อยากให้ธุรกิจอสังหาดีขึ้นเหรอ? เก็บต้นไม้เก่าไว้สิ

เป็นที่รู้กันดีว่าการใช้ทุกพื้นที่ให้คุ้มค่าคือแกนหลักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ยิ่งสัดส่วนพื้นที่ทำเงินมีมากเท่าไหร่ เงินที่เข้ากระเป๋าเจ้าของธุรกิจก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการออกแบบแต่ละพื้นที่ในโครงการให้ได้ประโยชน์ที่สุดจึงเป็นโจทย์ที่ทุกแบรนด์ต่างต้องทำให้ได้

ในปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่บ้าน คอนโด หรืออพาร์ตเมนต์ต่างผุดขึ้นในเมืองกันมากจนแทบนับไม่หวาดไม่ไหว แต่ละเจ้าต่างมีจุดขายหรือดีไซน์ที่ถูกออกแบบเพื่อให้มัดใจคน และหนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือสัดส่วนของ ‘พื้นที่สีเขียว’ ในแต่ละพื้นที่นั้น

ทำไมถึงน่าสนใจ

ถ้าว่ากันตามจริงในความเข้าใจพื้นฐาน พื้นที่สีเขียวหรือต้นไม้ไม่ได้จัดอยู่ในส่วนของพื้นที่ทำเงิน ต้นไม้ส่งผลต่อปัจจัยด้านสภาพจิตใจของลูกบ้านที่อาศัยอยู่มากกว่า ดังนั้นในแต่ละแบรนด์จึงมีการออกแบบพื้นที่สีเขียวเหล่านี้ต่างกัน บ้างก็ปลูกและออกแบบพื้นที่ต้นไม้ใหม่ แต่บ้างก็เก็บ ‘ต้นไม้เก่า’ ที่มีอยู่แล้วไว้ให้อยู่คู่กับของใหม่ที่กำลังจะถูกสร้างขึ้น

ในงานวิจัย Preserving Trees During Construction ของ Paul Fisette และ Dennis Ryan พวกเขากล่าวถึงเรื่องนี้ไว้เช่นกัน

พวกเขาบอกไว้ว่าการรักษาต้นไม้ให้อยู่กับสิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะจากข้อมูลในหลายปีที่ผ่านมา โครงการบ้านที่รักษาต้นไม้เก่าเอาไว้ต่างมีกำไรและยอดขายที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่สำคัญคือลูกบ้านก็จะรู้สึกมีความสุขกับการอยู่อาศัยมากกว่า

เมื่อหันกลับมามองในประเทศไทย เราจะพบว่าโครงการที่อยู่อาศัยหลายๆ โครงการมักจะใช้วิธีการออกแบบพื้นที่สีเขียวให้ออกมาตามที่ใจหวังโดยไม่ได้ยึดตามต้นไม้ที่พื้นที่มีอยู่แล้วสักเท่าไหร่ ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือการเคลื่อนย้ายหรือทำลายต้นไม้เดิมในแต่ละพื้นที่ การออกแบบสิ่งปลูกสร้างให้เป็นไปได้โดยง่ายต้องแลกมาด้วยความเสียหายที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม 

แต่สิ่งที่โครงการ Rhythm Ekkamai Estate ทำนั้นต่างออกไปกว่านั้น

แม้จะอยู่ในทำเลทองย่านเอกมัย-ทองหล่อที่เต็มไปด้วยความทันสมัย แต่โครงการ Rhythm Ekkamai Estate เลือกที่จะรักษาร่องรอยในอดีตเอาไว้

อย่างแรกคือต้นไม้ พื้นที่ของโครงการตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนนเอกมัยซอย 1 (ตรงข้ามกับถนนสุขุมวิทซอย 10) เดิมบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยเก่าซึ่งมีต้นจามจุรีใหญ่ปักหลักอยู่ 3 ต้น พวกเขาเลือกเก็บต้นไม้เหล่านี้เอาไว้ แถมทำให้มันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโครงการอีกต่างหาก

เมื่อเราก้าวเข้าไปในโครงการ สิ่งแรกที่เราจะเห็นเป็นอย่างแรกแน่ๆ คือต้นจามจุรีสูงใหญ่บริเวณด้านหน้าที่ตั้งตระหง่านสูง หรือถ้าเรานั่งพักผ่อนหย่อนใจบริเวณส่วนกลาง ภาพที่เราเห็นเป็นหลักจะเป็นต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้เกิดจากการออกแบบของภูมิสถาปนิกประจำโครงการและการดูแลต้นไม้โดยรุกขกรมืออาชีพ

นอกจากเรื่องต้นไม้ การออกแบบตัวอาคารของ Rhythm Ekkamai Estate ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรากเหง้าในอดีตของพื้นที่นี้เช่นกัน

รูปทรงของตึกมีต้นแบบมาจากบ้านในย่านเอกมัยเมื่อครั้งอดีต อัตราส่วนต่างๆ ถูกนำมาต่อขยายให้กลายเป็นตึกรูปทรงสมัยใหม่ นอกจากนั้นพวกเขายังไม่ลืมที่จะใส่สิ่งอำนวยความสะดวกและความหรูหราอีกหลายอย่างลงไปให้เหมาะสมกับแบรนด์ Rhythm เพราะเหนืออื่นใด ความตั้งใจของพวกเขาคืออยากให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนอยู่บ้านแม้จะเป็นคอนโดใจกลางเมืองก็ตาม

จริงๆ แล้วโครงการ Rhythm Ekkamai Estate นั้นมีจุดขายที่น่าสนใจอีกมากมาย

พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่แทบจะมีทุกอย่างที่คนเมืองต้องการสำหรับการใช้ชีวิต ล็อบบี้ที่ถูกออกแบบมาให้เหมือนกับเรานั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สระว่ายน้ำที่ชั้น 31 และ 32 หรือแม้กระทั่งบ่อแช่ใช้เทคโนโลยี White ION อำนวยความสะดวกลูกบ้านทุกคน

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ถึงแม้เราจะบอกว่าบริเวณนี้เป็นทำเลทองขนาดไหน แต่เมื่อเรามาดูสัดส่วนของพื้นที่อาศัยต่อต้นไม้และสิ่งอำนวยความสะดวก เราจะพบว่าที่นี่แบ่งทั้งสองส่วนออกมาเกือบเป็นครึ่งต่อครึ่งด้วยอัตราส่วน 1 : 1.3 ซึ่งแสดงว่าพวกเขาให้ค่า ‘การมีชีวิตที่ดี’ ของลูกบ้านมากขนาดไหน

โครงการ Rhythm Ekkamai Estate กำลังจะเปิด Exclusive Launch ที่ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ในวันที่ 21-24 มีนาคมที่จะถึงนี้ สำหรับใครที่สนใจสามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในงาน หรือสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ Rhythm Ekkamai Estate เลย

อ้างอิง :  bct.eco.umass.edu

AUTHOR