หลากไอเดียกิจกรรมที่เราเอนจอยได้ในช่วงวันฮาโลวีน

เรื่องผีๆ ไม่เคยเลือนหายไปจากความสนใจของผู้คน ไม่ว่าจะตีความออกมาในแบบน่ากลัว สยองขวัญ หรือน่ารัก อะไรที่เกี่ยวข้องกับผีหรือผู้คนที่ลาลับจากไปก็อยู่คู่คนเป็นในวัฒนธรรมรูปแบบหนึ่ง อย่างวันฮาโลวีนที่มีความเชื่อดั้งเดิมว่ามิติของของคนตายและคนเป็นจะเชื่อมเข้าหากัน จนเกิดงานฉลองและกิจกรรมให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ได้มีความสุขร่วมกัน

แม้บ้านเราจะมีความเชื่อต่างไป ก็ใช่ว่าเราจะต้องมองข้ามความสนุกของวันนี้ แค่มีไอเทมสนุกๆ มาเติมแต่งสีสัน บรรยากาศรอบตัวก็กลายเป็นสิ่งใหม่ มาเปลี่ยนให้วันฮาโลวีนเป็นวันที่เราจะได้สนุกสนานด้วยไอเดียง่ายๆ พร้อมเรื่องราวน่าสนใจของวันแห่งภูติผีที่ซ่อนอยู่กันเถอะ

1. Trick or Treat ไม่ต้องรอให้หลอก เอาขนมมาเลี้ยงกันดีกว่า

วัฒนธรรมสนุกๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันฮาโลวีนก็คือ เด็กๆ จะพากันแต่งตัวเป็นผีแล้วไปเคาะประตูบ้านต่างๆ ก่อนร้องถามว่า Trick or Treat! ในความหมายว่าเธอจะให้ฉันหลอกหรือจะยอมเลี้ยงขนม

ที่มาที่ไปของการละเล่นนี้เชื่อกันว่าเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ในความเชื่อของชาว Celtic เมื่อถึงวันสิ้นปีที่ 31 ตุลาคม และก้าวเข้าสู่ปีใหม่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน โลกของคนเป็นและผู้ลาลับจะซ้อนทับกัน เหล่าปีศาจจะมาท่องเที่ยวในโลกมนุษย์ เราจึงต้องแต่งตัวเป็นปีศาจหรือภูติผีเพื่อหลอกว่าเป็นพวกเดียวกัน

ในช่วงหนึ่งที่ศาสนาเข้ามามีบทบาทและพยายามเปลี่ยนให้ผู้คนมาแต่งตัวเป็นนักบุญ เทวดา นางฟ้า และเปลี่ยนให้วันที่ 31 ตุลาคมเป็นวันของศาสนา เด็กๆ และคนยากจนจะแต่งกายในชุดที่ว่าและไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อขอบริจาคอาหารหรือเงิน แลกเปลี่ยนกับการขับร้องเพลงและการอวยพร แล้วกิจกรรมนี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นการเล่น Trick ot Treat ของเด็กๆ ในปัจจุบันนั่นเอง

ทุกวันนี้วันฮาโลวีนเลยกลายเป็นวันแห่งกิจกรรมสนุกสนาน ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารพากันเฉลิมฉลอง นี่ก็นับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เชิญชวนเพื่อนฝูงมาร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ดีไม่ดีเราอาจจะเปิดสูตรทำขนมสำหรับวันฮาโลวีนมาอร่อยกันต่อ เหล่าขนมที่มาในธีมฟักทอง แม่มด แมวดำ และภูติผี พร้อมอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารในธีมเดียวกัน อาจช่วยเพิ่มความครื้นเครงอย่างคาดไม่ถึงก็ได้

– Cake Stand แบรนด์ Selective
– แก้วน้ำ แบรนด์ Moomin

2. เพิ่มความคึกคักยามค่ำคืนด้วยการล้อมวงเสพเรื่องผี

นอกจากความรักแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องผีนี่แหละที่ทำให้ทุกคนอยากล้อมวงผลัดกันนั่งเล่านั่งฟัง ไหนๆ ฮาโลวีนก็เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับภูติผีแล้ว หลังกินข้าวเย็นกันเสร็จ ก็อยู่คลุมโปงฟังเรื่องผีกับเพื่อนต่อไปยาวๆ เลยสิ

ต้นตอที่คนเราเอนจอยการเสพเรื่องผีๆ สางๆ มาจากเซนส์ของ ‘ความกลัว’ ที่แฝงฝังอยู่ในตัวมนุษย์มาแต่โบราณ ทางวิทยาศาสตร์บอกว่าเมื่อเราได้เสพเรื่องผี หนังผี ได้เจออารมณ์ความตื่นเต้นตกใจ ฮอร์โมนอย่างอะดรีนาลีนหรือโดปามีนก็จะหลั่งออกมา สมองบางคนจะตอบสนองต่อฮอร์โมนนั้นและทำให้เกิดความสุข

นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ว่า คนที่ชื่นชอบการฟังเรื่องผีเพราะแม้มันจะน่ากลัวแต่ก็คาดเดาได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ชีวิตเราเป็น เรารู้ว่าไคลแมกซ์ของเรื่องน่าจะอยู่ตรงไหน และเมื่อการล้อมวงจบลง เราก็เพียงแยกย้ายไปเข้านอนในเตียงอุ่น สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ การฟังเรื่องผีด้วยกันยังอาจทำให้คนเรารู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย (จากการนั่งกลัวอยู่ข้างๆ กัน)

ก่อนล้อมวงเล่าเรื่องผี ลองหาตุ๊กตาสักตัวสองตัวมากอดให้อุ่นใจ แต่ถ้าอยู่คนเดียวแล้วไม่รู้จะฟังเรื่องผีจากไหน หนังสือเรื่องสยองสักเล่มก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

– หนังสือ ผีห้องเรียนหลอน
– หมอน Dracula แบรนด์ Luscinia
– ตุ๊กตา Barry Dolly แบรนด์ Luscinia

3. ใช้โอกาสพิเศษแต่งตัวแฟนซีให้สนุกไปเลย

พูดถึงวันฮาโลวีน ภาพคนแต่งตัวแฟนซีย่อมมาคู่กัน บ้างก็แต่งหน้าแฟนซีให้สมจริงเข้าไปอีกขั้น นอกจากความสนุกสนานที่ได้ลองเปลี่ยนหน้าตาตัวเองเป็นคาแรกเตอร์อื่น มีประโยชน์อะไรอีกไหมที่เราได้จากการแต่งตัวแฟนซี เว็บไซต์ Psychology Today ระบุไว้ว่า ที่จริงการแต่งกายในชุดพิเศษทำให้คนเรารู้สึกเป็นกลุ่มเป็นก้อน (อย่างเช่นนักดนตรี) และความน่าสนใจก็คือ ชอยส์การเลือกชุดแฟนซีอาจเปิดเผยตัวตนข้างในลึกๆ ของเราก็ได้

นักจิตบำบัดที่เว็บไซต์อ้างถึงนั้นกล่าวขนาดว่า กิจกรรมการแสดงออกลักษณะนี้อาจเป็นประสบการณ์ที่ช่วยปลดปล่อยสิ่งที่เราซ่อนหรือกดทับอยู่ข้างในซึ่งเรียกว่า ‘เงามืด’ ให้มีอิสระ พอเรายอมรับด้านนั้นๆ ก็เท่ากับได้เป็นตัวเองที่สมบูรณ์มากขึ้น สังเกตเห็นด้านดีในตัวเองที่ทำให้เรามีพลังมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะได้ประโยชน์ขั้นไหน การปล่อยให้ตัวเองได้สวมบทบาทใหม่ๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ดีนะว่าไหมล่ะ

– กระจก Ravenna แบรนด์ Punky Planet

4. ลองจินตนาการและเขียนถึงสิ่งที่อยากทิ้งไว้ให้คนใกล้ตัว

กิจกรรมนี้อาจดูไม่น่าสนุกเท่าอันอื่นแต่ก็มีประโยชน์ เคยนึกกันไหมว่าก่อนที่จะกลายเป็นผี เราจะมีชีวิตอยู่ถึงวันไหน ถ้าจินตนาการว่าพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย เราอยากทำอะไร อยากบอกอะไรใครบ้าง

เวลาพูดถึงผีหรือความตาย ถ้าไม่ใช่มุมน่ากลัว เรามักนึกถึงรายการบันเทิงโชว์ท้าพิสูจน์ที่ทำให้เราได้ตื่นเต้นตอนรับชม แต่ไม่เคยคิดใคร่ครวญถึงมันอย่างจริงจัง แท้จริงแล้วความตายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทำความรู้จักได้ ที่ผ่านมาก็เริ่มมีสื่อและสถานที่ที่สื่อสารเรื่องนี้มากขึ้น เช่น งาน Happy Deathday นิทรรศการพูดถึงความตายอย่างเป็นมิตร หรือ Kid Mai Death Cafe คาเฟ่ที่เอาธีมเรื่องความตายมาผสมผสานอยู่ในร้านและเครื่องดื่ม

หนึ่งในวิธีเรียบง่ายที่ทำให้เราใกล้ชิดกับความตายได้มากขึ้นด้วยตัวเองคือการจดบันทึก นอกจากจดสิ่งที่เราอยากทำในระหว่างมีชีวิตไม่ให้ตัวเองเสียดาย เรายังสามารถจดบันทึกข้อมูลสำคัญหรือความต้องการที่อยากให้ทำหลังเราจากไปแล้ว ข้อความที่อยากบอกกับคนสำคัญและเพื่อนฝูง เมื่อวันนั้นมาถึง ใครจะรู้ว่ามันอาจเป็นสมุดเล่มสำคัญที่จะอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารักต่อไปก็เป็นได้นะ

– สมุดโน้ต แบรนด์ Moomin
– สมุดโน้ต แบรนด์ MOTTO

อ้างอิง
www.smithsonianmag.com/smart-news/the-history-of-trick-or-treating-is-weirder-than-you-thought-79408373/
edition.cnn.com/2010/LIVING/10/26/we.love.ghost.stories/index.html
www.psychologytoday.com/us/blog/in-excess/201610/halloween-and-fancy-dress

AUTHOR