เมื่อรัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ให้กลับมาเป็นปกติได้ ทั้งยังไร้ประสิทธิภาพในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน เราจึงได้เห็นประชาชนลุกขึ้นมาช่วยเหลือประชาชนด้วยกันเองอยู่บ่อยๆ เนื่องจากทนรอความช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจไม่ไหวแล้ว
หนึ่งในความช่วยเหลือนั้นคือโครงการ ‘เทยชนะ’ ที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิซิสเตอร์ มูลนิธิที่ให้คำปรึกษาและบริการสำหรับผู้หญิงข้ามเพศโดยตรงแห่งแรกในประเทศไทย จุดประสงค์คือต้องการช่วยเหลือคนในคอมมิวนิตี้ LGBTQ+ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในรอบที่ 2
ฐิติญานันท์ หนักป้อ ผู้อำนวยการมูลนิธิซิสเตอร์ เล่าว่ามูลนิธิของเธอเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยคนข้ามเพศ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านคลินิกตรวจสุขภาพฟรีและการผลักดันเรียกร้องสิทธิเพื่อเพื่อนพี่น้องคนข้ามเพศในพัทยาเป็นหลัก จนกระทั่งเกิดการระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ได้ ผับบาร์ต้องปิด ผู้ประกอบการหลายคนจึงจำเป็นต้องปลดหรือลดเงินเดือนพนักงาน ทำให้พนักงานส่วนใหญ่ที่เป็นทรานส์เจนเดอร์ได้รับผลกระทบมากที่สุด
“เราอยากทำอะไรที่ช่วยเหลือคนในคอมมิวนิตี้ให้ได้มากที่สุด เลยคิดโครงการ ‘เทยชนะ’ ขึ้นมา ที่ใช้ชื่อนี้เพราะต้องการเน้นย้ำคีย์เมสเซจแก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นทรานส์เจนเดอร์ให้รู้ว่าเราต้องสู้นะ เป็นการให้กำลังใจ จริงๆ โปรเจกต์ที่ทำตอนนี้มี 2 อย่างคือ สอนแต่งหน้าและทำเบเกอรี่ระยะสั้นแก่น้องๆ ที่ตกงาน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเตรียมการอยู่ และโครงการ ‘เทยชนะ’ ที่ทำได้เลย เพราะน้องๆ ส่วนใหญ่ที่เคยทำงานในพัทยาก็ต้องกลับบ้านต่างจังหวัดไปหลายพันคน เราสามารถส่งถุงยังชีพให้พวกเขาที่มาลงทะเบียนกับเราได้ถึงบ้าน หรือใครที่สะดวกเข้ามารับที่มูลนิธิก็ทำได้”
“เราไม่ได้ช่วยเหลือเฉพาะกะเทยไทย เราช่วยเหลือกะเทยต่างชาติที่อยู่ในพัทยาทั้งหมด มันเป็นเรื่องความเท่าเทียมและคุณภาพชีวิต ดังนั้นเราคิดว่าการสอนวิชาชีพระยะสั้นและการให้ถุงยังชีพในช่วงวิกฤตจะช่วยแบ่งเบาน้องๆ ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งจริงๆ เราอยากช่วยเหลือทุกคนนะ แต่ด้วยงบประมาณที่มีอย่างจำกัด เราจำเป็นต้องช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องในคอมมิวนิตี้เราก่อน เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่คนไม่ค่อยนึกถึง”
ในถุงยังชีพของ ‘เทยชนะ’ ประกอบด้วยข้าวสารอาหารแห้ง ของใช้ในชีวิตประจำวัน และของที่จำเป็นต่อคนเพศหลากหลาย เช่น ยา ฮอร์โมนเพศหญิง เจลที่ใช้สำหรับคนที่ทำศัลยกรรมแปลงเพศ เป็นต้น โดยได้แบ่งเฟสโครงการออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกได้รับการสนับสนุนจากองค์กรมหาชนในการจัดหาถุงยังชีพจำนวน 250 ชุด เพื่อกระจายส่งให้คนเพศหลากหลายที่ได้รับความเดือดร้อนที่ผ่านการคัดกรองข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาแล้ว ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มดำเนินการหลังจากเสร็จสิ้นเฟสที่ 1 ซึ่งทางมูลนิธิคาดหวังว่าจะได้ช่วยเหลือไม่น้อยกว่าหลักพันคน
สุดท้ายฐิติญานันท์บอกว่าใครที่อยากช่วยเหลือก็ยังส่งอาหารแห้งหรือโอนเงินบริจาคมาสมทบได้ เพราะยังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกมาก “เราต้องการกระจายของให้คนในคอมมิวนิตี้ต่อไปเรื่อยๆ ให้ได้มากที่สุด และยังต้องการกระบอกเสียงจากเพื่อนพี่น้องด้วยกัน ใครมีเยอะก็มาช่วยเหลือคนที่มีน้อย อยากให้เป็นโครงการที่ยั่งยืนไปเรื่อยๆ”
สำหรับผู้ที่สนใจบริจาคเป็นสิ่งของ ส่งได้ที่มูลนิธิซิสเตอร์สำนักงานใหญ่ เลขที่ 417/64-65 หมู่ 9 ซอยอรุโณทัย ถนนพัทยากลาง ตำบาลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150 โทร.085-699-3233 หรือบริจาคเงินได้ทาง ชื่อบัญชี มูลนิธิซิสเตอร์ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 484-450315-3
