารู้สึกยังไงกับรูปภาพของเรา ถ้าคนดูแล้วชอบก็รู้สึกดีใจ แต่ถ้าวาดไปแล้วคนดูไม่ค่อยสนใจก็จะรู้สึกเศร้าจังเลย สำหรับเราบล็อกเป็นที่ที่โพสต์รูปให้คนทั่วไปได้เห็น ตัวการ์ตูนของเราทำให้แฟนคลับดีใจ เราก็ดีใจด้วย
บล็อกเป็นที่ที่เรารู้สึกว่าสำคัญมาก การอัพรูปในเว็บไซต์ก็เป็นตัวจุดประกายการทำงานในฐานะนักวาดภาพของเราด้วย เรียกได้ว่าบล็อกเป็นจุดเริ่ม นอกจากนั้นยังเป็นพื้นที่ที่สำคัญมาก เพราะเป็นเหมือนสถานที่สำหรับทดลองวิธีวาดภาพ รวมทั้งการถ่ายทอดอารมณ์แบบใหม่ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีงานทำ ก็คงอัพรูปในเว็บไซต์ต่อไปค่ะ
อะไรคือแผนและก้าวต่อไปในฐานะนักวาดภาพประกอบ
บอกตามตรงว่าทำสิ่งที่อยากทำมาโดยตลอด รู้ตัวอีกทีก็มาถึงจุดนี้แล้ว นอกจากนั้นยังทำงานโดยให้ความสำคัญกับความสนุกสนานเป็นอันดับแรก ทำให้ไม่รู้สึกว่าหนทางสั้นหรือยาวค่ะ ทำให้ไม่เคยวางแผนล่วงหน้า ถ้าได้รับแรงบันดาลใจอะไรสักอย่าง คงมีคาแร็กเตอร์ใหม่ออกมา
ฉะนั้นในอนาคตก็อยากวาดภาพต่อไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้สนใจ VR ค่ะ อยากทำอุซางิและพีสึเกะแบบสามมิติขึ้นมา ให้คนดูมาใส่แว่น อยากให้ทุกคนสามารถเอ็นดูอุซางิและพีสึเกะได้มากขึ้น และคงดีใจมากถ้าแฟนๆ จะรักอุซางิและพีสึเกะต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเราจะจากโลกนี้ไปแล้ว
ขอขอบคุณล่ามผู้แปลภาษาญี่ปุ่น อาลียา รัตนวิระกุล
