“ไม่ต้องพยายามทำเป็นโอเคก็ได้” บทสนทนาระหว่าง Korseries และ โอมีจู จากซีรีส์เกาหลี Run On

Life Quote EP.02
ซอฟ Korseries x โอมีจู

มีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้คุณเลือกดูซีรีส์เกาหลี

ถ้าถามเรา คำตอบคงเป็นพล็อตเรื่องคุณภาพ มีให้เลือกหลายแนว โปรดักชั่นเป๊ะปัง และนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครในเรื่องได้อย่างสมจริงจนคนดูหัวเราะและน้ำตาไหลตามได้ง่ายๆ

อีกอย่างที่ทำให้คนดูตัดสินใจดูซีรีส์เกาหลีสักเรื่องน่าจะเป็น Korseries (คอซีรีส์) เว็บไซต์รวบรวมคอนเทนต์แวดวงซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีซึ่งมีผู้อ่านหลักล้านต่อเดือน มีผู้ก่อตั้งคือ ซอฟ–กรกมล ลีลาวัชรกุล หญิงสาววัย 25 ปีและคอซีรีส์เกาหลีตัวยง

ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าเธออดหลับอดนอนดูซีรีส์เกาหลีมาไม่รู้กี่ร้อยเรื่อง ในจำนวนเหล่านั้นมีเรื่องระดับมาสเตอร์พีซที่คอซีรีส์เกาหลียกขึ้นหิ้งตั้งเท่าไหร่ ไหนจะได้รู้จักตัวละครที่มีมิติกระทบใจอีกมาก จะให้เลือกตัวละครที่ติดตาตรึงใจแค่คนเดียวคงยาก

แต่แล้วซอฟก็กลับมาพร้อมกับชื่อตัวละครหญิงคนหนึ่งจากซีรีส์เรื่อง Run On ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ และบทพูดที่ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเลือกตัวละครนี้

‘โอมีจู’ นักแปลหญิงคนเก่งที่เติบโตมาด้วยตัวเอง ผู้มีบุคลิกสาวยุคใหม่ มั่นใจ และรักตัวเอง

เธอคือตัวละครที่เข้ามาเตือนสติซอฟให้รู้ว่าชีวิตคนเรามีผิดพลาดบ้างก็ได้ และไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ

ในช่วงเวลาที่ทั้งเรียนหนัก ทั้งโหมงานหนัก แถมสังคมยังพยายามบอกให้คนโปรดักทีฟเข้าไว้ วิ่งเข้าไปอย่าได้หยุด ซอฟเหมือนได้โอมีจูเป็นผู้ตบไหล่ปลอบใจ

เราเลือกยากมากว่าจะพูดถึงตัวละครตัวไหนเพราะเราก็ดูซีรีส์มาเยอะ ตอนแรกคิดถึงเรื่องที่ดังมากๆ เพื่อให้คนอินไปกับเราได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายคิดว่าเลือกตัวละครที่ประทับใจล่าสุดดีกว่า ก็เลยเลือกตัวละครหนึ่งจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง Run On ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ เป็นตัวละครผู้หญิงชื่อว่า โอมีจู

“โอมีจูทำงานแปลภาพยนตร์ เป็นอาชีพที่เราไม่ค่อยได้เห็นในซีรีส์เกาหลีเพราะส่วนใหญ่ตัวละครจะเป็นหมอ อัยการ หรืออาชีพที่มีความเฉพาะทางบางอย่าง โอมีจูจึงถือว่ามีอาชีพที่น่าสนใจและมีคาแร็กเตอร์ที่ยูนีค

Run On เป็นเรื่องของคนที่ใช้ภาษาในการสื่อสารที่แตกต่างกันราวกับอยู่กันคนละโลกแต่ต้องมาเจอกัน อย่างพระเอก คีซอนกยอม ที่เป็นนักกรีฑาทีมชาติ และนางเอกซึ่งเป็นนักแปล ทั้งสองอาชีพดูไม่มีทางเกี่ยวข้องกันได้เลยแต่การเจอกันของทั้งสองคนนำไปสู่การปรับจูนเข้าหากัน เป็นที่พึ่ง คอยเยียวยาจิตใจและความเจ็บปวดของกันและกัน

“ด้วยความที่คีซอนกยอมเกิดมาเพียบพร้อม พ่อเป็นนักการเมืองที่ลงสมัครเป็นว่าที่ประธานาธิบดี แม่เป็นนักแสดงดัง พี่สาวเป็นโปรกอล์ฟ แม้ตัวเองจะวิ่งได้ที่ 2 ก็ยังได้รับความสนใจมากกว่านักวิ่งคนอื่นๆ ฟังดูดีใช่ไหม แต่ที่จริงแล้วเบื้องหลังตัวละครนี้น่าสงสารมาก เขาเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว ที่บ้านให้ทำอะไรก็ทำ ที่มาเป็นนักกีฬาก็เพราะพ่ออยากให้เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา แตกต่างจากโอมีจูที่เติบโตมาด้วยตัวเองอย่างยากลำบากเพราะสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก พอยต์ของเรื่องคือพระเอกเป็นคนที่ไม่รักตัวเอง ในขณะที่นางเอกรักตัวเอง ให้คุณค่ากับตัวเองมาก ในเรื่องจะมีพาร์ตที่พระเอกนางเอกรักกัน และมีตอนที่โอมีจูถามพระเอกว่ารู้ไหมใครที่จะอยู่กับตัวเราไปตลอด เธอก็ให้คำตอบว่า ‘คือตัวฉันเอง ส่วนคนที่จะอยู่กับคุณก็คือตัวคุณเอง ดังนั้นเราต้องรักตัวเองให้มากๆ’ 

“เราประทับใจความรักตัวเองของโอมีจู มันทำให้คีซอนกยอมสามารถแสดงความอ่อนแอออกมาได้ แล้วเธอก็จะคอยสอน คอยปลอบประโลม เรารู้สึกว่านี่คือความสัมพันธ์ที่ดี เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ ค่อยๆ เรียนรู้กันไป และตลอดทั้งเรื่องโอมีจูก็มักจะมีคำพูดดีๆ มาเตือนสติทั้งพระเอกและเราเสมอ

“เหตุผลที่เราชอบโอมีจูไม่ใช่เพราะเราเหมือนเธอนะ แต่เรามีความคล้ายกับพระเอก บางทีก็รู้สึกว่าเราไม่ค่อยรักตัวเอง ชอบพูดลดทอนตัวเอง ทำนองว่ามองคนอื่นดีกว่า เราทำอะไรได้ไม่ดีเลย แต่โอมีจูเป็นตัวละครที่มีมายด์เซตที่ดีมาก อย่างตอนหนึ่งที่เธอพูดกับพระเอกว่าไม่จำเป็นต้องสู้ตลอดเวลา พักบ้างก็ได้ ซึ่งเราเห็นด้วยมาก

“อีกอย่างว่ากันตามตรง คีซอนกยอมมีนิสัยที่แปลกแต่น่ารัก คือมีความอึนๆ มึนๆ สิ่งที่เราชอบคือการที่โอมีจูผู้ที่ปกติแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาเกาหลีต้องมาแปลภาษาของซอนกยอมอีกที เธอเป็นคนเดียวที่เข้าใจพระเอกอย่างทะลุปรุโปร่ง ทั้งยังเข้าใจคนอื่นๆ เข้าใจบริบทแวดล้อม และเข้าใจชีวิต 

“เราว่าโอมีจูเป็นตัวละครกลมๆ ที่มีความเป็นมนุษย์ดี เช่น มีตอนหนึ่งที่เธอปกป้องรุ่นน้องจากคนที่จะมาเอาเรื่อง เลยไปหยิบก้อนอิฐมาทำท่าจะขว้างใส่ แต่สุดท้ายเธอก็ควบคุมสติได้ เลยไปเล่าให้พระเอกฟังว่า เห็นไหม ฉันยั้งตัวเองได้ มันก็แสดงให้เห็นว่านางเอกไม่ได้ดีไปหมด

“เราไม่เคยเจอตัวละครไหนเหมือนโอมีจูมาก่อน เธอน่าจะเป็นตัวละครยุคใหม่ที่เราชอบที่สุดในเวลานี้ เขาใช้ชีวิตมาอย่างดี เราไม่เคยคิดว่าคนคนหนึ่งจะมีความรักตัวเอง มีความภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขนาดนี้ ถ้าได้เจอเราคงอยากบอกว่า ‘เธอเป็นผู้หญิงที่เท่มากเลย’ 

a dialogue with Oh Mi-Joo 

คำพูดของโอมีจูในซีรีส์ช่วยเตือนสติให้ซอฟหลายต่อหลายครั้ง เราจึงชวนเธอมาลองพูดความในใจเป็นภาษาไทยให้โอมีจูแปลดูสักที

และนี่คือไดอะล็อกของโอมีจูที่ซอฟชอบ และสิ่งที่เธออยากตอบกลับไป

Quote #1 ฉากที่โอมีจูพูดกับคีซอนกยอม ผู้เพิ่งจะระบายความในใจถึงการต้องซ้อมวิ่งทุกวัน

โอมีจู

ถ้าไม่อยากทำก็อย่าทำค่ะ การเอาชนะไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นทุกวินาทีนะคะ พักผ่อนสุดสัปดาห์บ้างก็ได้ เพราะงั้นถ้าไม่อยากทำก็อย่าทำค่ะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

ซอฟ

ทุกวันนี้เราไม่ค่อยได้ปล่อยหรือให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนอย่างที่ควรจะเป็นเลย จะจำไว้นะ อะไรที่ไม่อยากทำจะพยายามไม่ฝืนตัวเอง แต่ขอเว้นเรื่องงานไว้นะ เดี๋ยวจะไม่มีกินเอา (หัวเราะ)

Quote #2 ฉากที่โอมีจูตอบกลับคีซอนกยอม หลังจากที่เขาขอให้เธอช่วยเรื่องรุ่นน้องนักวิ่งที่โดนทำร้าย

โอมีจู

ทำไมคุณเป็นห่วงทุกคนยกเว้นตัวคุณเองล่ะ

รู้ไหมคะเวลาฉันมองคุณ คุณเหมือนคนแบบไหน

คนที่ชินชากับความเจ็บปวด

คนที่ชินชากับความเจ็บปวดจนกว่ามันจะดีขึ้น

คุณเลยไม่รู้ว่าความเจ็บปวดคือความเจ็บปวดด้วยซ้ำ

 ซอฟ

คำที่เธอพูด มันไม่ได้พูดแค่กับซอนกยอมเท่านั้นนะ แต่เรารู้สึกเหมือนได้รับการเตือนสติจากเธอด้วยเหมือนกัน เราเองก็เป็นแบบนั้น และเราก็พยายามที่จะห่วงตัวเองและรักตัวเองให้มากขึ้นอยู่

Quote #3 ฉากที่คีซอนกยอมวิ่งมาหาโอมีจูเพื่อถามถึงเรื่องรุ่นน้องนักกีฬาที่ตัดสินใจเลิกวิ่งแล้ว

 โอมีจู

ไม่มีหรอกค่ะ คนที่ชินชาและทนกับความเจ็บปวดได้อย่างดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องพยายามทำเป็นโอเคก็ได้ค่ะ ถ้าเกิดว่าคุณกำลังทำอยู่

 ซอฟ

หลายครั้งเราเองก็พยายามที่จะทำตัวโอเค บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรในหลายๆ เรื่อง พอเธอพูดแบบนี้เราก็รู้สึกว่าคงต้องปล่อยให้ตัวเองเป็นไปตามธรรมชาติบ้าง สุขก็ยิ้มหรือหัวเราะ ทุกข์ก็ร้องไห้ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ น่าแปลกที่โตมาเราไม่ค่อยได้ทำแบบตอนเด็กๆ เลย

Quote #4 ฉากที่โอมีจูคุยกับที่คีซอนกยอมถึงเรื่องแวดวงนักกรีฑาในร้านอาหาร

 โอมีจู

ทำไมไม่มองว่าล้มเหลวเป็นหนึ่งในขั้นตอนล่ะคะ การล้มเหลวก็ต้องถูกรวมอยู่ในขั้นตอนที่วิ่งไปสู่ความสำเร็จสิคะ

 ซอฟ

นั่นน่ะสิ ทำไมนะ มันเหมือนกระดานไวต์บอร์ดที่เราโฟกัสแต่จุดเล็กๆ ที่ถูกเขียนไว้ โดยไม่ได้สนใจทั้งกระดาน ขอบคุณที่พูดคำนี้ขึ้นมานะ เพราะบางทีเราก็หลงลืมความคิดแบบนี้ไป แล้วโฟกัสแต่สิ่งที่ล้มเหลว ตอนนี้เรากำลังวิ่งด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นจากคำพูดนี้เลย

Quote #5 ฉากที่โอมีจูไปวิ่งกับคีซอนกยอมที่ริมแม่น้ำแล้วขอนั่งพัก

โอมีจู

เราอาจจะไม่เข้าใจกันและกันไปตลอดชีวิตก็ได้ใช่ไหมคะ เพราะเราคือคนละคนกัน คนนั้นเป็นแบบนั้นสินะ ส่วนฉันเป็นแบบนี้สินะ แต่ว่าเราต่างอยู่เคียงข้างบนโลกอีกใบได้ใช่ไหมคะ ฉะนั้นอย่าผิดหวังแม้จะไม่เข้าใจกันเลยนะ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เราแค่ทำสิ่งที่เราทำได้ก็พอ

ซอฟ

มันจริงมากเลย เป็นทัศนคติต่อชีวิตรักที่ดีมาก เราไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปอยู่ในโลกของใคร มันมีความไม่เข้าใจกันและกันเกิดขึ้นอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือการประคับประคองให้อยู่เคียงข้างกันในโลกคนละใบก็พอ ขอให้มีชีวิตรักที่ยืนยาวนะ

ขอบคุณสถานที่: โรงภาพยนตร์ SF Cinema


Life Quote : ซีรีส์ที่ชักชวนผู้คนจากหลากแวดวง หลายความสนใจมาพูดคุยกับ ‘ตัวละคร’ ที่มีความหมายกับพวกเขา ไม่ว่าจะจากภาพยนตร์ ซีรีส์เกาหลี การ์ตูน นิยาย หรือแม้แต่บทเพลง

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์

ชีวิตต้องมีสีสัน