ผลไม้ออร์แกนิกลูกโต วัตถุดิบที่ปราศจากน้ำตาล ของเบ็ดเตล็ดน่ารักๆ ที่เรียงรายหน้าร้าน คือสิ่งที่เราประทับใจจากร้าน Parden ของคู่สามีภรรยา ยอด–ปิโยรส ศฤงคาร และฮิซาโกะ คูโบ ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกว่า 20 ปี ทั้งสองนำความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กลับมาถ่ายทอดผ่านร้านพาร์เฟ่ต์และข้าวของ zakka ที่เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นในต่างแดนได้แวะเวียนมาดื่มด่ำบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นผสมไทย
ร้านแสบอบอุ่นนี้ซุกตัวอย่างเงียบเชียบในซอยสุขุมวิท 39 บนชั้นสองของ The Manor House ตัวร้านเป็นสีขาวสะอาดตา ตัวอักษรสีทองหน้าร้านเขียนเป็นคำว่า PARDEN FRUIT PARLOR, CAFE AND ZAKKA มีมวลความเป็นกันเองบางอย่างที่เชิญชวนให้เราไปสัมผัส
เมื่อเปิดประตูเข้าไป เราพบกับของเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า zakka วางเรียงรายอยู่ ตั้งแต่พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็นรูปผลไม้ ไปจนถึงผงชาสำเร็จรูป มองเผินๆ อาจคิดว่าของเหล่านี้มาจากแดนอาทิตย์อุทัย แต่หากสังเกตดูดีๆ จะพบว่า แท้จริงแล้วบรรดาของกุ๊กกิ๊กเหล่านี้มีที่มาจากหลากหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว และศรีลังกา ไม่ว่าจะเป็นผ้าขนหนูทอมือสีน้ำตาลตุ่น กระเป๋าผ้าลายไทยดั้งเดิม และแก้วน้ำพิมพ์ลายภาษาไทย
ร้านแห่งความชอบส่วนตัว
“จริงๆ แล้ว zakka ของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นของไทยนะคะ” ฮิซาโกะเฉลยตั้งแต่เริ่มต้นบทสนทนา
“หลายๆ คนมักคิดว่า zakka คืออะไรที่เรียบง่ายหรือน่ารัก หรือของที่มาจากญี่ปุ่น” ยอดเสริม “สมัยเปิดร้านใหม่ๆ คนจะไม่ค่อยรู้จัก zakka แต่จริงๆ แล้วคำว่า zakka นั้นหลากหลายมากๆ พูดได้ว่ามันเป็นการนำเสนอหรือรวมของที่เราชอบมากกว่า อะไรๆ ก็เป็น zakka ได้ อย่างเครื่องเขียน อุปกรณ์ทำขนม รวมไปถึงอะไหล่รถยนต์ ถ้ามาอยู่ในร้านนี้ก็เรียกว่า zakka ได้
“อย่างส่วนตัวเราเป็นคนชอบผลิตภัณฑ์ที่คนทำเพื่อการดำรงชีวิตของตัวเอง เราชอบลายดั้งเดิม ลายที่ทอด้วยมือไม่ใช่เครื่องจักร เราชอบอะไรก็เอามาวางที่ร้าน หลังๆ ก็เริ่มเอาของจากประเทศลาวมาวาง เพราะชอบความดั้งเดิมของเขา อีกอย่างเราก็พยายามไม่เลือกของที่ผลิตจากพลาสติก”
“ร้านนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวและของที่เราชอบ เป็นร้านแห่งความชอบส่วนตัว” ฝ่ายภรรยาหัวเราะ
นอกเหนือไปจากสารพันของน่ารัก อีกสิ่งที่พวกเขาชอบก็หนีไม่พ้นผลไม้แต่ละชิ้นที่เลือกเฟ้นมาอย่างดีในพาร์เฟ่ต์แต่ละถ้วย
แพสชั่นในผลไม้ของคู่รัก
เมื่อพูดถึงพาร์เฟ่ต์ หลายคนอาจนึกถึงพาร์เฟ่ต์ที่มีไอศครีมเป็นตัวเอกและผลไม้เป็นตัวประกอบ แต่สำหรับร้าน Parden พาร์เฟ่ต์ของพวกเขาเหมือนจะมีผลไม้ลูกโตเป็นตัวเอกเสียมากกว่า ซึ่งเอกลักษณ์ข้อนี้มีที่มาจากแรงบันดาลใจที่เปี่ยมล้นจนก่อเกิดเป็นคาแฟ่แห่งนี้
ยอดและฮิซาโกะเล่าว่า พวกเขาชอบผลไม้และอาหารเพื่อสุขภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ประเทศไทยยังไม่มีน้ำผลไม้คั้นสดที่ไม่ปรุงแต่งน้ำตาล อีกทั้งในสายตาคนญี่ปุ่น ผลไม้เมืองร้อนในประเทศไทยนั้นน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
“เราได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่อยู่ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นตื่นเต้นกับผลไม้ไทยมาก อย่างมังคุด ทุเรียน มะม่วง เพราะพวกเขามักจะได้เห็นผลไม้เหล่านี้แค่ในเทศกาลอาหารไทยที่จัดทุกๆ เดือน 5 เท่านั้น และราคาก็แพงมาก” ยอดอธิบาย
“ผลไม้ไทยก็มีอะไรดีๆ เยอะ แล้วเราเลยอยากนำเสนอผลไม้ไทยในสไตล์ญี่ปุ่น ให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้รู้จักด้วย”
ว่าแล้วยอดก็ถามขึ้นว่า “รู้จักลูกจำปาดะไหม”
เราส่ายหน้าเบาๆ แทนคำตอบ
“นั่นแหละ เราอยากเซอร์ไพรส์คนญี่ปุ่นด้วยผลไม้ไทยๆ และอยากให้คนไทยรู้จักผลไม้เพิ่มขึ้นด้วย แต่ว่าบางทีเราก็นำเข้าผลไม้ตามฤดูกาลจากต่างประเทศเหมือนกัน เช่น ทับทิมอินเดีย”
“หรือในหน้าพีช เราก็ทำพาร์เฟ่ต์พีชนะคะ ฉันชอบทานพีชมาก” ฮิซาโกะเสริม
ฟังอย่างนี้แล้วก็รู้สึกว่าแพสชั่นในผลไม้ของสองสามีภรรยา เปรี้ยวหวานครบรสเหมือนผลไม้ที่เสิร์ฟในพาร์เฟ่ต์ของพวกเขาไม่มีผิด
ผลไม้ที่แม้แต่ตัวเองก็อยากทาน
“เราเลือกผลไม้ที่แม้แต่ตัวเราก็อยากทาน”
สองสามีภรรยาเล่าให้เราฟังถึงวิธีการเลือกผลไม้อย่างตั้งใจ บ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการเลือกผลไม้ที่จะมาเป็นตัวเอกของพาร์เฟ่ต์หนึ่งถ้วย
“ลูกค้าหลายคนถามว่า ทำไมถึงไม่ใช้ผลไม้จากญี่ปุ่นไปเลย แต่จริงๆ แล้วในยุคหลัง ผลไม้หรือสินค้าจากญี่ปุ่นบางครั้งอาจมีสารกัมมันตรังสีแฝงอยู่”
ไม่ใช่ผลไม้ทุกลูกที่ซื้อมาจะได้เสิร์ฟถึงมือลูกค้า กว่าจะเป็นพาร์เฟ่ต์หนึ่งถ้วยนั้น ต้องผ่านการชิมก่อนทุกครั้ง เพราะไม่ใช่ว่าผลไม้ทุกลูกจะใช้ได้ บางลูกเมื่อชิมแล้วไม่โอเคก็ไม่ได้เสิร์ฟลูกค้า หรือถ้าหากวัตถุดิบไม่พอสำหรับพาร์เฟ่ต์หนึ่งถ้วยก็จะไม่เสิร์ฟลูกค้าเด็ดขาด เพราะเราไม่อยากให้มีวัตถุดิบเหลือแล้วต้องทิ้ง”
ฤดูกาลเปลี่ยน ฉันก็เปลี่ยน
“เราใช้ผลไม้ตามฤดูกาลเพราะว่ารสชาติของผลไม้ในฤดูกาลนั้นอร่อยกว่า สารเคมีก็น้อยกว่า แล้วผลไม้ออร์แกนิกก็เป็นไปตามฤดู”
คู่สามีภรรยาเน้นย้ำถึงเหตุผลว่าทำไม Parden ถึงเลือกใช้ผลไม้ตามฤดูกาล หลังจากที่เราถามหาพาร์เฟ่ต์สตรอว์เบอร์รีที่เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของพาร์เฟ่ต์ที่ร้านไหนๆ ก็มีทุกช่วงเวลา
สำหรับช่วงนี้ ทางร้านมี Passion Fruit Parfait รสเปรี้ยวของเสาวรสตัดกับบาวาเรียนเสาวรส (Passion Fruit Bavarois) รสหวานนุ่มลิ้น ทำให้พาร์เฟ่ต์ถ้วยกลมกล่อมและละมุนละไม นอกจากพาร์เฟ่ต์แล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟกาแฟดริป และน้ำผลไม้คั้นสดไม่ใส่น้ำตาล เครื่องดื่มที่แนะนำคือน้ำส้มโอโซดา ที่ให้เราได้ผสมน้ำผลไม้คั้นสดกับโซดาได้เอง
กระนั้นบางครั้งทางร้านก็เจอปัญหาที่ว่าลูกค้าไม่ได้ทานผลไม้ที่อยากทาน ฮิซาโกะและยอดก็เลยแก้ปัญหาให้มีทั้งเมนูตามฤดูกาล และเมนูพื้นฐานของร้าน เช่น Parden Fruit Parfait ที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาล 8 ชนิด เสิร์ฟคู่กับไอศครีมโยเกิร์ต และ Parden Cheesecake ที่ผลไม้บนชีสเค้กก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นกัน
ก่อนจากกันสองเจ้าของร้านแอบกระซิบว่า ช่วงเดือนหน้าจะมี Pomegranate Parfait และ Chestnut Parfait มาให้ลองชิม ส่วนถ้าใครกลัวว่ามาถึงร้านแล้วจะไม่ได้ทานเมนูที่อยากทาน ก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊กของร้าน หรือจะโทรเข้ามาสอบถามก่อนไปก็ได้นะ
Parden Bangkok
facebook : Parden
tel : 02 204 2205
hours : วันพุธ-ศุกร์ 11:00-17:45 น.
วันเสาร์ 12:00-18:30 น.
วันอาทิตย์ 12:00-17:45 น.