Looper & Co. ร้านกาแฟผสมบาร์ค็อกเทลในโกดังที่จะทำให้คุณหลุดจากลูปกาแฟเดิมๆ

Highlights

  • Looper & Co. ร้านกาแฟผสมบาร์ค็อกเทลที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่โกดังราชวงศ์ ย่านชิคแห่งใหม่ที่เกิดจากการรีโนเวตพื้นที่โกดังเก่าให้กลายเป็นร้านรวงต่างๆ
  • บาร์กาแฟเปิดทำการในยามกลางวัน ขายเมนูกาแฟเบสิก (กาแฟดำและกาแฟใส่นมทั่วไป) กาแฟซิกเนเจอร์ และ Coffee in Good Spirit เมนูกาแฟผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูตรเฉพาะของทางร้าน
  • ยามเย็น ไฟทุกดวงในร้านจะถูกหรี่ความสว่างลง เปลี่ยนบรรยากาศเป็นบาร์ค็อกเทล เมนูแนะนำคือค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่พวกเขาได้แรงบรรดาลใจมาจากการพบเจอสิ่งต่างๆ

Looper & Co

ใครจะมาเชียงใหม่ช่วงนี้ เราขอชี้ให้ไปที่โกดัง

ขึ้นชื่อว่าโกดัง ในภาพจำของหลายคนคงเป็นสถานที่เก็บสิ่งของต่างๆ แต่สำหรับที่โกดังราชวงศ์ (Kodang Rachawong) นี่คือสเปซแห่งใหม่ที่รวบรวมร้านขายของเท่ๆ เอาไว้ในโกดังเก่า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าวินเทจเก่าเก็บทรงสุดเท่ แบรนด์เครื่องแต่งกายดีไซน์เก๋ แผ่นเสียง เทปคาสเซต ร้านตัดผม และอีกมาก ที่ร่วมกันเข้ามาปรับปรุงพื้นที่โกดังเก่าบนถนนราชวงศ์แห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อแวะมาที่โกดังแห่งนี้ก็คือ การเปิดประตูเข้ามาลองชิมเมนูเครื่องดื่มของร้าน Looper & Co.

Looper & Co. คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเพื่อน 4 คน ที่ตอนแรกตั้งใจร่วมกันว่าจะเปิดเป็น hidden bar เสิร์ฟเมนูค็อกเทลที่มีแต่ gin เป็นหลัก ก่อนตัดสินใจเพิ่มความเป็นร้านกาแฟผสมเข้าไป ทำให้ร้านแห่งนี้มี 2 ช่วงเวลาทำการ ตอนกลางวันเป็นบาร์กาแฟ โดยมี ปรินซ์–นโรดม อ่อนศรี และ โชกุน–ศิลา สุขประสิทธิ์ปรีดี สองหุ้นส่วนร้านที่เชี่ยวชาญด้านกาแฟเป็นผู้รับหน้าที่ให้บริการ ก่อนส่งไม้ต่อให้ มายด์–ณนนท์ อาริยะวงค์ รับหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ต่อในส่วนบาร์ค็อกเทลช่วงกลางคืน และมี จันทร์–จันทร์ทอแสง สุทัศน์ ณ อยุธยา หุ้นส่วนร้านอีกคนรับหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านทั้งหมด

อย่างไรก็ตามแม้ทางร้านจะมีการแบ่งช่วงเวลาเปิด แต่ส่วนของบาร์กาแฟตอนกลางวันพวกเขาก็ตั้งใจออกแบบให้คงลักษณะของความเป็นบาร์ค็อกเทล ซึ่งทำให้พวกเขาแตกต่างจากร้านกาแฟอื่นๆ อย่างชัดเจน

เมื่อก้าวเข้ามาภายในร้าน จุดสังเกตแรกที่จะพบโดยทันทีก็คือบาร์กว้างที่ทอดตัวยาวอยู่กลางร้าน โดยมีโชกุนและปรินซ์กำลังวุ่นอยู่กับการชงเมนูกาแฟต่างๆ ให้กับลูกค้าอยู่ด้านหลังบาร์

“ด้วยความที่เราเป็นบาร์กาแฟในบาร์ค็อกเทล เราเลยออกแบบกันว่าตอนกลางวันเมื่อเปิดเข้าร้านมาเราจะไม่ได้มีแค่กาแฟเบสิกทั่วไป เราไม่อยากให้ลูกค้าเข้ามาแล้วรู้สึกว่ามีแต่กาแฟเดิมๆ เราฉีกออกมา ด้วยการมีเมนูม็อกเทลที่มีส่วนผสมของกาแฟ และรูปแบบการทำเหมือนอยู่ในบาร์ค็อกเทลเลยครับ” ปรินซ์อธิบายคอนเซปต์ส่วนของร้านกาแฟให้ฟัง

เก้าอี้ตรงหน้าบาร์จึงเป็นจุดที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้มานั่ง เพราะว่าพื้นที่บาร์ขนาดหน้ากว้างเกือบเมตรแห่งนี้ พวกเขาตั้งใจออกแบบไว้ให้เป็นเหมือนเวทีการแสดงของพวกเขาสำหรับพรีเซนต์เมนูกาแฟซิกเนเจอร์ต่างๆ ที่พวกเขาตั้งใจคิดค้นกันขึ้นมา และมีขั้นตอนการผสมส่วนผสมวัตถุดิบต่างๆ ไม่ต่างอะไรจากบาร์เทนเดอร์ค็อกเทล ต่างเพียงว่าส่วนผสมหลักของพวกเขาครั้งนี้คือ ‘กาแฟ’

เมนูกาแฟของที่นี่ถูกแบ่งให้เลือกสั่งมาทานได้ 3 ประเภท คือ กาแฟเบสิกหรือกาแฟตามปกติที่เราเคยดื่มกันทั่วไป กาแฟซิกเนเจอร์ของทางร้าน และ Coffee in Good Spirit ที่เป็นเมนูค็อกเทลกาแฟผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูตรเฉพาะของร้าน (ขายตามเวลาราชการ) ให้คุณได้มาลองจิบท่ามกลางบรรยากาศดิบๆ ของโกดังเก่า ที่พวกเขาตั้งใจคงประวัติศาสตร์ของมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรเขียนบอกช่างบนคาน รอยฝีแปรงลองสีต่างๆ บนผนัง ซึ่งเกิดจากความที่แต่เดิมคูหาที่พวกเขาเข้ามาทำเป็นร้านนั้นเคยเป็นโกดังเก็บของของร้านขายวัสดุก่อสร้างมาก่อน

ไม่ใช่แค่พื้นที่หน้าบาร์เท่านั้นที่พวกเขาพยายามดึงลักษณะของบาร์ค็อกเทลมาไว้ตอนกลางวัน ทุกวันพฤหัสบดีและวันเสาร์ ภายในร้านกาแฟแห่งนี้จึงมีดีเจมาเปิดเพลงให้ฟังกันตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น ก่อนที่ทางร้านจะพักเบรกเพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนเป็นบาร์ค็อกเทลและพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

ยามราตรีที่นี่ จากร้านกาแฟบรรยากาศของร้านจะถูกเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการเป็นบาร์ค็อกเทล ไฟทุกดวงในร้านถูกหรี่จนสุด เหลือไว้แต่พระเอกของร้านนั่นคือบาร์ ที่คราวนี้เป็นเวทีของมายด์ บาร์เทนเดอร์ผู้รับผิดชอบชงเมนูซิกเนเจอร์ต่างๆ ที่คิดค้นขึ้นจากจินซึ่งสมาชิกภายในร้านไปค้นพบจากที่ต่างๆ

ยามค่ำคืนเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการมาผ่อนคลายตัวเองก่อนทิ้งวันให้หมดไปพร้อมกับเครื่องดื่มในแก้วที่หมดลง ก่อนต้องตื่นมาใช้ชีวิตวันใหม่ในลูปเดิม แต่ไม่ใช่กับเมนูของที่นี่ที่จะผลัดเปลี่ยนเมนูใหม่ตามฤดูกาล แม้แต่ตัวร้านเองที่ถูกวางแผนให้เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอภายในร้านใหม่หมด! ทุกๆ 3 ปี ให้คุณได้หลุดจากลูปเดิมชั่วคราว อย่างน้อยก็ภายในพื้นที่ร้านและการบริการของพวกเขา

 

Recommended Menu
Coffee Bar

Umeshu Tonic

กาแฟ cold brew ผสมกับซอสบ๊วยโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง และ tonic เสิร์ฟในสไตล์ม็อกเทล ด้วยแก้วที่โรยรอบปากด้วยผงบ๊วยรสหวาน ให้ความสดชื่นและกลิ่นราวกับดื่มเหล้าบ๊วยอยู่ โดยที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และอาจทำให้คุณเผลอลืมไปว่านี่คือเมนูกาแฟ

Queer

สำหรับผู้ไม่ทานกาแฟ ทางร้านก็มีเมนูชาเป็นซิกเนเจอร์ของตัวเอง ที่เป็นส่วนผสมระหว่างชาอัญชันและกระเจี๊ยบที่พวกเขาเป็นผู้คิดค้นสูตรและต้มเอง ผสมกับมะนาวและน้ำผึ้งอย่างดี ให้รสหวานและเปรี้ยวกำลังพอดี ไว้ดื่มดับกระหาย ให้ความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

Wild Nothing

เมนูกาแฟผสมจินที่ปรินซ์คิดค้นขึ้นมาเพื่อนำไปประกวดในรายการแข่งขัน Thailand Creative Barista Challenge จนสามารถคว้าอันดับที่ 2 ของภาคเหนือมาครอง จากความกล้าหาญในการเป็นเมนูกาแฟเดียวในรายการแข่งขันที่มีส่วนผสมเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และออกมาได้อย่างลงตัวคล้ายกับได้ดื่มเบียร์ IPA ชั้นดี จากส่วนผสมของกาแฟ จิน และกลิ่นหอมของดอกไม้ทางภาคเหนือ

Cocktail Bar

Reading in Glass

เมนูค็อกเทลที่เป็นส่วนผสมระหว่างจิน เหล้าบ๊วย และพีช ที่ให้รสหวานอมเปรี้ยว ทานง่าย เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อลูกพีชภายในแก้ว เหมาะสำหรับเป็นแก้วแรกของคืนในการเรียกความสดชื่น

Cool and Calm

เมื่อเห็นส่วนผสมของค็อกเทลอันนี้ก็ชวนให้เราฉงนไม่น้อยแล้วว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ด้วยความที่มีเมล่อน วาซาบิ และไข่ขาว เป็นส่วนผสมที่ออกมาลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งรสที่ไม่หวานมากไปและกลิ่นหอมเฉพาะ ให้ความสดชื่นหลังดื่มและเย็นลงเข้ากับชื่อของมันเป็นอย่างดี

Have a Date with Me ?

สำหรับสายที่ชอบความขมขึ้นมาหน่อย นี่คือค็อกเทลที่เป็นส่วนผสมของจินและไซรัปจากอินทผลัมที่ทางร้านเป็นผู้ทำขึ้นเอง ที่เราอยากแนะนำให้ลองสั่งมาชิมกัน ซึ่งที่มาของชื่อเมนูก็มาจากการล้อกับ Date ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษของอินทผลัม ที่คุณควรได้ลองเดตกับเมนูนี้ดูสักครั้ง

Looper & Co.

address : 153 ถนนราชวงศ์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300
tel : 087 177 2640
hour : Espresso Bar 09:00-16:00 / Cocktail Bar 18:00-00:00 (ปิดทุกวันพุธ)

ใครจะมาเชียงใหม่ช่วงนี้ เราขอชี้ให้ไปที่โกดัง ขึ้นชื่อว่าโกดัง ในภาพจำของหลายคนคงเป็นสถานที่เก็บสิ่งของต่างๆ แต่สำหรับที่โกดังราชวงศ์ (Kodang Rachawong) นี่คือสเปซแห่งใหม่ที่รวบรวมร้านขายของเท่ๆ เอาไว้ในโกดังเก่า ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าวินเทจเก่าเก็บทรงสุดเท่ แบรนด์เครื่องแต่งกายดีไซน์เก๋ แผ่นเสียง เทปคาสเซต ร้านตัดผม และอีกมาก ที่ร่วมกันเข้ามาปรับปรุงพื้นที่โกดังเก่าบนถนนราชวงศ์แห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อแวะมาที่โกดังแห่งนี้ก็คือ การเปิดประตูเข้ามาลองชิมเมนูเครื่องดื่มของร้าน
คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเพื่อน 4 คน ที่ตอนแรกตั้งใจร่วมกันว่าจะเปิดเป็น hidden bar เสิร์ฟเมนูค็อกเทลที่มีแต่ gin เป็นหลัก ก่อนตัดสินใจเพิ่มความเป็นร้านกาแฟผสมเข้าไป ทำให้ร้านแห่งนี้มี 2 ช่วงเวลาทำการ ตอนกลางวันเป็นบาร์กาแฟ โดยมี ปรินซ์–นโรดม อ่อนศรี และ โชกุน–ศิลา สุขประสิทธิ์ปรีดี สองหุ้นส่วนร้านที่เชี่ยวชาญด้านกาแฟเป็นผู้รับหน้าที่ให้บริการ ก่อนส่งไม้ต่อให้ มายด์–ณนนท์ อาริยะวงค์ รับหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ต่อในส่วนบาร์ค็อกเทลช่วงกลางคืน และมี จันทร์–จันทร์ทอแสง สุทัศน์ ณ อยุธยา หุ้นส่วนร้านอีกคนรับหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านทั้งหมด

AUTHOR