October Books เมื่อการช่วยย้ายร้านหนังสือคือวิธีบอกรักของคนในชุมชน

Highlights

  • ตอนสายวันอาทิตย์ที่หนาวยะเยือก ชาวชุมชนเซาแทมป์ตัน ประเทศอังกฤษร่วม 250 คน มาช่วยต่อแถวช่วยกันขนย้ายหนังสือให้ร้าน October Books
  • October Books คือร้านหนังสือเพื่อสังคมที่ทำให้คนในชุมชนรักและผูกพันเหมือนเพื่อนบ้าน
  • เมื่อ October Books ต้องย้ายร้านเพราะค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น คนในชุมชนจึงช่วยกันบริจาคเงินเช่าที่แห่งใหม่และมาต่อแถวช่วยกันขนย้ายหนังสือทีละเล่ม

เวลาสายของวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่เมืองเซาแทมป์ตัน เมืองชายฝั่งตอนใต้ของประเทศอังกฤษ แม้ในฤดูนี้จะมีลมหนาวเย็นยะเยือก แต่กลับมีชาวเมืองหลายร้อยชีวิตออกมายืนต่อแถวริมถนนเป็นระยะทางยาวถึง 150 เมตร

เปล่าหรอก พวกเขาไม่ได้มายืนต่อคิวรอซื้อข้าวเช้า รองเท้า หรือบัตรคอนเสิร์ต ทุกๆ คนมีความตั้งใจเดียวกันคือการมาช่วยร้านหนังสือเล็กๆ ในชุมชนอย่าง October Books ย้ายบ้าน ด้วยการส่งหนังสือทีละเล่ม จากมือสู่มือ

เมื่อมองจากสายตาคนนอก นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ร้านหนังสือเล็กๆ บนเกาะอังกฤษทยอยปิดตัวลงเรื่อยๆ ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 11 แล้ว เพราะการมาถึงของสื่อดิจิทัลอย่าง eBook หรือร้านหนังสือออนไลน์อย่าง Amazon

แล้วอะไรที่ทำให้คนในชุมชนเป็นร้อยยอมสละแรงและเวลาฝ่าความหนาวออกมาช่วยร้านหนังสือเล็กๆ ขนของ?

ฉันเดาว่าคำตอบคงเป็นเพราะ สำหรับพวกเขาร้านหนังสือแห่งนี้ไม่ใช่แค่สถานที่ขายหนังสือ

ก่อนอื่น ขอแนะนำก่อนว่า October Books คือร้านหนังสืออายุ 40 ปีที่ประกาศตัวว่าเป็นกิจการที่ไม่หวังผลกำไร แต่ทำเพื่อเผยแพร่ความคิดเรื่องความเท่าเทียมในสังคมผ่านตัวหนังสือ (radical bookshop) สินค้าในร้านมีตั้งแต่หนังสือทั่วไป นิยาย หนังสือเด็ก ไปจนถึงหนังสือและนิตยสารเกี่ยวกับมนุษยธรรมและการเมือง

นอกจากหนังสือ ที่นี่ยังทำหน้าที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดย่อมที่วางขายวัตถุดิบอาหารออร์แกนิก ของใช้ในบ้านอย่างสบู่ แชมพู น้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ fair trade ซึ่งทุกชิ้นต้องได้รับการเลือกสรรแล้วว่าดีและปลอดภัยทั้งต่อคนและส่ิงแวดล้อม

สำหรับคนในชุมชน ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ขายสินค้า แต่ยังเป็นพื้นที่ที่มีอาสาสมัครจากหลากหลายอาชีพผลัดเปลี่ยนกันมาช่วยงานในร้าน ในบางวัน October Books จะยกหนังสือในร้านไปเปิดเป็นร้านหนังสือ pop-up ในมหาลัยเซาแทมป์ตัน และทุกอาทิตย์จะมีกิจกรรมต่างๆ อย่างการเปิดตัวหนังสือหรืองานเล่านิทานสำหรับเด็ก

ดังนั้นสำหรับคนในชุมชน October Books จึงเป็นร้านหนังสือที่พวกเขาผูกพันอารมณ์ไม่ต่างจากเพื่อนบ้าน

แต่วันหนึ่งความเปลี่ยนแปลงก็มาถึง เมื่อค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นจนทางร้านแบกรับค่าใช้จ่ายต่อไปไม่ไหว แต่แทนที่จะปิดกิจการลงและมีชะตากรรมเหมือนร้านหนังสือเล็กๆ ทั่วไป พวกเขากลับหาทางเช่าพื้นที่แห่งใหม่ได้ เพราะสินเชื่อจากนักลงทุนในพื้นที่และเงินบริจาคจากคนในชุมชน ร้านแห่งใหม่นี้เป็นตึก 3 ชั้น ที่นอกจากจะเป็นร้านหนังสือ พื้นที่ชั้นบนยังจัดไว้ให้เช่าทำกิจกรรมของชุมชน ส่วนอีกชั้นก็เป็นที่พักระยะยาวสำหรับคนไร้บ้าน

October Books team จากซ้ายไปขวา Amy Brown, Jess Haynes, Jaquie Daniels, Joey Jones, Clare Diaper

ก่อนวันย้ายหลายสัปดาห์ ที่นี่จัดงานเลี้ยงอำลาร้านเก่าโดยตั้งชื่องานว่า ‘October Books Stories’ พวกเขาชวนคนในชุมชนมาปาร์ตี้ในร้านหนังสือพร้อมเล่าประสบการณ์ที่เคยมีในร้าน อวดของสะสมในความทรงจำที่เกี่ยวกับร้าน และยังมีของขวัญเซอร์ไพรส์เป็นหนังสือทำมือที่มีชื่อว่า A Southampton Story : How October Books Cheered Up the World by Human Chain หนังสือที่รวบรวมความรู้สึกที่คนในชุมชนมีต่อร้านหนังสือแห่งนี้ (โดยชื่อคนทำน่าจะหมายถึงคนที่มาเรียงแถวช่วยกันย้ายหนังสือ)

ทั้งหมดนี้จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อ October Books ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเพจชวนทุกคนมาช่วยกันย้ายหนังสือไปยังร้านใหม่จะมีคนกดไลก์เป็นหลักร้อย

แต่สิ่งที่น่าประทับใจกว่าคือ ทั้งๆ ที่พวกเขาประกาศขออาสาสมัคร 150 คน ในวันจริงกลับมีคนออกมาช่วยเกือบ 250 คน ทั้งคนทั่วไปที่มีทุกเพศทุกวัย คนจากร้านค้ารอบๆ หรือแม้แต่คนที่มายืนรอรถเมล์ ทำให้หนังสือกว่า 2,000 เล่มย้ายไปอยู่ในบ้านใหม่เรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังที่ทั้งสื่อในท้องถิ่นและสื่อใหญ่ระดับประเทศให้ความสนใจ ภาพคนต่อแถวช่วยกันขนย้ายหนังสือไปปรากฏอยู่บนเว็บออนไลน์ของ BBC, CNN และ New York Times

Clare Diaper สมาชิกสหกรณ์ให้สัมภาษณ์กับ Washington Post ว่า “ไอเดียการขนย้ายหนังสือแบบนี้เกิดขึ้นเพราะเราอยากสร้างกิจกรรมที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้โดยไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงมากมาย พวกเด็กๆ และคนแก่จะได้มาร่วมด้วยกันได้ เพราะจริงๆ แล้วเป้าหมายของเราคือการมีส่วนร่วมของชุมชน และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ช่วยยืนยันได้มากว่าชุมชนเราต้องการร้านหนังสือแห่งนี้บน high street มากขนาดไหน”

กิจกรรมที่ทำให้สมาชิกในชุมชนมีส่วนร่วมแบบนี้ดูเหมือนจะยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกรักและเป็นเจ้าของ October Books มากขึ้นจนทำให้ยอดขายหลังการย้ายร้านเพิ่มขึ้นหลายเท่า

ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะที่นี่เป็นกิจการที่หวังผลกำไรเป็นความรักของคนในชุมชนมากกว่ากำไรที่เป็นเงินทอง เมื่อสถานที่กลายเป็นเพื่อนรัก แล้วใครจะยอมให้เพื่อนหายไปได้ล่ะจริงไหม

ภาพ Amy Brown และ October Books team

AUTHOR