‘ของก็ต้องขาย การเมืองก็อยากพูด’ วิธีคิดการเล่าเรื่องแบบนิ่มนวลโดย ‘กวิน’ แห่งเพจนวล

Highlights

  • กวิน ศิริ เริ่มต้นทำเพจนวลโดยไม่ได้ดีไซน์รูปแบบอะไรไว้ก่อน เขาแค่อยากเล่าเรื่องที่อยากเล่า แต่สุดท้ายการ์ตูนหมาของเขาก็ได้รับความนิยมจนถูกต่อยอดไปเล่าเรื่องใหญ่ๆ อย่างวาระสังคมหรือการเมืองได้
  • กวินเล่าให้เราฟังว่าในการทำงานเชิง advertorial การหาจุดตรงกลางระหว่างตัวเขาเอง คนดู และลูกค้านั้นเป็นเรื่องที่ยากแต่ทำได้ ขอแค่เรามีวิธีคิด รูปแบบการเล่าเรื่องที่ตอบโจทย์ทั้ง 3 ด้านให้ได้ก็พอ
  • ถึงแม้จะเป็นหมาที่พูดเรื่องการเมือง แต่นวลไม่ใช่ตัวแทนของอะไรทั้งนั้น นวลคือตัวละครที่พูดเรื่องที่อยากพูดและการเมืองก็เป็นเรื่องหนึ่งที่กวินคิดว่าเราสามารถพูดกันได้แบบมีอารยะต่อกัน

นี่ไม่ใช่นวล แต่เป็นเจ้าของเพจนวล

เจ้าของเพจนวลชื่อ กวิน ศิริ

กวินทำเพจนวลมาหลายปี

เล่าเรื่องมาก็หลายแบบ ผ่านตัวละครหมาอย่างนวลและเสือ

มีทั้งแบบภาพเดี่ยว

แบบโฟโต้อัลบั้ม (ที่ทำให้ใครหลายคนจำนวลได้)

หรือแบบวิดีโอในปัจจุบัน

กวิน ศิริ นวล

จะว่าไป นวลเล่าเรื่องมาก็หลายเรื่อง

ตั้งแต่กระแสสังคม

การเมือง

ไปจนถึงงานเชิง advertorial นวลก็รับ

หรือแม้กระทั่งการขายผลิตภัณฑ์ นวลก็สน

เพราะไม่ว่าหมานวลจะพูดเรื่องอะไร

นวลก็มักจะทำให้คนสนใจได้ผ่านวิธีการและเอกลักษณ์ของตัวเอง

ความสนุก

กวนตีน

เหมือนไม่มีสาระ แต่มี

อะไรเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้แฟนเพจเกือบสองแสนคนรอคอยการออกมาพูดของนวลอย่างสม่ำเสมอ

กวินทำอย่างไรให้นวลเป็นตัวของตัวเองแถมยังมีเรื่องเล่าได้มากมายขนาดนี้

ไปฟังเขากันดีกว่า

เพราะนี่คือกวิน

และนี่คือนวล

กวิน ศิริ นวล

จากจุดแรกเริ่มจนถึงตอนนี้ นวลเดินทางผ่านอะไรมาบ้าง

เอาจริงๆ แรกเริ่มเลยนวลไม่ได้ถูกดีไซน์มาว่าจะต้องเป็นแบบไหน ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบและรู้สึกอยากวาดอะไรก็ได้เพราะปกติผมเป็นคนชอบวาดการ์ตูน แต่ตอนทำทีสิสเราไม่ได้วาดเลย พอจบออกมามันเป็นเหมือนภาวะที่เราไม่อยากคิดอะไรแล้ว เราแค่อยากวาด เลยเอาเรื่องของบ้านตัวเองมาวาด นวลและเสือคือหมาของผมจริงๆ คุณตาก็คือคุณตาจริงๆ วาดเสร็จก็เอาลงเฟซบุ๊ก เพื่อนก็แชร์ คนเริ่มสนใจ หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนามาเป็นเพจ เริ่มเล่าเรื่องเป็นโฟโต้อัลบั้ม จนตอนนี้มาเป็นวิดีโอ นวลก็ไม่ได้เล่าแค่เรื่องในชีวิตประจำวันของผมแล้ว แต่สามารถเล่าเรื่องอื่นๆ ที่มันสนุกได้ด้วย

ในปัจจุบัน วิธีการทำงานของเพจนวลเป็นแบบไหน

เริ่มจากสปอนเซอร์ก่อน (หัวเราะ) ถ้าเป็นงานลูกค้า เราก็จะมาดูว่าเขาอยากทำอะไร อยากขายอะไร ผมจะมีหน้าที่ต้องคิดเรื่องราวในวิดีโอว่าเราจะเล่าแบบไหนเพื่อที่จะเชื่อมต่อกับทุกคนได้ ทั้งตัวผมในฐานะคนทำ ลูกค้าที่อยากขายและคนดูที่ก็ต้องอยากดู

กวิน ศิริ นวล

การหาจุดตรงกลางระหว่างคนทำ คนจ้างและคนดู ฟังดูแล้วยากเหมือนกันนะ

พูดแบบนี้แสดงว่าคุณเข้าใจ (หัวเราะ) จริงๆ ก็หายากเหมือนกัน แต่มันอยู่ที่ว่าคุณจะมองสิ่งนี้จากมุมไหน สำหรับผม ผมคิดว่าผมมีหน้าที่คิดไอเดียที่ดีที่สุด สื่อสารกับลูกค้า ถ้ามีอะไรที่ไม่ตรงกันแล้วเราพอจะปรับได้ก็ปรับไป ส่วนในมุมคนดู ผมเชื่อนะว่าตอนนี้คนดูใจกว้างถ้าเรื่องน่าสนใจพอ ต่อให้เป็นการขายของ เขาก็ดูจนจบ อาจจะมีคอมเมนต์นิดหนึ่งว่า ‘ขายของอีกแล้ว’ แต่ก็แปลว่าเขาไม่ได้กดออกกลางทาง (เพจนวลจะใส่คอนเทนต์ advertorial ไว้ท้ายคลิปเสมอ) ผมรู้สึกว่านี่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนทำสื่อและคนดูในยุคปัจจุบันที่เรายอมรับกันได้

แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าเรื่องที่นวลเล่ากับผลิตภัณฑ์ที่ขายบางทีก็ดูห่างกัน เช่น การเล่าเรื่องความ nostalgia แต่ตอนจบขายทีวี

ในฐานะคนทำ ผมว่ามันต้องใช้ความกล้าหาญหน่อยๆ นะ แต่ผมคิดตลอดว่าสื่อที่เราทำต้องให้เกียรติคนดู เราต้องทำให้เขารู้สึกว่า 5-6 นาทีที่ดูคลิปเราน่ะคุ้มค่า ซึ่งถ้ามองในทางกลับกัน ถ้าวันไหนที่ผมเอาแต่ขายของ ไม่สนใจคุณภาพคลิป คลิปไม่สนุกแต่ยังหน้าด้านขาย เดี๋ยวคนเขาก็เลิกดูไปเอง ดังนั้นคุณต้องทำงานให้สมศักดิ์ศรีสำหรับคนที่เข้ามาดูและทำให้มันเข้าถึงได้จากหลายทิศทาง สุดท้ายผมเชื่อว่าถ้าเรื่องที่เราเล่าน่าสนใจมากพอ ไอ้สิ่งที่เราคิดว่ามันไม่เกี่ยว จริงๆ คุณทำให้มันเกี่ยวกับคนดูได้นะ (นิ่งคิด) ลองยกตัวอย่างมาสักหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่อยากให้นวลขายสิ

กวิน ศิริ นวล

น้ำยาล้างคอนแทกต์เลนส์

โห เอาจริงดิ (หัวเราะ) เหมือนจะยากนะ แต่เอาจริงๆ อาจจะไม่ยากก็ได้ วิธีการที่ผมใช้คือผมจะพยายามมองมันในมุมที่แอ็บสแตรกต์มากๆ ก่อน ผมจะตั้งคำถามว่าจริงๆ แล้วน้ำยาล้างคอนแทกต์เลนส์คืออะไร เราอาจจะเห็นคำว่าสายตา วิสัยทัศน์ ความต้องการพื้นฐานหรือของใช้ในชีวิตประจำวัน หลังจากเราได้สิ่งเหล่านี้มา ผมจะเอามาตบๆ ให้มันเข้ากัน สุดท้ายถ้ามองคอนแทกต์เลนส์เป็นสิ่งของในชีวิตประจำวัน ผมอาจจะเลือกเล่าในมุมของภาษีก็ได้ หรือถ้ามองถึงความจริงที่ว่าคนที่ไม่ใส่คอนแทกต์เลนส์คงไม่มีวันเข้าใจคนที่ใส่ นวลก็อาจจะเล่าในมุมของความเหลื่อมล้ำก็ได้ วิธีเล่ามีเยอะมาก แล้วแต่ว่าคุณเห็นอะไร

แล้วการพูดเรื่องการเมืองในเพจนวลที่ทำงานเชิง advertorial ไม่กลัวว่าจะส่งผลกระทบเหรอ

จริงๆ งานนั้นเป็นงานที่ไม่มีคนจ้าง (คลิปเลือกตั้ง 101) ผมทำเองเพราะผมรู้สึกว่าคนดูจะได้ประโยชน์ ผมเองก็ได้ประโยชน์จากการศึกษาเรื่องนี้ ดังนั้นในแง่ผลที่ตามมา ผมรู้สึกว่างานได้สร้างคุณค่าของมันแล้วตั้งแต่ขั้นตอนการทำ งานชิ้นนี้ผมต้องอ่านหนังสือราชการ รวมถึงอ่านบทความของต่างประเทศว่าการเลือกของเราและเมืองนอกเหมือนหรือไม่เหมือนกันอย่างไร มันยากมากนะกว่าที่จะเข้าใจ เพราะถ้าข้อมูลผิดก็คือจบ

กวิน ศิริ นวล

แต่ในฐานะลูกค้า ผมว่าก็ต้องใจเขาใจเรานะ เราก็ต้องเข้าใจว่าเราทำเพื่ออะไร แต่เราก็ต้องเข้าใจเขาด้วย ถ้าลูกค้าบอกว่าไม่อยากให้พูดเรื่องการเมืองแต่เราพูดเต็มข้อ อันนี้ก็เป็นการไม่เห็นหัวเขาเกินไป สุดท้ายมันเป็นการเชื่อในวิจารณญาณของตัวเองมากกว่า เวลาผมเขียนอะไร ผมก็ไม่ได้ชี้แนะว่าฝ่ายไหนดีหรือเลว ผมจะพูดเรื่องระบบอย่างเดียว ดังนั้นผมไม่แคร์หรอกว่าคุณกับผมจะคิดเหมือนกันไหม เลือกคนเดียวกันหรือเปล่า อย่างน้อยผมขอแค่ให้คุณเข้าใจระบบก่อนว่าทำงานอย่างไร จะเห็นว่าพอนวลพูดเรื่องนี้ นวลไม่ได้เหยียบเท้าใคร แค่เรามีช่องทางพูดให้มันดังและสนุกขึ้น ผมเลยอยากจะทำ

ในมุมมองคุณ การเมืองเป็นเรื่องต้องพูดไหม

ผมไม่อยากใช้คำว่า ‘ต้อง’ เพราะถ้าใช้คำนี้ มันดูก้าวร้าวและตะโกนไปหน่อย ผมว่าการเมืองเป็นเรื่องที่พูดได้มากกว่า คนไทยเราอาจจะมีความเชื่อว่าการเมืองและศาสนาคือเรื่องที่ไม่ควรพูดกับญาติ เดี๋ยวมีปัญหา แต่คุณต้องยอมรับว่าธรรมชาติของมนุษย์เราขัดแย้งกันอยู่แล้ว แต่คำถามคือเราจะขัดแย้งกันแบบมีอารยะได้อย่างไร นั่นคือเรื่องที่สำคัญกว่า ผมกล้าพูดนะว่าคนรุ่นใหม่พูดเรื่องการเมืองกับพ่อแม่ได้ยากมาก แต่คุณจะไปโทษพ่อแม่ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก คุณก็ต้องเรียนรู้ทักษะในการขัดแย้งอย่างมีอารยะด้วย พูดออกมาเถอะ เพราะสุดท้ายการที่ไม่พูด คนที่เสียประโยชน์ก็คือเราเอง

แต่การออกมาพูดเรื่องนี้ก็มักจะมีคนที่ไม่เห็นด้วย ยิ่งทำเพจก็น่าจะยิ่งเห็นชัด

มีอยู่แล้วแหละ คุณต้องเข้าใจว่าคุณไม่สามารถคาดหวังให้คนคิดเห็นหรือเข้ามาชมคุณอย่างเดียวได้หรอก ถ้าเกิดเขาคิดไม่เหมือนคุณ คุณก็ฟังเขาเสียหน่อย แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าทุกคนที่คอมเมนต์ก็ไม่ใช่ปราชญ์ทางการเมืองอะไรแบบนั้น เลือกที่จะฟังความเห็นที่มีประโยชน์ก็พอ

กวิน ศิริ นวล

ดังนั้นในมุมมองทางการเมือง นวลน่าจะเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่หรือเปล่า

นวลไม่ใช่ตัวแทนของใครทั้งนั้นแหละ (หัวเราะ) นวลมีความเป็นนักแสดง ที่เราเลือกใช้หมาก็เพื่อให้คนไม่ต้องคิดถึงการเป็นตัวแทน เพราะถ้าเราเลือกใช้คน คนดูก็จะรู้สึกว่านี่คือการอุปมาถึงคนบางกลุ่ม ซึ่งไม่ใช่ นวลคือหมา หมาจะเป็นอะไรก็ได้ มันน่ารัก กวนตีน เอาแต่ใจนิดๆ แต่จิตใจดี ผมไม่อยากให้คนมาแปะป้ายว่านวลและเสือเป็นอะไรที่มากกว่านี้

การวางตัวแบบนี้มีข้อดีอย่างไรบ้าง

ผมว่ามันมีความลื่นไหลไม่ว่าเราจะพูดเรื่องอะไรก็ตาม นวลไม่ต้องออกหน้า คนก็ไม่ต้องรู้ชีวิตว่านวลจะทำอะไร แค่ดูว่านวลจะเล่าเรื่องอะไรก็พอ เพราะถ้าเราคิดอะไรที่น่าสนใจได้ เราก็อยากแชร์ มันทำให้บางเรื่องที่ผมเองก็ไม่ได้มีความเห็นตรงกันกับนวล แต่ผมอยากจะพูดเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ผมก็ให้นวลพูดแทน

คุณเคยนิยามตัวเองว่า ‘ชายผู้ตกเป็นหนี้บุญคุณหมาตัวหนึ่งไปตลอดชีวิต’ ทำไมถึงนิยามแบบนั้น

ผมรู้ตัวว่าอยากเล่าเรื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาผมได้วาดการ์ตูนหรือเขียนอะไรก็ตาม มันรู้สึกดีนะ ยิ่งตอนนี้การที่เราได้พูดกับคนเป็นล้านคนที่พร้อมจะฟังเรา มันก็ยิ่งดี โชคดีที่มีคนจำนวลได้และพร้อมรอฟัง มันก็พอไปได้นะ แต่ถ้ามองถึงอนาคต ผมก็ไม่รู้หรอก เฟซบุ๊กอาจจะล้มหายตายจากไปก็ได้ แต่นวลก็คงเดิน 4 ขาพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีมวลชน เพิ่มพลังการผลิตและเสพเรื่องราวเพื่อเอาเรื่องมาเล่าให้ได้เยอะๆ เพราะไม่งั้นนวลก็จะหายไป

ผมว่าเราคาดหวังให้คนมาบูชาหรือเห็นด้วยตลอดไม่ได้หรอก เพราะก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่านวลไม่ใช่ตัวแทนของผมหรือใครทั้งนั้น นวลก็แค่หมาตัวหนึ่ง

กวิน ศิริ นวล

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

กฤต วิเศษเขตการณ์

ช่างภาพผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพตามท้องถนนอย่างบ้าคลั่งพอๆ กับการกินกาแฟ และผู้คนมักเขียนชื่อเขาผิด