Good Night Paola : เติมพลังชีวิตจากโฆษณา Midea ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนางแบบชาวบราซิลผู้สูญเสียขา แต่ไม่หยุดคว้าฝัน

Highlights

  • ภาพยนตร์โฆษณา Good Night Paola โดย Midea ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ Paola Antonini นางแบบบราซิลผู้สูญเสียขา
  • สเตลล่า มาลูกี้ ผู้รับบทบาทนางเอกในภาพยนตร์ ฟ้าทะลายโจร (2543) หนึ่งในผู้ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์การสูญเสียขา
 

ใครที่ความหวังในชีวิตกำลังดับมอด เราอยากแนะนำให้คุณได้ดูภาพยนตร์โฆษณาเรื่องนี้
เรื่องราวของ Paola Antonini นางแบบสาวชาวบราซิลที่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนทำให้เธอต้องสูญเสียขาไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความฝันการเป็นนางแบบของเธอสิ้นสุดลง

พีท–ทสร บุณยเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ (Creative Director) บริษัท เจ. วอลเตอร์ ธอมสัน ประเทศไทย ครีเอทีฟที่หยิบยกเรื่องราว ‘ความฝัน’ ของเปาลามาเชื่ยมโยงกับ ‘ความฝัน’ ในการหลับนอน จะมาเล่าถึงเบื้องหลังไอเดียการทำงานชิ้นนี้ โดยมีบาส–นัฐวุฒิ พูนพิริยะ เจ้าของผลงานจากเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง (2560) รับหน้าที่กำกับการแสดงการพูดคุยในครั้งนี้ยังได้มุมมองจากสเตลล่า มาลูกี้ นางเอกจากหนังไทยในตำนานเรื่อง ฟ้าทะลายโจร (2543) ที่สูญเสียขาจากโรคพาราไทรอยด์มาร่วมแชร์ประสบการณ์หลังจากชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลง

ทำหนังโฆษณาให้ challenger แบรนด์จากโจทย์ที่เซอร์ที่สุด  

พีท : ตลาดแอร์ในเมืองไทย คนไม่ค่อยรู้จักแบรนด์ Midea สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะรู้จักแบรนด์ใหญ่ๆ มากกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วแบรนด์ Midea ก็เป็นแบรนด์ใหญ่โดยเฉพาะในจีน และในอีก 200 ประเทศที่เขาขาย แต่ในเมืองไทยคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก เพราะฉะนั้นเรากำลังทำ challenger แบรนด์ เพื่อให้คนไทยรู้ว่ามีแบรนด์ขายแอร์ชื่อนี้อยู่ ซึ่งแบรนด์อื่นจะมาทางขายฟังก์ชั่น แต่ผมคิดว่าแอร์อยู่กับคนไทยมานานแล้ว เราไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอก แต่เราต้องพยายามทำโฆษณาที่ทำให้คนรู้สึก

การเปรียบเปรย ‘ความฝัน’ ในแง่การนอนหลับฝัน กับการไปถึงความฝัน

พีท : โปรดักต์คือแอร์บ้าน หน้าที่ของแอร์บ้านคือทำให้เราหลับสบาย ทำให้เราหลับฝันดี พอเราได้อ่านเรื่องของเปาลาแล้ว เราเลยเปรียบเปรยเรื่องความฝัน เป็นการนอนหลับฝันดีกับความฝันที่เปาลาอยากจะไปให้ถึงเป็นเรื่องเดียวกัน เลยหยิบวิธีเล่าของขั้นตอนการฝันมา ซึ่งมันพอดีเลย ไม่ต้องพยายาม

ก่อนหน้าที่โดนอุบัติเหตุ เปาลาก็พยายามจะเป็นนางแบบ แต่อุปสรรคคือเขาตัวเล็กสูงประมาณ 160 เซนติเมตร พอประสบอุบัติเหตุอีกความฝันดูจะยิ่งไกลออกไป แต่กลายเป็นว่าในโมเมนต์ที่เราคิดว่าเขาอ่อนแอที่สุด เปาลากลับเข้มแข็งกว่าเดิม ซึ่งมันทำให้เขาไปถึงความฝันการเป็นนางแบบเร็วขึ้นด้วยซ้ำ ซึ่งพอเราได้ไปคุย ได้ไปดูเรื่องราวของเปาลาแล้ว เขาเป็นคน positive มาก ไม่ได้รู้สึกว่าการสูญเสียขาจะทำให้ชีวิตไปต่อไม่ได้ ซึ่งเหมือนพี่สเตลล่าเลย เล่นเวคบอร์ด ขี่จักรยาน เล่นสเกต เล่นบาส เราเลยอยากนำความ positive ไปสร้างความหวังสร้างแรงบันดาลใจให้คนดูจนได้ big idea ออกมาเป็น No heat can beat your dreams. มันก็เชื่อมโยงกับแอร์ได้ด้วย

มุมมองของผู้ร่วมประสบการณ์

สเตลล่า : รู้สึกว่าคนในหนังคือเรา แค่หน้าไม่เหมือน มันมีหลายช็อตที่เป็นแบบนั้น ตอนที่นอนโคม่าอยู่บนเตียงแล้วมีคนมาแต่งหน้า เราก็รู้สึกแบบนั้นอยู่หลายวัน แต่พอตื่นขึ้นมาก็เพิ่งมารู้ว่าเป็นพยาบาลที่มาดูแลเรา ทำแผล คอยถ่ายรูปดูอาการ อีกฉากหนึ่งที่เปิดประตูขึ้นมามีแสงขาว ตอนที่เรานอนอยู่เราเห็นแสงขาวนั้น ไม่ใช่ประตูเหมือนในหนังแต่เป็นหน้าต่าง สว่างมาก พูดกับตัวเองว่าแสงขาวเหมือนเป็นไฟนอลสเตจแต่เราไม่อยากไป เลยตัดสินใจว่าไม่ไป หันหน้าไปมองที่อื่นเห็นแค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่เห็นอีกเลย แล้วก็มีช็อตที่เขาใฝ่ฝันอยากเป็นนางแบบแต่เราใฝ่ฝันอยากใส่ส้นสูง เพราะก่อนที่เราจะจะเสียขาเราชอบใส่ส้นสูงมาตลอด

พีท ผมเพิ่งจะมารู้ตอนนี้ว่าพี่สเตลล่ารู้สึกแบบนั้น มันลึกเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้จริงๆ ฉากแต่งหน้าและฉากแสงขาวเราแค่อยากจะเล่าต่อว่าหลังจากเกิดอุบัติเหตุกับเปาลา คุณคิดว่าชีวิตบนรันเวย์เขาจบแล้ว แต่ไม่ใช่ คุณคิดว่าต้องเป็นมือหมอ แต่ไม่ใช่ รันเวย์ของเขาต้องไปต่อ มันเลยเป็นการแต่งหน้าเพื่อรอไปต่อ ส่วนแสงขาวนั้นมันคือการเดินเพื่อไปสู่สเตจต่อไป เหมือนการเล่าว่าตายหรือไม่ตายก็ไม่รู้ แต่เขาพร้อมไปต่อแล้ว

ส่วนฉากเดินแบบเราใช้ฟุตเทจจริงที่เขาไปเดินมา ถ้าไปถ่ายใหม่ยังไงก็ไม่รู้สึก แล้วกว่าจะได้มันยากมากนะ เพราะมันมีหน้าคนติดลิขสิทธ์เยอะ แต่ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไปเอามาให้ได้  ซึ่งนั่นคือโมเมนต์แรกที่เขาได้ไปเดินบนรันเวย์ หลังจากนั้นเขาก็ได้เดินอีกหลายครั้ง ตอนนี้เปาลาก็เป็นบล็อกเกอร์ให้แรงบันดาลใจคน มีคนตามอินสตาแกรมเขา 2-3 ล้านคน

สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตไปต่อ

พีท : เปาลาเจอเรื่องที่รุนแรงกับชีวิตในมุมมองของคนอื่น เช่นเดียวกับพี่สเตลล่า แต่ไม่ใช่มุมมองที่เขามองตัวเอง คนอื่นจะมองว่าเจอเรื่องที่หนักมาก แต่ทุกคนมันต้องมีเรื่องดราม่าในชีวิตที่ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย เแต่ถ้าอย่างน้อยหนังเรื่องนี้ทำให้คนดูมีแรงบันดาลใจสักนิดหนึ่ง ดูแล้วรู้สึกว่าถึงเราจะเจอเรื่องร้ายๆ ในชีวิต แต่มันไม่มีอะไรที่หยุดคุณได้นอกจากตัวคุณจะหยุดมันเอง ถ้าเราจะไปต่อ เราไปต่อได้ ผมเชื่อว่าทุกคนไปถึงตรงนั้นได้จริงๆ

สเตลล่า : thing happen for reason ค่ะ คนอื่นอาจจะมองว่าเราพิการ ภาษาอังกฤษคือ disable แต่สำหรับเรา เรา able นะ เราทำได้ เราถือว่าได้เกิดใหม่ ชีวิตตอนนี้มันเป็นโอกาสที่ 2 ของเรา ตอนเห็นแสงขาวเราเลือกที่จะไม่ไปทางนั้น เพราะฉะนั้นที่เราเลือกอย่างนั้นเพราะเราอยากเดินต่อ การเดินต่อของเราต้องเดินไปข้างหน้า อะไรที่เราต้องเจอนิดๆ หน่อยๆ สะดุดบ้าง บางทีมันเป็นช่วงจังหวะที่ท้อ เชื่อว่าเปาลาเองก็คิดแบบนี้ พอได้ดูแล้วเราก็รู้สึกว่ามันดีจัง ทำให้เราฮึดขึ้นมาอีกครั้ง ของแบบนี้ต้องกระตุ้นบ่อยกันบ่อยๆ


AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ปฏิพล รัชตอาภา

ช่างภาพอิสระที่สนใจอาหาร วัฒนธรรม และศิลปะร่วมสมัย มีความฝันว่าอยากทำงานศิลปะเล็กๆ ไปเรื่อย รวบรวมผลงานไว้ที่ pathipolr.myportfolio.com