‘แม้จะล้ม แต่ไม่ผิดใช่ไหมที่เราจะฝัน’ High Cloud ค่ายเพลงของ F.HERO ที่อยากพาเพลงไทยไปบิลบอร์ด

‘ปีแห่งการมาถึงของ T-pop…’ 

นี่คือสเตตัสที่ F.HERO หรือ กอล์ฟ–ณัฐวุฒิ ศรีหมอก แรปเปอร์ที่เป็นเสมือนพี่ใหญ่ของวงการแรปไทยเขียนเอาไว้ในเฟซบุ๊กในช่วงปลายปี 2563

หลังจากนั้นไม่นาน High Cloud Entertainment ก็ประกาศตัวขึ้นเป็นค่ายเพลงน้องใหม่ในวงการเพลงไทย โดยมีคนเจนวงการเพลงอย่างเขานี่แหละเป็นผู้บริหาร

นี่ไม่ใช่ค่ายเพลงฮิปฮอปอย่างที่ใครคาดเดา หากแต่เป็นค่ายเพลงไทยที่ฝันอยากดันให้แนวเพลง T-pop โลดแล่นไปไกลในระดับนานาชาติ

แม้จะรู้ดีว่าความฝันครั้งนี้ยืนอยู่บนสองเส้นทางที่ไม่มั่นคงนัก อาจสำเร็จอย่างที่คาดไว้ตามเป้า หรืออาจจะล้มลงอย่างที่ใครหลายๆ คนเคยพยายามผลักดันกันมา แต่เพราะมองว่านี่เป็นปีที่เขาต้องตื่นและลงมือทำ เป็นช่วงโค้งสุดท้ายใน 10-20 ปีของชีวิตการทำงานที่ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง เขาจึงตัดสินใจใส่ทุกความตั้งใจให้สุดฝีมือ

อะไรคือความหวังและความฝันของวงการเพลงไทยที่แรปเปอร์ผู้สลับบทบาทมาเป็นเจ้าของค่ายเพลงอย่าง F.HERO มองไว้

คำตอบรออยู่ด้านล่างแล้ว

F.Hero

เท่าที่ติดตามคุณมา การเกิดขึ้นของ High Cloud Entertainment ดูจะเป็นความคิดที่เกิดขึ้นมาไม่นานนี้เอง

ใช่ เกิดขึ้นมาช่วงโควิด-19 ช่วงนั้นผมว่างเลยเปิดกิจการใหม่เยอะมาก เปิดร้านหมูปิ้ง ทำแบรนด์สนีกเกอร์ แต่จุดเริ่มต้นของการทำค่ายเกิดจากการที่ผมเจอศิลปินคนหนึ่งในยูทูบ เขาทำเพลงแบบ Nujabes เลย เป็น lo-fi hip-hop ที่เพราะมาก ร้องภาษาญี่ปุ่นอยู่ดีๆ ก็มีภาษาไทย และเป็นไทยแบบมีเพนทาโทนิกด้วย ผมตกใจมากว่า อ้าว นี่คนไทยนี่นา ไม่ใช่ต่างชาติ ฟังเพลงเขาแล้วเราอยากทำงานด้วย ก็เลยทักไปในอินสตาแกรม ซึ่งศิลปินคนนี้คือ Txrbo ที่ทำเพลง จำเลยรัก ด้วยกันนี่แหละ

แค่เพลงเดียวก็ทำให้คุณตัดสินใจได้เลยเหรอ เขามีอะไรในตัวที่ทำให้คุณคิดว่าไม่อยากปล่อยไป

ตอนแรกเราไปเสนอโอม Cocktail (ปัณฑพล ประสารราชกิจ ผู้บริหารค่าย Gene Lab) ก่อน แต่โอมยังไม่สนใจจะทำแนวนี้ ดันยังไงโอมก็ยังไม่อยากทำ ผมเลยคิดว่างั้นลองเปิดเองเลยดีกว่า 

สำหรับผม เพลงของ Txrbo คือคำว่า T-pop ที่ผมใฝ่ฝัน เวลาเราพูดถึง K-pop เราจะคิดถึงดนตรี คิดถึงซาวนด์ของเขา อย่าง BTS หรือ BLACKPINK เขาไปถึงบิลบอร์ด K-pop ไปไกลทั่วโลกแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นภาษาเกาหลี มันแปลว่าขณะนี้กำแพงภาษาถูกทำลายไปหมดแล้ว สิ่งสำคัญคือคุณภาพมากกว่า เรื่องนี้มันให้แรงบันดาลใจผมว่าถ้าเพลงบ้านเรามีเอกลักษณ์ชัดเจน มีคุณภาพมากพอ เราก็น่าจะไปถึงระดับนั้นได้

Txrbo เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจนั้น ตลอดเวลาที่ผมเป็นศิลปินก้านคอคลับมา เฮียโจ้ (โจอี้ บอย) เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเสมอว่าเราไม่สามารถเป็นใครได้ดีไปกว่าตัวเรา การใส่เพนทาโทนิกเข้าไปหรือกระทั่งเพลงของค่ายกามิกาเซ่อย่าง เหงาปาก ที่มีดนตรีแบบนอยน่อยนอยน้อยนอย สำหรับผมมันคือ T-pop เลย มีความเป็นสมัยใหม่มาผสมผสานเข้าด้วยกัน ไม่ต้องมีเสียงระนาด ไม่ต้องมีเสียงฉิ่งอยู่ในนั้น แต่เรารู้เลยว่านี่คือเอกลักษณ์ของ T-pop ผมเลยอยากทำค่ายเพลง T-pop ขึ้นมา เพราะผมอยากฟัง อยากเห็นว่าถ้าเรามีคุณภาพมากพอ มันก็น่าจะมีโอกาสไปถึงตรงนั้นได้ 

ผมอิจฉา Jay Chou ทุกครั้ง เวลาเขาเอางิ้ว เอาความเป็นพื้นบ้านของประเทศเขาใส่เข้าไปในเพลงได้ ผมอยากเข้าไปทำเรื่องนี้ในวงการเพลงบ้านเรา ไม่ได้แปลว่าผมรู้นะ แต่ผมอยากทำ อยากลอง ถึงจะเป็นฝันที่ลมๆ แล้งๆ เพราะบัดเจ็ตบ้านเรามันน้อยมาก และไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าบ้านเขาก็เถอะ

ค่ายเพลงใหม่ High Cloud Entertainment
F.Hero

ก่อนหน้านี้คุณเคยพูดถึงความฝันว่าอยากจะทำเพลงที่มีดนตรีอินเตอร์ แต่เนื้อร้องเป็นภาษาไทย ฟังดูแล้วเหมือนนี่คือสิ่งเดียวกัน

เพราะอย่างที่บอก ผมรู้สึกว่าตอนนี้ภาษาไม่ใช่กำแพงแล้ว BLACKPINK กับ BTS พิสูจน์ให้เห็นกับตาเลยว่าไม่ใช่อีกต่อไป

บ้านเราเองการมีรายการอย่าง T-POP STAGE ก็ทำให้เห็นเลยว่าทิศทางวงการมันเปลี่ยนไปขนาดไหน เรามีพื้นที่ให้แฟนคลับ มีพื้นที่ให้นายทุนเห็นว่าบ้านเรามีวัฒนธรรมแฟนด้อมที่พร้อมจะสนับสนุน มีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ แม้กระทั่ง Anatomy Rabbit ยังอยู่ในรายการนี้เลย นี่คือสัญญาณที่ดีมากว่าการฟังเพลงกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว T-pop ไม่ใช่แค่วงไอดอลหรือการเต้น สำหรับผม Tilly Birds, Three Man Down หรือ Anatomy Rabbit คือ T-pop อะไรก็ตามที่เป็นแมสของไทยผมนับว่าคือ T-pop หมดเลย อาจจะเดาผิดไปก็ได้ แต่ผมก็เทียบเอาจากมาตรฐานของคำว่า K-pop อย่าง DAY6 ไม่ได้ออกมาเต้น แต่ DAY6 ก็เป็น K-pop เพลงของ DAY6 กับ Three Man Down ก็อาจจะเป็น genre เดียวกัน ผมมองอย่างนั้น และมองว่ามันเป็นเรื่องน่าสนุก 

High Cloud Entertainment และ F.Hero

ไม่ได้มองว่าตอนนี้เป็นขาลงของธุรกิจค่ายเพลง

ตรงกันข้าม ตอนนี้ทุกคนกำลังกลับมาทำค่ายด้วยซ้ำ มีค่ายใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเยอะมาก เวิร์กพอยต์ทำค่าย XOXO Entertainment, GMM Grammy เริ่มทำ WHITE FOX นอกจากนี้ยังมี Nadao Music, 4NOLOGUE, 411 Music หรือค่ายเพลงอย่าง What The Duck ที่ปีนี้ก็กำลังจะเคลื่อนไหวในการหยิบแนวเพลงอินดี้มาเป็น T-pop ให้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าเรากำลังไปถูกทางจริงๆ

ช่วงหนึ่งคนอาจจะคิดว่าค่ายไม่สำคัญเพราะมียูทูบ มีสตรีมมิง ปล่อยเพลงเองแล้วจบ แต่ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถึงจะเป็นศิลปินที่มียอดวิวสูงก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้จริง บางคนยอดวิวสูง มีงานจ้างได้สักพักแล้วก็หายไป เพราะศิลปินเหล่านั้นไม่ได้มีความเข้าใจในการวางแผนกลยุทธ์ทุกเรื่อง ผมไปอยู่กับค่าย What The Duck ได้เห็นการทำงาน เลยรู้ว่าทำไมค่ายเพลงถึงมีความสำคัญ ผมกล้าพูดเลยว่าเขาเป็นค่ายเพลงที่มีทีมเก่งโคตรๆ มีหลังบ้าน มีการวางแผนที่แข็งแรงมาก หรืออย่าง Gene Lab เอง โอมกับหมี (พณิช ฉ่ำวิเศษ) ก็เป็นคนเก่งมาก ฉลาด เขาเข้าใจการทำงานตั้งแต่หนึ่งจนถึงร้อย รู้เลยว่าวงนี้ต้องใช้เวลาแค่ไหน ต้องลงทุนยังไง ตอนไหนถึงควรลุย สองค่ายนี้เขาทำให้ค่ายอื่นๆ เห็นว่า เฮ้ย ถึงเวลาแล้วที่ศิลปินกับค่ายเพลงต้องทำงานร่วมกัน 

F.Hero กับ High Cloud Entertainment

การจะพา T-pop ไปถึงฝันให้ได้ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนพยายามทำสิ่งนี้มาก่อน

จริงอยู่ที่เคยมีคนพยายามแล้วแต่ล้ม ผมเคยนั่งคุยกับคุณฟ้าใหม่ (ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม) คุณฟ้าใหม่ก็บอกว่าที่จริง GMM Grammy ก็เคยพยายามกันแล้วแต่ก็เจ็บ แต่ผมมองว่าตอนนี้การมาถึงของโซเชียลเน็ตเวิร์กทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน เรเฟอเรนซ์เปลี่ยน อะไรก็ตามที่ออกที่เกาหลีเรารับพร้อมกับเขาเลย พอเรเฟอเรนซ์เปลี่ยนก็แปลว่าเด็กรุ่นลูกผมกำลังรับทุกอย่างเท่ากับเด็กทั่วโลก ผมจะสอนลูกแรป ลูกยังบอกว่าไม่เอา จะเรียนกับลิซ่าเลย ผมเลยมองว่าเด็กรุ่นนี้มีสิ่งที่อีกสิบปีมันจะเจริญเติบโตได้

สิ่งสำคัญคือเราต้องเปลี่ยนวินัยของศิลปิน เราต้องเข้มงวดมากกว่านี้ถึงจะมีคุณภาพขึ้นมาได้ สองคือเงิน ไม่มีเงินในธุรกิจนี้ไม่ได้ ณ ขณะนี้ที่เราเริ่มบุกมันอาจจะยังกระท่อนกระแท่น เพราะไม่มีการสนับสนุนที่มากพอ ผมถึงพยายามบอกเพื่อนๆ ทุกค่ายว่าเรามาช่วยกันประคับประคองเถอะ มาช่วยเหลือกัน

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราอยากได้เงินทุนและการสนับสนุน การมี T-POP STAGE ผมว่าก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่เราจะได้เงินมาหมุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น จากนิดๆ มันอาจจะค่อยๆ ขยายไปในอนาคต มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ อาจจะไม่สำเร็จก็ได้ แต่ว่าก็ไม่ผิดที่เราจะฝันใช่ไหม ผมอาจจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ล้มเหมือนคนอื่นก่อนหน้านี้ก็ได้ แต่ก็ถือว่าได้รู้แล้ว ได้พยายามแล้วแค่นั้นเอง

High Clound Entertainment
F.Hero

ถ้าว่ากันตามตรง การทำค่ายเพลงถือเป็นเรื่องใหม่มากๆ สำหรับคุณ อะไรคือความพิเศษที่ศิลปินจาก High Cloud Entertainment จะได้รับ

ตอนเริ่มทำผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าค่ายเพลงมันไม่ใช่แค่ทำเพลงเสร็จแล้วก็ปล่อยในยูทูบ แต่ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่หินมาก เชื่อไหม ปล่อยเพลง Sad Movie ไปแล้วผมถึงเพิ่งมารู้ไม่กี่วันนี้เองว่าเราต้องติดแท็กในยูทูบด้วย คนจะได้เห็น

แต่ถ้าถามว่าศิลปินในค่ายจะได้อะไรจากเรากลับไป ถามกลับดีกว่าว่าทำไมผมถึงรู้เรื่อง Gene Lab รู้เรื่อง What The Duck ข้อดีของผมคือมีเพื่อนเยอะ ผมมีพันธมิตรที่ดี ตอนจะตั้งค่ายผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องมีตำแหน่งอะไรบ้าง แต่โอมกับหมีก็สอนเลยว่าตรงนี้ต้องเรียกว่าตำแหน่งนี้ๆ ทุกวันนี้พี่มอย (สามขวัญ ตันสมพงษ์ ผู้บริหารค่าย What The Duck) ก็ยังส่งแรง ส่งคนมาถามไถ่เสมอ เรื่องออนไลน์ผมก็ยังต้องถามเขา เพราะเราไม่รู้อะไรเลย ผมว่าศิลปินจาก High Cloud Entertainment จะได้คอนเนกชั่นตรงนี้แหละ เราจะได้ทุกค่ายมาช่วยกัน

และถึงผมมีค่ายก็จริง แต่ผมไม่ได้มองว่าตัวเองต้องทำงานกับเด็กในค่าย หรือจะพัฒนาแต่ศิลปินเราเท่านั้น ผมเพิ่งเรียกเจเจ (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) กับปอร์เช่ (ศิวกร อดุลสุทธิกุล) มาทำงานด้วย โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าเขาจะอยู่นาดาวหรือ 4NOLOGUE ผมเชิญเขามาแล้วเอาความรู้เท่าที่ผมมีมาเริ่มเทรนเขา เพราะผมอยากเห็นเขาแรปเก่งขึ้น แรปเปอร์เกาหลีอย่างมิโน WINNER หรือชางบิน Stray Kids เวลาเขาไปรายการ Show Me The Money เขาแรปสู้กับแรปเปอร์จริงๆ ได้นะ เขาโคตรเก่งเลย ผมอยากเห็นอะไรแบบนี้ ผมรู้เรื่องฮิปฮอป คุณรู้เรื่องป๊อป งั้นเราเอามาแลกเปลี่ยนกัน มาร่วมกันพัฒนา โอมรู้เรื่องดนตรีสดมากกว่าผม ส่งบิลลี่ (ณัฐดนัย ชูชาติ สมาชิกวง Tilly Birds) มาช่วยผมหน่อยได้ไหม เดี๋ยวผมไปช่วยค่ายคุณกลับ ผมมองว่ามันคือความหวังสำหรับประเทศเรา ถ้าเราไปด้วยกันมันต้องไปได้ไกลแน่ๆ 

F.Hero กับความฝันใหม่ ที่อยากจะมุ่งมั่นตั้งใจทำ High Clound Entertainment

เหมือนกำลังทำโรงเรียนมากกว่าค่ายเพลง

และเช่นเดียวกัน เราก็เป็นนักเรียนด้วย 

ตอนนี้เวลาจะทำเพลง น้องๆ เขาไม่ได้มาปรึกษาผมนะ กลายเป็นเราซะอีกที่ต้องปรึกษาเด็ก เราไม่ทันแล้ว ถ้าเป็นเรื่องเพลงผมต้องปรึกษานีโน่ (เกริก ชาญกว้าง โปรดิวเซอร์เจ้าของชื่อ Prod. by NINO) ปรึกษาครูแอ้ม (อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์) มากกว่าที่น้องๆ จะมาปรึกษาผม ผมเคาะได้เป็นบางจุดแค่นั้น ถ้าเป็นเรื่องที่ว่าจะทำเพลงยังไง ทำเพลงแบบไหน น้องๆ เขาเป็นครูเรา

ทุกวันนี้ถ้าอยากตามโลกให้ทันเราต้องยอมรับว่าวันนี้เราตามไม่ทันแล้ว เด็กเกิดใหม่ทุกวัน และเด็กเก่งขึ้นทุกวัน มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่คลื่นลูกใหม่ต้องแรงกว่าคลื่นลูกเก่า เราแค่ต้องยอมรับแล้วโต้บนคลื่นนี้ให้ได้ ซึ่งข้อดีของผมคือผมมองตัวเองเป็นน้ำ อยู่ตรงไหนก็ได้ ปรับเปลี่ยนได้ หรือแม้กระทั่งค่าย High Cloud ทำไมต้องเป็นเมฆ เพราะผมมองว่าเมฆมันไม่จำกัดรูปทรง คนอื่นอาจจะมองเราเป็นอย่างอื่นก็ได้ เราสามารถเป็นได้ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่คุณจะมองเรา

F.Hero

ทั้งๆ ที่ปกติคนอายุสามสิบปลายๆ อย่างคุณน่าจะถึงวัยที่ต้องเริ่มหาคอมฟอร์ตโซน กลัวการเปลี่ยนแปลง ทำไมถึงยังมีพลัง และกล้าทำสิ่งใหม่ๆ

เพราะผมยังไม่แก่ไง (หัวเราะ) ตอนนี้มันยังมีแรงและยังสนุกอยู่ ผมสตาร์ทวัยทำงานช้าด้วยมั้ง เอาเวลาไปสำมะเลเทเมาสิบกว่าปี เพิ่งมาเริ่มทำงานจริงๆ จังๆ ตอนที่มีชูใจ (ลูกสาว) นี่เอง พอจะมาล้มเอาตอนแก่เราก็รู้แล้วว่ากระดูกกระเดี้ยวเราจะไม่สามารถล้มได้เท่ากับตอนหนุ่มๆ แล้วนะ รู้แล้วว่าล้มท่าไหนมันถึงจะเจ็บน้อยกว่า คิดว่าเอาวะ ช่วงโค้งสุดท้าย 10-20 ปีในการทำงาน ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่งก็เอาให้สุดแล้วกัน 

F.Hero กับความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำค่ายเพลง

ได้ยินมาว่าคุณมีความฝันว่าแก่ไปจะทำค่ายเพลงฮิปฮอปที่ชื่อ solid ground ทั้งๆ ที่มีความคิดว่าอยากทำอะไรต้องใส่ให้สุด ใส่ให้เต็ม ทำไมถึงไม่เริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้เลย

ยังทำไม่ได้

รู้จักหว่อง การ์-ไว ใช่ไหม หว่องเคยทำ มังกรหยก ภาคอาร์ต ทำๆ ไปปรากฏว่าเงินไม่พอ ทุนหมด เขาเลยใช้วิธีการเอานักแสดงชุดเดิมมาเล่น มังกรหยก เหมือนกัน แต่ทำเป็น มังกรหยก ภาคตลก ทำเงินช่วงตรุษจีนได้เยอะมาก แมสสุดๆ เขาเลยมีเงินกลับมาทำ มังกรหยก ภาคอาร์ต

ผมมองว่าสองอย่างนี้ต้องหล่อเลี้ยงกัน ทำไมอัลบั้มผมฝั่งหนึ่งถึงทำเป็นอาร์ต อีกฝั่งถึงทำแบบขายๆ ทำ เสือสิ้นลาย เพราะผมต้องเอาเงินจากเพลงพวกนั้นมาโปะรายได้ฝั่งอาร์ตที่มันไม่ทำเงิน ผมถึงต้องทำค่าย High Cloud ทำอะไรเพื่อการค้าก่อน รอวันที่ค่ายมีผลกำไร เราถึงเอาผลกำไรนั้นมาโปะฝั่งศิลปะของเราอีกที มันมีแผนของมัน คอนเซปต์ที่เราอยากทำคือฟ้ากับดิน แต่ก่อนที่จะทำได้ก็ต้องรอฝนจากข้างบนมาหล่อเลี้ยง รอให้ฝนตกลงมาให้ดินพร้อมเพาะปลูกอะไรสักหน่อย 

กอล์ฟ กับ ค่ายเพลงใหม่

ต้องทำยังไงถึงจะรักษาแพสชั่นไว้ จุดไฟใหม่ขึ้นมาได้เรื่อยๆ อย่างคุณ

จริงๆ แล้วผมอยู่ในวงการนี้มา 16-17 ปี ผมเพิ่งมีอัลบั้มแรกเองนะ 

ก่อนหน้านี้ผมบอกทุกคนมาตลอดว่าแพสชั่นของผมคือการทำอัลบั้มเพื่อให้ได้สีสัน อะวอร์ดส์ พูดอย่างนี้กับทุกคน ตอนทำอัลบั้มแรกเสร็จยังคิดเลยว่ามันจะทำได้เหรอวะ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเราทำได้ ผมได้สีสัน อะวอร์ดส์ ได้ทุกรางวัลที่อยากได้ ได้ครบหมดแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือผมหมดแพสชั่นในการทำอัลบั้มที่สอง เพราะสิ่งที่เราไล่ตามมาตลอดมันได้หมดแล้วทุกอย่าง รางวัลศิลปินชายเดี่ยวจากสีสัน อะวอร์ดส์ เป็นเสมือนปลายยอดของผมแล้ว หลังจากฝืนทำอัลบั้มไปสักพักเราก็รู้แล้วว่ามันจะทำออกมาได้ไม่ดี เพราะข้างในเรายังอิ่มกับอัลบั้มแรกอยู่ สุดท้ายเลยตัดสินใจหยุดทำ

ผมมองว่าแพสชั่นก็เป็นเหมือนการปลูกพืชหมุนเวียน เพิ่งเก็บเกี่ยวอันนี้ไป ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งเลย หน้าดินยังไม่พร้อม ไปทำอย่างอื่นก่อนดีกว่า อะไรบ้างล่ะที่เรายังไม่เคยทำ ประสบความสำเร็จทางธุรกิจไง เฮ้ย เพิ่งค้นพบว่าเรามีแพสชั่นทางธุรกิจซ่อนอยู่ว่ะ ช่วงนั้นผมเลยลุยทำธุรกิจหลายอย่าง ทำให้มันล้มเยอะๆ จะได้รู้เยอะๆ แก้ปัญหาบ่อยๆ เราก็จะค่อยๆ เก่งขึ้นมา แล้วถ้าไปถึงยอดธุรกิจเมื่อไหร่ผมก็อาจจะกลับไปทำอัลบั้มที่สองก็ได้ 

F.Hero

ณ วันที่คุณได้รางวัลที่เป็นเสมือนยอดสูงสุดของอาชีพ คุณรู้สึกอะไรในใจ

รู้สึกว่าผมต้องไปต่อ มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่มันเป็นเหมือนหลักไมล์ว่าเรามาถึงแล้ว เป็นหลักพิสูจน์ว่า เฮ้ย กูทำได้ว่ะ กูไม่ใช่คนกระจอกนะเนี่ย และถ้ากูทำสิ่งที่กูฝันมาตลอดชีวิตได้ ก็แปลว่าสิ่งอื่นกูก็ต้องทำได้สิวะ มันแปลว่าอะไรก็ตามที่เราทุ่มเทมากพอ เราจะทำได้ ก็เลยลองหันไปทำธุรกิจดู บอกเลยว่าวันนี้ผมยังกระจอกมาก แต่ไม่เกิน 5 ปีผมจะเก่งขึ้น

เป็นคนเชื่อในเรื่องความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

ขึ้นอยู่กับเรื่องด้วย พยายามแล้วไม่ถูกที่ถูกเวลา ความพยายามก็สูญเปล่า มีหลายเรื่องเหมือนกันที่ลองพยายามแล้วเลิกดีกว่า เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ถูกที่ถูกเวลา ไม่ใช่ที่ของมัน พยายามทำอะไรในสิ่งที่ไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัจจัย ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ 

เรามองว่าศิลปินเองก็เป็นแบบนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะสำเร็จในเส้นทางนี้ ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของค่าย จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ยังไง

ต้องย้อนกลับไปถามว่าความสำเร็จของเขาคืออะไร เพราะมันมีหลายเลเวลมาก ขึ้นอยู่กับใจใครใจมัน บางคนปล่อยเพลงในยูทูบ มีคนดูร้อยวิวก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วก็มี 

ผมมองว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่มีอะไรไม่เสี่ยง หรือแม้กระทั่งคนที่สำเร็จ ณ ขณะนี้ ที่ผ่านมามันก็มาจากความเสี่ยง บอกตรงๆ ว่าตอนนี้มันไม่มีหลักเกณฑ์อะไรมารับรองว่าใครจะประสบความสำเร็จ มีหลักอยู่แหละ ลงเพลงตอนนี้จะได้ยอดวิวประมาณนี้ แต่สุดท้ายมันไม่มีอะไรที่จะมาการันตีว่าคุณจะดัง จะประสบความสำเร็จในเชิงแมสแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นผมจะบอกทุกคนเลยว่าเราประมาณการณ์อย่างนี้ ผมให้สิทธิศิลปินเต็มที่ในการตัดสินใจ ถ้าพร้อมก็เซ็นสัญญากัน ยอดวิวเราอาจจะไม่สูงแต่เรามีคอนเนกชั่นให้ ให้เขาตัดสินใจเองว่าอยากจะเสี่ยงไปด้วยกันไหม สุดท้ายมันก็คือการเสี่ยงร่วมกัน

F.Hero กับค่ายเพลง T-Pop

หลังจากเปลี่ยนแปลงบทบาทของตัวเองมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง อะไรคือความเชื่อที่คุณยังยึดถือไว้ขณะทำงานโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย

ผมยังสนุกกับการเจอเรื่องใหม่ๆ ทุกวัน ยังสนุกกับการที่วันหนึ่งจะได้เจอ Txrbo ได้เจอ QLER ได้ฟัง Tilly Birds แล้วรู้สึกว่าเพลงเขาเจ๋งมาก ยังสนุกกับเรื่องใหม่ๆ อย่างนี้ทุกวัน ยังพยายามคุยกับเด็กอยู่ตลอด เวลาเจอ SPRITE เจอ OG BOBBY ผมจะรู้สึกว่า โห เด็กพวกนี้มันเก่งจัง ผมอยากเรียนรู้จากพวกเขา อย่างที่บอกไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามองว่าเราเป็นรุ่นใหญ่ เราจะตายเร็ว ผมจึงต้องเรียนรู้สิ่งที่ยังไม่รู้จากพวกเขา

ผมถือว่าครูของผมคือการล้มมาตลอด ถ้ามีคนเตือนว่าอย่าทำ มึงจะเจ็บ ผมจะทำ เพราะผมจะเจ็บเพื่อที่จะได้รู้ รู้แล้วว่าถ้าล้มท่านี้มีวิธีการป้องกันได้อย่างนี้ ตอนทำอัลบั้มผมลองเลย ล้มก็ล้ม ทำธุรกิจผมทำเลย ถ้าล้มเดี๋ยวรู้

ล้มแล้วสิ่งสำคัญคือต้องรีบลุก รีบแก้ ผมเล่นคอนเสิร์ต ขึ้นโชว์กับเฮียโจ้มาตลอดสิบกว่าปี ไม่เคยมีโชว์เป็นของตัวเอง ผมเลยใช้วิธีการไปเล่นให้ฟรีแล้วปรับกันทุกโชว์ว่าต้องทำยังไง ทำอย่างนั้นจนสามารถโชว์ได้ นี่เป็นวิธีเดียวกันเลยคือไม่ลองเราก็ไม่รู้ เรากล้าล้มในทุกเรื่อง เรื่องการทำเพลง เรื่องธุรกิจ เรื่องการใช้ชีวิต เพราะความผิดพลาดทั้งหลายมันจะเป็นครูที่ดีที่สุด แต่เราก็ต้องลุก จำ และนำไปแก้ไขด้วย 

F.Hero เจ้าของค่าย High Cloud Entertainment

ถ้าให้ศิลปินรุ่นใหญ่ที่ใจยังเป็นรุ่นใหม่แบบคุณสรุปบทเรียนให้ศิลปินรุ่นใหม่ฟัง คิดว่าเขาเหล่านั้นควรต้องรู้อะไร

อย่าเรียกว่าบทเรียนเลย ไม่กล้าใช้คำนั้น เรียกว่าแชร์ประสบการณ์ดีกว่า

ผมมองว่ามันไม่มีความสำเร็จอะไรอยู่ไปตลอด และมันก็ไม่มีความไม่สำเร็จอะไรอยู่ไปตลอด แพ้ก็ไม่ได้แพ้ไปตลอด ชนะก็ไม่ได้ชนะไปตลอดกาล เรื่องนี้ขอให้จำเอาไว้ ณ ขณะนี้ ปีนี้ มันอาจจะเป็นปีที่วงนี้ดังมากๆ เวลาผ่านไปอีก 5 ปีอาจจะไม่ใช่แล้ว ดังมากๆ ไม่สำคัญเท่าการยืนระยะเป็นตำนานให้ยาวที่สุด นั่นคือของจริงที่อยากให้มองไว้ว่าเป็นจุดหมายที่อยากไปให้ถึง 

ไม่ใช่การมองว่ากูจะต้องได้ 2 ล้านวิวภายในสองปีนี้ แต่อยากให้เขามองไปถึงอะไรก็ตามที่ต่อให้วันหนึ่งจะไม่มียูทูบแล้ว เขาก็จะยังยืนอยู่ตรงนั้นในวงการนี้ได้

ขอบคุณสถานที่ : สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ณัฐวัฒน์ ตั้งธนกิจโรจน์

ชื่อโทนี่ แต่พวกเขามักจะรู้จักผมในนาม Whereisone