Ken Ekkapon ช่างภาพแคนดิดงานแต่งที่ทำให้ใครหลายคนอยากแต่งงาน

Highlights

  • Ken Ekkapon อดีตหนุ่มสจวร์ดผู้หันมาลงมือเอาจริงเอาจังกับงานอดิเรกที่ตัวเองชื่นชอบอย่างการถ่ายภาพ แท้จริงแล้วเคนรับงานถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับเราแล้วชายคนนี้คือเจ้าของเอกลักษณ์ภาพแคนดิดงานแต่งงานแนวสตรีท หรือ สตรีทเวดดิ้ง ที่น่าจับตาที่สุดในโมงยามนี้
  • นอกจากการถ่ายแคนดิดเจ้าบ่าวเจ้าสาว เจ้าของช่วงเวลาสำคัญในวันนั้น เคนบอกเราว่าแขกที่มาร่วมงาน ไม่เว้นแต่กับเด็กเสิร์ฟ รวมทั้งสิ่งรอบตัวที่อยู่ในงานแต่งทั้งสถานที่ เวที หรือแม้แต่ช่อดอกไม้ รายละเอียดที่เป็นธรรมชาติเหล่านี้นี่แหละคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญไม่แพ้กัน

จากคนที่เคยคิดว่าชีวิตนี้คงไม่แต่งงาน แค่ได้เห็นภาพถ่ายแคนดิดเซตนี้

ด้วยเอกลักษณ์ภาพถ่ายสตรีทเวดดิ้งที่ไม่ซ้ำใคร ตอนนี้ใจเราลิสต์ชื่อ Ken Ekkapon หรือ เคน–เอกพล พันธุ์พัฒน์ เจ้าของผลงานภาพด้านบนนี้เป็นช่างภาพเก็บบันทึกช่วงเวลาสำคัญที่อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตของเรากับคนรักในอนาคตเป็นที่เรียบร้อย หรือถ้าโชคชะตาบอกว่าชีวิตนี้เราคงเป็นได้แค่แขกรับเชิญจริงๆ  (ร้องเพลงของพี่ไมค์ ภิรมย์พรคลอ) อย่างน้อยก็ขอมีโอกาสไปงานแต่งที่เคนเป็นช่างภาพก็ยังดี

เมื่อได้สติหลังจากพร่ำเพ้อ เราต่อสายตรงไปยังช่างภาพหนุ่ม ชวนเขามาจิบชานั่งพูดคุยถึงความหลงใหลที่เจ้าตัวมีต่อการถ่ายภาพแคนดิด งานอดิเรกที่กลายมาเป็นอาชีพหลักของเขาในวันนี้

ชายคนนี้หลงใหลการถ่ายภาพมาตั้งแต่ช่วงเข้าเรียนมหาวิทยาลัย โดยเริ่มจากการก๊อกๆ แก๊กๆ หัดถ่ายภาพกับกล้องฟิล์มและกล้องโลโม ความชื่นชอบในการถ่ายภาพก็ค่อยๆ สั่งสมภายในตัวนักศึกษาหนุ่มคณะเศรษฐศาสตร์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังเรียนจบเคนตัดสินใจเป็นสจวร์ด หน้าที่การงานเอื้อให้เขาเดินทางไปในที่แปลกหูแปลกตามากมาย ไม่แปลกที่คนหลงรักการถ่ายภาพจะต้องมีภาพถ่ายติดไม้ติดมือกลับมาเสมอ

“ทุกครั้งที่ออกไปบินเราจะพกกล้องไปด้วยตลอด เลยนึกขึ้นได้ว่า เออ เราชอบถ่ายรูปจริงๆ จนวันหนึ่งก็ตัดสินใจว่าทำไมเราไม่ทำสิ่งที่เราชอบแล้วเรามีความสุขไปกับมันไปเลยล่ะ เราเลยตัดสินใจลาออก”

เหตุผลของเคนอาจฟังดูเรียบง่าย แต่สิ่งที่อยู่ลึกลงไปกว่านั้นคือ งานที่ต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนไทม์โซนไปเรื่อยๆ มันโหดร้ายกับสุขภาพเขามากเกินไป เจ้าตัวเลยตัดสินใจบอกลาอาชีพลูกเรือในขวบปีที่ 7 ของการทำงาน เดินหน้าสู่อาชีพช่างภาพด้วยแววตาเป็นประกาย

แก้วชาตรงหน้าคลายความร้อนพอจะยกจิบได้แล้ว เอาล่ะ ถึงเวลาคุยกับเขาอย่างจริงๆ จังๆ สักที

หลงใหลอะไรในการถ่ายภาพแคนดิด

เราชอบความตื่นเต้นกับการเจอสิ่งที่ตัวเองไม่เคยคาดคิด เราสนุกกับการการถ่ายรูปแบบไม่ได้เตี๊ยมกันมาก่อนอย่างการสแนปหรือแคนดิด มันคือภาพถ่ายที่เก็บความสดใหม่ ความเป็นธรรมชาติ อารมณ์และความรู้สึกจริงๆ ของคนที่เราถ่าย หรือบางภาพมีความผิดพลาดทางเทคนิค เช่น ภาพเบลอ โฟกัสหลุดบ้าง เรามองว่าสิ่งเหล่านี้คือเสน่ห์นะ เพราะบางครั้งมันก็บอกถึงความรู้สึกเรา ณ จังหวะเวลานั้นที่กดชัตเตอร์ได้เหมือนกัน

ก่อนหน้านี้เราถ่ายสตรีทโฟโต้มาก่อน พอเราเข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรมเวดดิ้ง สไตล์ภาพที่เราถ่ายเลยดูแปลกกว่าชาวบ้าน จริงๆ แล้วบ้านเรามีคนถ่ายแคนดิดเยอะมากนะ ช่างภาพทุกคนมีซิกเนเจอร์ของตัวเองอยู่ เรารู้สึกว่าถ้ามีคนหยิบการถ่ายภาพแนวอื่นๆ มาใช้งานเวดดิ้งมากขึ้นมันต้องเป็นอะไรที่สนุกมากแน่ๆ เพราะมันทำให้คนได้เห็นงานแต่งในมุมมองแปลกใหม่

อย่างงานแรกที่เราถ่าย ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่งานจ้างนะเพราะเป็นงานแต่งของน้องชายแท้ๆ ของเรา ในงานมีช่างภาพประจำอยู่แล้ว เรากะพกกล้องไปถ่ายแคนดิดเล่นๆ ดู จริงๆ แค่อยากลองกล้องใหม่ (หัวเราะ) พอเสร็จงานเราก็แต่งสีรูปตามสไตล์ภาพที่เราทำเป็นประจำแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นอัลบั้ม ปรากฏว่ามีคนชอบแล้วก็เริ่มติดต่อเข้ามา

จังหวะที่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหน้างาน ทำอย่างไรให้ได้ภาพที่ดีออกมา

ทุกครั้งที่ออกไปถ่ายงานแคนดิดมันเหมือนกับการต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา ปัญหาที่เกี่ยวกับตัวเราเอง ปัญหาจากกล้อง แสง หรือแม้แต่คนที่เราจะไปแคนดิดเขา เพราะงั้นเราจะพยายามใช้กล้องทุกตัวที่มีให้คล่อง อาศัยการออกไปเดินถ่ายรูปข้างนอกเยอะๆ เวลาที่เห็นซับเจกต์เดินมาระยะเท่านี้ๆ เราจะจำไว้ว่าระยะนี้ แสงประมาณนี้ ควรจะปรับโฟกัสอะไรเท่าไหร่ เปลี่ยนเลนส์ตัวใหม่ก็ต้องเรียนรู้ใหม่หมด

การแคนดิดมันคือการที่ทำให้เขาไม่รู้ว่าเราจะถ่ายรูปเขา พอออกงานบ่อยๆ เราจะเริ่มรู้สเตปของงานแต่งว่าจะมีพิธีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พอเริ่มเดาได้ว่าคู่บ่าว-สาวหรือแขกในงาน พนักงานเสิร์ฟ คนที่อยู่รอบตัวเราจะทำอะไรในอีก 15-30 วินาทีข้างหน้า เราควรจะเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหน ควรถือกล้องช่วงไหน ไม่ถือกล้องช่วงไหน

ถ้าถามว่าคิดช็อตไว้ก่อนไหม มันก็มีบ้างนะ แต่ธรรมชาติของรูปแคนดิดมันควรถูกถ่ายจากความรู้สึกที่เราเอนจอยกับโมเมนต์ของพวกเขาที่เราเห็นผ่าน viewfinder ปล่อยทุกอย่างให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีที่สุดครับ

หลุดช็อตดีๆ บ่อยไหม

แน่นอนทุกงานมันต้องมีโมเมนต์ที่เราเสียดาย จริงๆ มีเยอะเลยแหละ (หัวเราะ) จะว่าไปมันก็ขึ้นอยู่กับดวงเหมือนกันว่าเราจะโชคดีไปเจอจังหวะแบบไหนบ้าง บางครั้งเปลี่ยนเลนส์อยู่พลาดจังหวะดีๆ ไปซะงั้น

การถ่ายแคนดิดงานแต่ง คุณให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง

ธรรมชาติของงานแต่งจะมีความเท่ มีเรื่องน่าประทับใจ มีความแปลกที่ไม่เหมือนกัน เราเลยค่อนข้างให้ความสำคัญกับสิ่งรอบข้าง ทั้งเวที สถานที่ ดอกไม้ เค้ก จริงๆ แขกที่มาร่วมงานมีความสำคัญพอๆ กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลย อย่างงานน้องชายเรา โชคดีที่ตอนนั้นเป็นหน้าหนาว แสงแดด ท้องฟ้าเป็นโทนที่สวยอยู่แล้ว รูปที่ถ่ายออกมาก็เลยดูสดใส บวกกับช่อดอกไม้ คอสตูมของแขกที่มาร่วมงานด้วย ทุกอย่างมันเข้ากันไปหมดเลย

มีงานหนึ่งที่เขาจัดงานขึ้นบ้านใหม่พร้อมกับจัดงานแต่งงาน เราไม่เคยเจองานแนวนี้ก็เลยลองถ่ายพระมาเยอะหน่อย ก็ได้รูปที่พระท่านทำมือเป็นรูปหัวใจ มันสื่อทั้งความหมายเรื่องความรักและงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไปในตัวด้วย เป็นความน่ารักอีกแบบ

แต่ละงานมีเสน่ห์ของตัวเอง เราอยากเก็บอารมณ์ เก็บความรู้สึกของทุกคนในงานไว้ในภาพด้วย เผื่อว่าวันหนึ่งคนที่เขากลับมาดูรูปภาพเหล่านั้น ความอิน ความอิ่มเอมใจในวันนั้นจะได้กลับมาด้วย เราจะพยายามทำแบบนี้ในทุกๆ งานที่ทำ

เห็นโมเมนต์ความสุขของคนอื่นมาค่อนข้างเยอะ สิ่งนี้ให้อะไรกับชีวิตคุณบ้าง

มันให้อะไรมากกว่าความรู้สึกฟีลกู๊ดนะ งานแต่งงานเป็นอะไรที่ดีอยู่แล้ว มีความน่ารัก มีความอบอุ่นในตัวเองอยู่แล้ว บ่าว-สาวแต่ละคู่ไม่เหมือนกันเลย บางคู่เดินไปไหนมาไหนจะจับมือกันตลอด บางคู่มีเรื่องเซอร์ไพรส์กันหรือแกล้งกันตลอดทั้งงานก็มีนะ สายตาที่พวกเขามองกัน ทุกครั้งที่เห็นเราก็ยิ้มและมีความสุขไปด้วย เชื่อว่าทุกคนในงานก็สัมผัสถึงความรักของพวกเขาได้เหมือนกัน

พ่อของเจ้าสาวบางคนแทบไม่ยิ้มเลย หรือความจริงเขาอาจจะมีคาแร็กเตอร์ดุแค่นั้นก็ได้ การที่ลูกสาวเขาต้องออกจากบ้านไปอยู่กับผู้ชายอีกคน ไม่แปลกเลยที่แววตาของคนเป็นพ่อที่รักลูกสาวมากๆ จะเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

การแต่งงานคือการที่คนสองคนมาสร้างครอบครัวใหม่ นอกจากความสุขที่เป็นเรื่องแง่บวกแล้วมุมหนึ่งมันทำให้เราคิดถึงความไม่แน่นอนของอนาคตอยู่ หากเราแต่งงานกับใครสักคน เราไม่รู้เลยว่าเราจะเจออุปสรรคอะไรข้างหน้า เราจะเป็นพ่อแม่แบบไหนถ้าเรามีลูก แบกรับค่าใช้จ่ายที่ตามมาได้ไหม เราจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไปอีกกี่ปี อาจจะฟังดูแง่ลบนิดหนึ่ง แต่สิ่งที่เหล่านี้คือความจริงของชีวิตคู่นะ

สำหรับคุณแล้วความสุขจากการถ่ายภาพแคนดิดงานแต่งงานคืออะไร

ความสุขของมันคือการได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีแต่ความรัก เราได้อยู่ในสเปซของการมีความสุขมันก็เลยทำให้เรามีความสุขไปด้วย อย่างการที่เราออกไปเดินข้างถนนเพื่อถ่ายภาพสตรีททั่วไปมันก็จะเป็นอารมณ์ของความตื่นเต้น แต่พอเราเข้าไปอยู่ในงานแต่งงาน รอบตัวเรามีแต่คนมีความสุข มีแต่ความยิ้มแย้ม มีแต่การเฉลิมฉลองกับความรัก นั่นแหละคือความสุขที่เราได้จากการถ่ายแคนดิดงานแต่งงานของเรา

ถ้าคุณเป็นเจ้าบ่าวบ้างจะถ่ายแคนดิดงานแต่งตัวเองด้วยไหม

แน่นอน (หัวเราะ) เราอยากถ่ายแคนดิดในมุมมองของเจ้าบ่าวที่มองคนที่เข้ามาแสดงความยินดีกับเรา มองพ่อแม่ และมองเจ้าสาว คนรักของเราในวันที่เขาสวยที่สุด

ติดตามผลงานหนุ่มเคนได้ที่เฟซบุ๊ก Ken Ekkapon และอินสตาแกรม @hinduken

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

เธียรสิน สุวรรณรังสิกุล

เจ้าของเพจ T E 4 M ที่หลงใหลในมุกตลกคาเฟ่และชื่นชอบน้องหมาหน้าย่นเป็นที่สุด

Video Creator

อภิวัฒน์ ทองเภ้า

เป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่, เป็นศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ ม.มหาสารคาม แต่เป็นคนอุดรธานี, เป็นวิดีโอครีเอเตอร์ ประสบการณ์ 2 ปี, เป็นคนเบื้องหลังงานวิดีโอของ a day และเป็นคนปลุกปั้นสารคดี a doc, เป็นคนนอนไม่เคยพอ, เป็นหนึ่ง คือ เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง สรรพสิ่ง คือ ไม่เป็นอะไรเลย, ตอนนี้เป็นหนี้ กยศ. และรับจ้างทั่วไป [email protected]

ชาคริต นิลศาสตร์

อดีตตากล้องนิตยสาร HAMBURGER /ค้นพบว่าตัวเองมีความสุขและสนุกทุกครั้งที่ได้ทำงานภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว