บ้านมะขาม บางน้ำผึ้ง : ที่พักเรียบเท่ที่เด่นเรื่องการออกแบบบ้านไม้ให้น่านอน

จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าวันหยุดนี้เราอยากนอนเฉยๆ?

ก็เมื่อในวันธรรมดา คนเมืองอย่างเราต้องตื่นแต่เช้า ฝ่ารถติดและฝุ่นควันไปทำงานจนเย็นย่ำ ตกค่ำกลับถึงบ้านบางครั้งก็ยังต้องนั่งทำงานต่ออีกนิด กว่าจะได้พักสายตา ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ต้องตื่นไปใช้ชีวิตกันอีกแล้ว การนอนเฉยๆ เลยเป็นกิจกรรมที่ทำได้ยากในยุคสมัยนี้ นั่นทำให้เมื่อเราได้ยินว่าไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีบ้านพักในสวนสวยเพิ่งเปิดใหม่ชื่อว่า บ้านมะขาม บางน้ำผึ้ง เราจึงรีบมาเช็กอินทันที

แม้บางน้ำผึ้งจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงแค่แม่น้ำเจ้าพระยากั้น แต่ก็มีพืชพันธ์ุหนาแน่นสมบูรณ์ไม่แพ้ป่าที่อยู่ห่างไกลเลย สารภาพว่าตอนเดินเข้าไปยังบ้านมะขามเรามองหาตัวบ้านแทบไม่เจอเพราะถูกพุ่มไม้ครึ้มบังสายตา ยิ่งบ้านพักแต่ละหลังทำมาจากไม้ด้วยแล้ว บ้านมะขามก็ยิ่งกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งไปกับธรรมชาติรอบตัวอย่างแนบเนียน

มารู้ทีหลังว่าความกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่รอบๆ คือความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มของ บุปผชาติ มีเจริญ และ สุวรรณะ สมสวัสดิ์ เจ้าของบ้านมะขามที่อยากเก็บท้องร่องและสวนอันอุดมของบางน้ำผึ้งไว้ให้คนกรุงเทพฯ ได้มาอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งยังพยายามสร้างผลกระทบต่อโลกสีเขียวรอบตัวให้น้อยที่สุด

เพราะอย่างนั้น ‘ไม้’ จึงกลายมาเป็นวัสดุหลักในการสร้างบ้านพักหน้าตามินิมอลที่มีเพียง 6 หลัง ด้วยฝีมือการออกแบบของบริษัท สตูดิโอมิติ จำกัด (Studiomiti) ความพิเศษคือพวกเขายังใช้ไม้มาสร้างสะพานเชื่อมระหว่างบ้านพักแต่ละหลัง แถมยังใช้ไม้สีอ่อนเป็นวัสดุหลักของเฟอร์นิเจอร์ในห้องที่ช่วยขับให้บรรยากาศดูละมุนตามากขึ้น

นอกจากเครื่องเรือนไม้ในห้อง บานหน้าต่างโดยรอบยังถูกออกแบบให้อยู่ต่ำจนชิดหัวนอน เพื่อที่แขกมาพักมองออกไปจะได้เห็นต้นไม้อยู่ใกล้ตัว ส่วนยามเช้ายังจะมีนกบินมาเกาะกิ่งไม้ร้องเพลงปลุกข้างหูอีกด้วย

ถึงแม้ตัวบ้านจะได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านไม้แบบไทยๆ แต่ถ้าลองมองไปที่ฐานของบ้าน เรากลับเห็นว่าโครงของบ้านไม่ใช่เสาไม้ต้นใหญ่แบบที่เราเคยคุ้น แต่กลับมีโครงเหล็กสีดำตั้งอยู่แทน บุปผชาติตอบข้อสงสัยเราว่าเพราะอยากรักษาพื้นที่เดิมที่เป็นสวนเอาไว้ พวกเขาจึงหยิบหลักการของฐานรถบรรทุกมาสร้างตัวฐานของบ้านคร่อมท้องร่องเดิมเสียเลย นอกจากจะไม่รุกรานธรรมชาติมากนัก หากลองสังเกตตัวเองเวลาเดินอยู่ในบ้านพัก เราจะรู้สึกโอนเอนเล็กน้อยตามแบบฉบับเรือนไทยแบบเก่าๆ ไม่มีผิด

จากโจทย์ที่ตั้งใจว่าจะรบกวนพื้นที่สวนเดิมให้น้อยที่สุดไม่เพียงแต่ทำให้ต้องยืมหลักวิศวกรรมสมัยใหม่มาใช้ แต่ยังทำให้การก่อสร้างยากขึ้นอีกหลายเท่า เพราะบริเวณของทางเดินเข้า-ออกบ้านมะขามที่เป็นเพียงทางปูนแคบๆ ในระดับที่รถจักรยานสวนกันยังต้องระวัง ทำให้การขนท่อนไม้เข้ามาสร้างบ้านทุลักทุเลอย่างช่วยไม่ได้ นั่นทำให้สถาปนิกต้องคำนวณขนาดของไม้แต่ละชิ้นให้พอดีเป๊ะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลำบากขนเศษไม้ออกไปอีกรอบ หรือร้ายกว่านั้นคือต้องถูกทิ้งให้เป็นเศษขยะที่โคนต้นไม้ใต้บ้าน

อีกสิ่งที่เราชอบใจบ้านมะขามแห่งนี้เป็นที่สุดคือการบิดเสน่ห์แบบไทยๆ ใส่ลงไปในการออกแบบร่วมสมัย ทำให้บ้านพักที่นี่มีหน้าตาน้อยแต่มาก แต่ยังคงกลิ่นอายที่เราคุ้นเคยเอาไว้ เช่น หลังคาบ้านที่ใช้สังกะสีแผ่นเรียบมาพับและเรียงเป็นหลังคา เล่นแสงอาทิตย์วิบวับได้ทั้งวัน หรือโต๊ะกลางห้องที่วางของใช้ตามมาตรฐานโรงแรมอย่างแก้วน้ำ กาน้ำร้อน ก็เข้าเซ็ตกันดีกับไม้ปัดไล่แมลงและไม้เกาหลังอันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบไทยๆ

หากมองจากไกลๆ บ้านพักไม้แต่ละหลังต่างซุกตัวอยู่ในดงไม้อย่างกลมกลืน ไม่ต่างจากที่บ้านมะขามกลมกลืนไปกับชุมชนบางน้ำผึ้งอย่างแนบแน่น สะท้อนออกมาผ่านเมนูอาหาร มื้อเช้าอย่างข้าวต้มหมูใช้ข้าวผสมลูกเดือย หัวมัน และเผือกจากตลาดบางน้ำผึ้ง หรือเมนูปลาทูต้มเค็มของดีของชุมชน ที่บ้านมะขามอุดหนุนมาจากร้านของผู้ใหญ่บ้านใกล้ๆ นี่เอง หากอยากจิบเครื่องดื่มสบายๆ บ้านมะขามก็มีร้านกาแฟคอยต้อนรับ พร้อมมุมให้เอนหลังอ่านหนังสือ หรือจะแอบหลับตรงนี้ก็ยังได้

แม้บางน้ำผึ้งและตำบลบ้านใกล้เรือนเคียงจะมีกิจกรรมมากมายให้เลือกไปสนุกได้ ทั้งการปั้นธูปสมุนไพร ระบายผ้าบาติก ปั่นจักรยานเที่ยวชุมชน หรือเดินดูตลาดน้ำ แต่ที่บ้านมะขามเองกลับเน้นให้แขกที่พักได้มาทำอะไรง่ายๆ อย่างการนอนพักใจ ดูผีเสื้อร่ายรำในกอหญ้า และฟังเสียงนกร้องเสียมากกว่า

“บางทีเราทำงานในกรุงเทพฯ มันก็เหนื่อยเนอะ อากาศหายใจไม่มี ไม่รู้จะไปชาร์จพลังที่ไหน ที่นี่ก็เลยเหมาะในแง่ที่อากาศก็ดี เงียบสงบ ใกล้กรุงเทพฯ ด้วย เรามองว่าบางทีเราแค่ขอออกไปจากที่เดิมนิดหนึ่งได้มั้ย ขออยู่กับตัวเองได้มั้ย ที่นี่ก็จะเหมาะมาก” บุปผชาติบอกกับเราพร้อมรอยยิ้ม

สายลมเอื่อยๆ ยามบ่ายพัดมาพอให้สบาย เป็นสัญญาณบอกว่าเราคงต้องเช็กเอาต์ออกจากบ้านมะขามและข้ามฟากกลับไปยังกรุงเทพฯ เสียที

แต่ไม่เป็นไร เพราะแม้เมืองใหญ่จะอึกทึกครึกโครมเพียงใด แต่ใจที่ได้นอนเล่นชาร์จพลังจนเต็มเปี่ยมของเราก็พร้อมจะรับมือกับทุกความวุ่นวายแน่นอน

บ้านมะขาม บางน้ำผึ้ง

address : 38 หมู่ 2 ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
hour : ร้านกาแฟบ้านมะขามเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10:00 – 16:00 น. ส่วนแขกที่เข้าพักสามารถเช็กอินได้ทุกวันจนถึง 18:00 น.
how to get there: นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือวัดบางนานอกไปลงที่ท่าเรือปั๊มเก่าแล้วเดินต่อประมาณ 300 เมตร หรือขับรถไปจอดที่ลานจอดรถตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้วเดินต่อไปทางบ้านธูปสมุนไพร บ้านมะขามจะอยู่เลยจากบ้านธูปไปไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น
tel : 098-828-0983
facebook : บ้านมะขาม บางน้ำผึ้ง
website : baanmakham.com

ภาพ กฤต วิเศษเขตการณ์

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

กฤต วิเศษเขตการณ์

ช่างภาพผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพตามท้องถนนอย่างบ้าคลั่งพอๆ กับการกินกาแฟ และผู้คนมักเขียนชื่อเขาผิด