กำแพงสีเหลืองมัสตาร์ดที่ปะติดภาพวาดขนาดเล็กใหญ่ไม่เป็นระเบียบอยู่จนเต็ม เก้าอี้ยางสีเหลืองสดใสลาย Yellow Submarine ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจาก The Beatles Museum ลอนดอน รวมไปถึงตุ๊กตาปลาแซลมอนตัวเบิ้มแขวนลอยไปลอยมาจากเพดานที่ได้มาจากตลาดนัดรถไฟ
ข้าวของมากมายสไตล์เฉพาะตัวในห้องทำงานของนักวาดภาพประกอบสาวร่างเล็ก ป่าน-ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ juli baker and summer คนนี้ คงพออธิบายผลงานภาพวาดลายเส้นยึกยือสีสันสดใสที่เราเห็นผ่านตากันจากหน้าปกอัลบั้ม Stay at Home ของสองพี่น้อง Plastic Plastic และหน้าปกนิตยสาร Cheeze ฉบับครบรอบ 12 ปีมาบ้าง
การเติบโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นแฟนตัวยงของวงดนตรี The Beatles ผู้ชอบสะสมแผ่นเสียงเพลงเก่าๆ และข้าวของวินเทจในยุคฮิปปี้ปี 70 ทำให้ป่านถูกแวดล้อมด้วยบรรยากาศของศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ รวมไปถึงได้สายตาไม่ธรรมดาที่หลุดจากกรอบเกณฑ์อย่างการระบายสีเส้นผมผู้หญิงเป็นสีชมพูแปร๋นจนคุณครูคิดว่ามีปัญหา แต่นั่นทำให้คุณแม่ตัดสินใจส่งป่านไปจับพู่กันและนั่งเรียนศิลปะตั้งแต่อนุบาล 3
ป่านเพิ่งเรียนจบจากสาขาวิชาแฟชั่นและสิ่งทอ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เจ้าตัวเลือกเรียนเพราะชอบสเกตช์แบบเสื้อผ้าผู้หญิงสวยๆ แต่ก็ได้รู้ว่าแฟชั่นไม่ได้มีแค่นั้น แต่ยังรวมถึงการไปเดินเลือกผ้า คุยกับช่างตัดเย็บและวางแผนการตลาด ซึ่งไม่ค่อยสนุกนักในสายตาของป่าน แต่นั่นก็ทำให้สาวนักวาดภาพประกอบคนนี้ชัดเจนกับตัวเองมากขึ้นว่า การวาดภาพคือสิ่งที่ชอบและทำได้ดีที่สุดจริงๆ
ถึงไม่มีคำจำกัดความชัดเจน แต่ป่านบอกเราว่างานของเธอเป็นแนวกึ่งๆ Naive Art เหมือนภาพที่เราวาดกันตอนเด็ก คือไม่ต้องเหมือน ไม่สมบูรณ์แบบ แค่ลากเส้นไปโดยไม่คิดมาก และจับคู่สีโดยใช้เซนส์ส่วนตัวว่าน่าจะเข้ากันได้มาละเลงโดยมองข้ามทฤษฎีสีที่เรียนมา (“หรือบางทีในจานสีเหลือสีอะไรก็ใช้สีนั้น” ป่านบอกแล้วโชว์ให้เราดูจานสีที่มีแผ่นสีอะคริลิกแห้งๆ ติดอยู่จนเป็นงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งได้เลย)
รายละเอียดเล็กน้อยในชีวิตที่ป่านสังเกตจากผู้คนอย่างการแต่งกาย สิ่งที่ได้จากภาพยนตร์ เสียงเพลง รวมถึงการเดินทางอย่างตอนที่ไปฝึกงานด้านแฟชั่นไกลถึงเบอร์ลิน ล้วนถูกถ่ายทอดผ่านฝีแปรงและสีอะคริลิกสุดดิบเห็นรอยแปรงที่ลากผ่านการลงสีทับซ้ำๆ และการผสมกันของสีที่แยกชั้นกันจนแข็งตัว รวมไปถึงสัมผัสนูนๆ ที่สีชนิดอื่นก็ให้ไม่ได้ นักวาดภาพประกอบสาวในกรอบแว่นกลมบอกเราว่านี่เป็นแนวทางที่วาดแล้วสบายใจ และพบว่าก็มีศิลปินที่วาดภาพโดยไม่สนใจความเหมือนหรือถูกต้องเยอะไป อย่างเดวิด ฮอคนีย์, วินเซนต์ แวน โก๊ะห์ รวมไปถึงตั้ม-วิศุทธิ์ พรนิมิตร
“แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้อยากหยุดอยู่แค่สไตล์นี้ อยากเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเหมือนเดิมมันก็คงน่าเบื่อ ปีหน้าเราวางแผนว่าจะไปเรียนต่อปริญญาโทด้านศิลปะ เพราะอยากกลับมาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะเด็ก ฟังดูน่าสนุกดี อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์บ้างเพราะอาชีพเราปกติก็ไม่ได้ช่วยอะไรใครมาก เราทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ทำเท่าที่ความสามารถเราทำได้ ซึ่งเราว่าศิลปะจำเป็นกับเด็กนะ” ป่านบอกเราถึงแผนการในเส้นทางสายศิลปะที่วางไว้ และเราก็เชื่อว่าน่าจะได้เห็นงานสีสันแปลกๆ ในแบบ juli baker and summer ไปปรากฏอยู่ในสื่อหลากหลายประเภทขึ้นแน่นอนล่ะ
facebook | juli baker and summer