Pampshade แบรนด์ที่เปลี่ยนขนมปังนุ่มๆ เป็นโคมไฟแสงอุ่นละมุนตา

Pampshade คือแบรนด์ของตกแต่งบ้านจากประเทศญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญในการทำโคมไฟจากขนมปัง ใช่ คุณอ่านไม่ผิด วัตถุดิบสำคัญในการผลิตโคมไฟของแบรนด์แบรนด์นี้คือขนมปังจริงๆ ที่เรากินกันอยู่นี่แหละ

แต่ทำไมต้องเป็นขนมปังล่ะ? แล้วกระบวนการในการเปลี่ยนขนมปังมาเป็นโคมไฟนี่ทำกันยังไง? วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับแบรนด์โคมไฟสุดเก๋จากญี่ปุ่นแบรนด์นี้ ที่นอกจากจะอุ่นนุ่มดูน่ากินแล้วยังเปล่งแสงให้ความสว่างได้อย่างละมุนตาอีกด้วย

Pampshade คือแบรนด์ที่เริ่มต้นจากโปรเจกต์ศิลปะของ Yukiko Morita ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปะเกียวโต จากความหลงใหลส่วนตัวที่โมริตะมีต่อขนมปัง

“ขนมปังไม่ได้แค่อร่อยอย่างเดียว แต่ยังมีกลิ่นที่หอมมากๆ มีสีที่นุ่มนวล และรูปทรงที่น่ารัก คุณลักษณะเหล่านี้ทำให้ฉันหลงรักขนมปัง และมันสร้างความสุขให้กับฉันมากๆ” ศิลปินสาวอธิบาย

สำหรับโมริตะ ร้านเบเกอรีคือพื้นที่แห่งความสุข ในขณะเดียวกันเธอก็ตระหนักว่าการทำขนมปังแต่ละก้อนขึ้นมาไม่ใช่งานง่ายๆ แต่จำเป็นต้องอาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญที่ผ่านการเรียนรู้มาเป็นเวลานาน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เธอให้ความเคารพในอาชีพคนทำขนมปังมากๆ

“อีกอย่างคือ บนโลกนี้มีขนมปังอยู่หลายประเภทมาก ซึ่งขนมปังแต่ละประเภทก็ล้วนมีวัฒนธรรมที่แตกต่าง มีรสชาติ และวิธีการรับประทานที่ต่างกันไป ฉันตื่นเต้นกับโลกของขนมปังมาก เพราะยิ่งฉันได้รู้จักขนมปังมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ราวกับว่าฉันได้พบประตูที่อยากจะเปิดมากขึ้นเรื่อยๆ”

จากความหลงใหลนี้เองที่โมริตะได้ต่อยอดและพัฒนาความคิดจนออกมาเป็นโคมไฟขนมปังในที่สุด และในปี 2016 แบรนด์ Pampshade ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ชื่อ Pampshade เกิดจากการผสมกันระหว่าง ‘pan’ ที่แปลว่าขนมปัง และ ‘lampshade’ ที่แปลว่าโคมไฟ โดยที่ในเว็บไซต์ของแบรนด์ระบุว่า วัตถุดิบในการผลิตโคมไฟแต่ละก้อนประกอบด้วยแป้งขนมปัง, แป้งเค้ก, เกลือ, ยีสต์, ไฟ LED และอะแดปเตอร์

“มันมีอะไรบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับขนมปัง ที่มากไปกว่ารสชาติอร่อยๆ ของมันและคุณประโยชน์ เพราะขนมปังที่ดีนั้นมีเสน่ห์และความลึกลับ มันจะเชิญชวนคุณให้มาลองลิ้มสัมผัสและหยิบยื่นรอยยิ้มให้กับคุณ คุณสมบัติที่ยากจะอธิบายเช่นนี้เองที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราจนเกิดเป็น Pampshade โคมไฟแฮนด์เมดจากขนมปังทำมือร้อยเปอร์เซ็นต์ อบจากเตาเพื่อสร้างแสงสว่างให้กับชีวิตและอุ่นหัวใจของคุณ”

ทั้งนี้ ในกระบวนการผลิตโคมไฟขนมปังสักก้อนหนึ่งนั้น โมริตะเล่าว่า เรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการทำให้เนื้อในของขนมปังกลวงโบ๋จนเหลือเพียงขอบกรุบกรอบบางๆ ของขนมปังเท่านั้น เพื่อที่แสงจากหลอดไฟที่อยู่ข้างในจะสามารถส่องสว่างสู่ภายนอกได้อย่างเต็มที่ แต่แม้ว่าตัวโคมไฟจะผลิตจากขนมปังจริงๆ ซึ่งอาจดูยั่วยวนชวนให้กินแค่ไหน แต่เราขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าได้เผลอใจไปกัดกินโคมไฟขนมปังก้อนนี้เด็ดขาด นั่นเพราะโมริตะได้เคลือบก้อนขนมปังเหล่านี้ด้วยสารเรซินที่จะช่วยป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้โคมไฟขนมปังของ Pampshade ไม่เน่าสลายแม้จะผลิตมาจากขนมปังจริงๆ ก็ตาม

ความน่าสนใจอีกอย่างของ Pampshade คือ ด้วยความที่โมริตะเคยทำงานเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ร้านเบเกอรีจนได้เห็นทุกๆ กระบวนการผลิตขนมปัง รวมไปถึงการจัดจำหน่าย และการทิ้งขนมปังที่ขายไม่ออกลงถังขยะ ด้วยความที่ไม่อยากเห็นขนมปังที่เธอรักถูกทิ้งๆ ขว้างๆ อย่างไร้ประโยชน์ โมริตะจึงพยายามรวบรวมขนมปังที่เกือบจะโดนทิ้งเหล่านั้นมาผลิตเป็นโคมไฟของ Pampshade และแม้ว่าในปัจจุบันจะยังมีแค่โคมไฟบางก้อนเท่านั้นที่ผลิตจากขนมปังเหลือใช้ ถึงอย่างนั้น โมริตะก็ยังพยายามที่จะผลักดันให้กระบวนการรีไซเคิลขนมปังเหลือใช้กลายเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ให้ได้ในสักวันหนึ่ง

Pampshade x Dauphinette

โคมไฟขนมปังของ Pampshade นั้นมีให้เลือกหลากหลายประเภท แตกต่างกันไปตามรูปแบบของขนมปัง มีตั้งแต่ขนมปังแผ่นธรรมดาๆ ครัวซองต์ ไปจนถึงบาแก็ต โดยที่ก็แน่นอนว่าราคาของโคมไฟขนมปังแต่ละก้อนก็ย่อมจะแตกต่างกันไป

นอกจากนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Pampshade ยังได้จับมือกับ Dauphinette แบรนด์แฟชั่นจากนิวยอร์กผลิตโคมไฟขนมปังรุ่นพิเศษที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ลวดลายน่ารักอีกด้วย

หากใครสนใจอยากจะสั่งซื้อโคมไฟขนมปังของ Pampshade มาตกแต่งบ้านก็สามารถไปกดดูรายละเอียดในช่องออนไลน์ช็อปของเว็บไซต์ pampshade.com ได้เลย โดยที่ราคาโคมไฟของ Pampshade เริ่มต้นตั้งแต่ 50 ดอลลาร์สหรัฐไปจนถึง 140 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับประเภทขนมปังที่แตกต่างกันไป

เห็นแบบนี้แล้วก็ชักจะท้องร้อง อยากได้ขนมปังสักก้อนมาเป็นโคมไฟตกแต่งบ้านบ้างแล้วสิ

AUTHOR