บลูอาร์มี่ : ทีมฟุตบอลเยาวชนไทยที่ตกเครื่องก่อนไปคว้ารองแชมป์โลกที่มาดริด

Highlights

  • บลูอาร์มี่ คือทีมฟุตบอลเยาวชนตัวแทนประเทศไทยจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีที่เพิ่งคว้ารองแชมป์โลกจากรายการ Gatorade 5v5 ที่สเปน
  • หลังจากการพยายามซ้อมอย่างหนัก ถึงแม้จะเจอปัญหาระหว่างทางมากมายอย่างการมีผู้เล่นคนหนึ่งตกเครื่อง การต้องปรับตัวกับสภาพอากาศ หรือการเป็นทีมรองบ่อนในสายตา สุดท้ายพวกเขาก็ชนะใจตัวเองได้และคว้าตำแหน่งรองแชมป์กลับมาให้คนไทยภูมิใจในที่สุด

ใครๆ ก็รู้ว่ากีฬามีแพ้มีชนะ เพียงแต่การแข่งขันแมตช์ชิงชนะเลิศของรายการ Gatorade 5v5 ในวันนั้น ทีมฟุตบอลเยาวชนสหรัฐอเมริกาเป็นฝ่ายชนะ และไทยเป็นฝ่ายแพ้

แต่พูดก็พูดเถอะ ผู้แพ้ในวันนั้นกลับได้เสียงปรบมือล้นหลามมากกว่าผู้ชนะเสียอีก

การแข่งขันฟุตบอล Gatorade 5v5 คือรายการแข่งฟุตบอลที่ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายคือแข่งกันในสนามเล็ก แต่ละฝ่ายมีผู้เล่น 5 คนพร้อมตัวสำรอง 1 คน โดยจำกัดอายุอยู่แค่ช่วง 14-16 ปี ในปีที่ผ่านมาพวกเขาเฟ้นหาทีมฟุตบอลเยาวชนตัวแทนจาก 21 ประเทศทั่วโลกไปโม่แข้งแข่งรอบสุดท้ายที่สนามฟุตบอลของสโมสรเลกาเนส ทีมในลาลีก้าสเปนที่กรุงมาดริด โดยรางวัลสำหรับแชมป์โลกคือตั๋วฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในอีกไม่กี่วันต่อมา

สำหรับในประเทศไทย Gatorade Thailand เป็นทั้งผู้สนับสนุนและจัดการแข่งขันเพื่อคัดเลือก จาก 512 ทีมและนักฟุตบอลเยาวชนกว่า 3,000 คนทั่วประเทศไทย สุดท้ายพวกเขาได้ผู้ชนะคือทีมบลูอาร์มี่ ทีมฟุตบอลเยาวชนจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี

ผมไปถึงโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีเพื่อสนทนากับพวกเขาตอนประมาณ 4 โมงเย็น ใกล้เวลาที่เด็กนักเรียนกำลังจะเลิกเรียนพอดี สำหรับใครที่อยู่ในแวดวงกีฬาจะรู้ว่าที่นี่เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและจัดสรรพื้นที่ให้กับกีฬาเยอะมาก ตั้งแต่สนามบาส สนามฟุตซอล และสนามฟุตบอล ซึ่งที่หลังนี่เองที่เป็นจุดนัดพบของผมและทีมบลูอาร์มี่หลังจากที่เขาเพิ่งกลับมาจากสเปนหมาดๆ

เมื่อออดบอกเวลาเลิกเรียน รอไม่นานพวกเขาทั้ง 6 คนและโค้ชก็ปรากฏตัวพร้อมเสื้อสีส้มสกรีนแบรนด์ Gatorade ที่ใช้ในการแข่งขัน

โค้ชสกล–อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ โค้ชผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอลเยาวชนไทย

พี–พีรวิชญ์ กอแก้ว  ผู้เล่นเบอร์ 1 ตำแหน่งผู้รักษาประตู

เซฟ–ธนพนธ์ ศรีนาค ผู้เล่นเบอร์ 2 ตำแหน่งกองหน้า

ต้น–ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ผู้เล่นเบอร์ 3 ตำแหน่งกองหน้า

ตะวัน–ตะวัน จันทะเสน ผู้เล่นเบอร์ 4 ตำแหน่งกองหลัง

ฮาร์ท–พีรวุฒิ วรรณศรี ผู้เล่นเบอร์ 5 ตำแหน่งริมเส้น

เต้ย–จิรัณัฏฐ์ โสภาอนันต์ ผู้เล่นเบอร์ 6 ตำแหน่งริมเส้น

น่าแปลกที่ในวันที่ผมไป บรรยากาศการสัมภาษณ์และถ่ายภาพของเราในช่วงแรกไม่สู้ดีนัก เมฆตั้งเค้ามาแต่ไกลจนผมอดกังวลไม่ได้ว่าฟ้าฝนไม่เป็นใจให้เราในวันนี้ แต่พอเราเริ่มพูดคุยกัน ฟ้าที่อึมครึมก็ค่อยๆ เผยแสงและช่วยให้บทสนทนาของเราเป็นไปอย่างราบรื่น

เหมือนกับในก้าวแรกของบลูอาร์มี่ที่ก่อนจะคว้าแชมป์โลก พวกเขาต่างอยู่ในเมฆสีเทามาเหมือนกัน

BEFORE KICK-OFF

“You have to fight to reach your dream.
You have
to sacrifice
and work hard for it.”

Lionel Messi

กิจวัตรประจำวันของที่นี่คือในช่วงเวลาที่ฟ้ายังไม่ทันสาง นักกีฬาแต่ละคนรวมถึง 6 นักเตะจากบลูอาร์มี่ต้องตื่นขึ้นมาซ้อมรอบเช้าตั้งแต่ตี 5 ครึ่งภายใต้การดูแลของโค้ชสกล

“เราจำเป็นต้องซ้อมทุกวัน” โค้ชสกลเริ่มเล่าให้ผมฟัง

“วันหนึ่งเราต้องซ้อมไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง เช้าชั่วโมงครึ่ง ช่วงเย็นก็ตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 2 ทุ่ม เป็นแบบนี้ทุกวันเพราะถ้าเราไม่ซ้อมแบบนี้ โอกาสที่เราจะสู้ใครเขาได้ก็จะไม่มีเลย ดังนั้นเราต้องพยายามมากกว่าใครเขา”

ถ้านี่ยังฟังดูไม่หนักพอ นักฟุตบอลทั้ง 6 คนยังยกตัวอย่างให้ผมฟังคร่าวๆ ต่อว่าใน 6 ชั่วโมงนั้นพวกเขาต้องทำอะไรบ้าง

“ไม่ใช่แค่ซ้อมร่างกายทั่วไป แต่พวกเรามีเกณฑ์ต้องทำให้ผ่านด้วยครับ อย่างการวิ่ง ถ้ารอบสนาม 7 รอบก็ต้องวิ่งให้ได้ภายใน 12 นาที วิ่ง 10 รอบก็ภายใน 18 นาที ถ้าวิ่งระยะสั้น 100 เมตรต้องอยู่ภายใน 11 วินาที วิ่ง 50 เมตรก็ 6 วินาที”

“มีคนที่ไม่ไหวไหม” ผมถามโค้ชสกล

“มีอยู่แล้วครับ เขาก็จะกลับไปเรียนหนังสือ แต่ส่วนใหญ่นักฟุตบอลที่นี่ไหวเพราะขับเคลื่อนด้วยความสู้ชีวิต” โค้ชสกลตอบก่อนเล่าต่อ

“ที่นี่เราให้ความสำคัญกับคนที่ยากลำบาก เพราะว่ากันตามตรง คนที่เขาอยากเป็นนักฟุตบอลและมีแรงซัพพอร์ตที่พร้อม เขาก็จะไปอยู่โรงเรียนที่พร้อมกว่านี้ แต่ที่นี่เราเน้นเด็กที่อาจจะไม่พร้อมในแง่นั้น เราเลยพยายามฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบเชิงอาชีพ เพราะเราหวังมากจริงๆ ว่าเด็กที่หลุดจากเราไป เขาต้องประกอบอาชีพในการเล่นฟุตบอลให้ได้ เลี้ยงครอบครัวได้

“สำหรับผม มันต่างกับสอนให้เล่นและไปซ้อมฟุตบอลเฉยๆ นะ เพราะมืออาชีพต้องมีความอดทนอดกลั้นและความรับผิดชอบ เราต้องปลูกฝังให้เขารู้ว่าการเหน็ดเหนื่อยวันนี้ แข็งแกร่งในวันนี้ แข็งแรงในวันนี้ มันทำให้เขาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้”

ในบริเวณที่ผมนั่งคุยกับพวกเขา ใกล้ๆ กันมีถ้วยรางวัลกว่าสิบถ้วยวางเรียงรายอยู่หน้าห้องเก็บ โค้ชสกลบอกกับผมว่าจากการที่เด็กที่นี่มีวินัยมากขนาดนี้และสู้ไม่เคยถอย พวกเขาเดินสายแข่งขันและกวาดชัยชนะมาแล้วทั่วประเทศ ทั้งกับการแข่งกับรุ่นราวคราวเดียวกันจนไปแข่งกับคนที่โตกว่า พวกเขามักเป็นฝ่ายที่ชูถ้วยเรื่อยมาจนการมาถึงของการแข่งขันฟุตบอลรายการ Gatorade 5v5 นั่นเองที่พวกเขาคว้าตั๋วตัวแทนประเทศไทยเพื่อไปสู่ความท้าทายใหม่ในระดับโลก

แต่อย่างที่เรารู้กันว่าคนที่ประสบความสำเร็จมักไม่ค่อยมีเส้นทางที่ราบรื่นให้ผ่านไปง่ายนัก ทีมบลูอาร์มี่ก็เช่นกัน เพราะที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน บททดสอบใหญ่ยักษ์รอพวกเขาอยู่ในรูปแบบนักฟุตบอลที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการถึงเลยว่าจะเก่งได้ขนาดนี้ ไปจนถึงปัญหาเฉพาะหน้าที่เกือบกลายเป็นเรื่องใหญ่ด้วยซ้ำ

1st Half : Losing

“The smartest thing I did is
I never gave up.”

Ivan Rakitic

“ตอนนั้นนึกว่าจะได้แข่ง 5 คนแล้วครับ” เซฟเล่าให้ผมฟังถึงปัญหาที่บลูอาร์มี่เจอตั้งแต่ก้าวแรกสู่รายการ Gatorade 5v5  ซึ่งปัญหาที่ว่าเกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะไปสเปนด้วยซ้ำ

ตะวัน จันทะเสน ผู้เล่นตำแหน่งกองหลังของทีมตกเครื่อง

จากความผิดพลาดที่สถานทูตสเปนออกวีซ่าการเดินทางผิดวัน กว่าที่พวกเขาจะรู้ตัวก็เป็นวันเดินทาง ในตอนนั้นทีมงานและผู้เล่นทุกคนอยู่ในภาวะตกใจถึงขีดสุด รวมถึงตะวันที่เป็นกัปตันทีม เขาเองก็เริ่มทำใจว่าคงจะไม่ได้เดินทางไปแข่งกับเพื่อนแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็แก้ปัญหากันได้โดยการให้เพื่อนๆ และทีมงานเดินทางไปก่อน และตะวันเดินทางตามไปทีหลัง แม้จะมีกำแพงทางภาษาแถมเดินทางคนเดียว เขาก็สู้กับปัญหาจนมาร่วมทีมกับเพื่อนได้ทันท่วงที

ก่อนการแข่งขัน Gatorade 5v5 จะเริ่มขึ้น ในวันก่อนหน้านักฟุตบอลจาก 21 ประเทศจะต้องเข้าร่วมโปรแกรมของ Gatorade ซึ่งมีทั้งการร่วมซ้อมกับนักฟุตบอลมืออาชีพและการพบปะนักเตะระดับโลก นี่เองจึงเป็นครั้งแรกในชีวิตของพวกเขาทั้ง 6 คนที่ได้เจอกับ Ricardo Carvalho และ Luka Modrić

“ในตอนที่ฟังโมดริช ผมรู้สึกโชคดีมากที่พวกเขาทั้ง 6 คนได้ยินคำนี้จากปากนักเตะระดับโลกด้วยตัวเอง” โค้ชสกลเล่าให้ผมฟังถึงประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมในวันนั้น

“โมดริชเป็นนักฟุตบอลยุโรปที่สูงแค่ 172 เซนติเมตร เตี้ยและตัวเล็กกว่าน้องบางคนอีก แต่ผมจำได้เลยว่าโมดริชบอกว่าสมัยเด็กมีคนดูถูกเขาเยอะมาก แต่สิ่งที่เขาทำคือไม่คิดอะไรมาก ก้มหน้าก้มตาซ้อม เพื่อให้วันหนึ่งที่เขาประสบความสำเร็จ เขาจะได้ภูมิใจว่าเขาชนะคำคนอื่นและใจตัวเองได้ มันดีมากที่พวกเราได้มาฟังเขา เพราะถึงบ้านเราจะสู้เมืองนอกไม่ได้ด้วยร่างกายและความเป็นมืออาชีพ แต่ถ้าพวกเราพยายามกันหนักพอ โมดริชคือตัวอย่างว่ามันก็เป็นไปได้เหมือนกันที่จะประสบความสำเร็จ”

หลังจากร่วมกิจกรรมและได้กำลังใจกันเต็มเปี่ยม ในวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา การแข่งขันฟุตบอล Gatorade 5v5 ก็เริ่มต้นขึ้น บลูอาร์มี่ ตัวแทนจากประเทศไทยถูกจับฉลากอยู่ในสายเดียวกับฮอนดูรัส ปานามา โคลัมเบีย เปรู และเจ้าภาพอย่างสเปน แต่ในสายอื่นๆ ถ้าทีมชาติไทยเข้ารอบก็มีโอกาสได้เจอทีมเก่งๆ อย่างอาร์เจนติน่า อุรุกวัย ไปจนถึงต้นตำรับฟุตบอลอย่างบราซิล

ก่อนการแข่งขัน ถ้าจะให้นิยามทีมชาติไทยจากสายตาของสื่อที่นั่น โค้ชสกลเล่าให้ผมฟังว่าพวกเขามองเราเป็นมากกว่าม้ามืดเสียอีก

“เราคือม้าพิการเลยนะ ม้ามืดยังพอมีหวังจะเห็นแสงสว่าง แต่นี่พวกเขามองว่าเราคือไม้ประดับ เลยจับเรามาอยู่ในสายเดียวกับทีมเก่งๆ พวกเขาคิดว่ายังไงเราก็ตกรอบแน่”

จากความกดดันที่มี เพียงแค่เสียงนกหวีดเป่าเริ่มแมตช์แรก ปัญหาที่มองไม่เห็นก็เริ่มเล่นงานทีมตัวแทนจากประเทศไทยทันที เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งทีมเจอปัญหาไม่คุ้นเคยกับอาหาร ทำให้ทานข้าวไม่ค่อยได้ และยิ่งพอมาลงแข่งในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย สภาพจิตใจและร่างกายของพวกเขายิ่งไปกันใหญ่

“เราไม่คุ้นกับสภาพอากาศเลย คอแห้งมาก เวลาพักในแต่ละช่วงก็สั้นมาก แสบคอไปหมด” ตะวันบอกกับผมถึงสิ่งที่พวกเขาเจอ แต่ในยามที่ทีมกำลังเริ่มหลงทาง โค้ชสกลก็แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีโดยวิธีที่ผมคาดไม่ถึง

“ผมเรียกเด็กเข้ามาเขกหัว” สารภาพว่าตอนฟังผมยิ้มแต่ก็กลั้นหัวเราะไว้ทันก่อนจะฟังโค้ชสกลเล่าต่อ

“แมตช์แรกที่เจอฮอนดูรัส เด็กๆ เหมือนหันหลังเล่นบอล อาจเพราะยังต้องปรับตัวและทีมฮอนดูรัสก็ตัวใหญ่กว่าเรามากๆ ผมเลยต้องเขกหัวไปนะ และบอกพวกเขาว่ากลัวเหรอ แพ้ก็แพ้สิ แต่ไม่สู้แบบนี้ไม่ได้ จะกลัวอะไร ถ้าไม่สู้จะมาทำไม”

ถึงจุดนี้ ทีมงาน Gatorade ประเทศไทยที่ไปด้วยถึงกับกระซิบบอกผมว่าโค้ชสกลในสนามนั้นดุมากๆ เด็กๆ ต่างยำเกรง แต่หลังจากสิ้นประโยคนั้นทั้ง 6 คนเหมือนได้สติ เริ่มกลับเข้าสู่เกมและเล่นตามจังหวะของตัวเองได้ สุดท้ายแมตช์นั้นจบด้วยชัยชนะของประเทศไทย 4-1

และม้าพิการตัวนี้ก็เริ่มมีคนจับตามองตั้งแต่นั้น

2nd Half : Winning

“When people succeed,
it is because of hard work.
Luck has nothing to do with success.”

Diego Maradona

แมตช์ที่ 2 ไทยชนะปานามา 3-2

แมตช์ที่ 3 ไทยแพ้โคลัมเบีย 0-4

แมตช์ที่ 4 ไทยชนะเจ้าภาพสเปน 6-0

แมตช์ที่ 5 ไทยชนะเปรู 3-0

รอบก่อนรองชนะเลิศ ไทยชนะสาธารณรัฐโดมินิกัน 5-1

รอบรองชนะเลิศ ไทยล้างตาชนะโคลัมเบีย 6-2

จากม้าพิการกลายเป็นม้ามืด และในแมตช์ชิงกับสหรัฐอเมริกา โค้ชสกลเล่าให้ผมฟังว่าพวกเขากลายเป็นความหวังของทุกทีมที่ตกรอบไปก่อนหน้า ความเป็นมวยรองที่ต่อยชนะเรื่อยมาทำให้ทุกทีมต่างส่งเสียงเชียร์ไทยแลนด์กระหึ่มสนาม เสียงเชียร์ยิ่งดังเข้าไปอีกเมื่อจบครึ่งแรกพวกเขานำสหรัฐอเมริกา 2-1 แต่น่าเสียดายที่เมื่อจบแมตช์ ไทยเป็นฝ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-2 แต่ก็ได้เสียงเชียร์จากทั้งสนามเป็นหลักฐานยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขาทำยิ่งใหญ่ขนาดไหน

“มันเป็นอะไรที่เหนือคำบรรยาย เราชนะทีมใหญ่ๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าที่จะไปผมยังบอกกับเด็กอยู่เลยว่าการที่เรามา เราไม่เสียอะไรเลยเพราะไม่ได้มีใครคาดหวังให้เราไปได้ไกล แค่ผ่านรอบแรกและรอบสองได้ก็สุดยอดแล้ว ปรากฏว่าเราจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ผมบอกพวกเขาหลังจบการแข่งขันว่านี่คือสุดยอด เรามาไกลเกินเป้าแล้วจริงๆ” โค้ชสกลกล่าวถึงเด็กๆ ในทีมที่เขารักอย่างภาคภูมิใจ ก่อนพี ผู้รักษาประตูของทีมจะเสริม “ถามว่าตั้งเป้าไหม เราก็ตั้งเป้าแหละครับว่าอย่างน้อยขอทำเกินกว่าที่เขาคาดเดาก็พอแล้ว แค่ผ่านรอบแรกก็พอ ซึ่งพอผ่านเข้าไปก็ดีใจครับ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะได้เข้าชิง”

อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เมื่อจบการแข่งขัน ตามปกติแล้วตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าประจำรายการ (MVP) มักจะมาจากทีมผู้ชนะ ซึ่งทีมงาน Gatorade บอกว่านักเตะจากสหรัฐอเมริกาก็เตรียมตัวจะรับรางวัลนี้กัน แต่กลายเป็นว่าพอประกาศชื่อออกมา ผู้เล่นทรงคุณค่าประจำรายการกลับเป็นของทีมรองแชมป์อย่างประเทศไทย ตะวัน จันทะเสน

ใช่แล้ว, คนเดียวกับที่ตกเครื่องแล้วตามเพื่อนมาทีหลังนั่นแหละ

“ดีใจครับ ไม่คิดว่าจะได้” ตะวันบอกกับผมอย่างเขินอาย แต่ถ้าลองมาไล่ดูฟอร์มของเขา ไม่มีใครในรายการ Gatorade 5v5 ตั้งคำถามเลยว่าทำไมเขาถึงคว้ารางวัลนี้มาครอง รางวัลที่มาในรูปแบบของเสื้อฟุตบอลบาร์เซโลนา พร้อมลายเซ็นของนักเตะทุกคน

เมื่อจบการแข่งขันและเข้าสู่ช่วงเดินทางกลับ โค้ชสกลเล่าให้ฟังเพิ่มว่ามีเหตุการณ์ที่เขาประทับใจคือเมื่อเดินเข้าสู่รถบัส ทีมไทยถูกจัดให้เดินขึ้นรถเป็นทีมสุดท้าย และเมื่อพวกเขาเดินขึ้นไป เสียงปรบมือโห่ร้องดังขึ้นจากทีมคู่แข่งที่พวกเขาเจอมา หลายคนอยากถ่ายรูป หลายคนอยากจับมือ บ้างแลกเสื้อ บ้างอยากพูดคุย จากทีมที่ไม่มีใครสนใจในตอนแรก แต่เมื่อจบรายการ พวกเขากลายเป็นดาวเด่นและทำให้ใครหลายคนรู้จักประเทศไทยได้แล้วจริงๆ

“ก่อนแข่งมีโค้ชทีมชาติโบลิเวียเดินมาหาผม ถามว่าเมืองไทยมีฟุตบอลด้วยเหรอ เขาคิดว่ามีแต่มวย” โค้ชสกลเล่าติดตลกก่อนจะเล่าต่อด้วยน้ำเสียงภูมิใจ

“พอจบการแข่งขัน โค้ชคนเดิมเดินมาบอกผมว่าเขายอมรับเลยว่าทีมเราเก่ง ไม่มีใครคิดว่าทีมเราจะทำได้ แต่เราก็ทำได้ นี่เป็นจุดหนึ่งที่เราภาคภูมิใจ อย่างตอนที่เราเดินเข้าสนาม ในจอมอนิเตอร์ใหญ่ๆ มีธงชาติไทย เราเห็นว่ามีคนที่ฟังเพลงชาติเรา เราภูมิใจที่ทำให้เขาได้รู้ว่าเราคือใคร ปีนี้เราเป็นรองแชมป์ ไม่แน่นะ ปีหน้าเราอาจจะกลับมาคว้าแชมป์ก็ได้“

จากที่ทีมงาน Gatorade Thailand บอกเรา ปีหน้างาน Gatorade 5v5 จะยังคงจัดและตั้งเป้าว่าจะจัดอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายในการสนับสนุนเยาวชนและฟุตบอลไทยต่อไป ซึ่งในปีหน้าเราอาจจะเห็นเด็กไทยคว้าชัยชนะอย่างที่โค้ชสกลบอกหรือผลอาจไม่เป็นดั่งหวังก็ได้ แต่อย่างน้อยในวันนี้ สิ่งที่พวกเขาแสดงให้ผมเห็นคือชัยชนะเหนือใจตัวเองที่ยิ่งใหญ่กว่าชัยชนะใดๆ

Beyond the winning is the victory over yourself.

“Keep working even when no one is watching.”

Alex Morgan

หลังจากนั่งคุยกันอยู่นาน นักฟุตบอลทั้ง 6 คนก็ขออนุญาตแยกตัวไปซ้อม

พวกเขาเริ่มออกวิ่ง ร่างกายที่ผ่านการซักซ้อมมาแรมปีแสดงผลให้เห็นชัดเจน นักกีฬาคนอื่นๆ ในโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีก็กำลังซ้อมตามตารางของตัวเอง ทุกคนตั้งใจ แม้แดดร้อนยามเย็นจะแผดเผา แต่เหงื่อที่ไหลออกมาก็ไม่ใช่อุปสรรคทำให้พวกเขายอมแพ้

“ผมคิดว่านักกีฬาเหมือนศิลปินนะ” โค้ชสกลชวนผมคุยก่อนจะจากกัน

“เอาจริงๆ ถึงปีนี้เราจะเป็นรองแชมป์และไปได้ไกลกว่าที่ใครหลายคนคาดไว้ แต่ผมคิดว่าการแพ้-ชนะไม่ได้บอกอะไรเลยว่าชีวิตนักฟุตบอลของแต่ละคนจะยืนยาว นั่นเป็นเรื่องของอนาคต แต่ในเวลานั้น การที่เราโชว์ฟอร์มทำให้คนปรบมือได้ น้ำตาผมไหลออกมาเองเลยนะ เรารับรู้ว่าพวกเขานับถือใจว่าเราเป็นฮีโร่จริงๆ”

หลังจากร่ำลากับอาจารย์สกลและทีมบลูอาร์มี่ ผมเดินออกจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีพร้อมภาพนักกีฬาทุกคนที่กำลังมุ่งมั่นตามเส้นทางของตัวเอง ผมรู้สึกเห็นด้วยกับสิ่งที่โค้ชสกลบอกก่อนหน้ากับประโยคที่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดของนักกีฬาคือความเป็นมืออาชีพ และความเป็นมืออาชีพก็ล้วนมาจากระเบียบวินัย แต่คำถามต่อมาคือแล้วระเบียบวินัยล่ะ อะไรคือความคิดที่จะทำให้คนรักษามันไว้ได้

ผมนึกถึงคำของลูก้า โมดริช ที่โค้ชสกลเล่าให้ฟัง นั่นน่าจะเป็นคำตอบที่ทดแทนได้ดีที่สุดแล้ว

“อย่าไปคิดอะไรมากเลย ก้มหน้าก้มตาซ้อมไป

เพื่อวันหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ เราจะได้ภูมิใจว่าเราชนะใจตัวเองได้แล้ว”

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

ช่างภาพนิตยสาร a day ที่เพิ่งมีพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มใหม่ชื่อ view • finder ออกไปเจอบอลติก ซื้อสิ ไปซื้อ เฮ่!