คุยกับผู้กำกับและนักแสดง Hospital Playlist ซีซั่น 2 ซีรีส์เยียวยาจิตใจแห่งปี

Hospital Playlist 2 1 ปี คือเวลาที่ผู้ชมซีรีส์ Hospital Playlist ต้องอดทนรอหลังจากที่ซีซั่นก่อนลาจอไปเมื่อกลางปีที่แล้ว 

“ในเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาคาแร็กเตอร์แต่ละตัวได้ถูกพัฒนา หลายอย่างในโรงพยาบาลยุลเจได้เปลี่ยนแปลงไป เช่นกันกับชีวิตจริงของผู้ชมทุกคนที่ผ่านไปหนึ่งปี ผมเลยคิดว่าซีซั่นนี้น่าจะมีความลุ่มลึกและเข้าถึงจิตใจของทุกคนได้ดี” ชินวอนโฮ ผู้กำกับซีรีส์อธิบายในงานแถลงข่าวซีซั่นใหม่

‘เรื่องธรรมดาในทุกวันของพวกเราที่แสนพิเศษ’ คือคำโปรยจากโปสเตอร์ใหม่ในซีซั่น 2 ที่สะท้อนความเป็น Hospital Playlist ได้อย่างครบถ้วน มันคือซีรีส์ที่เล่าเรื่องชีวิตและความสัมพันธ์ของเพื่อนหมอ 5 คนและผู้คนในโรงพยาบาลยุลเจอย่างละเอียดอ่อน โดยมีเสียงเพลงเกาหลีจากวงของ 5 ตัวละครหลักเป็นพื้นหลัง พล็อตเรื่องที่แสนจะธรรมดาและเรียบง่ายอาจทำให้คนที่ไม่เคยดูนึกไม่ออกว่าซีรีส์เรื่องนี้จะสนุกที่ตรงไหน และเหตุผลอะไรที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นที่รักของผู้คนมากมายขนาดนี้

การเล่าเรื่องราวธรรมดาๆ ในชีวิตให้ออกมาสนุกและเพลิดเพลินจึงนับได้ว่าเป็นเสน่ห์ของ Hospital Playlist ที่ซีรีส์เรื่องไหนก็ยากจะเลียนแบบ

Hospital Playlist 2

บรรดาตัวละครในเรื่องแต่ละคนก็มีเสน่ห์และ ‘พิเศษ’ เช่นกัน โดยเฉพาะ 5 อาจารย์หมออย่างอีอิกจุน (แสดงโดย โจจองซอก) ศัลยแพทย์ทั่วไปผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายตับและการเล่นตลก, คิมจุนวาน (แสดงโดย จองคยองโฮ) ศัลยแพทย์ทรวงอกปากร้ายหัวใจซึนเดเระ, อันจองวอน (แสดงโดย ยูยอนซอก) กุมารศัลยแพทย์ผู้มีความรักให้เด็กและพระเจ้าสุดหัวใจ, ยางซอกฮยอง (แสดงโดย คิมแดมยอง) แพทย์ด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่เป็น introvert สุดขั้ว และแชซงฮวา (แสดงโดย จอนมีโด) ประสาทศัลยแพทย์สาวและศูนย์รวมจิตใจของกลุ่ม

เมื่อมีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวสำหรับซีซั่นใหม่และการสัมภาษณ์แบบ roundtable กับผู้กำกับชินวอนโฮและ 5 นักแสดงนำ เราจึงอยากชวนพวกเขามาเล่าถึงความพิเศษในซีซั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบอกลาตัวละครบางตัว ความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปข้างหน้า หรือแม้กระทั่งคาแร็กเตอร์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

เปิดเพลย์ลิสต์ ost. คลอเบาๆ แล้วตามไปฟังความสนุกทั้งในและนอกจอจากพวกเขากัน

Hospital Playlist 2

ผู้กำกับชินวอนโฮมีความลับหรือเคล็ดลับอะไรในการทำเรื่องราวธรรมดาๆ ให้น่าประทับใจและสนุกสนานจนได้รับความรักมากมายจากผู้ชม

ชินวอนโฮ : เราไม่ได้เริ่มต้นจากการตั้งธงว่าจะทำให้ผลงานได้รับความรักยังไง สำหรับพวกเรา เคล็ดลับที่สำคัญจริงๆ คือการที่เราพยายามคาดเดาเสมอว่าผู้ชมน่าจะชอบอะไร เราทำซีรีส์เรื่องนี้ด้วยใจที่คิดว่าพอคนเราอายุมากขึ้น สิ่งที่มากขึ้นตามก็คือความเหนื่อยล้าหรือความเจ็บปวดใดๆ ทำให้เราอยากได้รับการเยียวยาจากคอนเทนต์ที่ฮีลลิ่งประมาณนี้บ้าง ผมคิดว่าผู้ชมก็น่าจะมีความคิดคล้ายๆ กัน

การใช้ชีวิตในช่วง 1-2 ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทุกคนน่าจะอยากได้การปลอบโยนและเยียวยาเช่นกัน ซีรีส์ของเราถ่ายทอดเพียงแค่ชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตของตัวละครได้ แต่เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักแล้วก็น่าจะปลอบโยนผู้ชมได้

ผู้กำกับชินวอนโฮขึ้นชื่อเรื่องการแคสต์คนที่มีนิสัยใกล้เคียงกับตัวละคร คุณคิดว่านิสัยของคุณเหมือนกับคาแร็กเตอร์ของตัวเองแค่ไหน และใครในนี้ที่เหมือนหรือต่างกันมากที่สุด

โจจองซอก : ผมคิดว่าแดมยองคือคนที่ใกล้เคียงกับคาแร็กเตอร์มากที่สุด ส่วนคยองโฮคือคนที่แตกต่างมากเพราะเขาเป็นคนที่เป็นมิตรและค่อนข้างน่ารัก (หัวเราะ) ต่างจากคาแร็กเตอร์ของจุนวานที่ภายนอกดูเย็นชาแต่ภายในเป็นคนอบอุ่น แต่สำหรับคยองโฮเขาเป็นคนที่อบอุ่นและเป็นมิตรเสมอเลย (หัวเราะ) 

ส่วนตัวผมเอง ทุกคนมักบอกว่าผมคล้ายกับอิกจุน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ขนาดนั้นนะ ผมคิดว่าผมค่อยๆ เข้าใกล้ความเป็นอิกจุนมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า

ยูยอนซอก : ผมมองเห็นทั้งด้านที่เหมือนและต่างของตัวเองกับคาแร็กเตอร์อันจองวอน แต่ผมคิดว่าพวกเราทุกคนค่อยๆ กลายเป็นคนที่คล้ายกับคาแร็กเตอร์ของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่คนอื่นมองเข้ามาเลยคิดว่าพวกเราเหมือนกับคาแร็กเตอร์ในซีรีส์แบบเป๊ะๆ เลย

โจจองซอก : ผมเห็นด้วยกับเขามากๆ เลย เพราะยอนซอกก็ค่อยๆ เติบโตเป็นคนที่คล้ายกับอันจองวอนมากขึ้นเรื่อยๆ คือเป็นคนที่เก่งในทุกเรื่องและมีเสน่ห์

จอนมีโด : พวกเราทุกคนมีนิสัยที่คล้ายกับตัวละครกันทั้งหมด แต่อย่างที่บอก ฉันเห็นด้วยว่าคนที่ใกล้เคียงกับคาแร็กเตอร์ที่สุดน่าจะเป็นแดมยอง ถ้าคุณแอบเอากล้องไปตั้งไว้ในห้องของเขา คุณจะเห็นเลยว่าเขาเป็นเหมือนซอกฮยองจริงๆ 

คิมแดมยอง : ไม่นะ ตัวจริงผมเป็นคน extrovert สุดๆ แต่ผมไม่แสดงออกแค่นั้นเอง (ทุกคนฮือฮา) มันอาจจะเป็นคาแร็กเตอร์ที่ซ่อนอยู่ของผมที่ได้เปิดเผยออกมาผ่านซีรีส์เรื่องนี้ ผมเลยรู้สึกมีความสุขมากเป็นการส่วนตัวที่ได้แสดงตัวตนด้านนี้ของผมผ่านคาแร็กเตอร์ซอกฮยอง

พวกคุณคิดว่าอะไรคือความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำให้ทุกคนสนิทกันได้มากขนาดนี้

ยูยอนซอก : น่าจะเป็นเพราะแบนด์ด้วย การที่ได้เล่นดนตรีด้วยกัน ได้ซ้อมร่วมกัน เวลาซ้อมเสร็จเราก็จะไปกินเหล้าด้วยกัน มันอาจจะมีส่วนทำให้เคมีเข้ากันได้ขนาดนี้

คิมแดมยอง : ผมว่าอาจเป็นเพราะทุกคนมีนิสัยคล้ายๆ กันด้วย

จองคยองโฮ : เดี๋ยวๆ ไม่เห็นเหมือนกันเลย! จริงๆ แล้วทุกคนนิสัยต่างกันมากนะ ทำไมถึงตอบว่านิสัยเหมือนกันเนี่ย (หัวเราะ)

ในฐานะผู้กำกับ เมื่อซีซั่นแรกได้รับความนิยมมากๆ มันทำให้คุณรู้สึกกดดันหรือกังวลไหมในการทำซีซั่นนี้

ชินวอนโฮ : แน่นอน ผมพยายามที่จะรักษามาด แต่เอาเข้าจริงผมก็ยังกังวลถึงกระแสตอบรับของผู้ชมและเรตติ้งอยู่เสมอ ซึ่งในตอนที่เราตัดสินใจทำงานต่อในซีซั่นที่ 2 เราก็ต้องปล่อยวาง ละทิ้งความทะเยอทะยานและความโลภของตัวเอง ผมสัญญากับตัวเองว่าจะรักษามาด พยายามจะเท่ (หัวเราะ) ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับที่ผ่านมาก็ต้องถือว่าผมได้ปล่อยวางอะไรหลายๆ อย่างไปแล้ว ผมพยายามคิดว่าไม่ว่าสิ่งที่ทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ไม่เป็นไร ผมคิดว่าตัวเองโตขึ้นนะ

แล้วคุณจอนมีโดล่ะ การรับบทนำครั้งแรกในซีรีส์ทำให้คุณรู้สึกกดดันไหม

จอนมีโด : ตอนซีซั่น 1 สิ่งเดียวที่ฉันคิดคือจะต้องเชื่อใจผู้กำกับชินวอนโฮและนักเขียนอีอูจองให้มากที่สุดและโฟกัสกับการแสดงให้มากที่สุดเช่นกัน เพราะถ้าฉันเริ่มคิดถึงเรื่องอื่นๆ ที่สร้างความกดดันมันจะส่งผลกระทบต่อการแสดงของฉันแน่นอน

Hospital Playlist 2
Hospital Playlist 2

คุณโจจองซอกเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากร่วมงานกับผู้กำกับชินวอนโฮมานาน เมื่อได้มาร่วมงานกันจริงๆ ใน Hospital Playlist คุณได้เรียนรู้อะไรจากเขาบ้าง

โจจองซอก : ผมอยากร่วมงานกับผู้กำกับชินวอนโฮตั้งแต่ซีรีส์เรื่อง Reply แล้ว และติดตามผลงานของผู้กำกับมาโดยตลอด ซีรีส์ทุกเรื่องของเขามีความพิเศษคือการดึงความเป็นมนุษย์ ความเป็นเพื่อน และมิตรภาพระหว่างกันออกมาได้ชัดเจน มีรายละเอียดต่างๆ ที่ให้ความอบอุ่น ผมเลยอยากร่วมงานกับเขาในเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากจากการทำงานกับเขา

ที่ผ่านมาคุณยูยอนซอกเคยรับบทหมอในซีรีส์มาแล้วหลายเรื่อง การรับบทหมออีกครั้งในเรื่องนี้ยังมีฉากไหนที่ยากสำหรับคุณอยู่ไหม 

ยูยอนซอก : กับละครเรื่องนี้ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองกำลังถ่ายซีรีส์การแพทย์อยู่เลย เพราะผมไม่ได้มีฉากผ่าตัดเยอะมากเท่ากับซีรีส์เรื่องก่อนๆ เลยไม่ต้องซีเรียสกับเรื่องทางการแพทย์มากนัก ในทางกลับกัน เพราะบทบาทของผมคือกุมารศัลยแพทย์ผมเลยรู้สึกสนุกมากๆ และผ่อนคลายที่ได้แสดงร่วมกับเด็กๆ เพราะผมชอบเด็กอยู่แล้ว

ชินวอนโฮ : สำหรับบทอันจองวอน ถ้าไม่ใช่ยูยอนซอกผมก็นึกไม่ออกเลยว่าเราจะทำสิ่งนี้สำเร็จได้ยังไง การทำงานกับเด็กๆ มันค่อนข้างยากและเรียกร้องปัจจัยหลายอย่าง เพราะเด็กๆ ก็ไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพและเราก็ไม่อยากทำให้พวกเขาต้องรู้สึกไม่ดีด้วย ดังนั้นเราจำเป็นต้องดูแลความรู้สึกของพวกเขาให้ดีที่สุด 

ยอนซอกเป็นคนที่ใจกว้างอยู่เสมอและปล่อยให้เด็กๆ ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการโดยไม่เคยหงุดหงิดพวกเขาเลย ในช่วงเบรกเขาจะเล่นกับเด็กๆ เพื่อสร้างเคมี ที่การถ่ายทำกับเด็กๆ เป็นไปได้ด้วยดีขนาดนี้ผมต้องขอบคุณยอนซอกมาก

Hospital Playlist 2

ในซีซั่นนี้เราจะไม่ได้เจอกับตัวละครบางตัวจากซีซั่นแรก เช่น อันชีฮง ซึ่งทำให้ผู้ชมหลายคนเสียใจมาก ขณะเดียวกันเราก็จะมีตัวละครใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา มีตัวละครไหนที่เราควรตั้งตารอเป็นพิเศษไหม

ชินวอนโฮ : มันเป็นธรรมดาของชีวิตที่คุณจะได้พบเจอกับผู้คนใหม่ๆ และต้องบอกลาบางคนไป เหมือนกับเวลาที่เราย้ายที่ทำงาน เมื่อเวลาผ่านไปก็มีผู้คนเข้าและออกจากชีวิตเราเป็นธรรมดา ซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน

การรับบทในซีรีส์ภาคต่อครั้งแรกให้ความรู้สึกแตกต่างจากซีรีส์ทั่วไปยังไง

จองคยองโฮ : ผมชอบมาก เพราะปกติเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเริ่มต้นซีรีส์เรื่องใหม่ผมมักจะรู้สึกตื่นเต้น แต่ในเรื่องนี้การได้กลับมาเจอกันอีกครั้งให้ความรู้สึกเหมือนครอบครัว การกลับมาสู่สถานที่ถ่ายทำที่เราคุ้นเคยและสนุกสนานมันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ การได้ร่วมงานกับคนกลุ่มเดิมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีขนาดนี้ตลอด 2-3 ปีเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ

ยูยอนซอก : ตอนที่ผมได้รับสคริปต์ของซีซั่นที่ 2 มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากๆ เพราะโดยปกติแล้วเวลาที่อ่านสคริปต์ซีรีส์เรื่องใหม่ผมจะนึกไม่ออกเลยว่าตัวละครอื่นๆ จะมีหน้าตาและน้ำเสียงยังไง ซึ่งทำให้ผมประหม่าพอสมควร แต่สำหรับครั้งนี้มันตรงกันข้ามหมดเลย เพราะผมได้ยินเสียงของทุกคนออกมาจากหน้ากระดา​ษ แม้ว่าเราจะพักกองถ่ายกันนานถึง 6 เดือนแต่ความสนิทสนมของเราทำให้รู้สึกเหมือนแทบไม่ได้หยุดถ่ายทำเลยด้วยซ้ำ

โจจองซอก : ดังนั้นถ้าเรามีโอกาสร่วมงานกันในซีซั่นที่ 3 ผมก็จะเตรียมเรื่องสนุกๆ และสิ่งที่อยากเล่นไว้อีกเยอะๆ เลย

ฉากซ้อมดนตรีนับว่าเป็นไฮไลต์สำคัญในทุกๆ ตอนของ Hospital Playlist สำหรับซีซั่นนี้มันเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง

โจจองซอก : ในซีซั่นนี้พวกเราคุ้นเคยกับเครื่องดนตรีมากขึ้น ซึ่งมันไม่ได้มีผลแค่เรื่องความเร็วในการซ้อมหรือเรื่องเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อภาพรวมในการแสดงและการสื่ออารมณ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกคุณคาดหวังการแสดงดนตรีของพวกเราในซีซั่นนี้ได้เลย (มองนักแสดงคนอื่นๆ) ความจริงแล้วพวกเขาบอกว่าไม่ให้ผมพูดแบบนี้ แต่ผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ นี่นา (หัวเราะ)

ยูยอนซอก : หลังจบซีซั่นแรก ผู้กำกับชินวอนโฮก็ส่งคลิปเบื้องหลังให้พวกเราดูเยอะเลย เมื่อเปรียบเทียบการซ้อมวงของพวกเราในวันแรกกับวันที่ 100 มันต่างกันมากจริงๆ ในซีซั่นแรกมีหลายเพลงที่เราต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งเดือนในการซ้อม แต่ทุกวันนี้เราพัฒนาแล้ว (หัวเราะ) 

จอนมีโด : พัฒนาการของพวกเราทำให้ผู้กำกับชินวอนโฮให้โจทย์เพลงที่ยากขึ้นเรื่อยๆ กับพวกเรา (หัวเราะ) มันเหมือนกลายเป็นภารกิจหนึ่งไปแล้ว 

ชินวอนโฮ : ผมต้องออกตัวก่อนว่าเพลงทั้งหมดถูกเลือกโดยนักเขียนอีอูจองนะ ไม่ใช่ผม ดังนั้นผมไม่ได้ตั้งใจให้พวกเขาต้องฝึกหนัก อย่าว่าผมนะ (หัวเราะ) แต่อย่างที่พวกเขาบอก ความเร็วในการซ้อมของพวกเขามันไวขึ้นมากจริงๆ ตอนแรกที่เริ่มซ้อมพวกเขาก็มักจะพูดว่าเพลงนี้ยากมาก แต่สัปดาห์ถัดมาพวกเขาก็เล่นในระดับดีมากแล้ว

จองคยองโฮ : แต่ด้วยความที่ซีรีส์ของเราเชื่อมต่อจากซีซั่นแรก ดังนั้นจุนวานคงไม่สามารถกลายเป็นมือกีตาร์ที่เชี่ยวชาญได้ ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สมจริงใช่ไหมล่ะ (หัวเราะ) ดังนั้นเพื่อความต่อเนื่องผมจึงไม่สามารถเก่งขึ้นได้มากขนาดนั้น

ชินวอนโฮ : สิ่งที่แตกต่างที่สุดผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องความรู้สึกเอนจอยของนักแสดง เมื่อก่อนพวกเขาอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าคยองโฮอาจจะยังรู้สึกว่ามันยากอยู่ (หัวเราะ) แต่สำหรับคนอื่นๆ จะเห็นเลยว่าพวกเขาเอนจอยกับการเล่นดนตรีมากๆ 

ตอนแรกสุดผมไม่ได้ตั้งใจจะใส่ฟุตเทจของทั้งเพลงลงไปในซีรีส์นะ แต่หลังจากที่ได้เห็นความพยายามในการซ้อมของพวกเขาผมก็ตัดสินใจว่าจะใส่การแสดงแบบเต็มเพลงลงไปในหลายๆ EP แน่นอนว่ามันกินเวลาค่อนข้างนานและไม่ใช่เรื่องที่คนส่วนใหญ่จะทำ แต่ผมก็รู้สึกผิดเกินไปที่จะตัดบางส่วนทิ้ง ทุกเครื่องดนตรีมีโซโล่พาร์ตของตัวเอง พวกเขาซ้อมกันอย่างหนัก ผมเลยอยากให้พื้นที่กับพวกเขา ขณะเดียวกันผมก็รู้สึกผิดที่ทำให้พวกเขาต้องทำอะไรที่นอกเหนือไปจากการแสดง

ในฐานะนักแสดง ซีรีส์เรื่องนี้มีความหมายยังไงกับแต่ละคนบ้าง

คิมแดมยอง : ในฐานะที่ผู้กำกับเป็นเพื่อนสนิทของผม นี่จึงเป็นดราม่าที่มีความหมายกับผมมาก

จองคยองโฮ : สำหรับผม ดราม่าเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งเรื่องเพื่อน ตัวละคร และบทบาท

ยูยอนซอก : การที่ละครเรื่องนี้มีฉากเล่นดนตรีถือว่าเป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับพวกเรามาก มันทำให้เคมีของทุกคนเข้ากันมาก เราสนุกที่ได้เล่นดนตรีด้วยกัน จะมีโอกาสไหนอีกที่ได้เล่นทั้งซีรีส์และดนตรีร่วมกับนักแสดงหลายๆ คนอย่างเรื่องนี้

โจจองซอก : ผมคิดว่านักแสดงคนอื่นๆ ก็น่าจะคิดเหมือนกันกับผม คือเราคงไม่สามารถเจอนักแสดงหรือเพื่อนร่วมงานที่ดีได้เหมือนกับเรื่องนี้อีกแล้ว

อะไรทำให้ผู้กำกับชินวอนโฮตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการออนแอร์ซีรีส์มาเป็น 1 ตอนต่อสัปดาห์

ชินวอนโฮ : ผมต้องบอกก่อนว่าถ้าการออนแอร์รูปแบบนี้ไม่ประสบความสำเร็จในซีซั่นแรกผมก็คงไม่ทำต่อถูกไหม (หัวเราะ) แน่นอนว่าพวกเราต้องอยากที่จะแสดงสิ่งที่มีอยู่ให้มากที่สุด แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจแบบนี้ก็เพื่อให้นักเขียนอีอูจองมีชีวิตรอด (หัวเราะ)

ท่ามกลางงานที่เยอะขนาดนี้ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีอะไรๆ เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ผมจึงคิดว่าเราควรที่จะมองหาลู่ทางใหม่ๆ หรือเครื่องมือใหม่ๆ ในการเล่าเรื่อง รูปแบบการทำงานที่ออนแอร์แบบ 1 ตอนต่อสัปดาห์นั้นค่อนข้างลงตัวที่สุดในการจัดตารางถ่ายทำ และผมคิดว่ามันทำให้นักแสดงมีเวลามากพอที่จะสร้างเคมีซึ่งปรากฏบนจออย่างที่เราได้เห็น ดังนั้นผมจึงค่อนข้างแฮปปี้กับรูปแบบนี้และคิดว่าคงจะไม่กลับไปหารูปแบบเดิม

สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อทีมเราเท่านั้น เพราะโดยส่วนตัวผมก็หวังว่ารูปแบบนี้จะถูกเปลี่ยนและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการผลิตผลงานใหม่ๆ ในอนาคตของอุตสาหกรรมบันเทิง

ในอนาคตคุณวางแผนที่จะทำซีรีส์เกี่ยวกับชีวิตในสายอาชีพอื่นๆ อีกไหม

ชินวอนโฮ : สำหรับแนวทางในอนาคตของ Wise Life Series ที่ผมตั้งใจโฟกัสไปที่เรื่องราวธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวันของผู้คน อย่างชีวิตของนักโทษใน Prison Playbook และชีวิตของหมอใน Hospital Playlist  ซึ่งเส้นเรื่องขาดจากกันชัดเจน

ในอนาคตถ้าจะให้พูดถึงสิ่งที่มีความเป็นไปได้สำหรับผมสักเล็กน้อย มันอาจจะเป็นเรื่องบางอย่างที่โฟกัสไปที่ชีวิตของเด็กๆ อาจจะเป็นเด็กประถม บางทีเราอาจได้เห็นชีวิตของเด็กๆ ในมุมมองของผู้ใหญ่ นั่นคือสิ่งที่ผมแอบคิดอยู่น่ะครับ

พวกคุณคิดว่าจุดโฟกัสหลักที่ผู้คนควรจะตั้งตารอสำหรับซีซั่นนี้คืออะไร

โจจองซอก : ผมนึกถึงพัฒนาการในความสัมพันธ์ของตัวละคร หลายตัวละครพัฒนาเลิฟไลน์ของตัวเอง อย่างจุนวานกับอิกซุน จองวอนกับคยออุล ความรู้สึกของมินฮา หรือแม้กระทั่งอูจูและโมเน่ ความรู้สึกของพวกเขาจะค่อยๆ เปิดเผยในซีซั่นนี้และแน่นอนว่าเป็นไปอย่างสนุกสนาน แม้แต่ผมก็ยังเอนจอยเป็นการส่วนตัว

ยูยอนซ็อก : ที่โรงพยาบาลไม่ได้มีแค่อาจารย์หมอทั้ง 5 คนแต่ยังมีเรสซิเดนต์ เฟลโลว์ และคนไข้อีกหลายคน เรื่องราวของพวกเขาก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน ผมอยากให้ทุกคนตั้งตารอเรื่องราวของพวกเขา

ชินวอนโฮ : ผมคิดว่าจุดแข็งของซีรีส์ที่มีหลายซีซั่นคือการที่ได้เห็นเวลาที่ผ่านไป หนึ่งปีที่ผ่านไปทำให้เคมีและความสัมพันธ์ของนักแสดงค่อยๆ พัฒนา รวมถึงสตาฟในกองถ่ายของเราเช่นกัน หรือแม้กระทั่งความรู้สึกของผู้ชมที่ผูกพันกับซีรีส์มากขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าผู้ชมแต่ละคนไม่ได้มองพวกเขาเป็นแค่ตัวละครในซีรีส์แต่เป็นเหมือนคนรู้จักในชีวิตจริงมากกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงน่าจะตื่นเต้นและดีใจมากๆ ที่จะได้เห็นทุกคนบนหน้าจออีกครั้ง

คุณอยากให้ Hospital Playlist เป็นที่จดจำยังไงในสายตาของผู้ชม

ชินวอนโฮ : ผมหวังว่าผู้คนจะจดจำว่านี่เป็นซีรีส์ที่อบอุ่น ในช่วงเวลาที่เราต้องเว้นระยะห่างและใส่แมสก์ตลอดเวลา มันแตกต่างจากชีวิตประจำวันปกติของเราค่อนข้างมาก ผมจึงหวังว่าเมื่อคุณได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คุณจะได้ย้อนนึกถึงชีวิตของเราก่อนโรคระบาดอย่างความรู้สึกรัก สัมผัสของมนุษย์ ความอบอุ่นของผู้คน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมอยากให้คุณนึกถึงเมื่อดูซีรีส์เรื่องนี้


Playlist from Hospital Playlist casts

และนี่คือ 4 เพลงโปรดจากซีซั่น 1 ของ 5 นักแสดงหลักที่น่าฟังเพื่อสร้างความอินก่อนดูซีซั่น 2 กันในวันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายนนี้

Me To You, You To Me

โจจองซอก : เพลงที่ผมชอบมากที่สุดคือเพลง Me To You, You To Me เพราะเป็นเพลงที่เข้ากับทุกๆ คน แล้วพวกเราก็มีเคมีที่เข้ากันมากในเพลงนี้

Confession Is Not Flashy

ยูยอนซอก : จริงๆ แล้วเพลงที่ผมชอบคือ Me To You, You To Me เหมือนกันแต่พี่จองซอกเลือกไปแล้ว (จับมือกับโจจองซอก) แต่ถ้าจะให้เลือกเพลงอื่นอาจจะเป็นเพลง Confession Is Not Flashy เพราะว่าเป็นเพลงที่ผมตีกลองไปด้วยพร้อมกับร้องนำไปด้วย

Met You By Chance

จอนมีโด : สำหรับฉันขอเลือกเพลงที่ยากที่สุดในการซ้อมเบส คือเพลง Met You By Chance

Canon Rock

(จากไลฟ์แสดงสดของนักแสดงหลังซีซั่น 1 จบลง)

คิมแดมยอง : เพลงที่ยากที่สุดของผมคือเพลง Canon Rock เพราะเล่นยากและใช้เวลาซ้อมกันนานมาก

จองคยองโฮ : ผมกำลังจะตอบแล้ว (หัวเราะ) เป็นคำตอบเดียวกันกับพี่แดมยองคือ Canon Rock เพราะเป็นเพลงที่ใช้เวลาซ้อมนานมาก


ติดตาม Hospital Playlist ซีซั่น 2 ได้ทาง NETFLIX ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

AUTHOR