คุยกับ นิคม พุทธา เรี่ยวแรงหลักของผู้ผจญเพลิงในวันที่เชียงดาวกลายเป็นภูเขาไฟ

Highlights

  • นิคม พุทธา คือผู้จุดประกายให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาไฟป่า เขาเป็นประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิง และผู้ก่อตั้งค่ายเยาวชนเชียงดาว พื้นที่บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ต้นกล้าแห่งความเข้าใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ปกป้องดอยหลวงและป่าต้นน้ำแม่ปิงมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี
  • ในมุมของเขา หากมองให้เห็นการเชื่อมโยงทางมิติด้านเวลา หมายความว่าไฟไหม้ป่ามีมานานแล้ว และมันก็จะมีต่อไป เราหยุดยั้งเท่าที่หยุดยั้งได้ ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ยอมรับเท่าที่ยอมรับได้ แต่ที่สำคัญ ต้องมีการบริหารจัดการไฟป่าที่มีประสิทธิภาพ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกหน ชายตรงหน้ารีบยกหูตอบปลายสายไปว่ากำลังยุ่ง ก่อนจะขอตัวลุกไปตรวจเช็กข้าวปลาอาหารที่จัดเตรียมไว้ท้ายรถกระบะ

ประเด็นสนทนาของเรายังไม่คืบคลานไปถึงไหน ระหว่างรอคอยจึงสังเกตร่องรอยไฟป่าที่ลุกโชนบริเวณสันดอยหน้าถ้ำเชียงดาวเมื่อคืนวาน มันกินวงกว้างพอให้เห็นเถ้าถ่านแม้จากระยะไกลและสัมผัสได้ทุกอณูอากาศที่ยังไม่เจือจางกลิ่นความเสียหาย

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

หลังทักทายเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าเสร็จสรรพ นิคม พุทธา ก็กลับมาพร้อมอัพเดตกิจวัตรประจำวันในช่วงนี้ให้ฟังว่า ทุกๆ เช้าเขามีภารกิจออกตรวจตราจุดเสี่ยงและเฝ้าระวังไฟป่า รวมทั้งสนับสนุนการทำงานของเหล่าอาสาสมัครชาวบ้านที่คอยระแวดระวังอัคคีภัย

แม้ฟังดูเป็นภารกิจแสนเรียบง่ายหากเทียบกับประสบการณ์อันโชกโชนของอดีตเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ฝ่ายป้องกันและปราบปรามอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมทั้งยังเคยเป็น NGO ในมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชผู้ยืนหยัดอยู่ในทุกเหตุการณ์ต่อต้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่า แต่สิ่งที่เขาทุ่มเทในวันนี้กลับเป็นส่วนสำคัญยิ่งที่ช่วยจุดประกายให้ผู้คนทั่วไปตระหนักถึงปัญหาไฟป่า ในฐานะคนอนุรักษ์ตัวเล็กๆ ที่เลือกกลับบ้านเกิดมาปกป้องดอยหลวงเชียงดาว ผืนป่ากึ่งอัลไพน์ (Sub-alpine Vegetaion) แห่งสำคัญของเมืองไทย ตลอดจนบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ต้นกล้านักอนุรักษ์ ในบทบาทประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิงและผู้ก่อตั้งค่ายเยาวชนเชียงดาวมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี

ท่ามกลางวิกฤตหมอกควันและสถานการณ์ไฟป่าที่ไต่ระดับความเข้มข้นขึ้นทุกปีเช่นนี้ น่าสนใจว่าเขารู้สึก นึก คิด และพิจารณาหาทางออกอย่างไร

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

ปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบกับชีวิตคุณอย่างไรบ้าง

ไม่กระทบนะครับ แต่มันเตือนให้ผมต้องทำงานให้มากกว่านี้และทำงานกับคนรุ่นใหม่ เพราะอนาคตของพวกเขาจะต้องเผชิญสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำคัญในระดับต้นๆ

 

สมาชิกในครอบครัวคุณเป็นห่วงหรือกังวลบ้างไหม ที่คุณต้องมาทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงอันตราย

สำหรับผมอย่างนี้ไม่ถือว่าเสี่ยงภัย สมัยก่อนที่ออกไปต่อต้านคัดค้านจนโดนฟ้องร้องเป็นคดีเสี่ยงมากกว่านี้อีก อีกอย่างทางบ้านก็ช่วยสนับสนุนนะครับ อย่างลูกชายผมก็จะไปช่วยถ่ายรูปเวลาลงพื้นที่เฝ้าระวังไฟทำแนวกันไฟ หรือไปดับไฟด้วยกัน ส่วนภรรยาผมเป็นเภสัชกรก็จะช่วยคัดแยกยากับหน้ากาก หน้ากากอย่างดีก็เอาไว้ให้คนที่ดับไฟ รองลงมาก็ให้คนทำแนวกันไฟและคนที่อยู่ทางบ้าน

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

นิคม พุทธา ไฟป่า หมอกควัน เชียงใหม่ 

คนในพื้นที่มีความตื่นตัวกับสถานการณ์ไฟป่าและผลกระทบจากปัญหาหมอกควันแค่ไหน

คนในพื้นที่ไม่ค่อยตื่นตัวและไม่ค่อยกังวลเลยนะ เขาก็ใช้ชีวิตปกติธรรมดา จนผมขอร้องว่ามันอันตรายนะครับ ใส่หน้ากากกันสักหน่อยเถอะ คือเขาไม่รู้ตัว บางคนก็เจ็บไข้ ตอนนำยาไปแจกก็มีทั้งคนแก่และเด็กตัวเล็กๆ มารับกันเยอะจริงๆ รัฐบาลก็ควรจะใส่ใจเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพที่มีต่อประชาชนในชนบท ไม่ใช่ห่วงกังวลแค่คนในเมือง คนในเมืองเขายังพอมีเงินดูแลสุขภาพ ซื้อหน้ากากอนามัยและเครื่องฟอกอากาศ แต่คนชนบทอาศัยแค่ขนจมูก

 

ในมุมมองของคุณ แนวโน้มของปัญหาที่ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นวิกฤตการณ์ในปัจจุบันมีสาเหตุหลักมาจากอะไร

หากมองกันกว้างๆ ปัญหานี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการของระบบนิเวศที่บกพร่อง คือ ถ้าปีไหนปริมาณน้ำฝนน้อย หลังฤดูฝนป่าจะแห้ง พอเกิดไฟป่าก็จะรุนแรง และส่งผลให้ปริมาณหมอกควันเยอะ แต่ปัจจุบันต่อให้ปีไหนมีปริมาณน้ำฝนมาก ความสามารถในการกักเก็บน้ำในป่าก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าเมื่อก่อนอยู่ดี เพราะป่ามันเว้าแหว่งไปหมด

ในแง่ของนิเวศวิทยา สิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต เราจะสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและความมั่นคงทางระบบนิเวศ ซึ่งแน่นอนว่าประเด็นนี้มันสัมพันธ์กับการขยายตัวของพื้นที่ทำการเกษตรพืชเชิงเดี่ยว โดยเฉพาะข้าวโพด

 

ไร่ข้าวโพดกับหมอกควันเกี่ยวข้องกันอย่างไร

ตัวการของปัญหาหมอกควันในภาคเหนือส่วนมากเกิดจากไฟป่าและการเผาโดยฝีมือมนุษย์ ทีนี้คนเผาคือใคร ก็อาจจะเป็นชาวเขา คนยากคนจน หรือคนพื้นราบก็เผาได้ทั้งนั้น บ้างเผาเพื่อเก็บหาของป่า เผาล่าสัตว์ตัดไม้เผาเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย แต่ส่วนสำคัญคือการเผาทำไร่ข้าวโพดซึ่งเผากันปีละ 2-3 รอบ โดยหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวเกษตรกรจะเผาทำลายเศษวัสดุข้าวโพดเพื่อเตรียมดินเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป ต่อมาเมื่อปล่อยพื้นที่ทิ้งไว้สักระยะจนวัชพืชงอกก็ต้องฉีดยาฆ่าหญ้ากำจัดแล้วเผาซ้ำแต่ก็เข้าใจในมุมของชาวบ้านนะว่าพอกฎหมายไม่อนุญาตให้นำรถไถหรือรถแทรกเตอร์เข้าไปในเขตป่า วิธีการเผาจึงเป็นวิธีการที่ง่าย ประหยัดและสะดวกที่สุดติดตรงที่พวกเขามักไม่ทำแนวกันไฟ พอเผาทิ้งไว้ไฟจึงแพร่ขยายลุกลาม

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

ทำไมเกษตรกรภาคเหนือจึงนิยมทำไร่ข้าวโพด

ณ สถานการณ์วันนี้ ข้าวโพดเป็นพืชที่ปลูกแล้วได้เงินเร็วและชาวบ้านเองเขาก็อยากรวย อยากมีเงินสร้างบ้าน ซื้อรถ หรือส่งลูกเรียนหนังสือ แต่ด้วยราคาตลาดที่ไม่แน่นอน ดังนั้นการจะได้เงินเท่าเดิมหรือมากกว่าจึงจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณผลผลิต นี่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งในการเผาป่า คือเผาเพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกเนื่องจากที่ดินในป่าไม่ต้องลงทุนซื้อ นอกจากนี้ยังมีรัฐบาลช่วยประกันราคา และมี ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ซึ่งมันย้อนแย้งกับการที่ทางรัฐบาลมาใช้อำนาจสร้างแรงกดดันให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าแต่กลับไม่เข้มงวดกวดขันกับการปลูกข้าวโพดในเขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าอนุรักษ์ และป่าต้นน้ำต่างๆ ทั้งที่ความจริงแล้วต้องกดดันกรมป่าไม้และกรมอุทยานด้วยว่าห้ามไม่ให้มีไร่ข้าวโพดในพื้นที่โดยเด็ดขาด

 

ในประเทศไทย พื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่มีการทำไร่ข้าวโพดเยอะไหม

ทุกอุทยาน ทุกป่าสงวน ทุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และทุกดอยทางภาคเหนือมีไร่ข้าวโพด ประเด็นสำคัญคือพื้นที่ทุกดอยทางภาคเหนือเป็นป่าต้นน้ำ ปิงมาจากเชียงใหม่ วังมาจากลำปาง น่านมาจากน่าน ยมมาจากพะเยา แม่น้ำทุกเส้นสายไหลจากภูเขา โดยมีผืนป่าปกคลุมคอยทำหน้าที่รองรับกักเก็บน้ำที่นี้หากมีการทำไร่และเผาป่าใบไม้ที่เป็นเสมือนฟองน้ำก็ไม่เหลือพอฝนตกลงมาแทนที่จะกักเก็บน้ำได้สัก 80 เปอร์เซ็นต์ มันก็ชะล้างลงหมด ตรงกันข้ามถ้าป่าใดได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ฝนตกลงมาปุ๊บมันจะกักเก็บเลยทันที 80 เปอร์เซ็นต์ แล้วอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ปล่อยไหลไปตามลำธารธรรมชาติเพื่อหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตให้อุดมสมบูรณ์

 

แล้วเจ้าหน้าที่มีมาตรการจัดการอย่างไร

ถ้าเจ้าหน้าที่ไปเจอกับตาว่ากำลังบุกรุกแผ้วทางก็จับได้ เขาเรียกว่าความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แต่ถ้าเดินสวนทางกัน แล้วไปเจอพื้นที่ไร่ที่กำลังถูกเผาเขาก็เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้ต้องหา นอกจากมาตรการจับกุมตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามควบคุม แต่มันเป็นการควบคุมด้วยวาจาแค่บอกว่าห้ามเผานะ ใครเผาถูกจับดำเนินคดี ซึ่งหากจะให้ดีกว่านี้มันต้องมีการทำข้อมูลเชิงวิชาการอย่างฐานข้อมูล ทำแผนที่ขอบเขต สำรวจประชากร หรือข้อมูลพื้นที่ถือครองต่างๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้การจัดการมันมีประสิทธิภาพ

 

ทำไมพอพูดถึงสาเหตุของหมอกควันและไฟป่า คนจึงไม่ค่อยพูดประเด็นพื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยว

เพราะมันเข้าตัวไง ตราบใดที่เรายังกินหมูกินไก่เราก็มีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารที่มาจากข้าวโพดและปลาป่น ปลาป่นก็ล้างผลาญทะเล ข้าวโพดก็ทำลายป่าต้นน้ำ

มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและปัญหาที่เกิดจากผลพวงในการพัฒนาประเทศ ทุกวันนี้อุตสาหกรรมพืชอาหารสัตว์ของเราเจริญเติบโตมาก แต่สิ่งที่สูญเสียคือระบบนิเวศ ฉะนั้นพอเราเข้าใจสถานการณ์ก็ต้องจิตใจสงบไม่ไปกดดันดุด่าว่าร้ายคนอื่น เพราะพูดอย่างถึงที่สุดเราเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหานี้

 

แล้วที่ผ่านมาการรณรงค์ห้ามเผาช่วยทำให้ผู้เผาเข้าใจสถานการณ์บ้างไหม

การรณรงค์มันเข้าไม่ถึงอย่างที่ผมบอกตั้งแต่ต้นว่าเป็นคนยากคนจน หรือชาวเขาที่สื่อสารภาษาไทยก็ยังสื่อสารไม่ได้ วันๆ ใช้ชีวิตอยู่แต่ในป่า ร้อยวันพันปีถึงจะลงมาตลาดในเมืองสักครั้ง แล้วมันก็เป็นความคุ้นเคยด้วย เขาเคยเผาทุกปีเพื่อให้ที่ทางมันโล่งสัญจรสะดวก สักพักหนึ่งก็เผาเอาหญ้าระบัดมาเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย บ้างก็ได้ผักหวานมากิน

ที่สำคัญคือเขาไม่รู้จริงๆ ว่ามันส่งผลกระทบรุนแรงเพราะไฟป่ามันเกิดเป็นปกติทุกๆ ปีนะครับ เพียงแต่เมื่อก่อนมันอาจไม่รุนแรงขนาดนี้ โดยเฉพาะกรณีของดอยหลวงเชียงดาวในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุไฟป่าที่หนักสุดเท่าที่ผมเคยเจอมา

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

ที่ว่าหนักที่สุด หนักแค่ไหน

อันที่จริงมันมีไฟไหม้ป่ากระจัดกระจายและมีหมอกควันไฟหนาแน่นมากตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมแล้ว จนเย็นของวันที่ 30 ผืนป่าด้านบริเวณหน้าค่ายเยาวชนเชียงดาวของผมก็ลุกไหม้ ควันไฟหนาทึบ คืนนั้นผมนอนรมควันกระสับกระส่ายทั้งคืน พอตื่นเช้าก็รีบขับรถขึ้นดอยไปเฝ้าดูจุดเกิดเหตุ

ผมไปถึงที่นั่นราว 8 โมงกว่า นั่งเฝ้าไฟอยู่คนเดียว กระทั่งใกล้ๆ 10 โมง เลยตัดสินใจโทรแจ้งนายอำเภอ สักพักชุดดับไฟชุมชนที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกันก็มาถึง จากนั้นเจ้าหน้าที่ไฟป่าของกรมป่าไม้และกรมอุทยานก็ตามมา ต่อมาคืนวันที่ 1 เมษายน บริเวณสันดอยหน้าถ้ำเชียงดาวก็เกิดไฟป่าขึ้นกลางดึกครั้งนี้มันโหมกระหน่ำรุนแรงมากจนมองเห็นเหมือนเป็นภูเขาไฟ

เหตุการณ์นี้เป็นข่าวใหญ่โตเพราะมันน่ากลัวมาก แล้วผมและชาวบ้านรอบๆ ก็ช่วยกันรายงานสถานการณ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งก็มีเพื่อนๆ หลายคนที่ติดตามสถานการณ์อยู่ต่างส่งกำลังใจและแบ่งปันน้ำใจบริจาคสิ่งของช่วยเหลือกันเข้ามามากมาย นอกจากนี้ยังมีทีมสื่อมวลชนมาช่วยกระจายข่าวสารสร้างการรับรู้ และมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการต่างๆ ระดมกำลังมาช่วยเหลือกันเต็มที่ จนสามารถควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงให้คลี่คลายลงได้อย่างปลอดภัย 

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

เหมือนสื่อโซเชียลฯ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการระดมพลัง

ใช่ คือบทบาทของผมช่วงนี้ก็จะช่วยในการสนับสนุนและวิเคราะห์ข้อมูลให้ชาวบ้าน ทุกวันผมจะออกตรวจลาดตระเวนตามจุดเสี่ยงไฟป่า ถ้าไปแล้วเจอไฟลุกท่วมท้นก็ถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ก พยายามประสานงานขอความช่วยเหลือ หรือบางทีก็ดับเองบ้าง นอกจากนี้ยังใช้สื่อโซเชียลฯ เป็นเครื่องมือในการระดมความช่วยเหลือ ซึ่งก็มีคนให้ความสนใจเยอะมาก ได้รับบริจาคทั้งหน้ากากอนามัย ยารักษาโรค เครื่องดื่ม อาหารแห้ง และเงิน โดยในแต่ละวันที่ค่ายเยาวชนเชียงดาวจะมีการเตรียมอาหารไว้ประมาณ 100 ถุง พร้อมกับสิ่งของบริจาค จัดให้เป็นระเบียบ แล้วยกขึ้นท้ายรถกระบะนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเรามีเครือข่ายที่จะต้องทำงานกว่า 30 หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านชนเผ่าที่ได้รับความช่วยเหลือน้อย ส่วนเงินก็จะมอบให้กับผู้นำชุมชนสำหรับจัดการเรื่องอาหารการกิน หรือสำหรับจุดไหนที่ชาวบ้านยังประสงค์จะทำแนวกันไฟต่อเนื่อง 

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

ที่ผ่านมามีการทำแนวกันไฟเป็นประจำไหม

ทำทุกปีครับ เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งจุดแนวกันไฟที่ทำเราจะอาศัยข้อมูลจากชาวบ้านเพราะเขาจะรู้ทิศทางไฟ รู้ว่าตรงไหนเป็นจุดเสี่ยง เป็นสันดอยหรือหุบเหว เราเอาชาวบ้านเป็นตัวตั้งแล้วทีนี้ใครอยากอาสาช่วยทำก็มาได้หมดเลย

 

แล้วช่องโหว่คืออะไร ทำไมจึงเกิดปัญหาขึ้นทุกปี

การที่สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในเชียงใหม่และเชียงดาวขณะนี้ยิ่งรุนแรงมันก็ยิ่งตอกย้ำว่าเราจะเพิกเฉยต่อไปไม่ได้ จะต้องมีการคิดและวางแผนกันล่วงหน้าให้มากขึ้น แต่สิ่งที่มันยังเป็นอุปสรรคก็คือความร่วมมือและความเข้าใจ เราต้องเข้าใจในธรรมชาติอย่างถ่องแท้และเห็นแก่ความร่วมมือ

เวลาที่ไฟไหม้ป่า คนทั่วไปจะไม่เข้าใจว่าป่าไหนสามารถอยู่กับไฟได้และป่าไหนที่ไม่ควรจะไหม้ เพราะป่าบางแห่งมันก็โดนไฟไหม้ได้ เช่น ป่าเต็งรังหรือป่าเบญจพรรณ ถ้าคนเข้าใจตรงนี้ก็จะไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป ความโกรธความเกลียดก็จะไม่รุนแรง

แต่ทีนี้พอเกิดไฟป่าขึ้นมา คนในเมืองส่วนมากเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าป่ามันเสียหายแค่ไหน เขาสนใจแค่ว่า เฮ้ย นี่มันเกิดควันไฟและพอสูดควันเข้าไปเขาก็รู้สึกโกรธ แล้วก่นด่าชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ชาวบ้านคนที่เป็นมือเผามีจำนวนน้อยกว่าคนที่ช่วยกันดับไฟเสียอีก ประชาชนจึงควรจะมีความเห็นอกเห็นใจกันมากกว่านี้ ไม่ใช่โหมกระหน่ำซ้ำเติม 

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

แล้วเราจะสร้างความร่วมมือและความเข้าใจที่ว่าได้อย่างไร

สร้างได้ด้วยแนวทาง ‘นิเวศเชิงลึก (Deep Ecology)’ ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่จิตวิญญาณ ด้านจิตใจ ด้านอารมณ์ และความรู้สึก ให้ผู้คนอยู่บนพื้นฐานของการเคารพในธรรมชาติและการอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่แก่งแย่งแข่งขัน แต่เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างผู้คนกับธรรมชาติ ระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ ระหว่างคนในชนบทกับคนในเมือง เพราะพวกเราอยู่ร่วมกันบนฐานทรัพยากรดิน น้ำ ป่า เดียวกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งในแนวคิดของ Deep Ecology มองปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาเสียด้วยซ้ำ ลองนึกนะ เวลาเราอยู่ใกล้ภูเขาเราจะเห็นแต่เปลวไฟและหมอกควัน แต่ถ้าเราถอยห่างออกมาเราจะเห็นท้องฟ้า ผู้คน ดิน น้ำ ลม ไฟ มันเป็นปรากฏการณ์การเคลื่อนไหวของธาตุทั้ง 4 สิ่งนี้มันเป็นศาสตร์ความรู้ว่าด้วยแนวคิดมุมมองในการมองธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง

หากมองให้เห็นการเชื่อมโยงทางมิติด้านเวลา ก็หมายความว่าไฟไหม้ป่ามันมีมานานแล้ว และมันก็จะมีต่อไป เราก็หยุดยั้งเท่าที่หยุดยั้งได้ ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ยอมรับเท่าที่ยอมรับได้ ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป ส่วนอีกมิติคือ มิติระหว่างสิ่งหนึ่งต่อสิ่งหนึ่ง แม้กระทั่งสิ่งที่มีชีวิตด้วยกันหรือสิ่งที่ไม่มีชีวิตด้วยกัน มันก็มีการเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งเช่น ก้อนหินที่เราเห็นวางระเกะระกะในลำธาร เรานึกว่ามันไม่ได้ทำอะไร แต่แท้ที่จริงแล้วมันทำหน้าที่ให้น้ำที่ไหลมากระทบเป็นลูกคลื่นเพื่อจะได้มีพลังไหล บางก้อนทำให้น้ำกระฉอกขึ้นมา ซึ่งช่วงที่น้ำกระฉอกออกซิเจนจากอากาศจะเติมเข้าไปแล้วไปหล่อเลี้ยงสิ่งที่มีชีวิตในน้ำ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของแพลงก์ตอนและห่วงโซ่สายใยชีวิต

กิจกรรมที่ผมทำอยู่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่า ทำแนวกันไฟ เก็บกวาดขยะในป่า หรือเดินป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติ มันจะมีเรื่องของจิตสำนึกและการตระหนักรู้คุณค่าทางจิตใจหมดเลย อย่างการทำแนวกันไฟป่า เราจะชวนคนมากันแนวไฟในจิตในใจของเราด้วย ไม่ให้ความโกรธเกลียดเคียดแค้นมันเกิดขึ้น ไฟป่ามันมีฤดูกาล แต่ไฟในใจของเรามันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่เลือกฤดูกาล ฉะนั้นก็ไม่ต้องไปโกรธคนที่เขาเผา เขาจะเป็นใคร จุดด้วยสาเหตุอะไรก็ช่างเขา เรารับรู้แล้วก็วาง แล้วมาเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่เราทำอยู่ดีกว่า

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่

คุณคิดว่าอะไรคือความสูญเสียที่หนักที่สุดจากเหตุการณ์ไฟป่าดอยหลวงเชียงดาว

เราสูญเสียโอกาสการงอกเงยของเมล็ดพันธุ์ไม้ที่จะกลายเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ความสามารถในการกักเก็บน้ำและแหล่งผลิตออกซิเจน ซึ่งความเสียหายทางระบบนิเวศน์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้

 

สำหรับคุณแล้ว บทเรียนสำคัญที่ได้รับจากเหตุการณ์ในครั้งนี้คืออะไร

ผมคิดว่าการบริหารจัดการไฟป่าโดยรวมเรายังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อาจเพราะเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความรุนแรงครั้งแรก และเห็นว่าชาวบ้านที่อยู่ในเขตป่าแต่ละหมู่บ้านควรจะเป็นกำลังหลักในการจัดการกับไฟป่า ซึ่งอาจจะต้องทำทั้งกระบวนการป้องกันก่อนฤดูกาลเผา มาตรการช่วยดับไฟป่า และการฟื้นฟูหลังจากเกิดสถานการณ์ มันควรจะมีกระบวนการทำงานที่ไม่ใช่แค่เป็นภารกิจเสร็จเป็นครั้งๆ แต่มีการสรุปบทเรียน วางแผน และทบทวนสม่ำเสมอ

 

แล้วคนในเมืองจะมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างไรบ้าง

สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน คำนึงถึงระดับฐานล่าง เพราะจะช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกพืชผักผลไม้อื่นๆ เป็นทางเลือกให้สามารถทำเกษตรผสมผสาน ไม่ใช่แค่ทำไร่ข้าวโพดอย่างเดียว

 

หลังไฟป่าดับคุณจะทำอะไรต่อไป

ผมก็มีกิจกรรมของผมเรื่อยๆ ตามสภาพ ไม่ได้มีแผนงานอะไรที่ชัดเจน ไม่ได้สังกัดองค์กร เพราะผมทำงานโดยอิสระ พอถึงหน้าแล้งมาก็ช่วยทำแนวกันไฟ เก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ป่า ปลูกผลไม้ที่เป็นอาหารสัตว์ มะม่วงป่า มะกอกป่า พอถึงฤดูฝนก็ออกไปปลูกป่า ชวนอาสาสมัครบ้าง ชาวบ้านบ้าง อย่างน้อยถ้ามาทำกิจกรรมร่วมกันก็จะได้พบปะพูดคุยและเรียนรู้คุณค่าความสำคัญของป่าที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเราไปนั่งฟังบรรยายในชั้นเรียนเพราะมันได้ประสบสัมผัสด้วยตัวเองและจิตวิญญาณของเรา การเรียนรู้ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องเป็นการเรียนรู้แบบเชิงลึก

นอกจากนี้ในปีนี้ผมก็ตั้งใจว่าจะรณรงค์ให้มีการปลูกกล้วยเป็นแนวระหว่างขอบไร่กับขอบป่า ซึ่งแนวกล้วยนั้นสามารถเป็นแนวหยุดไฟ (Forest Fire Break) แถมชาวบ้านยังได้กล้วยกินและใช้ประโยชน์อีกสารพัด สำคัญที่สุดคือต้องอาศัยความร่วมมือ เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาร่วมที่เราต้องตระหนัก ทุกคนได้รับผลกระทบ ทุกคนมีส่วนในการทำลาย ทุกคนก็ควรจะมีส่วนในการแก้ไขปัญหาด้วย ซึ่งวิธีการอาจจะหลากหลายแต่ถ้าหากฝนตกลงมาทุกอย่างก็คลี่คลาย ฝนอย่างเดียวที่จะแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันได้ ธรรมชาติจะฟื้นฟู ผู้คนจะมีชีวิตชีวาแจ่มใส ทำอย่างไรที่จะให้ฝนตก ผมก็ยังมีความหวังนะว่าฝนคงจะตกก่อนสงกรานต์ แค่สักครั้งก็ยังดี

นิคม พุทธา ไฟป่า เชียงใหม่


ขอบคุณรูปภาพจาก นิคม พุทธา

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

กรินทร์ มงคลพันธ์

ช่างภาพอิสระร่างใหญ่ อดีตหัวหน้าช่างภาพนิตยสารเล่มหนึ่งในเชียงใหม่ รักการปั่นจักรยาน ชอบแสงธรรมชาติ กับหมาตัวใหญ่ๆ