K Maison Boutique Hotel & Kay’s Boutique Breakfast : พื้นที่สีขาวที่ชวนมาใช้เวลาสบายๆ ร่วมกัน

เมื่อพูดถึงซอยรางน้ำ
หลายคนคงจะนึกถึงย่านทำงานของหนุ่มสาวออฟฟิศที่มีตึกแถว ร้านค้า
และร้านอาหารมากมาย แต่ใครจะไปคิดว่าท่ามกลางตึกเก่าจะมีบูทีคโฮเทลที่เปิดมาได้ครบปีอย่าง
K
Maison Boutique Hotel และร้านอาหารเช้ากึ่งคาเฟ่สีขาวสุดเรียบเท่ที่เพิ่งเปิดหมาดๆ
ใกล้ๆ กันชื่อ Kay’s Boutique Breakfast ซ่อนตัวอยู่ ชวนให้เราผลักประตูเข้าไปนั่งพักในบรรยากาศสงบๆ
และยกให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราชอบใจ

โบ๊ท-ปณิธิ
และ เพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ
สองพี่น้องที่เป็นผู้บริหารของที่นี่เล่าให้ฟังว่า เริ่มหันมาจับธุรกิจโรงแรมด้วยความชอบเดินทางตั้งแต่เด็กๆ
และมองว่าน่าจะเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตพอดี “เราอยากทำอะไรให้แตกต่างเพราะบูทีคโฮเทลในเอเชียยังมีน้อยมาก
พอดีมาเจอตึกแถวในซอยนี้ โลเคชันก็สะดวกกับแขกที่มาพักเพราะใกล้ทั้งรถไฟฟ้าและแอร์พอร์ตลิงก์
มันก็น่าจะตอบโจทย์ เราเลยลงมือทำ” โบ๊ทอธิบาย

เปิดประตูบานใหญ่สีเข้มเข้าไปในส่วนของ
K
Maison Boutique Hotel เราจะเห็นการตกแต่งในสไตล์โอเรียนทัลที่หยิบลายครามสีน้ำเงิน-ขาวมาเป็นองค์ประกอบหลัก
ผสมกับความหรูหราแบบปารีเซียง ที่โบ๊ทเล่าว่าหยิบแรงบันดาลใจมาจากช่วงที่ชาวจีนและยุโรปเริ่มเดินทางเข้ามาในไทยสมัยรัชกาลที่
5 “ผมเชื่อว่าสไตล์นี้น้อยคนจะเอามาเล่นเพราะบางคนอาจมองว่ามันดูเชย แต่เราก็ไม่ได้ใส่ให้เยอะจนรก
เราคิดตามความต้องการลูกค้าว่าเขาน่าจะชอบอะไรที่มันมีสีสันหน่อย เราก็ผสมเข้ากับสีโทนสว่างเรียบๆ
แบบที่ชอบไปด้วยให้มันลงตัว ไม่เยอะไป
เพราะการทำโรงแรมเราต้องต้อนรับลูกค้าได้ทุกคน”

ส่วนห้องพักก็ออกแบบให้ไม่ใหญ่แต่ใช้สีสว่างเพิ่มความโปร่ง
ดีไซน์ให้โซนการนอน ทำงาน และนั่งเล่นอยู่ฝั่งเดียวกัน มีทีวีให้ดูสบายๆ
ฝั่งตรงข้าม แถมความสะดวกก็มีครบไม่แพ้ระดับโรงแรมห้าดาว ตอบโจทย์พฤติกรรมของแขกที่แค่ดรอปกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยว กลับมาเหนื่อยๆ
ก็อยากพักเต็มที

บรรยากาศทางการในฝั่งโรงแรมหายไปเมื่อเราผลักประตูเข้ามานั่งบนโซฟานุ่มๆ
ของร้านอาหาร Kay’s
Boutique Breakfast ที่เปิดขึ้นเพื่อรองรับมื้อเช้าของแขกที่มาพักในโรงแรม
และอีกส่วนคือลูกค้าทั่วไปที่อยากหามื้อเช้าหรือมื้อสายดีๆ ทาน โดยส่วนนี้มีเพลนเป็นคนคิดสูตรเมนูและจัดการทุกอย่าง
การตกแต่งจะดูสบายๆ ผ่อนคลายมากกว่า แต่ยังคงล้อโทนสีสว่างๆ
และเอาหินอ่อนมาใช้ให้ดูโมเดิร์นขึ้น ใส่ความเรียบอย่างปูพื้นและกระเบื้องตัดกับผนังทาสีธรรมดาๆ
ส่วนนี้โบ๊ทเป็นคนดีไซน์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งระหว่างทำทั้งคู่ก็พบเจออุปสรรคไม่น้อยด้วยความไม่ได้จบเรื่องออกแบบหรือมีพื้นฐานความรู้เรื่องงานครัวมาก่อน
ก็ต้องแก้ปัญหาไปทีละอย่าง

ครัวแบบเปิดที่ตั้งอยู่กลางร้านเป็นจุดเด่นที่เราสนใจ
เพลนเล่าว่า อยากให้ร้านอาหารดูมีการเคลื่อนไหวซึ่งยังเห็นไม่ค่อยเยอะในร้านอื่นๆ
ซึ่งพอตัดสินใจทำตรงนี้ก็ยิ่งต้องเนี้ยบและดูแลความสะอาดมากเป็นพิเศษ แก้ปัญหาทั้งเรื่องกลิ่นและความร้อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กันไปทีละจุดด้วยการติดกระจกบล็อกกลิ่น
และเปิดช่องลมบางส่วนให้ลมพัดเข้ามา ซึ่งตอนนี้ถือว่าลงตัวแล้ว
รวมไปถึงการทำหลังคากระจกใสส่วนด้านในของร้านให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา
ก็เป็นจุดที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี ถึงจะมีปัญหาเรื่องแดดช่วงกลางวันแต่ก็ปรับแก้ได้โดยทำม่านเปิดปิด

“การออกแบบโรงแรมกับร้านอาหารแตกต่างกันนะ
อย่างโรงแรมเราต้องให้ความสำคัญกับความประทับใจแรกเมื่อแขกเปิดประตูห้องเข้าไป
ดีไซน์แบบนี้ก็ดึงลูกค้าได้ทั้งสิงคโปร์ จีน และยุโรป แต่ร้านอาหาร
เราต้องมาศึกษาเทรนด์ปัจจุบันและใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปด้วย” โบ๊ทสรุปให้เราฟัง

ใครมองหาร้านอาหารเช้าดีๆ
หรือโรงแรมบูทีคเก๋ๆ ขอให้จด K Maison Boutique Hotel และ Kay’s
Boutique Breakfast ไว้ในลิสต์เลย

ภาพ ช่อไพลิน ไพรบึง

AUTHOR