เมื่อถุงลมนิรภัยกลายเป็นแฟชั่น KANGHYUK แบรนด์แฟชั่นจากสองคู่หูชาวเกาหลี

‘ถุงลมนิรภัย’ (airbag) กับแฟชั่น ดูไม่น่าจะเป็นสองสิ่งที่เข้ากันได้ในทันที ถึงอย่างนั้น Choi Kanghyuk กับ Sanglak Shon สองคู่หูชาวเกาหลีใต้ผู้ก่อตั้งแบรนด์ก็ยืนยันว่า ตราบใดที่คอนเซปต์แข็งแรงพอ สิ่งที่ดูไม่น่าจะเข้ากับนิยามความเป็นแฟชั่นอย่างถุงลมนิรภัยก็ย่อมจะกลายเป็นสินค้าแฟชั่นขึ้นมาได้ในทันที

KANGHYUK
Choi Kanghyuk กับ Sanglak Chon Credit : hypebeast

ทั้งสองรู้จักกันระหว่างที่กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่ Royal College of Art ประเทศอังกฤษ ในบทสัมภาษณ์กับ Hypebeast คังฮยอกเล่าว่า “พวกเรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันแทบจะในทันที เพราะในมหา’ลัยไม่ค่อยมีคนเกาหลี อีกอย่างคือพวกเราอายุเท่ากันด้วย ผมกับซังลักนัดเจอกันแทบทุกวันตลอดสองปีที่เรียนอยู่ที่นั่น”

แต่พ้นไปจากข้อเท็จจริงที่ว่าเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน อีกสาเหตุหนึ่งที่ดึงดูดทั้งสองเข้าหากันคือสไตล์ของงานและทักษะที่สนับสนุนกันและกันเป็นอย่างดี ในขณะที่ความโดดเด่นของซังลักคือการที่เขาสามารถแยกผ้าออกจากกันเป็นส่วนๆ (disintegrate) เพื่อจะผสานมันเข้าด้วยกันแล้วฉีกขาดมันอีกครั้งซ้ำๆ จนเกิดเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คังฮยอกกลับเฉียบขาดในการตัดเย็บเสื้อผ้าในระดับที่หาตัวจับยาก “หลายครั้งผมรู้สึกว่าผลงานของซังลักแทบจะเรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะ แล้วเขาก็แม่นมากๆ ในการดูว่าอะไรน่าจะขายดีและอะไรน่าจะขายไม่ออก” คังฮยอกเล่าถึงเพื่อนของเขา ส่วนซังลักบอกว่า “เทคนิคการตัดเย็บของคังฮยอกนั้นเรียกว่าอยู่เหนือไปอีกระดับ ผมคิดว่าเสื้อผ้าให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปตามวิธีการตัดเย็บ ซึ่งคังฮยอกน่ะเป็นตัวจริงในเรื่องนี้มากๆ”

KANGHYUK
ตัวอย่างคอลเลคชั่นเสื้อผ้าของ Shon

ผ่านความสนิทสนมของเพื่อนรักทั้งสอง พวกเขาจึงได้ร่วมมือกันเริ่มต้นแบรนด์แฟชั่นขึ้นภายใต้ชื่อ KANGHYUK ซึ่งมาจากชื่อของคังฮยอก นั่นเพราะคอนเซปต์ของแบรนด์นี้ต่อยอดมาจากโปรเจกต์จบของเขาที่ได้ผสานรวมถุงลมนิรภัยเข้ากับเสื้อผ้าจนกลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์แฟชั่นแบรนด์นี้ไปโดยปริยาย แต่คำถามคือ ทำไมถึงต้องเป็นถุงลมนิรภัยด้วยล่ะ

KANGHYUK กับถุงลมนิรภัย

“มันเกิดจากการที่ผมสนใจในความบริสุทธิ์ (purity) ของถุงลมนิรภัย อยากจะลองตัดเย็บวัสดุนี้และเปลี่ยนมันเป็นเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่” คังฮยอกอธิบายผ่านบทสัมภาษณ์หนึ่ง โดยที่ในกระบวนการออกแบบเขาจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการใช้ประโยชน์จากวัสดุ โดยพยายามคงไว้ซึ่งสภาพดั้งเดิมที่สุดของถุงลมนิรภัย

KANGHYUK
KANGHYUK Readymade Airbag puffer jacket

ถึงตรงนี้บางคนอาจคิดว่า ถุงลมนิรภัยที่ว่านี้คงไม่ใช่ถุงลมนิรภัยจริงๆ ประเภทที่อยู่หน้าพวงมาลัยรถยนต์หรอก แต่เราขอบอกว่าถุงลมนิรภัยหน้าพวงมาลัยรถนี่แหละที่คังฮยอกใช้ตัดเย็บออกมาเป็นเสื้อผ้าจริงๆ จนออกมาเป็นคอลเลกชั่นต่างๆ ของแบรนด์ แน่นอน การจะได้มาซึ่งถุงลมนิรภัยสักชิ้นหนึ่งในสภาพดั้งเดิมและพร้อมจะถูกตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าไม่ใช่อะไรที่ง่ายนัก นั่นเพราะถุงลมนิรภัยจะถูกบรรจุในลูกสูบของถังออกซิเจน (cylindrical oxygen tank) โดยการได้มาซึ่งถุงลมนิรภัยก็จำเป็นต้องแยกส่วนถังออกซิเจนที่ว่านี้ออกจากกันก่อน

คังฮยอกเล่าว่า “ด้วยความที่คอลเลกชั่นของ KANGHYUK โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่ผลิตจากถุงลมนิรภัย กระบวนการแรกเลยที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นคือการคัดเลือกถุงลมนิรภัยที่ไม่เคยผ่านการใช้งานจากทั่วทุกมุมโลกก่อน จากนั้นก็ต้องมานั่งแยกชิ้นส่วนต่างๆ ของถังออกซิเจนออกจากกันด้วยมือ โดยที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้ถุงลมนิรภัยเกิดการฉีกขาดจากกันจนเกินไป จากนั้นเมื่อชิ้นส่วนของถังออกซิเจนที่เป็นเหล็กกับชิ้นส่วนของถุงลมนิรภัยที่เป็นผ้าไนลอนแยกขาดจากกันแล้ว ก็จะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อผสานชิ้นผ้าต่างๆ เข้าด้วยกันอีกครั้ง โดยที่จะพยายามคงรูปลักษณ์ของถุงลมนิรภัยเดิมให้ได้มากที่สุด” 

KANGHYUK
KANGHYUK Collection 2

ภายใต้ความหมกมุ่นกับการแยกชิ้นส่วนถุงลมนิรภัยอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้มาซึ่งถุงลมนิรภัยที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ที่ประหลาดล้ำและแสนจะเฉพาะตัวของแบรนด์ KANGHYUK แทบจะในทันที ความพิเศษของวัสดุก็เรื่องหนึ่ง แต่เสื้อผ้าของ KANGHYUK ยังให้ความสำคัญกับคุณลักษณะอื่นๆ ที่ปรากฏอยู่ในถุงลมนิรภัย ไม่ว่าจะเป็นบาร์โค้ด โลโก้ รูโหว่ ห่วงเหล็ก ร่องรอยการเย็บ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ความซ้ำๆ ซากๆ’ ในรายละเอียด (repetition in details) ของถุงลมนิรภัย ซึ่งคังฮยอกบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยจากรถยนต์ยี่ห้อ Ford หรือ Hyundai รายละเอียดของถุงลมนิรภัยก็แทบจะไม่มีอะไรต่างกัน ซึ่งสำหรับพวกเขาแล้ว ความซ้ำๆ ซากๆ เช่นนี้กลับคือเสน่ห์ที่น่าสนใจของถุงลมนิรภัย

“ผมคิดว่ามันยากนะที่จะชื่นชอบงานดีไซน์ใดๆ ที่มีรายละเอียดมากจนเกินไป แต่แน่นอนว่ารายละเอียดก็เป็นเรื่องที่จำเป็น สำหรับผม สมดุลเลยเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ” ซังลักเล่า ในขณะที่คังฮยอกช่วยเสริมว่า “สำหรับพวกเรา KANGHYUK คือความซ้ำๆ ซากๆ มันคือความท้าทายที่ว่าพวกเราจะสามารถนำเสนอเสื้อผ้าที่ดูจะซ้ำๆ ซากๆ ให้ดูน่าสนใจอยู่เรื่อยๆ ได้ยังไง”

KANGHYUK
KANGHYUK Collection 4

ในคอลเลกชั่นแรกของ KANGHYUK พวกเขายังไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่าคนธรรมดาจะสวมใส่เสื้อผ้าของพวกเขาได้ยังไง เพราะทั้งคู่ยังคงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ที่จำเป็นต้องแปลกและแตกต่างไปจากแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ กระทั่งเมื่อค่อยๆ ตระหนักว่ามีผู้คนซื้อเสื้อผ้าของ KANGHYUK ไปใส่จริงๆ ในชีวิตประจำวัน สองเพื่อนสนิทจึงเริ่มให้ความสำคัญกับความสบายของเสื้อผ้ามากขึ้น อย่างที่ในคอลเลกชั่นที่สองก็ได้มีการผลิตเสื้อยืด และเสื้อเชิ้ต รวมถึงหันมาใช้วัสดุอื่นๆ ที่เบาสบายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าคอตตอน ไมโครไฟเบอร์ และผ้าชามัวร์ แม้ว่าในคอลเลกชั่นหลังๆ ของ KANGHYUK จะไม่ได้โฟกัสอยู่กับการใช้ถุงลมนิรภัยเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นคุณลักษณะของถุงลมนิรภัยก็ไม่ได้สูญหายไปไหน เสื้อผ้าชิ้นต่างๆ ของ KANGHYUK ยังคงสะท้อนให้เห็นความเป็นถุงลมนิรภัยได้อย่างชัดเจน

“ผมคิดว่าการที่พวกเราปรับตัวมาใช้วัสดุอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากถุงลมนิรภัย ในแง่หนึ่งก็เป็นเรื่องของสมดุลนะ เรายังคงยึดมั่นอยู่กับสุนทรียะของถุงลมนิรภัย แต่ในขณะเดียวกันเราก็พยายามปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่สวมใส่ได้สบายมากขึ้นด้วย” คังฮยอกอธิบาย

จาก A$AP Rocky ถึงการคอลแล็บกับ Reebok

ชื่อของ KANGHYUK กลายเป็นที่โด่งดังในระดับโลกทันทีเมื่อศิลปินฮิปฮอปและแฟชั่นไอคอนอย่าง A$AP Rocky สวมใส่ชุดของพวกเขาในมิวสิกวิดีโอเพลง Tony Tone ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่แบรนด์แฟชั่นจากเกาหลีได้ไปปรากฏอยู่ในวงการฮิปฮอปและสตรีทคัลเจอร์ของโลกตะวันตก

KANGHYUK
A$AP Rocky สวมใส่ชุดของ KANGHYUK ในมิวสิควิดีโอเพลง Tony Tone

A$AP Rocky ได้สร้างแรงกระเพื่อมลูกใหญ่ให้กับ KANGHYUK ในทันที โดยที่ต่อจากนั้นในปี 2019 พวกเขาได้มีโอกาสไปร่วมงานกับ Reebok จนออกมาเป็น KANGHYUK x Reebok Sole Fury สนีกเกอร์แฮนด์เมดที่ผลิตจากถุงลมนิรภัย ซึ่งแต่ละคู่จะมีความไม่สมบูรณ์แบบบางอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

KANGHYUK
KANGHYUK x Reebok Sole Fury

ต่อมาในปี 2020 Kanghyuk ได้ร่วมงานกับ Reebok อีกครั้ง โดยในรอบนี้พวกเขาได้เลือกโมเดลรุ่น Premier Road Modern โดยที่สีแรกที่ปล่อยออกมาคือ ‘Jet Black’ สีดำสนิทซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสีของยางรถยนต์ โดยที่สนีกเกอร์คู่นี้ยังสอดคล้องกับคอลเลกชั่นเสื้อผ้าของ KANGHYUK ในปีเดียวกันที่อยู่ในธีมของยานยนต์ จากนั้นในช่วงปลายปี 2020 KANGHYUK ก็ได้ปล่อยสนีกเกอร์รุ่นเดียวกันนี้ออกมาในสีใหม่ นั่นคือสีแดงและขาว ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่เกิดกระแสไฮป์กันอย่างถล่มทลาย

ล่าสุดในปี 2021 KANGHYUK ก็ได้กลับมาร่วมงานกับ Reebok อีกครั้ง โดยโมเดลรองเท้าที่หยิบจับมาคอลแล็บกันในครั้งนี้คือ Reebok Classic ที่มาพร้อมกับดีเทลรอยเย็บและตะเข็บสีแดงซึ่งสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของถุงลมนิรภัยในหลายๆ คอลเลกชั่นของ KANGHYUK นอกจากนี้ ความพิเศษอีกอย่างในคอลเลกชั่นล่าสุดคือการที่ทั้งคู่หูไม่ได้จำกัดอยู่แค่เสื้อผ้าผู้ชายอีกต่อไป แต่ยังมีเสื้อผ้าผู้หญิงด้วย 

KANGHYUK
KANGHYUK Reebok Classic Leather

“จริงๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคนที่ใส่ KANGHYUK เป็นคนแบบไหน คงเป็นชาวฮิปฮอปล่ะมั้งที่น่าจะชอบเสื้อผ้าของพวกเรา ซึ่งจะว่าไปผมก็อยากเห็นชาวร็อกใส่ KANGHYUK บ้างเหมือนกันนะ” คังฮยอกเล่า “สำหรับผม คนที่จะใส่ KANGHYUK น่าจะเป็นใครสักคนที่นึกไม่ถึงไปเลย ผมอยากจะเห็นคนที่พวกเรานึกไม่ถึงที่สุดใส่เสื้อผ้าของแบรนด์เรา ผมอยากให้ KANGHYUK เข้าไปอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ซังลักเสริม

ในปัจจุบันที่แฟชั่นเกาหลีมาแรงขึ้นเรื่อยๆ คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงหากจะบอกว่า KANGHYUK นี่แหละที่จะเป็นหนึ่งในหัวหมู่ทะลวงฟันในการพาแบรนด์เกาหลีไปสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการแฟชั่นระดับโลก

KANGHYUK
KANGHYUK Collection 6

อ้างอิง

hypebeast.com

lvmhprize.com

showstudio.com

AUTHOR