คุยกับ Prakammanu เพจแซวการเมืองที่แซวตั้งแต่ป้า (ทุบรถ) ยันลุง (ตู่)

เพจ Prakammanu โดดเด่นขึ้นมาภายหลังบรรยากาศการเมืองที่ร้อนระอุ โดยเฉพาะซีรีส์เรื่องยาวอย่าง ‘TAVENKER INFINITY นายก’ ที่ถูกแชร์อย่างต่อเนื่องถึงหลักแสนและถูกพูดถึงในวงกว้าง เพราะได้นำบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายฝ่ายมาเป็นตัวละคร บวกกับมุกอันแสบสันที่หลายคนให้ความเห็นตรงกันว่า ‘กล้า’ ความสนุกสนานของลายเส้นการ์ตูนดึงเราให้ไปติดต่อขอคุยกับ ธนวัฒน์ ประกัมมนู กราฟิกดีไซเนอร์หนุ่มผู้เป็นแอดมินเบื้องหลังเพจนี้ทันที

เราแปลกใจอยู่เล็กน้อย เพราะก่อนจะเข้าสู่การสนทนาเขาออกตัวก่อนว่าไม่ใช่คนที่มีความรู้เรื่องการเมืองอะไร เป็นเพียงคนธรรมดาที่อยากเล่าประเด็นนี้เท่านั้น เขาเลือกใช้คำว่า ‘แซว’ ในการสนทนาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาสนุกกับการใช้ไอเดียหยอกล้อผู้คนมากกว่าที่จะมองการเมืองเป็นเรื่องเคร่งเครียด โดยธนวัฒน์เลือกทำเพจ Prakammanu เป็นงานอดิเรกเพื่อปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง

ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่พยายามเค้นมุก

ธนวัฒน์เริ่มต้นเล่าเรื่องราวก่อนมาทำเพจให้เราฟัง เขาเป็นเพียงเด็กที่รักการอ่านการ์ตูนคนหนึ่งที่เติบโตมาพร้อมกับความฝันอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน หลังจบมหาวิทยาลัยความรู้สึกเขาก็เปลี่ยนไปและหันเหชีวิตไปสู่งานกราฟิกดีไซน์โฆษณาแทนที่จะเป็นงานสำนักพิมพ์ เขาบอกเราว่าแม้จะรักการเขียนการ์ตูนแค่ไหนก็ไม่อยากให้ความรู้สึกของการทำงานจริงจังมาทำลายบรรยากาศของความคิดสร้างสรรค์และการเขียนการ์ตูนที่เขารักมาก

Prakammanu เป็นเพจที่เริ่มต้นมาจากการอยากมีพื้นที่สะสมผลงานที่สามารถเขียนหรือวาดอะไรก็ได้ที่เขาอยากจะทำ เขาตอกย้ำว่านี่คือพื้นที่ของตัวเขาเอง เหมือนกับนามปากกา Prakammanu ที่เขาเลือกมาจากนามสกุลของตัวเอง

“เราคิดแค่ว่าอยากทำเพจเอาไว้สะสมผลงานสวยๆ ตอนแรกไม่ได้วาดเป็นเรื่องราวด้วยซ้ำ ทำเป็นดิจิตอลเพนต์ เป็นกราฟิก แต่รู้สึกว่าวาดมาแล้วโพสต์ไปแล้วยังไงต่อ คนดูบอกว่าสวยดีแล้วก็ผ่านไป แต่ภาพไม่ได้บอกอะไรกับคนดูมากมายเท่าไหร่ เลยคิดว่าถ้าเป็นรูปที่ไม่ต้องสวยมาก ไม่ต้องจริงจังมาก แต่เน้นเล่าเรื่องราวได้ น่าจะดีกว่า

“เรามาทำเพจเพราะมองว่า Prakammanu เป็นงานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุข เป็นอะไรที่เราคิดเองทำเอง อย่างงานหลักที่ทำทุกวันนี้เราไม่ได้คิดเอง มีคนคิดมาให้ ป้อนให้เราทำ มีทั้งความรู้สึกที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่งานในเพจเป็นงานที่เราคิดเองทั้งหมด”

‘ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่พยายามเค้นมุก’ ดูจะเป็นคำที่ตรงกับวิธีการทำงานของเขาที่สุด แม้เพจจะดูตามสถานการณ์แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเล่าทุกเรื่อง มีหลายเรื่องที่เป็นกระแสสังคมที่น่าสนใจแต่เขาก็ตัดสินใจปล่อยผ่านไป เพราะอยากให้เป็นงานที่อยากทำมากว่าต้องทำ

“เราเคยพยายามคิดให้มันออกมา แต่งานแบบนี้จะไม่น่าสนใจหรือมีคนสนใจน้อยเพราะไม่โดน ทำให้รู้สึกแย่กับตัวเองด้วยว่าเราทำงานแบบนี้ออกมาได้ยังไง เหมือนเป็นงานลวกๆ หลังๆ เลยรู้สึกว่าต้องเป็นงานที่ออกมาจากไอเดียที่ปังจริงๆ ถึงจะเขียน บางทีคิดไม่ออก หายไปเป็นเดือนก็มี” หนุ่มเจ้าของเพจเล่าให้เราฟัง

“ปกติจะต้องมีประเด็นที่อยากวาดก่อน เอามาดูว่าใส่เรื่องไหนได้ แล้วค่อยตีตาราง 3 ช่องจึงจะเริ่มร่าง บางทีร่างแล้วยังไม่โอเคก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อาจดูเป็นรูปวาดง่ายๆ แต่ก็ผ่านกระบวนการคิดค่อนข้างเยอะเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้คนขำได้ภายใน 3 รูป อย่างเรื่อง ‘TAVENKER INFINITY นายก’ ไม่ได้คิดทีเดียวทั้งหมดทันที คิดแค่ต้นกลางปลายว่าจะเป็นยังไง แต่ระหว่างนั้นก็ต้องหาอะไรมาใส่เพิ่ม”

แซวให้สุดขอบ

หากคุณเพิ่งมารู้จัก Prakammanu ในช่วงหลังจะพบว่า เพจสนุกกับการเล่นเนื้อหาประเด็นสังคมมากขึ้น ทั้งป้าทุบรถ, เนติวิทย์, วัดพระธรรมกาย, ลุงตู่, นาฬิกา โดยหยิบจับมาแซวอย่างขำขัน บวกกับใส่เนื้อหาภาพยนตร์ที่กำลังอยู่ในกระแสตอนนั้น ผลักดันให้มุกที่คิดเข้าถึงคนอ่านมากขึ้น เขายอมรับว่าไม่ใช่คนที่ถนัดเรื่องการเมืองหรือข่าวสาร แต่จะใช้การถามจากคนรอบตัวเพื่อดูว่าเรื่องไหนที่กำลังมาแรงหรือกำลังเป็นที่สนใจ

“เราชอบดูว่าแต่ละคนแต่ละเพจเล่นมุกอะไร รู้สึกว่าไม่อยากจะไปซ้ำกับคนอื่นเขา เห็นมุมคนอื่นเขาล้อก็อยากล้อในมุมของเราบ้าง พยายามคิดให้แตกต่าง เรื่องของป้าทุบรถ เราก็มาดูว่าหนังเรื่องไหนที่เราชอบและเข้ากันได้แบบลงตัว เลยไปนึกถึงหนังเรื่อง John Wick ที่เอาค้อนไปทุบพื้นเพื่อเอาขวานออกมา รู้สึกว่าน่าจะแปลกดี น่าจะฮา แต่ช่วงหลังมานี้ไม่ค่อยได้พูดถึงประเด็นสังคมมากเพราะเยอะเกินไปจนเราตามไม่ทัน มีอารมณ์ขี้เกียจมานั่งตามเหมือนกัน จะตามเฉพาะเรื่องที่เด่นขึ้นมาจริงๆ”

ด้วยยอดแชร์กว่าหนึ่งแสนครั้งทำให้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่า ‘TAVENKER INFINITY นายก’ ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของ Prakammanu ที่หลายคนต้องรู้จัก มีการหยิบหนังดังอย่าง Avengers: Infinity War มายำรวมกับการเมือง ไอเดียมาจากการที่ตัวละครหลายตัวในชีวิตจริงยังต้องอยู่นอกประเทศ ตระเวนไปมาจนดูรอเก้อ ไม่ก็เป็นคนที่ทหารต้องการตัว เขารู้สึกแบบนั้นเลยหยิบคนเหล่านี้มาเป็นตัวละคร

“อย่างเนเน่ (เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล) เป็นตัวละครที่ใส่นาฬิกาข้อมือเยอะ เพราะเห็นข่าวตอนที่เขาใส่ไปเกณฑ์ทหาร ตัวจริงเขาทักมาด้วยว่าขอใช้รูปที่เราวาด ตอนแรกก็งงว่าเป็นใคร แต่พอไปดูในโปรไฟล์พบว่าเป็นตัวจริงเลยตอบไปว่ายินดีมาก แฮปปี้มากเลยที่ตัวจริงเขามาขอรูป เขาได้อ่านเรื่องของเราด้วย พอรู้ว่าตัวจริงได้อ่านเราก็ดีใจ”

การเมืองเป็นเรื่องโก๊ดดัน

แต่แล้วอีกด้านก็เริ่มปรากฏ ในฐานะงานการเมืองเป็นธรรมดาที่จะต้องถูกจับตามากขึ้น เขาเล่าให้เราฟังว่ามีบรรยากาศที่กดดันบ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเคร่งเครียดอะไร เพจยังมีเนื้อหาอื่นอีก ทั้งเรื่องความรัก ขำขัน ทะลึ่ง แม้แต่เรื่องกราฟิกดีไซเนอร์ขี้เหงาที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเอง

“ตอนแรกที่ทำรู้สึกว่าไม่ค่อยกลัวมากเพราะเราแซวขำๆ เขาคงไม่ได้มาซีเรียสอะไรกับเรามาก แต่พอมีคนแซวอะไรแบบนี้เยอะๆ เข้าก็เริ่มกลัว ลูกพี่ลูกน้องบอกว่าเขาน่าจะแซวกันขำๆ เพราะมีเพจอื่นเเซวแรงกว่าเราเยอะ สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เรามองว่าเป็นอารมณ์ขันของคนธรรมดาที่มองเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าต้องแบ่งพรรคแบ่งพวกอะไร หรือมองว่าเป็นเสื้อสีไหน เป็นความรู้สึกที่ยืนดูห่างๆ เห็นส่วนไหนที่ขำก็เอามาแซว เอามาวาดเท่านั้นเอง จริงๆ ถ้าลองย้อนกลับไปดูงานแรกๆ ที่ทำในเพจ ก็จะพบว่ามีแซวเรื่องการเมือง ตอนนั้นรู้สึกเหมือนจะเล่นประเด็นทักษิณ เสื้อแดง เล่นหมดทุกฝ่าย

“มีคนบอกเหมือนกันว่าทำเพจแบบนี้มีเรื่องฝ่ายการเมืองอยู่แล้ว มีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด แต่เราก็ไม่อยากให้ใครเกลียด เราแค่อยากจะแซวเฉยๆ แรกๆ ก็เซ็ง หลังๆ ก็ทำใจได้ เป็นเรื่องธรรมดาของประเด็นแบบนี้ เคยคิดว่าถ้าเพจโดนปิดนั่นคงเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดเท่าที่คนทำเพจคนหนึ่งจะโดน แต่ก็มองว่าตัวเองไม่ได้แซวอะไรแรง มีเพจอื่นๆ ที่เขาแซวแรงกว่า เราแซวแค่ขำๆ อ่านแล้วก็จบไป ถ้าโดนปิดจริงๆ ก็คงเสียดาย แต่ก็ยังจะวาดต่อไป” ธนวัฒน์ทิ้งท้าย

Facebook | Prakammanu

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ และ Prakammanu


ขอบคุณสถานที่
Yell Adversiting

AUTHOR